ก่อนเข้ากระชับพื้นที่ราชประสงค์ ศอฉ. ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน เพื่อที่ทหารจะได้เข้ากระชับพื้นที่ เพราะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ เพื่อจะจุดฉนวนให้เกิดความรุนแรง ตามประกาศของศอฉ. ตามนี้
--------------------------
ประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉิน
เรื่อง ให้บุคคลและกลุ่มบุคคลออกจากพื้นที่การชุมนุม เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2553 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 แล้วนั้น การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง เป็นการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ และในขณะนี้ได้มีการปฏิบัติการที่ใช้ความรุนแรง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมและกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมศูนย์ อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตระหนักดีว่า ในพื้นที่การชุมนุมที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์และบริเวณใกล้เคียง มีผู้เข้าร่วมชุมนุมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ผู้หญิง คนชรา รวมทั้งผู้ที่ไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยมีความประสงค์ออกจากพื้นที่การชุมนุม และเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา
เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมการ ชุมนุม โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ที่ประสงค์จะเดินทางออกจากพื้นที่การชุมนุม ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินจึงขอให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมออกจากพื้นที่ การชุมนุมโดยเร็ว โดยให้แจ้งความประสงค์ขอกลับภูมิลำเนากับเจ้าหน้าที่ได้ทุกคน ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินจะให้ความคุ้มครองและอำนวยความสะดวก อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เวลา 15.00 น.
ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินใคร่ขอให้ครอบครัวและญาติมิตรของผู้เข้า ร่วมชุมนุมได้โปรดติดต่อแจ้งให้ญาติพี่น้องของท่านทราบ และออกจากพื้นที่การชุมนุมโดยด่วน
ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2553
(นายสุเทพ เทือกสุบรรณ)
ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
คลิกที่รูปเพื่อขยาย

--------------------------
ต่อมาในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2553 ศอฉ. ก็ได้ประกาศย้ำอีกครั้ง ตามนี้

-------------------------------
สังเกตว่า ประกาศศอฉ. ทั้ง 2 ฉบับ ได้ย้ำว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในผู้ชุมนุม และในเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา ทหารก็โดนอาวุธสงครามยิงถล่ม จนมีทหารบาดเจ็บมาแล้วหลายร้อยนาย และเสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง
ถามว่า การที่ทหารใช้กระสุนจริงเพื่อกระชับพื้นที่ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่?
ขอตอบว่า ถ้าในกรณีที่ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ ชุมนุมโดยสงบ ไม่เคยทำร้ายทหารด้วยอาวุธสงคราม ไม่มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวในผู้ชุมนุม หากทหารใช้กระสุนจริงเข้าสลายการชุมนุม ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแน่นอน!!
แต่ถ้าหากผู้ชุมนุมมีอาวุธ จนถึงขั้นทำร้ายทหารจนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บมาแล้ว เผาบ้านเผาเมือง หรือคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนคนอื่นๆ ด้วยการขู่เผารถแก๊ส แบบนี้ก็อนุญาตให้ทหารใช้อาวุธในการปราบปรามได้ครับ
ตามที่ข่าวมติชนเคยลงเกี่ยวกับแถลงการของฮิวแมนไรท์วอช ตามนี้

ให้สังเกตประโยคที่ผมขีดเส้นแดงไว้นั้น ว่ามีกรณียกเว้นที่ว่า ให้ทหารจะใช้กำลังได้ก็ต่อเมื่อ
"การใช้กำลังอย่างผิดกฎหมายจะต้องใช้ในกรณีที่มีบุคคลเป็นภัยต่อชีวิตเท่านั้น"
และในกรอบสีแดงที่ผมล้อมไว้นั้น ระบุว่า ฮิวแมนไรท์วอช ก็ยังรู้ด้วยว่า พวกฟายแดงมีอาวุธทำเองและอาวุธอื่นๆ ซึ่งเป็นการขัดกับคำอ้างของกลุ่มว่าประท้วงอย่างสันติ!!
ดังนั้นเมื่อศอฉ. ประกาศให้ผู้ชุมนุมที่ไม่ต้องการความรุนแรงเดินทางกลับบ้านไปแล้ว ทหารจึงติดป้ายประกาศว่า เขตใช้กระสุนจริง ห้ามเข้า ตามรูปนี้

อีกทั้งแกนนำฟายแดง ได้ประกาศยุติการชุมนุมและสั่งให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับบ้านได้แล้ว
ก็ในเมื่อรัฐบาลและทหาร ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างดังกล่าวมาแล้ว แกนนำฟายแดงประกาศยุติการชุมนุม และขอร้องให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านแล้ว ดังนั้นหากใครไม่กลับบ้าน แสดงว่ามีเจตนาไม่ดีแล้ว ฉะนั้น
"ผมถามไปที่เกิดเหตุทำไม ถ้านอนอยู่บ้าน แล้วจะตายไหม?" สมัคร สุนทรเวช
ผมขอย้ำว่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ไม่ได้มีคำสั่งสลายการชุมนุม เพราะการชุมนุมได้ยุติลง และสลายตัวไปก่อนแล้ว ตามคำสั่งของแกนนำเสื้อแดง
แต่นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ มีคำสั่งให้ทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่ต่างหาก แต่บังเอิญเกิดมีพวกที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งแกนนำ มีเจตนาเผาบ้านเมืองเพื่อก่อให้เกิดความรุนแรง มีการลอบทำร้ายทหาร ดังนั้นเมื่อทหารพยายามระงับการเผาบ้านเมืองนั้นตามหน้าที่
ก็จะมาโทษนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ว่าสั่งฆ่าประชาชนไม่ได้
ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดบ้างจากการใช้กระสุนจริงแสนนัด ใครเป็นผู้บริสุทธิ์จริงแล้วโชคร้ายตายเพราะทหารจริงๆ รัฐบาลก็ควรชดใช้เยียวยาไปตามระเบียบ (แต่ปืนและกระสุนของทหารโดนฟายแดงยึดไปก็หลายกระบอกเช่นกัน??)
--------------------------
ที่สำคัญที่สุด จนถึงวันนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ยังไม่ยอมเซ็นยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เพราะอะไรรู้มั้ย?
ก็เพราะว่า เกมฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศของทนายแดงนั้น ทักษิณมีเจตนาแค่ขู่พรรคฝ่ายค้าน ให้ยอมรับกฎหมายปรองดองเท่านั้น เพราะหากรัฐบาลยิ่งลักษณ์เกิดไปยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศเมื่อไหร่
คนที่จะซวยที่สุดไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ หรือนายสุเทพ แต่จะเป็นตัวทักษิณเองนั่นแหละ 5555 ฮิๆ

นี่เป็นครั้งที่2 แล้ว ที่แม่นางสาวเกตุ ผู้เสียชีวิตในวัดปทุมฯ มาจี้นายกปู ให้เซ็นยอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ
เพราะถ้านายกไม่เซ็น นายอัมสเตอร์ดัม ทนายฟายแดง ก็ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดนายอภิสิทธิ์ได้ 555
คลิกอ่าน ตอบนังพวงทอง ภคัรพันธุ์ กรณีชายชุดดำ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น