วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ปัญหาแห่งชาวนาไทย คือโดนรัฐบาลและนายทุนหลอกใช้







ผมเขียนบทความหลายบทความถึง รากเหง้าความยากจนของเกษตรไทย โดยเฉพาะชาวนาไทย ที่โดนหลอกจากรัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยมาหลายปี

โดยบทความแรกที่ผมเขียนมาตั้งแต่ปี 51 คือเรื่อง ความล้มเหลวของชาวนาไทยจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวของเกษตรกรไทย และชาวนาไทย ที่โดนรัฐบาลร่วมกับนายทุนหลอกมาจนทุกวันนี้

ทั้งๆ ที่ ผมรู้สาเหตุแห่งปัญหามานานแล้ว แต่พอดูรายการสยามวาระ ตอน ข้าวขวัญ ผมก็รู้สึกสงสารประเทศชาติและในหลวงอย่างจับใจขึ้นมาอีกครั้ง

ผมถึงอยากจะย้ำว่า ทุกพรรคการเมืองในประเทศนี้รับใช้นายทุนทั้งสิ้น

------------------------------

รายการสยามวาระ ตอน ข้าวขวัญ ปัญหาแห่งชาวนาไทย (สยามวาระตอนที่ดีที่สุดที่เคยดูมา)

ปัญหาแห่งชาวนาไทย คือ โดนพรรคการเมืองและนายทุนหลอกใช้

ผมขอสรุปประเด็นสำคัญๆ แบบคร่าวๆ หากใครที่อาจยังไม่มีเวลาดูรายการสยามวาระ ตอนนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นตอนที่ดีมากจริงๆ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

ก่อนดูคลิปที่อยู่ด้านล่างบทความ ผมขอสรุปคร่าว ๆ ไว้ตามนี้

คลิปช่วงแรก

คุณ เดชา ศิริภัทร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิข้าวขวัญ จากอดีตที่เขาเป็นลูกชายนายทุนโรงสี ทายาทเจ้าของที่นากว่า 2 หมื่นไร่ใหญ่ที่สุดในสุพรรณบุรี

แต่เมื่อคุณเดชาได้ไปบวชกับท่านพุทธทาส เขาก็รู้สัจธรรมที่ชาวนาโดนเอาเปรียบจากนายทุน

ชาวนาโดนรัฐบาลในยุคนั้นหลอกประชาชน ด้วยคำขวัญที่ว่า "งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" และแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการหลอกใช้ชาวนาไทย

ด้วยเหตุนี้คุณเดชา จึงขอแยกตัวออกจากกิจการครอบครัว และไม่ขอรับมรดกใดๆ ทั้งสิ้น

เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับวิถีนายทุน จึงหันกลับมาให้ความรู้ชาวนา เพื่อไม่ให้ถูกนายทุนที่ร่วมมือกับรัฐบาลไทยหลอกให้ชาวนายากจน จากการปฏิวัติสีเขียว และแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 1 เป็นต้นมา

คุณเดชาจึงค้นคว้าหาความรู้เรื่องการปลูกข้าวตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เลิกใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง หันกลับมาหาความรู้ในภูมิปัญญาดั้งเดิม ในการปลูกข้าวเพื่อให้ผลผลิตต่อไร่สูง แต่กลับมีต้นทุนน้อยมาก

คุณเดชา จึงตั้งมูลนิธิข้าวขวัญ เพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ดีขึ้น บนพื้นฐานของเกษตรอินทรีย์ ที่ไม่ต้องพึ่งพาและเดินตามระบบนายทุนต่อไป

คุณผู้อ่านต้องไม่พลาด ในสิ่งที่คุณเดชาอธิบาย ตั้งแต่รากเหง้าจนถึงว่า ระบบนายทุนและการตลาด ทำลายรากเหง้าของชาวนาไทยอย่างไร จนชาวนาไทยถึงได้ยากจน

ไปดูว่า วงจรอุบาว์ของชาวนาคืออะไร ที่ทำให้

ทำไมทุกวันนี้ ชาวนาไทยต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวจากตลาด ?

ทำไมชาวนาถึงต้องขายนา ?

ทำไมชาวนาส่วนใหญ่ต้องเช่าที่ทำนา จนเป็นหนี้มาตลอด ?

---------------------------

คลิปช่วง 2

คุณชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนาดีเด่น จากชาวนาที่ล้มเหลวยากจนเพราะเชื่อระบบนายทุน จนเป็นหนี้ กลับกลายเป็นชาวนาผู้ร่ำรวยที่สุดในสุพรรณบุรี เขาเป็นศิษย์เอกจากมูลนิธิข้าวขวัญ ปลูกข้าวตามแนวทางพ่อสอน (เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง)

โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่สุดที่คุณชัยพร อธิบายก็คือ

ชาวนาไทยยุคนี้ ทำตัวเป็นผู้จัดการนา ไม่ใช่วิถีชาวนาที่แท้จริงคือ ชาวนายุคนี้เอาแต่สบาย เพราะว่าจ้างทุกอย่างทุกขั้นตอนในการทำนา จึงทำให้ต้นทุนการปลูกข้าวสูง

วิถีการปลูกข้าวของคุณชัยพร ทำนาแบบฉลาด ไม่ทำลายธรรมชาติและสุขภาพตัวเอง ไม่ตกเป็นเหยื่อของนายทุนปุ๋ย ยา

คุณชัยพร ไม่ได้เลิกใช้ยาในนาโดยสิ้นเชิง แต่คุณชัยพร ฉลาดที่จะใช้ยา ไม่ตกเป็นทาสยาเพื่อการเกษตร อย่างไร

และคุณชัยพรยังได้มาอธิบายว่า เพราะอะไรชาวนาถึงไม่ยอมเลิกใช้ปุ๋ย ไม่ยอมเลิกใช้ยา ในการทำนา ทั้งๆ ที่รู้ว่า มันไม่ดี


(แนะนำย้อนอ่านบทความเก่าปี 52 ของผม เกี่ยวกับ ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนาผู้ร่ำรวย คลิก !!)


-------------------------------


คลิปช่วงที่ 3 ช่วงที่ดีที่สุด

คุณเดชา กลับมาอธิบายอีกครั้งว่า โครงการจำนำข้าว ของรัฐบาลเพื่อไทย ทำลายชาวนาอย่างไร

โครงการจำนำข้าว สอนให้ชาวนาเห็นแก่ตัวอย่างไร

โครงการจำนำข้าวสอนให้ชาวนาโกงประเทศชาติอย่างไร

โครงการจำนำข้าว ใครได้ผลประโยชน์มากทึ่สุด ซึ่งไม่ใช่ชาวนาผู้ยากจน

โครงการจำนำข้าว สอนให้ชาวนาทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไร

โครงการจำนำข้าวทำให้นายทุนปุ๋ย ยา รวยอย่างไร

โครงการจำนำข้าว จะทำให้ข้าวไทยสู้ข้าวต่างชาติไม่ได้อย่างไร เมื่อเปิด AEC

โครงการจำนำข้าว ทำลายข้าวคุณภาพดีของไทยอย่างไร

โครงการจำนำข้าวทำลายชาติอย่างไร

และที่เด็ดที่สุด ที่คุณเดชาอธิบายว่า ประชานิยมบนประชาธิปไตยแบบผิดๆ จะทำลายชาติอย่างไร ?

และที่สำคัญที่สุด ที่คุณเดชาบอก ก็คือ

ทุกรัฐบาลไม่ยอมช่วยให้ชาวนาหลุดพ้นจากนายทุนปุ๋ยยา แม้กระทั่งทางมูลนิธิได้เรียกร้องไปที่รัฐบาลมาถึง 3 รัฐบาลแล้ว ให้ควบคุมเรื่องยาฆ่าแมลงในการเกษตร เพราะประเทศไทยใช้ยาฆ่าแมลงในนาข้าวสูงที่สุดในโลก สูงกว่าประเทศอื่นหลายเท่า

แต่รัฐบาลไทยก็ไม่เคยนำพาเลย ในการควบคุมยาฆ่าแมลงการเกษตร เพราะอะไรล่ะ ?




---------------------------------

สรุป

หากคุณได้ดูคลิปรายการสยามวาระ ตอนนี้แล้ว จะรู้ได้เลยว่า

ความคิดที่ว่า ให้ความสำคัญกับเงินเป็นเรื่องแรก คือบ่อเกิดของการเอารัดเอาเปรียบคนไทยด้วยกัน โดยผู้ที่ฉลาดกว่า มีอำนาจกว่า มีทุนมากกว่า ใช้การโฆษณาชวนเชื่อหลอกให้คนไทยหลงเชื่อว่า ต้องมีเงิน ถึงจะมีความสุข

ดังนั้น เกษตรกรไทยจึงทำการเกษตรเพื่อขายเป็นหลัก หวังหาเงินเป็นหลัก สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นเหยื่อให้พวกนายทุนและรัฐบาลไทยหลอกใช้ทั้งสิ้น

มีเพียงเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเทานั้น ที่สอนให้เกษตรกรไทยยืนได้บนลำแข้งตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาล

หลักเศรษฐศาสตร์ฝรั่ง สอนให้ทุกรัฐบาลในโลก ต้องกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจมาก ๆ สุดท้ายโลกเราเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เพราะการที่คนในโลก เอาแต่บริโภคฟุ้งเฟ้อทั้งสิ้น

หลักเศรษฐศาสตร์ตามแนวเศรษฐกิจพอพียง คือหลักการเศรษฐศาสตร์ที่ยั่งยืนและรักษ์โลก แต่รัฐบาลไทยทุกรัฐบาลไม่เคยนำพาเลยจริงๆ

นั่นเพราะรัฐบาลไทย นักการเมืองไทยทุกพรรค รับใช้นายทุนนิยมบริโภคทั้งสิ้นครับ


------------------------

คลิกอ่าน ทำไมชาวนาอินเดียกับชาวนาไทยถึงยากจน (คุณจะรู้จักปฏิวัติสีเขียว ของพวกฝรั่ง ที่ทำลายการเกษตรธรรมชาติ)



รัฐบาลพี่ชายคนแรก ปูกรรเชียง พ่อลูกอยู่บำรุงไม่กล้าลงใต้







วันนี้ไม่มีอะไรมาก ขอแบบง่ายๆ สบาย โดยเอารูปจากเพจ มาแตกไลน์อีกหน่อยก็แล้วกัน ^^

สื่อมวลชน เขาตั้งฉายารัฐบาลยิ่งลักษณ์ในปี 2555 ว่า รัฐบาลพี่ชายคนแรก และ ตั้งฉายานายกยิ่งลักษณ์ คือ ปูกรรเชียง

ผมขออธิบายขยายความชัดๆ ว่า

รัฐบาลพี่ชายคนแรก หมายถึง รัฐบาลนี้มุ่งทำเพื่อช่วยพี่ชายนายก ก่อน ช่วยประชาชน

ปู กรรเชียง หมายถึง งานบริหารแก้ปัญหาประเทศ ไม่สำคัญเท่า เปิดงาน
อีเวนท์


งานประชุมสภา ไม่สำคัญเท่า โดดราชการไปหาผู้ชายที่โรงแรมดัง

-----------------

แม้ปากนายกปู จะตอบแบบนกแก้วนกขุนทองทุกครั้งว่า

"ไม่เคยทำเพื่อคนๆ เดียว" หรือ "ปรองดองค่ะ ปรองดอง"

แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาตลอดที่เธอเป็นนายก ก็ได้พิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่า ปูตอแหล !!

----------------

หลังจากสื่อมวลชนตั้งฉายาปุ๊บ ก็มีข่าวออกมาว่า นายกปูไม่ค่อยพอใจ ว่าทำไมสื่อมาตั้งฉายาปูกรรเชียงให้ เพราะทำงานทุกวันแท้ ๆ

แถมล่าสุด มีแอบไปจ้างโพลรับจ้างของ ม.สวนดุสิต ไปสอบถามประชาชนที่ไหนก็ไม่รู้ว่า เห็นด้วยกับฉายารัฐบาลพี่ชายคนแรก กับ ฉายาปูกรรเชียงหรือไม่?

ผลโพลรับจ้างของ ม.สวนดุสิต ก็ออกมาว่า ประชาชนไม่เห็นด้่วยกับฉายาที่สื่อตั้ง

ผมก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผลโพลมันออกมาแบบนี้

ก็โพลสำรวจเรื่องการเมืองของไทย ไม่เคยมีคำว่า เชื่อถือได้สักโพลครับพี่น้องครับ

--------------------------------

กรณีเอกยุทธ โดนต่อย

เอกยุทธโดนต่อย ที่โฟร์ซีซั่น วันเดียวกับนายกยิ่งลักษณ์โดดประชุมสภา ไปตะแล๊ดแต๊ดแต๋ กับ ชายบางคน นั้น

แทนที่ตำรวจจะหาคนร้ายมาลงโทษให้ได้ เพราะเหตุร้ายเกิดในช่วงที่คนสำคัญของประเทศไปสถานที่เกิดเหตุเดียวกัน แต่ตำรวจไทยกลับชักช้า จนป่านนี้ยังหาคนร้ายที่ต่อยนายเอกยุทธไม่ได้เลย

แต่พอเอกยุทธ ไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทในผับ ตำรวจเร่งฟ้องเอกยุทธเป็นผู้ต้องหาทันที !!

จนมีคนเขาเปรียบเปรยว่า ถ้าเป็น โอ๊ค พานทองแท้ โดนต่อย ป่านนี้ตำรวจคงจับคนร้ายได้ทันทีรวดเร็วทันใจ

หรือแค่ อุ๊งอิ๊งโดนขู่สาดกาแฟ เหล่าขี้ข้าทักษิณ ก็คงกดดันตำรวจจนหาคนขู่สาดกาแฟจนเจอได้ทันที

นี่แหละหนา 2 มาตรฐาน อภิสิทธิ์ชนของแท้ มันอยู่ในตระกูลชิน นั่นเอง




--------------------------

ข่าวจับสลากตำรวจลงใต้

เมื่อตำรวจอีสาน ออกมาร้องเรียนว่าไม่อยากจับสลากเพื่อลงไปประจำ 3 จังหวัดใต้

พณ.ท่าน เป็ดเหลิม อยู่เมืองกรุง ก็ออกมาโวยใส่ตำรวจอีสานทันที




ก็เป็ดเหลิม ได้รับมอบหมายจากนายกปูกรรเชียงให้ดูแลปัญหาภัยใต้ แต่เป็ดเหลิมกลับไม่เคยลงใต้ด้วยตัวเองเลยสักครั้ง


ทีนี้พอหลายฝ่ายเรียกร้องว่า ท่านเหลิม น่าจะทำให้เป็นตัวอย่างสักหน่อย

โดยส่งลูกชายลงไปใต้ก่อน น่าจะดีที่สุด แต่ว่า คงยาก เพราะ...




วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไม่ควรเรียกรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5







บทความนี้เป็นเพียงคำแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น
เงินที่ใช้ในการสร้างพระบรมรูปทรงม้าเป็นเงินบริจาคจากประชาชน ซึ่งเป็นเงินประมาณ 2แสนกว่าบาท และเงินที่เหลือจากการสร้าง รัชกาลที่6 นำไปสร้างอาคารหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผมเห็นมีลัทธินึงเกิดขึ้นในเมืองไทย นั่นคือ ลัทธิบูชาเสด็จพ่อร.5 ซึ่งผมกลับมองว่า เป็นลัทธิความเชื่อบนความงมงายไสยศาสตร์ มากกว่าบูชาความดีงาม

เพราะอะไร?

เพราะลัทธิบูชาเสด็จพ่อร.5 นั้น ประเด็นหลักคือ สอนให้คนงมงายไม่ต่างอะไรกับการบูชาภูตผี หรือหลงติดไสยศาสตร์เลย ต่างกันเพียงแอบอ้างพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 5 บังหน้าเท่านั้น เพราะที่ไหว้นั้น คนจำนวนมากในยุคหลังๆ ไหว้เพราะหวังขอโน่นขอนี่ให้พระองค์ช่วยเหลือทั้งนั้น (ก็ไม่ผิดหรอกถ้าจะขอพึ่งพระองค์ แต่อย่าพึ่งด้วยความเชื่อที่ผิดๆ)

------------------------------

เพราะอะไรการไหว้ ร. 5 จึงเริ่มผิดเพี้ยน ?

คำตอบก็คือ มันเกิดจากพวกทรงเจ้าเข้าผี ช่วยกันสร้างความเชื่อผิดเพี้ยนให้คนไทยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ด้วยวิธีพูดกันปากต่อปาก 

จากเคยไหว้รัชกาลที่5 เพราะรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่5 ที่ทรงนำพาประเทศไทยผ่านวิกฤติมากมาย เช่น ทรงพาไทยให้รอดจากการตกเป็นเมืองขึ้นชาติตะวันตก ทรงริเริ่มสร้างสาธารณูปโภคให้คนไทยมากมาย ทรงเลิกทาสได้โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ ทรงวากรากฐานการพัฒนาประเทศที่ทันสมัย เป็นต้น

แต่ไปๆ มาๆ อิทธิพลพวกทรงเจ้า ทำเอาการไหว้รัชกาลที่ 5 ผิดเพี้ยนไปหมด จากการไหว้เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กลายเป็นไหว้แบบงมงายไปเสียฉิบ แถมดันมีการทรงเจ้าเสด็จพ่อ ร.5 อีกด้วย นี่ยิ่งดึงพระเกียรติของพระองค์ให้ตกต่ำลงไปอีก

สุดท้ายลัทธิบูชาเสด็จพ่อ ร.5 ก็กลายเป็นลัทธิแห่งหลอกลวง งมงาย หลอกให้คนเสียเงินเสียทองไปซะอีก พวกทรงเจ้า ร.5  นี่น่าจะโดน ม.112 ซะให้เข็ด

ลัทธิบูชาเสด็จพ่อ ร. 5 จึงคล้ายกับพุทธพาณิชย์ชนิดหนึ่ง หากศรัทธากราบไหว้และ เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์บ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าถึงขนาดงมงายจนดึงพระองค์ให้ตกต่ำนั้น ก็มิบังควรอย่างยิ่ง!!

แต่เอาเถอะ ความเชื่อและความศรัทธาของคนเราคงจะห้ามกันไม่ได้ เพราะสติปัญญาผู้คนมีหลายระดับ บางอย่างถึงบอกไปบางคนก็ไม่มีวันเข้าใจ นั่นเพราะความหลง และนิยมในไสยศาสตร์มาครอบงำจนขาดปัญญาไปแล้ว

แต่ที่ผมอยากจะติงคือ การเรียกรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อร. 5 นั้นถือว่ามิบังควร

แต่เพราะกระแสปากต่อปาก พูดกันไปกันมา เรียกกันไปกันไปจนแพร่หลาย จึงพากันเรียกรัชกาลที่ 5 แบบผิด ๆ กันไปหมด

นั่นเพราะใคร ๆ ก็เรียกกันแบบนี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง จนเชื่อกันไปว่า นี่คือการเรียกที่ถูกต้อง

--------------------------

ต้นกำเนิด ที่มาของการเรียก "เสด็จพ่อ ร.5"

เวลาพวกทรงเจ้าเข้าผี เข้าทรงวิญญาณ ซึ่งร้อยละ99.99 คือการหลอกลวงทั้งสิ้น ก็มักจะสอนให้บรรดาลูกศิษย์เรียก คนทรงในขณะทรงว่า เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เป็นต้น

ทีนี้เมื่อเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เริ่มมีเกร่อมากมาย พวกทรงเจ้าก็หาหนทางใหม่คือ หาอะไรที่คนไทยนับถือศรัทธาได้ง่าย มาใช้เข้าทรงแทน

อย่างเช่น การเข้าทรงกรมหลวงชุมพร การเข้าทรงเจ้าแม่กวนอิม และที่มีมากและฮิตก็คือ การเข้าทรงในหลวงรัชกาลที่ 5

ถ้าใครเคยดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ หรือรายการแปลกๆ ที่เคยพาไปดูงานรวมพลคนทรงเจ้า

คุณจะเห็นว่า จะมีคนทรงเจ้าเจ้าแม่กวนอิม หรือคนทรงรัชกาลที่ 5 ลงทรงพร้อมกัน ๆ ทีเดียวหลายองค์

ผมขอย้ำว่า นั่นคือแทบทั้งหมดเป็นการหลอกลวงเพื่อหากินทั้งสิ้น

และอีกจำนวนหนึ่งของพวกทรงเจ้าคือ พวกโรคจิตที่มีปมในใจ จนหาทางออกด้วยการสะกดจิตตัวเองให้ตนเองสำคัญว่ามีเจ้ามาเข้าทรง เพื่อให้คนมานับถือบูชา

ซึ่งในทางจิตเวชถือว่า เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง คือ อยากเป็นคนสำคัญ ชอบให้ผู้คนมา กราบ มาไหว้ แต่ในโลกแห่งความจริง ตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีการทรงเจ้ามาหลอกตัวเองและหลอกสาวก

ทีนี้พวกที่อ้างว่า เป็นร่างทรงรัชกาลที่ 5 ก็จะสอนให้บรรดาลูกศิษย์ เรียกตัวเองว่า เสด็จพ่อ 

เพราะพวกนี้ใช้ตรรกะที่ว่า ในเมื่อรัชกาลที่ 5 เป็นกษัตริย์ ถ้าเวลาเข้าทรงมีลูก (ลูกศิษย์) มาขอความช่วยเหลือ ก็เลยต้องสอนลูกศิษย์ให้เรียก คนทรงรัชกาลที่5 ว่า เสด็จพ่อ 

ฉะนั้น จงจำไว้เลยนะครับ การเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 มีต้นกำเนิดมาจากพวกทรงเจ้าเข้าผี สอนให้เรียกแบบนั้นทั้งสิ้น

และพวกทรงรัชกาลที่ 5 ก็จะขายพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และพระบรมฉายาลักษณ์ให้ลูกศิษย์กลับไปบูชาด้วย แถมสอนด้วยว่า ต้องไหว้วันไหน ไหว้อย่างไร ต้องถวายอะไรเวลาไหว้พระองค์ที่บ้าน

การทรงรัชกาลที่ 5 ล้วนเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันได้มากกว่าการทรงเจ้าเข้าผีบุคคลอื่น ๆ แปลง่าย ๆ คือหลอกได้ง่ายกว่า สอนให้คนศรัทธาได้ง่ายกว่า และทำเงินได้มากกว่านั่นเองครับ

ทีนี้คำเรียกแบบนี้ก็เริ่มแพร่ออกไปในสังคม จนผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกทรงเจ้า แต่ไม่รู้ที่มา ก็เลยเรียกผิดเพี้ยนตาม ๆ กันไป

ฉะนั้น ถ้าเราเป็นผู้มีปัญญา ไม่งมงาย และเข้าใจกาลเทศะ ก็ไม่ควรดึงฟ้าลงมาต่ำ ยกตนเสมอพระองค์ท่านนะครับ เพราะถือเป็นการกระทำมิบังควร !!

--------------------------------

การเรียกเสด็จพ่อร. 5 คือตีเสมอเบื้องสูง 

เพราะพวกเราเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ไม่ใช่พระบรมวงศานุวงศ์

ที่สำคัญพวกเราไม่ใช่พระราชโอรส พระราชธิดาในรัชกาลที่5 เราจึงเรียกรัชกาลที่5 ว่า "เสด็จพ่อ" ไม่ได้ 

ลองคิดง่ายๆ นะ หากคุณย้อนกลับไปในสมัยพระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ถามว่า คุณกล้าเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 ต่อหน้าพระพักตร์หรือไม่ ?

หรือแม้แต่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็ยังไม่เรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อ เลย ?

เพราะผู้ที่จะเรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อ ได้ ก็ต้องเป็น สมเด็จพระเทพรัตนฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ หรือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์เท่านั้นที่จะเรียกได้

แล้วทำไมคนไทยจำนวนมากถึงได้กระทำมิบังควรบังอาจเรียก รัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 ได้ หรือคิดว่า เพราะรัชกาลที่5 พระองค์ได้สวรรคตแล้ว ถึงได้กล้าลบหลู่ตีเสมอ (เช่นตีตนเสมอรัชกาลที่ 6 รัชกาลที่7 เพราะทั้งสองพระองค์คือพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5)



ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้คิดตีตนเสมอพระองค์หรอก แต่เพราะความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงทำให้ไม่รู้จักกาลเทศะต่างหาก ที่ทำให้เรียกรัชกาลที่ 5 แบบผิด ๆ ตาม ๆ กันมา

"ผู้ไม่รู้ ย่อมไม่ผิด" แต่เมื่อรู้แล้ว ก็ไม่ควรเรียกผิด ๆ อีก

ซึ่งเมื่อเรารู้แล้วว่านั่นเป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง ผมขอแนะนำว่า ต่อไปเราก็ควรจะเรียกพระองค์ให้ถูกต้องว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือ พระปิยมหาราช หรือ ในหลวงรัชกาลที่ 5 หรือ รัชกาลที่ 5 ก็ได้

อย่าเรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อร.5 ตามที่พวกทรงเจ้าเข้าผีมันสอนให้เรียกผิดๆ หรือพวกด้อยการศึกษา สอนให้เรียกผิดๆ ตามๆ กันมา เลยนะครับ เชื่อผมเถอะ

เราเป็นแค่พสกนิกรของพระองค์ท่าน จงอย่าลบหลู่พระเกียรติ ด้วยการดึงพระองค์มาเสมอชนชั้นสามัญอย่างเรา หรือยกตัวเราไปอยู่ในชนชั้นเดียวกับพระองค์ ด้วยการเรียกพระองค์ผิดๆ เลยนะครับ ผมขอร้อง

ผมเองก็ไหว้บูชารัชกาลที่ 5 เสมอที่บ้าน ผมก็เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เช่นกัน แต่ผมไม่เคยเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อ ร.5 เลย เพราะผมรำลึกเสมอว่า พระองค์คือพระมหากษัตริย์ของผม พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน

แม้ใครจะเคารพรักพระองค์ไม่ต่างจากรักพ่อก็ตาม ก็ไม่ควรเรียกว่าพระองค์ว่า เสด็จพ่อ นะครับ

การเรียกพระองค์อย่างถูกต้อง คือการเคารพเทิดทูนพระองค์อย่างสมพระเกียรติ

------------------------

ขอยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพ

ถ้าผมมีไทม์แมชชีนให้คุณย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ ให้คุณไปเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5

ถามว่า คุณกล้าเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ หรือไม่ ?

อย่าลืมนะครับ ในสมัยนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช การหมิ่นพระเกียรติกษัตริย์ อาจมีโทษหนักนะครับ

หรือในสมัยปัจจุบัน ถ้าคุณได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 คุณกล้าเรียกในหลวงต่อหน้าพระพักตร์ว่า เสด็จพ่อ หรือไม่ครับ ?

ส่วนกรณีเพลงของธงไชย แมคอินไตย์หลายเพลง ที่มีคำว่าพ่อ ซึ่งแทนความหมายถึง ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ถือเป็นการเปรียบเทียบเปรียบเปรย แต่นั่นไม่ใช่การเรียกพระองค์โดยตรง

แม้แต่ในเพลงเทิดทูนในหลวงทุกเพลง ก็ไม่เคยมีคำว่า เสด็จพ่อ ในบทเพลงใด ๆทั้ง ๆ ที่เราคนไทยรักและเทิดทูนในหลวงเสมือนพ่อ ก็ตาม

แต่พระองค์ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน 

-------------------------------

พระปิยมหาราช ทรงฉายพระรูปในอิริยาบถแบบชาวบ้านๆ



จากพระบรมฉายาลักษณ์ด้านบน ในหลวง ร. ๕ ทรงทำอาหาร ณ บริเวณ พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต รูปเดิมไม่มีสี ผมพยายามแต่งสีเพิ่มเข้าไป

ซึ่งคนในปัจจุบัน ที่ทำกิจการร้านอาหารมักชอบนำพระบรมฉายาลักษณ์รูปนี้ไปติดไว้ในร้าน เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ทำมาค้าขายดี



ตามความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า 

การที่พระพุทธเจ้าหลวง ทรงประกาศเลิกทาสแบบไม่เสียเลือดเนื้อได้นั้น ในทางหนึ่ง ในหลวงก็ทรงรับเทคโนโลยีของตะวันตกเข้ามาพัฒนาประเทศด้วย เพื่อให้ประเทศเจริญทัดเทียมชาติอื่นๆ เพื่อไม่ให้พวกฝรั่งล่าอาณานิคมมีเหตุอ้างในการยึดครองสยาม ด้วยข้ออ้างที่ว่า เพราะสยามด้อยพัฒนาล้าหลังและป่าเถื่อน ได้

ซึ่งคนไทยในสมัยก่อนโดยส่วนใหญ่จะไม่เคยเห็นในหลวง ไม่เคยรู้ว่าในหลวงมีพระพักตร์เป็นอย่างไร แถมวัฒนธรรมของคนไทยก็มักเคารพเทิดทูนในหลวงดุจดั่งสมมุติเทพ

ในหลวงร.5 จึงทรงใช้กุศโลบาย ด้วยการฉายพระรูปของพระองค์ในพระอริยาบถแบบชาวบ้านๆ ทั่วไป เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ว่า เจ้านายชั้นสูงก็ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาเฉกเช่นคนไทยทุกคน ซึ่งในอดีตโบราณที่ผ่านๆ มา คนไทยจะไม่เคยเห็นว่า ในหลวงจะฉลองพระองค์แบบชาวบ้านสามัญเช่นนี้

ผมคิดว่า นี่ก็อาจเป็นกุศโลบายอีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในการประกาศเลิกทาส เลิกระบบทาส ไพร่ เลิกระบบศักดินา ได้โดยไม่ยากของพระองค์เช่นกันครับ

คลิกอ่าน ทุกข์ที่สุดของรัชกาลที่ 5




วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทำไมในหลวงต้องทรงเหนื่อยมานาน ?











เพราะอะไรในหลวงต้องทรงเหนื่อยมานาน ?

คำตอบคือ เพราะรัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยไม่นำพา ที่ทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วควรนำไปปฏิบัติตามให้เกิดผลต่อประชาชนอย่างจริงจัง

เพราะอะไร ในหลวงทรงสอนเรื่องแก้มลิง และทรงบริจาคที่ดินทำแก้มลิงให้พวกเราเห็นหลายครั้ง

คำตอบคือ เพราะรัฐบาลไม่นำพาว่า ควรทำแก้มลิงให้ทั่วประเทศ ไม่ส่งเสริมอย่างจริงจังให้ประชาชนสร้างพื้นที่แก้มลิงในไร่นาของตัวเอง

เพราะอะไร ประเทศไทยยังยากจน

คำตอบคือ คนไทยรักในหลวงแต่ปาก แต่ไม่ทำตามคำในหลวงสอน เกษตรทฤษฎีใหม่คือทางรอดของชาติที่ยั่งยืน แต่ที่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่ยังยากจน ก็เพราะยังดื้อด้านทำเกษตรเชิงเดี่ยว จนล่มจมเมื่อผลผลิตราคาตกทีไร ก็ออกมาแหกปากขอให้รัฐบาลช่วยอุ้มราคาทุกที เกษตรกรไทยทำตัวเป็นลูกแหง่ไม่รู้จักโต คือพึ่งตนเองไม่ได้ตลอดชาติ

เพราะอะไร ประเทศที่อุดมสมบูรณ์ทุกอย่างอย่างไทย ในวันนี้กลับแร้นแค้น ป่าไม้ต้นน้ำแทบไม่เหลือ

คำตอบ คนไทยส่วนใหญ่ล้วนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ไม่รักประเทศ มุ่งแต่แสวงหาเงินตราเพื่อบำรุงความฟุ้งเฟ้อ ตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หรือเพื่อปลูกพืชเชิงเดี่ยว

เพราะอะไร หนี้นอกระบบไทย รุนแรงที่สุดในเอเซีย

คำตอบคือ เพราะรัฐบาลกระตุ้นแต่จีดีพี กระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่าย สอนให้คนจ่ายเงินมากกว่าออมเงิน เพื่อตัวเลขจีดีพี เพื่อหน้าตาของรัฐบาลเอง สุดท้ายคนไทยก็เป็นหนี้กันถ้วนหน้า ส่วนพวกนายทุนและนักการเมืองรวย !

ทั้งหมดนี้ ล้วนมาจากคำตอบเดียวก็คือ คนไทยไม่พอเพียง !!

----------

ถ้าคนไทยเป็นประชากรที่มีคุณภาพ รักชาติรักแผ่นดินได้จริงเหมือนที่ปากชอบพูดว่า รักในหลวง ถ้าทุกคนเชื่อในคำสอนของในหลวง ในหลวงก็จะไม่ทรงงานหนักทั้งชีวิตแบบนี้

ที่ในหลวงทรงงานหนักมากทุกวัน เพราะอะไร?

ผมในฐานะคนไทยคนนึง ผมบอกตรง ผมละอายใจครับ


ในหลวงทรงอ่อนโยนต่อพสกนิกรของพระองค์เสมอ เจ้านายทรงใกล้ชิดราษฎรอย่างไม่ทรงถือพระองค์








วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

akecity วิเคราะห์คำสัมภาษณ์ทักษิณต่อไทม์ หมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ ?






คือ พวกเสื้อแดง อย่างเว็บประชาไท และเว็บไทยอีนิวส์ ก็ได้ลอกคำแปลของ liberalthai เพื่อยืนยันว่า ทักษิณไม่ได้หมิ่นสถาบันกษัตริย์ ในการสัมภาษณ์แก่ Times

แต่ก่อนอื่นต้องบอกว่า ทักษิณหมิ่นสถาบันนั้น อาจไม่เข้าข้อหาหมิ่นตามมาตรา 112 เท่าไหร่นัก มันแค่เฉียด ๆ

ผมจึงขอใช้คำว่า กระทำมิบังควร ดีกว่า เพราะทักษิณมันฉลาดพอที่เลี่ยง และใช้วิธีพูดให้คนตีความแบบกำกวมได้

ซึ่งคนไทยผู้จงรักภักดีสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง จะไม่มีทางกระทำมิบังควรแบบที่ทักษิณกระทำอยู่บ่อยครั้งหรอกครับ

แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของผม akecity ผมคิดว่า ทักษิณหมิ่นสถาบันแน่นอนครับ

-----------------------

ทำไมผมถึงต้องยกคำแปลของเสื้อแดงมาใช้ ?

เพราะผมต้องการแสดงให้เห็นว่า ผมไม่ได้บิดเบือนคำแปลตามข้อกล่าวหาของเสื้อแดงที่มีต่อสื่ออื่น ๆ ว่า สื่อตรงข้ามทักษิณนำคำสัมภาษณ์มาแปลอย่างบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายทักษิณ

ผมต้องการชี้ให้เห็นด้วยคำแปลของพวกเสื้อแดงเองเลยว่า แม้จะใช้คำแปลของเสื้อแดงมาวิเคราะห์ ก็ยังเห็นเหมือนเดิมคือ ทักษิณก็กระทำมิบังควร หมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้างสถาบันอย่างไร ?

ซึ่งพวกเสื้อแดงพยายามบอกว่า ฝ่ายจงรักภักดีใส่ร้ายทักษิณ นั่นเพราะ พวกเสื้อแดงไม่ได้มีหัวใจจงรักภักดีสถาบันฯ จึงไม่รู้สึกรู้สาว่า นี่แหละคือการดูหมิ่นสถาบันและพระราชวงศ์หลายพระองค์

--------------------------------



Thaksin Shinawatra: the full transcript of his interview with The Times
November 9, 2009
ที่มา – Times Online
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่ บรรณาธิการของไทม์ด้านเอเชีย สัมภาษณ์อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่กำลังลี้ภัยที่บ้านของเขาที่นครดูไบ

ทักษิณ ชินวัตร: (ชัยชนะจากการเลือกตั้งของผมในปี ๒๕๔๔) ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่พรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวชนะคะแนนเสียงครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา เราชนะอย่างท่วมท้น – ครึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภา – เราจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมขึ้นมา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยอีกเช่นกัน ที่เราได้บริหารประเทศครบสี่ปีโดยสภาไม่ถูกยุบ และเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ว่านายกรัฐมนตรีได้รับการเลือกตั้งสมัยที่สอง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยซึ่งเราได้รับชัยชนะกวาดที่นั่งถึง ๓๗๗ ที่นั่ง และจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องมีพรรคร่วม – เป็นร้อยละ ๗๖ ของที่นั่งในสภาในเวลานั้น

Thaksin Shinawatra: [My election victory in 2001] was the first time in Thai history that one party won half of parliament's seats. We won alandslide — half of parliament's seats — and we formed a coalitiongovernment. And it was the first time in Thai history we stayed for a four-year term without the House being dissolved. And it's the first time in Thaihistory that the prime minister was re-elected for a second term. And thefirst time in Thai history that we won 377 seats so that we could form agovernment without needing a coalition — 76 per cent of the parliament's seats at that time.

และนั่นก็เริ่มสร้างปัญหาให้กับผม – เพราะผมมีชื่อเสียงมากเกินไป ประชาชนรักผมมากเกินไป นั่นแหละที่มาของปัญหา
That became my problem — because I was too popular, being loved bythe people too much. That's where my problem comes from.

คนของผมบางคนได้เตือนว่า สื่อจะเริ่มโจมตีผมนะ – เพราะฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอมากดังนั้นสื่อต้องอยู่กับฝ่ายตรงข้าม ตอนนั้นผมไม่เชื่อ แต่สุดท้ายผมเห็นว่าสื่อโจมตีผมอย่างไม่มีเหตุผลใดๆ วันหนึ่งผมเผอิญพบกับลูกชายของเจ้าของหนังสือพิมพ์ ผมถามเขาว่า “ถามคุณพ่อคุณหน่อยซิว่า ทำไมหนังสือพิมพ์ของคุณพ่อคุณถึงได้โจมตีผมแบบไม่มีเหตุผลแบบนั้น” เขาตอบผมว่า “ลุงครับ (คำที่ใช้แสดงความเคารพ) ผมทำอะไรไม่ได้หรอกครับ เพราะคุณพ่อโดนองคมนตรีสองคนเกลี้ยกล่อมอยู่ พวกเขามาทานข้าวมื้อค่ำกับคุณพ่อ และพวกเขามาพูดว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ต้องประสงค์ลุงแล้ว” ผมพูดไปว่า ผมไม่เชื่อหรอก – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง อาจจะพวกองคมนตรีเองที่มีความลำเอียงกับผม
I was told by some of my people that the media would start to attack me –because the opposition is so weak so the media would become theopposition. I didn't believe that at that time. And finally I saw the mediaattack me with unreasonable things. One day I came across the son of theowner of a daily newspaper. I asked him: ‘Ask your dad, why does your newspaper attack me unreasonably?' He said, 'Uncle [a general term of respect], there's nothing I can do because my father has been lobbied bytwo Privy Councillors. They came to have dinner with my father and theysaid the King doesn't want you anymore.’ I said I don't believe that — HisMajesty never wants to become involved in politics. Maybe it's because of their own prejudice against me.
v

v

akecity วิเคราะห์ ตามหลักการที่ถูกต้อง การจะพูดถึงในหลวง ที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่พระองค์ได้ ผู้จงรักภักดีไม่ควรนำมาพูดเด็ดขาด เพราะไม่มีอะไรจะพิสูจน์ว่า สิ่งที่พูดนั้นจริงหรือไม่

แม้ทักษิณจะฉลาดตบท้ายว่า ในหลวงทรงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองก็ตาม เพราะแค่เอ่ยเล่าเองเออเองว่า "...พระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ต้องประสงค์ลุงแล้ว" ก็มิบังควรกระทำ เพราะนี่อาจเป็นเสแสร้งพูดเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ยิ่งพวกล้มเจ้าจะชอบตีความทันทีว่า ทักษิณใบ้อ้อมๆ ว่า ในหลวงทรงเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร

---------------------------------------

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ทำไมพวกเขาจึงมีความลำเอียงกับคุณล่ะ
Why are they prejudiced against you?

ทักษิณ ชินวัตร: พวกเขาประโคมข่าวลือว่าผมต้องการเปลี่ยนประเทศไทยเป็นระบบสาธารณรัฐ และตัวผมต้องการเป็นประธานาธิบดี ซึ่งผมไม่เคยมีความคิดเช่นนี้ ผมน่ะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด คุณทราบไหมว่า เมื่อผมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกน่ะ ผมได้เข้าเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์องค์พระเจ้าอยู่หัว ผมกราบบังคมทูลฯ ว่า “ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพเจ้ามีความจงรักภักดีต่อพระองค์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งถือกำเนิดในแผ่นดินของพระองค์ ข้าพเจ้าขอกราบบังคมทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทว่า – ไม่เพียงแต่ข้าพเจ้าจะเสมือนลูกของพระองค์ – แต่เพราะอายุของข้าพเจ้าใกล้เคียงกับพระชนมายุของพระราชโอรสและพระราชธิดา ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงมีพระเมตตาประทานสั่งสอน และตักเตือนข้าพเจ้าอย่างคนในวัยเดียวกันกับพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ แม้ว่าข้าพเจ้าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ตาม พระองค์ทรงครองราชย์มาสามชั่วอายุคน – รุ่นปู่ของข้าพเจ้า รุ่นบิดาของข้าพเจ้า และมาถึงรุ่นข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี สิ่งใดที่ข้าพเจ้าจะต้องปฏิบัติ ขอพระองค์ได้โปรดมีพระเมตตาสั่งสอนข้าพเจ้าด้วย” นี่เป็นคำพูดที่ผมได้เข้าเฝ้า และผมได้กราบทูลฯต่ออีกว่า “พระองค์ทรงงานหนักสำหรับพสกนิกรชาวไทยมาหลายปีแล้ว ขณะนี้พระองค์ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว และพระองค์อาจทรงเหน็ดเหนื่อย โปรดให้ข้าพเจ้าได้สนองเบื้องพระยุคลบาท ข้าพเจ้าจะแบกภาระทุกอย่างของพระองค์ และข้าพเจ้าจะทุ่มเททำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของพสกนิกรของพระองค์” นั่นเป็นการกราบทูลฯ ครั้งแรกของผม…ต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
They spread rumours that I wanted to turn Thailand into a republic andthat I wanted to be president, which is something I never thought. I'mvery loyal to the monarchy. You know, when I first became prime ministerI went to an audience with His Majesty. I said, ‘Your Majesty, I'm very loyalto you. I'm the first prime minister born in your reign. I'm humbly saying –not that I consider myself as your child – but my age is about the age of your children. So please consider me and teach me as though I'm yourchildren's age, even though I'm prime minister. Your Majesty has beenreigning for three generations – the generation of my grandfather, thegeneration of my father and then my generation. So I very much respect Your Majesty. Whatever I need to do properly, please teach me.’ This ishow I present myself. And, ‘Your Majesty has been working hard for the Thai people for many years and you may be tired and you're getting old.Please use me. I will shoulder all the burdens and I will work hard for youto solve the problems of your citizens.’ That is the very first thing... I told you His Majesty.


และผมทำงานหนักเรื่อยมาจนได้รับความนิยมมากขึ้นๆ และความนิยมเริ่มสร้างปัญหาให้ผม พรรคประชาธิปัตย์พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถเป็นพิเศษในการปรักปรำ ผู้คนต่างๆ พวกเขาเริ่มสร้างข่าวลือ และโจมตีผม แม้แต่ตอนที่พวกเขาครองอำนาจ ก็ยังไม่วายใส่ความว่าผมต้องการเป็นประธานาธิบดี เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับชาวไทยเพราะคนไทยรักพระเจ้าอยู่หัว และคนไทยไม่ยอมให้ใครก็ตามมาล้มล้างสถาบันกษัตริย์..
And I worked hard until I got more and more popular, and the popularitybecame my problem. The opposition Democrats are very good at allegingthings about people. They start rumours and attacking me. Even whenthey are in power, they still allege that I want to be president. This is avery sensitive issue for Thai people because Thais love His Majesty, and Thais will not allow anyone who dare to topple the monarchy…


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: นั่นเป็นเพราะคนคิดว่าคุณได้รับความนิยมมากกว่ากษัตริย์หรือ
Was it because people thought you were more popular than the King?

ทักษิณ ชินวัตร: เมื่อคุณมีลูกชาย ลูกชายรักภรรยา และรักแม่..เป็นความรักคนละแบบ คนรักผมเพราะเขาสัมผัสผมได้ เขาใช้ผมเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของเขาได้ แต่สำหรับพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ประชาชนให้ความเคารพต่อพระองค์ดั่งเทพ เป็นความรักคนละแบบ แต่คนพยายามที่จะทำให้เป็นความรักเช่นเดียวกัน นั่นคือปัญหาทั้งหมดอย่างแท้จริง
When you have a son, he loves the wife and he loves the mother … It's adifferent kind of love. The people love me because they can touch me. They can use me to improve their well-being. But the King, they respecthim very much like God. It's a different kind of love. But the people aretrying to make it the same love. That's really the whole problem.



ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ในการเมืองไทย กษัตริย์ถือว่าเป็นบุคคลซึ่งทรงอิทธิพลมากที่สุด นั่นเป็นเรื่องดีหรือไม่
In Thai politics the King is one of the most powerful people. Isthat a good thing?

ทักษิณ ชินวัตร: พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นที่เคารพอย่างที่สุด ในความรู้สึกของคนไทยแล้วพระองค์ทรงเป็นดั่งเทพ คนไทยไม่เชื่อฟังด้วยกันเอง คนไทยต้องการใครสักคนหนึ่งที่พวกเขาให้ความเคารพอย่างจริงจัง – นั่นก็คือพระเจ้าอยู่หัว แต่บุคคลที่รายล้อมรอบพระองค์ และสมเด็จพระราชินี ซึ่งผมเรียกว่าผู้ใกล้ชิดในวังที่พยายามสร้างอิทธิพล
The King is the most respected person. He's become god in the feelings of the Thai people. Thais don't obey one another. They need someone theyreally respect – that is the King. But the people who surround the King andthe Queen, what I call the palace circle, they try to make influence.

องคมนตรีส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการที่เกษียณ..พวกเขามีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และต้องการจะสร้างอิทธิพลบางอย่าง อย่างเช่นพล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี) – เขาต้องการให้ใครบางคนเป็น ผบ.ทบ. แต่ถ้าแต่งตั้งคนอื่นขึ้นมา เปรมอาจไม่ชอบใจ นั่นเป็นการแสดงอำนาจซึ่งพระมหากษัตริย์ไม่ทรงประสงค์ หรือเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด เป็นพวกคนใกล้ชิดในวังซึ่งกำลังเล่นเกมต่างๆ
Most privy councillors are retired government officials… they have theirsubordinates so they want to have some kind of influence. Let's say likeGeneral Prem [Tinsulanonda, president of the Privy Council] – he wantssomeone to be army commander-in-chief. But if you appoint someone elsehe may not be happy. That is the exercise of power without the intentionor anything of the monarch. It's the palace circle who are playing the games.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: อย่างนั้น พล.อ.เปรม และบุคคลอย่างเขากำลังชักใยอยู่เบื้องหลังกษัตริย์
So General Prem and people like him are manipulating the King?

ทักษิณ ชินวัตร: บรรดาองคมนตรีเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่พล.อ.เปรม มีบุคคลอื่นด้วย เช่น นางสนองพระโอษฐ์ และใครก็ตามของสมเด็จพระราชินี สังคมไทยดูใหญ่ก็จริง แต่สังคมศักดินาในกรุงเทพจะอยู่ในวงที่แคบมาก ทั้งอิทธิพล และเครือข่ายอยู่ตรงนั้น นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้การเมืองมีความยุ่งยาก ไม่เหมือนอังกฤษหรือญี่ปุ่น ซึ่งไม่ยอมให้บุคคลเหล่านั้นเข้ามามีอิทธิพลได้
The Privy Councillors are. Not only Prem but others like ladies-in-waiting,and whatever, of the Queen. Thai society looks big, but it is very narrow interms of the elite in Bangkok. So the influence, the network is there. That's what makes politics complicated. It's not like the UK or Japan,where people are not allowed to influence things.


นั่นคือปัญหาในประเทศไทย ปัญหาไม่ใช่ระบบกษัตริย์ ระบบกษัตริย์เป็นเรื่องดีสำหรับประเทศไทย ประเทศไทยต้องการมีระบบกษัตริย์ แต่ไม่ควรถูกคนใกล้ชิดในวังนำมาใช้ในทางที่ผิด หรือสร้างความแปดเปื้อน
That's the problem in Thailand. The monarchy is not the problem. Themonarchy is good for Thailand. Thailand needs to have a monarchy but itshould not be abused or played by the palace circles.

v

v

akecity วิเคราะห์ การที่นักข่าวถามว่า คุณได้รับความนิยมมากกว่ากษัตริย์หรือ ผมล่ะสงสัยว่า ทักษิณอาจมีการนัดแนะคำถามแบบนี้กับนักข่าวก่อนรึไม่ ?

ซึ่งคำถามที่นำความนิยมของทักษิณมาเปรียบกับในหลวงเป็นคำถามที่แย่มาก ฟังยังไงๆ นักข่าวก็ไม่ควรถาม และทักษิณไม่สมควรตอบอย่างยิ่ง เพราะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้

และหากทักษิณจงรักภักดีในหลวงอย่างสูงสุด จะต้องตักเตือนนักข่าวเลยว่า คำถามแบบนี้เราคนไทยไม่ชอบ และไม่ควรถาม!!

หากจะให้ผมมองในแง่ร้าย ผมมองว่าทักษิณต้องการให้นักข่าวถามเปรียบเทียบความรักความนิยมของตัวทักษิณกับในหลวง เพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่างด้วยประสงค์ร้าย เช่นสาเหตุที่ต้องล้มทักษิณ เหมือนที่พวกล้มเจ้านำประเด็นเรื่องนี้มาเป่าหูพวกชั่วและโง่ด้วยกัน

ส่วนคำถามพลเอกเปรม และผู้ใกล้ชิดชักใยอยู่เบื้องหลังกษัตริย์นั้น

ประโยคนี้นักข่าวเขาอาจถามได้ แต่ทักษิณไม่ควรตอบ เพราะการที่บอกว่า พลเอกเปรมและนางสนองพระโอษฐ์ เป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า ทักษิณกำลังดูถูกพระวิจารณญาณของในหลวง และพระราชินี ทักษิณกำลังกล่าวหาว่า ทั้งสองพระองค์เชื่อฟังคนใกล้ชิดมากเกินไป จนพระองค์ถูกเหล่าคนใกล้ชิดชักใยพระองค์ได้

ซึ่งหากมองดีๆ ก็เท่ากับทักษิณได้กล่าวหาว่าในหลวงและพระราชินี ทรงรู้เห็นเป็นใจให้กับคนใกล้ชิดกระทำการไม่ดีเหล่านั้นด้วย



(หมายเหตุ  กษัตริย์อังกฤษสามารถแทรกแซงการเมืองได้โดยตรงในทางลับต่อรัฐสภา และรัฐบาลเลยครับ โดยอาจรับสั่งโดยตรงหรือผ่านคนใกล้ชิดมาสู่รัฐสภาหรือรัฐบาลได้ เพราะรัฐธรรมนูญแบบจารีตของอังกฤษยังให้อำนาจกษัตริย์ไว้มาก เพราะในรายการสยามวาระ ตอนราชวงศ์อังกฤษ ก็มีการพูดตรงจุดนี้ เพียงแต่ว่า ในทางเปิดเผยประชาชนอังกฤษจะไม่รู้ ที่สำคัญสภาสูงหรือสภาขุนนางของอังกฤษก็มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด ซึ่งสภาสูงนี้ ยังเคารพอำนาจและพระวินิจฉัยของกษัตริย์อังกฤษอย่างมาก

ส่วนในสถาบันกษัตริย์ญี่ปุ่น ที่เหลือเพียงสัญลักษณ์ ก็เพราะรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นเขียนโดยสหรัฐอเมริกา จึงทำให้พระจักรพรรดิขาดพระราชอำนาจ เพื่อแลกกับความปลอดภัยของสมเด็จพระจักรพรรดิอิโรฮิโต ไม่ต้องขึ้นศาลโลกหลังแพ้สงคราม)


--------------------------


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: นั่นคือระบบกษัตริย์เป็นสิ่งที่ดี แต่สถาบันกษัตริย์ต้องมีการปรับปรุง ใช่หรือไม่
So the monarchy is a good thing but the royal institution needsreform – is that right?

ทักษิณ ชินวัตร: ใช่ครับ ใช่
Yes ,yes.

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ควรมีการปรับปรุงอย่างไร
What kind of reform?

ทักษิณ ชินวัตร: การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญจะต้องยึดถือปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ทุกสถาบันต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และหลักทางการเมือง แต่บางครั้งสถาบันเหล่านี้ก็ทรงอิทธิพล ระบบยุติธรรมถูกก้าวก่ายจากผู้ใกล้ชิดในวัง
The constitutional monarchy must be strictly abided by. All the institutionsmust function according to the rule of law and the political rules, butsometimes they've been influenced. The justice system can be intervenedin by the palace circle.

ประชาธิปไตยอย่างไทยยังพัฒนาไม่ถึงที่สุด ดูเหมือนจะเติบโตแต่ยังไม่เติบโต เพราะการก้าวก่ายของกองทัพซึ่งไม่ควรจะยอมให้เกิดขึ้น ทุกครั้งที่มีการทำรัฐประหาร อำนาจอธิปไตยจะโดนควบคุม – ซึ่งไม่ควรยอมให้เกิดขึ้น ประชาธิปไตยควรมาจากการเลือกตั้งเพียงทางเดียว – คุณต้องให้อำนาจต่อประชาชน แต่อำนาจไม่ได้อยู่กับประชาชน การเลือกตั้งเป็นเพียงการรับรองความเป็นประชาธิปไตย คุณต้องใส่ใจกับประชาชน คุณต้องสนองตอบต่อความต้องการของประชาชน
Thai democracy is not really mature. It looks mature but it's not mature,because of the intervention of the military which should not be allowed.Every time you stage a coup you take control of sovereignty — thatshould not be allowed. Democracy should be through elections only — youhave to give the power to the people. But power is not with the people. The election has become just a rubber stamp for democracy. You have tocare for the people, you have to respond to their needs

มันเป็นการวางแผนเพื่อดึงอำนาจ จริงๆแล้วมีแค่สองฝ่ายเท่านั้น ประชาธิปัตย์ (พรรคประชาธิปัตย์ของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) และฝ่ายสนับสนุนผม พวกเขาต้องการดึงอำนาจจากฝ่ายสนับสนุนผมไปให้ประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ต้องการอำนาจสองทาง – ซึ่งอำนาจไม่ได้มาจากประชาชน เป็นอำนาจที่ได้มาจากการทรยศของ ส.ส.จากพรรคอื่น
It's been a plot to shift the power. Actually there are two camps, theDemocrats [the Democrat Party of the current prime minister, AbhisitVejjajiva] and my supporters. They want to shift from my supporters toDemocrats. Democrats wanted power twice — not by people power, it'sfrom defection of MPs from some other party.

ในประเทศไทยเราเรียกพวกนี้ว่างูเห่า – ประชาชนไม่ไว้ใจพวกงูเห่า งูเห่าสามารถแว้งกัดเจ้าของได้
In Thailand we call them cobra — because people don't trust the cobra. The cobra can bite the owner.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: เมื่อเดือนเมษายน คุณได้วิงวอนให้กษัตริย์ (ภูมิพลอดุลยเดช) ทรงลงมาแทรกแซงเพื่อคืนความปรองดองของสังคมไทย คุณยังมีความหวังว่ากษัตริย์จะทรงทำเช่นนั้นหรือไม่
In April you made an appeal to the King [Bhumibol Adulyadej] tointervene to heal the divisions in Thai society. Do you still hopethe King will do that?


ทักษิณ ชินวัตร: รัฐบาลสร้างความขัดแย้งกับฝ่ายสนับสนุนผม เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน ดังนั้นรัฐบาลไม่อยู่ในฐานะที่จะมาแก้ปัญหาใดๆได้ รัฐบาลไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไว้ใจได้ เพราะพวกเขาทำการปล้นอำนาจ พวกเขาแย่งอำนาจไปจากประชาชน
The government is engaged in a conflict with my supporters. We arerivals, so the government is not in a position to solve the problems. Thegovernment is not in a position to be trusted because they steal thepower, they rob the power from the people.

หนทางเดียวที่รัฐบาลจะเข้ามาเกี่ยวข้องได้ก็คือ รัฐบาลต้องหัดคิดใหม่ในเรื่องการเป็นศัตรูกับคนอื่น แต่รัฐบาลนี้ใจไม่กว้างพอ เพราะรัฐบาลนี้กลัวว่าถ้ามีการเลือกตั้งอีกครั้ง พวกเขาจะแพ้ ผมขอรับรองเลยว่ารัฐบาลนี้จะแพ้การเลือกตั้ง เรา (พรรคเพื่อไทย ของฝ่ายสนับสนุนทักษิณ) กำลังจะชนะอย่างขาดลอยอีกครั้ง นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมรัฐบาลนี้ถึงได้เกาะเก้าอี้อย่างเหนียวแน่นไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น – พวกเขาไม่ต้องการยุบสภา ผมไม่สนใจหรอก แต่ตอนนี้ประชาชนกำลังเป็นทุกข์ ประเทศกำลังลำบาก – คุณก็เห็นแล้วนี่ ประเทศไทยกำลังจะก้าวไปสู่ปัญหาเพิ่มขึ้นอีก
The only way the government can be involved is that they have to rethinkbeing antagonistic to others. But they're not generous enough, becausethey're afraid that if they have an election again they will lose. I canassure you that the government will lose in the election. We [the Pua Thaiparty of Thaksin’s supporters] are going to win a landslide again. So that'sthe reason they want to hang on in power regardless – they never want todissolve parliament. I don't care, but the people are now suffering, thecountry is suffering – you can see it. Thailand is now heading to moreproblems.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: กษัตริย์จะทรงทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์แบบนี้
What can the King do in this situation?

ทักษิณ ชินวัตร: จะต้องนำสองฝ่ายมาร่วมกัน และเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง นั่นคือ อภัยโทษให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
You have to bring the two parties together and then start it over again. That is, forgive every party involved.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณจะกล่าวอะไรต่อกษัตริย์บ้าง
What would you say to the King?

ทักษิณ ชินวัตร: ผมจะกราบทูลฯว่า “ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ถึงเวลาแล้ว ที่พระองค์จะทรงประทานพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทย ขอพระองค์โปรดประทานความสันติสุขให้พวกเขา ให้ประชาชนได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบโดยวิธีนิรโทษกรรม และการพระราชทานอภัยโทษ เพื่อให้พสกนิกรทุกคนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่”…
I would say, ‘Your Majesty, it's time for Your Majesty to be kind to the Thaicitizens, by giving them peace. Let them stay together peacefully throughthe blanket amnesty and pardons. So let everyone go back to their normallife and draft the new constitution...


พวกเขา (ศัตรูของทักษิณ) พยายามฆ่าผม ได้มีการพบปะกันที่บ้านของคุณปีย์ (มาลากุล) ซึ่งมีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระราชินี.. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (องคมนตรีและอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากทักษิณถูกปล้นอำนาจจากการทำรัฐประหาร) ได้ขอให้พล.อ.พัลลภ (ปิ่นมณี) สังหารผม
They [the enemies of Mr Thaksin] tried to kill me. They had a meeting inthe house of Mr Pi [Malakul], who is close to Her Majesty… GeneralSurayud [Chulanont, former Thai army commander, and prime ministerafter Thaksin was ousted by the military coup] asked General Panlop[Pinmanee] to assassinate me.

v

v

akecity วิเคราะห์  ทักษิณพูดทำนองชี้นำในทำนองที่ว่า สถาบันกษัตริย์ไม่เคารพหลักการภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างเข้มงวด  เจตนาการพูดแบบนี้ ย่อมฟังออกว่า ทักษิณกำลังกล่าวหาอ้อม ๆ ว่า สถาบันกษัตริย์มีการแทรกแซงการเมืองและระบบยุติธรรม ทำนองว่าเพื่อเล่นงานทักษิณ

แต่พอทักษิณรู้ตัวว่า กำลังพูดโจมตีสถาบันกษัตริย์เริ่มจะตรงเกินไป ทักษิณก็จะใช้วิธีตบท้ายประโยคเพื่อปิดบังเจตนาแท้จริงของตัวเองด้วยคำว่า คนใกล้ชิดในวัง แทน

การที่ทักษิณทูลขอให้ในหลวงทรงพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งให้อภัยโทษใครล่ะ ? เพราะไม่มีฝ่ายตรงข้ามทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษสักราย แม้แต่พวกพันธมิตรต้องคดีมากมาย พวกเขาก็ไม่เคยเรียกร้องขออภัยโทษใดๆ

มีเพียงทักษิณคนเดียวเท่านั้น ที่พยายามเรียกร้องกดดันทุกทางเพื่อให้ในหลวงทรงพระราชทานอภัยโทษให้แก่ตัวเอง แต่ทักษิณใช้วิธีเลี่ยงที่จะไม่พูดตรงๆ ว่า ให้ในหลวงพระราชทานอภัยโทษให้คดีที่ดินรัชดาของทักษิณ ทั้งๆ ที่การให้ในหลวงพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องหาที่หนีโทษ ยังไม่ได้รับโทษ ในหลวงทรงกระทำให้ไม่ได้ เพราะมันจะขัดกับต่อคำตัดสินของศาล 

เพราะในหลวงทรงมีพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องโทษในเรือนจำแล้วเท่านั้น ในหลวงทรงไม่เคยพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ที่ไม่เคยยอมรับความผิด ไม่เคยยอมรับโทษ เหมือนที่ทักษิณกำลังหนีคดีอยู่

แถมทักษิณยังกดดันเบื้องสูงด้วยการสั่งให้พวกเสื้อแดงเข้าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ตัวเอง ทั้งๆ ที่ตามหลักการขอพระราชทานอภัยโทษต้องเป็นญาติสนิทของนักโทษเท่านั้นที่มีสิทธิเข้าชื่อยื่นขอ แต่ลูกเมียทักษิณ กลับไม่ร่วมลงชื่อขอพระราชทานอภัยโทษด้วย

ดังนั้น การที่ทักษิณอ้างว่า จะทูลขอให้ในหลวงพระราชทานอภัยโทษ จึงเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง เพราะกดดันพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงไม่สามารถทำได้

-------------------------------

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: แล้วกษัตริย์ทรงทราบเรื่องนี้หรือไม่
Did His Majesty know about this?

ทักษิณ ชินวัตร: ผมไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น ผมแน่ใจว่าพระองค์ทรงอยู่เหนือ (การเมืองทั้งปวง) แต่พวกคนใกล้ชิดในวังซึ่งมีเครือข่าย พวกเขาร่วมมือกัน พูดคุยด้วยกัน พวกเขาต้องการสร้างภาพว่าพวกเขานั้นมีความจงรักภักดีเป็นที่สุด และพวกเขาต้องทำการกำจัดใครก็ตามซึ่งไม่จงรัก ใครก็ตามที่อาจจะเปลี่ยนประเทศไทยไปเป็นสาธารณรัฐ พวกเขาต้องการกำจัดผมเพราะพวกเขาพูดว่า ผมน่ะพยายามเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสาธารณรัฐ และจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์ นั่นไม่ใช่ความจริง ผมน่ะมีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์เป็นที่สุด
I don't think so. I can assure you His Majesty is above [politics], but thosein the circle have a network. They stay together, they talk together, theytry to give the impression that they are very loyal so they have to get ridof the one who is not loyal, who might turn Thailand into a republic. Theywant to get rid of me because they say I am trying to turn Thailand into arepublic and topple the monarchy. That's not true. I have a very high respect for the monarchy and royal family.




ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: การที่สมเด็จพระราชินีทรงเสด็จไปงานพระราชทานเพลิงศพหนึ่งในผู้สนับสนุน เสื้อเหลือง (“เสื้อเหลือง” ฝ่ายตรงข้ามทักษิณ) คุณคงจะแปลกใจไม่น้อย
The Queen attended the funeral of one of the Yellow Shirtsupporters [the ‘Yellow Shirts’, Mr Thaksin’s opponents]. Youmust have been very surprised about that.

ทักษิณ ชินวัตร: ทุกๆคน ทั้งประเทศไทยต่างประหลาดใจ แต่ผมทราบในองค์สมเด็จพระราชินี พระองค์ทรงเปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อใครบางคนกราบบังคมทูลฯ พระองค์ด้วยข้อมูลผิดๆ (เช่น) “สตรีผู้นี้ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์” ผมคิดว่าพระองค์ทรงถูกหลอก พวกคนใกล้ชิดวงในของวังพยายามกราบบังคมทูลฯให้ทรงคล้อยตาม โดยให้ข้อมูลผิดๆกับพระองค์
Everybody, the whole of Thailand, was surprised. But I know Her Majesty.Her Majesty is very kind when someone gives her wrong information [suchas] ‘That lady's dying because she tried to protect the monarchy.’ I thinkshe was lied to. People around her circles try to give her the wrongimpression, to give wrong information to Their Majesties.

v

v

akecity วิเคราะห์  นี่คือประเด็นสำคัญมากในคำสัมภาษณ์ครั้งนี้ เพราะทักษิณกำลังกล่าวหาว่า พระราชินีทรงถูกหลอกจากคนใกล้ชิด ทักษิณกำลังดูถูกพระราชวินิจฉัย และพระวิจารณญาณส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินี 

ทักษิณคิดเข้าข้างตัวเองว่า ตัวเองถูกเสมอ ส่วนคนที่เห็นต่างคือฝ่ายผิด ทักษิณมันไม่เว้นแม้กระทั่งเบื้องสูง !!

และในอีกแง่นึงก็คือ ทักษิณเจตนาแฝงเพื่อกล่าวหาทางอ้อมว่า พระราชินีทรงเข้าข้างกลุ่มพันธมิตร ด้วยวิธีแกล้งพูดทำนองว่า เพราะพระองค์ทรงโดนหลอกจากคนใกล้ชิด แต่พวกล้มเจ้ามันตีความไปแล้วตามที่ทักษิณใบ้ ว่า ที่จริงพระราชินีมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุน พธม.

และในวันที่พระราชินีเสด็จไปพระราชทานเพลิงศพน้องโบว์พธม.นั้น ก็ยังมีเจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ทรงร่วมตามเสด็จด้วย

ทักษิณบังอาจคิดว่า แม้แต่ ศจ.ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ จะไม่ทรงวินิจฉัย วิเคราะห์เหตุผลได้ถูกต้องเลยหรือว่า ฝ่ายไหนผิดฝ่ายไหนถูกกันแน่ ?

(ครอบครัวนางสาวอังคณา หรือน้องโบว์ แม้มีสิทธิรับเงินเยียวยา 7.75 ล้านจากรัฐบาล แต่ครอบครัวน้องโบว์ปฏิเสธที่จะรับเงินดังกล่าว)


---------------------------------


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณได้อ้อนวอนให้กษัตริย์ทรงเข้ามาแทรกแซง และฝ่ายสนับสนุนของคุณได้ยื่นฎีกาขอถวายพระราชทานอภัยโทษให้กับคุณ ทำไมกษัตริย์จึงทรงเพิกเฉย
You've made your appeal to the King to intervene and yoursupporters have presented a petition for your pardon. Why hasthe King ignored them?


ทักษิณ ชินวัตร: ผมคิดว่าอาจจะเพราะขณะนี้ทรงพระประชวร พระองค์ทรงเข้าออกโรงพยาบาล ผมหวังว่าหลังจากที่พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงขี้นแล้ว พระองค์จะทรงหาหนทางให้ประเทศกลับคืนสู่ความสามัคคี เราไม่สามารถให้ประเทศเป็นอย่างนี้อีกต่อไปได้ เราเองจะยิ่งแย่ลง และแย่ลง และความแตกแยกจะยิ่งหนักขี้น และมากขี้น
I think His Majesty maybe now feels unwell because he's been in and outof hospital. I hope after His Majesty gets stronger he will find a way for thecountry to be back to unity. We cannot let the country go on like this. Wewill be getting worse and worse and the division will be getting deeperand stronger.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: กษัตริย์ทรงดูเหมือนจะทรงมีพระพลานามัยดีขี้นจากพระอาการประชวรเมื่อไม่นาน มานี้ และถ้ามีการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ จะมีความหมายอย่างไรต่อการเมืองไทย และสังคมไทย
The King seems to be recovering from his latest illness now. Butthere will eventually be a change of monarch. What will thatmean for Thai politics and Thai society?



ทักษิณ ชินวัตร: ประเทศไทยได้รับการปกครองโดย..พระราชวงศ์จักรีมากกว่า ๒๐๐ ปี จะต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่น แต่สิ่งแรกคนไทยต้องสมานฉันท์กันก่อน ก่อนที่จะเปลี่ยนรัชสมัย เพื่อการเปลี่ยนรัชสมัยจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น
Thailand's been governed by… this dynasty more than 200 years. There'sgoing to be a smooth transition but Thais need to reconcile theirdifferences first, before the reign change. The reign change will besmooth.

v

v

akecity วิเคราะห์  คำว่าเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ ผมไม่รู้ว่า นักข่าวที่สัมภาษณ์ใช้คำผิดหรือไม่ ? (change of monarch)


ซึ่งคำว่า เปลี่ยนแปลงราชวงศ์ หมายถึง เปลี่ยนแปลงจากราชวงศ์จักรี ไปเป็นราชวงศ์อื่นๆ ซึ่ง หมายถึง การล้มล้างราชวงศ์จักรี เลยนะครับ ถ้าจะถามว่าในความหมายปรับปรุง ก็ควรใช้คำอื่นมากกว่า


เช่น เหมือนที่ได้ถามในตอนต้น ที่ใช้คำว่า reform ปรับปรุง แก้ไข

ถ้าทักษิณโง่เป็นตาสีตาสา ก็ว่าไปอย่าง ที่อาจไม่เข้าใจคำว่า เปลี่ยนแปลงราชวงศ์ แต่ทักษิณเป็นถึงด็อกเตอร์ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องแบบนี้จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้

หากเห็นว่านักข่าวใช้คำผิด ก็ต้องบอกกล่าวว่า ใช้คำว่า เปลี่ยนแปลงราชวงศ์ไม่ได้ เพราะหมายถึง การล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในราชวงศ์จักรีเลย

แต่ทักษิณกลับเออออห่อหมก ตอบคำถามเรื่องการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ ซึ่งก็คือการล้มล้างราชวงศ์นั่นเอง ตรงจุดนี้ ผมมองว่า เข้าขั้นล้มสถาบันกษัตริย์เลยครับ

ราชวงศ์จักรี และสถาบันกษัตริย์ ตอนนี้มีสถานะที่ดีอยู่แล้ว มีแต่พวกล้มเจ้าที่ใส่ร้าย และนักการเมืองชั่วที่ไม่โทษตัวเอง แต่โยนความคิดไปที่สถาบันแทน


และในหลวงทรงเคยมีพระราชดำรัสว่า จะมีพระชนมายุ 120 พรรษา เราคนไทยทุกคนล้วนแต่สาธุการ ขอให้เป็นจริง

แต่ทักษิณกลับพยายามพูดเน้นย้ำเรื่องการเปลี่ยนรัชสมัย เจตนาคืออะไร ? ผู้จงรักภักดีย่อมเข้าใจดีว่า นี่คือเจตนาชั่วของทักษิณ ด้วยวิธีการพูดแบบน้ำตาลเคลือบยาพิษ !!

-------------------------------

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: สักวันหนึ่งที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ จะทรงดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ จะมีแบบอย่างอันแตกต่างจากพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันอย่างไร
One day the Crown Prince will become King. How will his style bedifferent from that of the current King?


ทักษิณ ชินวัตร: อาจจะมีความแตกต่าง แต่ผมคิดว่าเหตุการณ์จะเป็นไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ข้าราชบริพารรอบพระองค์จะเป็นคนใหม่ และผู้ใกล้ชิดในวังจะไม่ใหญ่โตขนาดนี้ เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่
It may be different, but I think it will go smoothly because he's aconstitutional monarch. The people around the Crown Prince will be new,and the palace circle will not be that big because he will be new.

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เนื่องจากพระองค์ทรงยังใหม่ อาจจะยังไม่ได้รับความชื่นชมมากเสมอเท่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรก็ดี พระองค์จะทรงประสบปัญหาน้อยลง เพราะคนใกล้ชิดราชวังจะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่
The Crown Prince, because he will be new, may not be as popular as HisMajesty the King. However, he will have less problem because the palacecircle will be smaller, because of being new in the reign.


v

v

akecity วิเคราะห์ นี่เป็นสิ่งที่มิบังควรอย่างยิ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นคนไทยผู้จงรักภักดีจะไม่พึงกระทำเด็ดขาด คือการพูดถึงกษัตริย์องค์ใหม่ต่อสาธารณะ ทั้งๆ ที่กษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน ก็ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ เพราะสมเด็จพระบรมฯ  ก็ยังไม่ใช่กษัตริย์ เป็นแค่องค์รัชทายาทเท่านั้น

ซึ่งตามมารยาทของคนไทย การพูดถึงกษัตริย์พระองค์ใหม่ต่อสื่อสาธารณะ เสมือนเป็นการแช่งกษัตริย์องค์เก่า ซึ่งผู้จงรักภักดีเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายทันที แต่พวกล้มเจ้าจะแกล้งแถไม่เข้าใจ แต่ความจริงพวกล้มเจ้า มันเฮกันแล้ว 

สังเกตคำแปลของเว็บเสื้อแดง เจตนาแปลโดยไม่ใช้คำว่า "จะ" ในรูปประโยคที่ว่า สมเด็จพระบรม(จะ) ทรงเป็นกษัตริย์ ในรูปประโยคเลย นี่คือเจตนาชั่วของพวกเสื้อแดงที่กำลังคิดอะไร ?

ที่สำคัญ ทักษิณพยายามสื่อความหมายและย้ำไปในทางว่า สมเด็จพระบรมฯ ทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ประหนึ่งทักษิณตั้งใจกระทบเปรียบเทียบให้คนเข้าใจคลาดเคลื่อนไปได้ว่า ในหลวง ร.9 ไม่ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นความจริง

ในหลวงรัชกาลที่9 ทรงขึ้นครองราชย์หลังประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นประชาธิปไตยแล้ว ซึ่งพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญพระองค์ที่ 2 ต่อจากรัชกาลที่ 8

-----------------

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณจะอธิบายถึงพระนิสัยของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชว่าเป็นอย่างไร
How would you describe the Crown Prince’s character?

ทักษิณ ชินวัตร: พระองค์ทรงเป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย
He's the newer generation, modern.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: แล้วพระบุคลิกภาพของพระองค์ล่ะ เป็นอย่างไร
What kind of personality does he have?

ทักษิณ ชินวัตร: พระองค์ทรงมีพระประสงค์อย่างเด็ดเดี่ยวที่จะกระทำการสิ่งใดให้สำเร็จ พระองค์ท่านมีความเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น
He has a very strong determination to do what he really wants to achieve.He has a strong determination.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: พระองค์ทรงต้องการมุ่งมั่นจะทำอะไรให้สัมฤทธิ์ผลบ้าง
What does he want to achieve?

ทักษิณ ชินวัตร: แม้พระองค์จะยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ และพระบารมีอาจจะยังไม่ปรากฏชัดเจนในขณะนี้ แต่หลังจากที่พระองค์เสด็จขี้นครองราชย์แล้ว ผมแน่ใจว่าพระบารมีของพระองค์จะโชติช่วงเป็นที่ประจักษ์ในฐานะตำแหน่งองค์พระประมุข เนื่องจากพระองค์ทรงสังเกตจากองค์พระเจ้าอยู่หัว พระราชบิดามานานปี พระองค์ทรงเรียนรู้จากองค์พระเจ้าอยู่หัวมากมาย …ยังไม่ใช่เป็นเวลาของพระองค์ แต่เมื่อถึงเวลานั้นผมคิดว่า พระองค์จะทรงเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาสามารถเป็นแน่”
He's not the King yet, he may not be shining. But after he becomes theKing I'm confident he can be shining to perform Kingship, because he hasobserved His Majesty, his father, for many years. He learns a lot from HisMajesty. It's not his time yet. But when the time comes I think he will beable to perform.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: บางครั้งแม้แต่ในการปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อกษัตริย์องค์ใหม่ขี้นครองราชย์ ย่อมต้องมีความรู้สึกใหม่ในประเทศ คุณคาดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยไหม
Sometimes even in a constitutional monarchy when a newmonarch succeeds to the throne there is a new spirit in thecountry. Do you expect that will happen in Thailand?

ทักษิณ ชินวัตร: ผมคิดว่าองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ – พระองค์ทรงเติบโตมาจากต่างประเทศ พระองค์ทรงได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ และพระองค์ทรงยังหนุ่ม ผมคิดว่าพระองค์ทรงเข้าใจถึงโลกสมัยใหม่ สำหรับพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของโลกที่กำลังมีการเปลี่ยน กษัตริย์ทรงต้องหมุนเปลี่ยนไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยนี้เช่นกัน
I think His Royal Highness the Crown Prince – he has grown up abroad, hehad education abroad and he's young. I think he understands the modernworld. For a constitutional monarch the world is changing. The monarchyis evolving according to the changing world anyway.

v

v

akecity วิเคราะห์ ทักษิณพูดแบบตั้งใจให้ผู้ที่ไม่ได้รู้ประวัติศาสตร์ดีพอ อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ว่า มีเพียงสมเด็จพระบรมฯ เท่านั้นที่เติบโตในต่างประเทศ เรียนจบจากต่างประเทศ และจะเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ดีในอนาคต เหมือนประหนึ่งหวังกระทบในหลวงองค์ปัจจุบัน อย่างจงใจให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน

เพราะความจริง สมเด็จพระบรมฯ ไม่ได้เติบโตในต่างประเทศ มากเท่ากับ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เลย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่างหากที่ประสูติในสหรัฐอเมริกา เจริญพระชันษาในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมาตั้งแต่ประสูติจนได้ขึ้นครองราชย์

หากใครไม่รู้ข้อมูลตรงส่วนนี้ อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนทันทีว่า สมเด็จพระบรมฯ จะทรงเป็นกษัตริย์ที่เติบโตต่างประเทศ เรียนจบต่างประเทศเป็นพระองค์แรก

ที่สำคัญสมเด็จพระบรมฯ ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษาแล้ว แม้จะได้ทรงครองราชย์ต่อไป ก็ไม่ใช่กษัตริย์หนุ่มแน่นอน

ทักษิณเจตนาพูดเรื่องอายุ เพื่ออะไรแน่ ? คล้ายกับที่เคยพูดตอนโฟนอินหรือเปล่า เกี่ยวกับอำมาตย์ อายุ 80 กว่า ?

-------------------------



ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณคิดว่าสำหรับราชวงศ์ไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยหน้าอย่างไร
How do you think the Thai monarchy needs to evolve in the nextgeneration?

ทักษิณ ชินวัตร: โดยเป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และทรงเข้าใจว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลง นั่นเพียงพอแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง
Being a constitutional monarch and understanding the changing world –that is enough to be a change.

v

v

akecity วิเคราะห์ ทักษิณย้ำอีกแล้ว ในเรื่องกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ

เราคนไทยที่จงรักภักดีในหลวง เราคิดว่า ราชวงศ์ไทยในปัจจุบัน โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ที่สมบูรณ์แบบในระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว

แต่ทักษิณกลับพยายามพูดในทำนองที่ว่า ราชวงศ์ไทยในปัจจุบัน ยังมีบทบาทไม่เหมาะสมกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย นี่คือการเจตนาให้ร้ายสถาบันกษัตริย์ชัดๆ

--------------------------


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณได้รับเลือกตั้งถึงสามครั้งในประเทศไทย คุณไม่เคยแพ้ และคุณถูกปล้นอำนาจจากการทำรัฐประหาร ตำแหน่งขณะนี้ของคุณคืออะไร คุณยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่อยู่ในระหว่างลี้ภัยไหม
You were elected three times in Thailand. You were neverdefeated and you were ousted in a military coup. What is yourposition? Are you still the prime minister of Thailand in exile?

ทักษิณ ชินวัตร: ตอนนี้หรือ ผมคิดว่าตัวผมเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และกำลังอยู่ในระหว่างการลี้ภัย ผมได้เคยถูกขอร้องให้เป็นผู้นำรัฐบาลพลัดถิ่น ผมไม่ทำเช่นนั้นเพราะผมไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับราชวงศ์ ดังนั้นเมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยรับการทำรัฐประหาร ตอนนั้นผมพูดว่า “ทุกอย่างยุติแล้ว”
Now I consider myself as ex-prime minister of Thailand and in exile. I wasasked to lead a government in exile. I didn't do that because I don't wantto hurt the monarchy. So after the King signed the decree accepting thecoup, I said then ‘I am finished’.

ขณะนี้ผมเพียงแต่พยายามที่จะต่อสู้เพื่อความชอบธรรม ไม่ใช่สำหรับตัวผมเอง แต่สำหรับประชาชนในประเทศไทย โดยเฉพาะคนยากจน พวกเขาได้เคยรับโอกาสต่างๆ และพวกเขาได้เริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่เมื่อมีการทำรัฐประหาร ทำลายความหวังของพวกเขา และตอนนี้ประเทศตกอยู่กับความเลวร้ายลงตลอดสามปีมานี้ ผมจึงต้องสู้เพื่อความยุติธรรม พวกเขาสมควรที่จะได้รับโอกาสต่างๆ
I am now just trying to fight for justice, not for myself but for the people of Thailand, especially the poor. They'd been provided with opportunities andthey started to see light at the end of the tunnel. But they staged a coupand destroyed their hopes and now the country has got worse for threeyears. So I fight for their justice. They deserve to be provided withopportunities.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เปรียบเทียบคุณกับ ออง ซาน ซูจี ของพม่า เป็นการเปรียบเทียบที่ดีไหม
Cambodian prime minister Hun Sen compared you to Aung SanSuu Kyi in Burma. Is that a good comparison?


ทักษิณ ชินวัตร: มีบางอย่างที่คล้ายกันนะ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ที่คล้ายกันคือเราได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง เราได้เข้าบริหารประเทศ เราถูกปล้นอำนาจจากการทำรัฐประหาร และเรามาจากประชาชน เราเป็นผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งอย่างประชาธิปไตย และเรามาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน – เสียงจำนวนมหาศาลจากประชาชน ไม่ใช่แค่จำนวนมากเท่านั้น
There are some similarities there, but not really everything. The similarityis we won elections, we rule the countries. We've been ousted by the coupd'etat and we come from the people. We are democratically electedleaders and we come from the majority of the people – a big majority, not just a small majority.

เธอถูกการกักบริเวณ ผมถูกเด้งออกจากประเทศ พวกเขารู้ว่าถ้าผมยังอยู่ในประเทศ จะส่งผลเลวร้าย (สำหรับพวกเขา) ยิ่งกว่า ออง ซาน ซูจี
She's under house arrest, I've been kicked out of the country. They knowthat if I am in the country it'll be worse [for them] than Aung San Suu Kyi.

v

v

akecity วิเคราะห์ ความจริงแล้ง คมช. ทำรัฐประหารรัฐบาลรักษาการณ์ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ยุบสภาไปแล้ว แถมรัฐบาลรักษาการณ์ของทักษิณร่วมมือกับกกต.ชุดพล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ ได้จัดการเลือกตั้งอัปยศขึ้น จนศาลตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และสั่งจำคุก กกต.ชุดนั้น

นางซูจี ไม่เคยเกรงกลัวอำนาจรัฐบาลทหาร ไม่เคยหนีและทิ้งประชาชน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ส่วนทักษิณ หากยอมติดคุกไม่เกิน 2 วันก็ได้ออกแล้ว เพราะสามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้เป็นกรณีพิเศษแน่นอน แต่ทักษิณเลือกที่จะหนี และยุยงบ่อนทำลายชาติ

แต่ประเด็นในคอลัมภ์นี้คือ การที่ทักษิณพูดว่า เมื่อพระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธยรับการทำรัฐประหาร ตอนนั้นผมพูดว่า "ทุกอย่างยุติแล้ว"

So after the King signed the decree accepting thecoup, I said then ‘I am finished’.

ถ้าในสื่ออื่นๆ จะแปลว่า พระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธยยอมรับการรัฐประหาร

นี่คือการใส่ร้ายในหลวงชัดเจน เพราะทักษิณพูดประหนึ่ง ในหลวงทรงสนับสนุนและยอมรับการรัฐประหารของคมช. ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ในหลวงทรงไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ทรงอยู่เหนือการเมือง

ในหลวงท่านไม่ทรงอยู่ในฐานะบทบาทที่จะปฎิเสธ หรือไม่ปฎิเสธการยึดอำนาจของคมช. เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนือการเมือง

แต่ทักษิณพูดประหนึ่งในหลวงทรงยอมรับการรัฐประหาร ทักษิณพูดประหนึ่งต้องการให้ในหลวงทรงไม่ควรลงพระปรมาภิไธย เพื่อให้พระองค์ต่อต้าน คมช. ซึ่งนี่คือเจตนาร้ายของทักษิณชัดเจน

ย้ำอีกครั้ง คมช. กับทักษิณ ขัดแย้งกันเอง และในหลวงพระองค์ท่านทรงไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ในความขัดแย้งทางการเมืองของทั้งสองฝ่ายทั้งสิ้น




ซึ่งตรงนี้ฝ่ายทักษิณและเสื้อแดงมีการกล่าวหาว่า พลเอกเปรมพาพลเอกสนธิเข้าเฝ้า ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะในวันนั้นพลเอกเปรมได้อยู่ในวัง จากงานทำบุญครบรอบการถึงแก่พิราลัยของ มล.บัว กิติยากร พระราชมารดาของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ อยู่แล้ว

คลิกอ่าน 19 กันยายน 2549 กับข้อมูลที่หลายคนไม่รู้


------------------------

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณจะเข้าพบสมเด็จฮุนเซนแห่งกัมพูชาอาทิตย์นี้ คุณจะย้ายที่ไปอยู่กัมพุชาหรือ
You're meeting Cambodia's Hun Sen this week. Are you going torelocate to Cambodia?

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่ครับ ผมทำงานผ่านทางออนไลน์ได้ ผมทำงานผ่านทางอีเมล์ได้ แต่ผมต้องการพบตัวท่านฮุนเซนเอง
No, I can work online. I can work through email, but I want to thank HunSen in person.

หลังจากที่ท่านประกาศพระราชกฤษฎีกาแล้ว ผมโทรศัพท์ไปขอบคุณท่าน และท่านได้เชิญผมให้ไปกัมพูชา
After he announced the royal decree I rang him to thank him and heinvited me to go to Cambodia.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: รัฐบาลไทยได้มีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างเต็มที่ โดยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับ ทำไมพวกเขาจึงได้แสดงอาการมากเช่นนั้น
The government of Thailand reacted very strongly, bywithdrawing their ambassador. Why did they react so strongly?

ทักษิณ ชินวัตร: รัฐบาลนี้กำลังพยายามที่จะรักษาอำนาจไว้โดยทุกวิถีทาง พวกเขากลัวว่าถ้าผมจะอยู่ที่นั่น อาจจะใกล้เกินไป เอาเถอะ ผมไม่อยู่หรอก แต่ผมต้องเดินทางไปมาที่นั่น
This government's trying to protect its power by every means. They'reafraid that if I were staying there it might be too close. I'm not going tostay, anyway, but I have to travel there

รัฐบาลทั้งหมดนั้นมัวเอาแต่หวาดวิตกเกี่ยวกับผม เลยไม่ต้องทำอะไรให้กับประเทศ พวกเขาหวงอำนาจจนเกินไป อำนาจที่พวกเขาได้มามันไม่ใช่ง่ายๆ เมื่อถึงเวลาได้อำนาจจากความช่วยเหลือของกองทัพ และประธานองคมนตรี พวกเขาเลยต้องกอดเก้าอี้ไว้อย่างเหนียวแน่น – เหมือนงูจงอางหวงไข่
The whole government is just in a panic about me and doing nothing forthe country. They over-protect their power. They don't have power easily,so when they managed to gain power with the help of the military and thepresident of the privy council they have to protect it very well – like thecobra protects the eggs.

พวกเขาเป็นเด็กมากเกินไป พวกเขาได้แต่กลัวว่าถ้าผมอยู่ที่นั่น ผู้สนับสนุนของผมจะมีความหวังมากเกินไป เพราะผมอยู่ใกล้เข้ามาแล้ว ผมจะไม่อยู่ที่นั่น ผมรู้ว่ามันใกล้เกินไป แต่ผมจะไปเยี่ยมเป็นครั้งเป็นคราว
They are very childish. They're afraid if I were there my supporters wouldbe more upbeat, because I stay close. I'm not going to stay, I know it's tooclose, but I will visit from time to time.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: เมื่อเดือนเมษายนคุณพูดว่า: “ถ้ามีเสียงปืนดังขี้น ทหารยิงประชาชนเมื่อไร ผมจะกลับไทยทันที และเป็นผู้นำเดินขบวนเข้ากรุงเทพ” กัมพูชาจะเป็นสถานที่เหมาะไหม ที่จะเริ่มเดินขบวนนั้น
In March you said: ‘If there is the sound of gunfire, of soldiersshooting the people, I'll return immediately to lead you to marchon Bangkok’. Would Cambodia be a good place to start that march?

ทักษิณ ชินวัตร: ถ้าผมจะเริ่มต้นเดินขบวน ผมจะเริ่มต้นจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย บนแผ่นดินไทย แต่ผมจะต้องผ่านด่านเข้าประเทศไทย ผมสามารถเข้าไทยจากทางลาว กัมพูชา พม่า ผมหาทางของผมได้
If I were to start the march I would start from the north-eastern part of Thailand, on the soil of Thailand, but I will have to enter Thailand from theborder. I can enter Thailand from Laos, Cambodia, Myanmar. I can find away.

v

v

akecity วิเคราะห์ เสียงปืนดังขึ้นจนสิ้นสุดลงแล้ว ทักษิณก็ไม่เคยกลับมาเดินนำขบวนอะไรทั้งสิ้น

------------------


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ในสถานการณ์เช่นไรที่คุณจะทำเช่นนั้น
Under what circumstances would you do that?

ทักษิณ ชินวัตร: ผมไม่พยายามที่จะทำหรอก ผมมีวิธีการ (ก่อนที่จะทำแบบนั้น) การชนะการเลือกตั้ง – นั่นสำคัญมาก แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริงของประเทศไทยหรอก อาจจะแก้ปัญหาของผมได้ แต่ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทย ปัญหาของประเทศไทยจะต้องแก้โดยการนำทั้งสองฝ่ายมานั่งกัน และให้ลืมทุกอย่าง เพื่อความสมานฉันท์ของชาติ
I try not to. I have the steps [to take before doing that]. Win the nextelection - that’s crucial, but it doesn't really solve the problems of Thailand. It may solve my problem but not the problem of Thailand. Theproblem of Thailand must be solved by bringing both sides together andmake them bury the hatchet for national reconciliation's sake.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: แล้วใครที่จะทำเช่นนั้นได้ล่ะ
Who can do that?

ทักษิณ ชินวัตร: องค์พระเจ้าอยู่หัว ปกติแล้วประธานองคมนตรีควรเป็นบุคคลที่ทำเช่นนี้ได้ แต่ขณะนี้ประธานองคมนตรีเข้ามาก้าวก่ายแล้ว และจะถูกโจมตีอย่างหนักจากเสื้อแดง (ฝ่ายสนับสนุนทักษิณ) ตอนนี้ไม่มีใครเหลือ ไม่มีใครเหลือให้ทำการสมานรอยร้าวเช่นนี้ จะต้องเป็นองค์พระเจ้าอยู่หัว หรือไม่ก็สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ซึ่งจะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป
The King. Normally the president of the Privy Council should be able to doit but now the president of the Privy Council has got involved, and will beattacked strongly by Red Shirts [the supporters of Thaksin], and there isnobody left. There is nobody left to make this thing happen. It can be theKing or the Crown Prince, who is going to be the next King.

รัฐบาลต้องการให้ผมพ้นไปจากประเทศไทย พวกเขาไม่ต้องการให้ผมกลับไปประเทศไทย พวกเขาต้องการให้ผมออกไปจากการเมือง มีแต่ความต้องการทางการเมืองแท้ๆ
The government want to keep me out of Thailand. They don't want me togo back to Thailand. They want to keep me out of politics. It's reallypolitically motivated.

ถ้าผมต้องกลับไปตอนนี้ จะยิ่งสร้างความยุ่งเหยิงให้มากยิ่งขี้น เพราะฝ่ายสนับสนุนของผม จำนวนล้านๆคน จะออกมา พวกเขาทราบว่าผมถูกกระทืบให้จมดินทางการเมือง ผมไม่ได้รับการพิจารณาคดี หรือได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม
If I were to go back now it would be even more chaos because mysupporters, millions of them, would come out. They know that I've beenbullied politically. I haven't really had a fair trial or justice.

ถ้าผมต้องกลับไปตอนนี้ อาจจะเกิดการนองเลือด เพราะรัฐบาลนี้จะต้องใช้กำลังกองทัพ และใช้อาวุธจริงอย่างแน่ๆ ดังนั้นผมกลับไปจะไม่ได้ประโยชน์กับฝ่ายใด
If I were to go back now there might be bloodshed because thegovernment will definitely use military force with live ammunition. So itwouldn't benefit anyone.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณจะบรรยายสถานการณ์ประเทศไทยตอนนี้ได้อย่างไร
How would you describe the situation in Thailand now?

ทักษิณ ชินวัตร: กีฬาไหนๆก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายหรอกถ้าผู้ตัดสินมีความยุติธรรม และถ้าทั้งสองฝ่ายต่างเล่นตามกติกา ในการเมืองไทยพวกเขาไม่เล่นตามกติกา
Any sport will never have chaos if the referee is fair and if both sides playby the rules of the game. In Thai politics they don't play by the rules of the game.


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้ ภาพพจน์ของประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความสามัคคีและมีเอกลักษณ์แห่งชาติที่โดดเด่น แล้วทำไมคนไทยจึงได้ขาดความสามัคคีกันได้ขนาดนี้
Until a few years ago, the image of Thailand was of a country veryunited with a strong sense of national identity. How have Thaisbecome so disunited?
ทักษิณ ชินวัตร: ก็เพราะความหวาดระแวงเรื่องความมั่นคงของราชวงศ์ พวกเขาคิดว่าผมน่ะได้รับความนิยมมากเกินไป และอาจจะเกินราชวงศ์ และผมจะเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งผมไม่เคยแม้แต่จะคิด ผมเพียงพยายามที่จะรับใช้ประเทศชาติ ผมน่ะมีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ของผม ผมจะทำแต่สิ่งที่ดีๆ เพื่อราชวงศ์
Because of paranoia over the stability of the monarchy. They thought thatI'm too popular and might topple the monarchy and then I will turn Thailand into a republic, which I've never thought of. I just try to serve mycountry. I'm loyal to my monarch. I keep doing good things for them.

v

v

akecity วิเคราะห์ ทักษิณพยายามดึงในหลวงให้มากยุ่งเกี่ยวในการแก้ปัญหาของตัวเอง ถือเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง แถมทักษิณยังพูดเองเออเอง ทำนองว่า ตัวเองได้รับความนิยมมากกว่าราชวงศ์ โดยอ้างว่า พวกที่ต้องการล้มทักษิณเห็นทักษิณมีคะแนนนิยมมากกว่าราชวงศ์

การพูดเช่นนี้ของทักษิณเหมือนเป็นการชี้นำ ซึ่งจะทำให้ใครต่อใครเกิดการเข้าใจผิดได้ ว่า เหตุที่ล้มทักษิณเพราะทักษิณคะแนนนิยมมากกว่าราชวงศ์ แต่ความจริงเหตุที่ล้มทักษิณ เพราะทักษิณทุจริตและคอรัปชั่นต่างหาก แถมภายหลังยังพูดจาไม่บังควรหลายครั้ง

ผู้ต่อต้านทักษิณไม่เคยใช้เหตุผลนี้ในการล้มทักษิณ มีแต่พวกล้มเจ้ากับทักษิณเท่านั้น ที่พยายามยกเหตุผลนี้มาอ้าง เจตนาก็คือ ให้ร้ายราชวงศ์ไทย !!

--------------------------

(ส่วนต่อจากนี้ ผมจะไม่แทรกภาษาอังกฤษอีก เพราะไม่มีประเด็นเกี่ยวกับราชวงศ์แล้ว  จะยกเว้นคำสรุปย่อหน้าสุดท้ายที่มีพาดพิงอีกนิดนึงเท่านั้น ครับ)


ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: มีโอกาสจะประนีประนอมไหม

ทักษิณ ชินวัตร: ครับ ขี้นอยู่กับว่าใครจะนั่งหัวโต๊ะ

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณได้เคยติดต่อกับคนในรัฐบาลบ้างไหม

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่เคยครับ พวกเขาไม่เคยติดต่อผม พวกเขาอ้างว่าได้ติดต่อผม แต่ไม่เคย พวกเขาไม่ต้องการขจัดปัญหา ไม่อย่างงั้นพวกเขาจะไม่สามารถกุมอำนาจเอาไว้ได้ พวกเขามัวเมาแต่อำนาจ ถ้าประเทศไม่เละเทะ และไม่มีใครช่วยพวกเขาให้เข้ามามีอำนาจ พวกเขาก็จะไม่มีทางที่จะกุมอำนาจไว้ได้อย่างนี้

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: เงินจำนวนมากของคุณยังคงอยู่ในประเทศไทย จำนวน ๗๖,๐๐๐ ล้านบาท (รัฐบาลทำการอายัดทรัพย์ในขณะที่ทักษิณถูกดำเนินคดี และถูกตัดสินว่ากระทำผิดข้อหาฉ้อราษฎร์) คุณจะได้กลับคืนมาไหม

ทักษิณ ชินวัตร: ผมคิดว่าวันหนึ่ง ถ้ามีความยุติธรรมเกิดขึ้น ผมคงได้เงินกลับมา เพราะเป็นเงินของครอบครัว ซึ่งได้แจ้งในบัญชีสินทรัพย์ก่อนหน้านี้ เป็นหุ้นจำนวนเดิมซึ่งเราเป็นเจ้าของก่อนที่จะเข้าสู่การเมือง และครอบครัวทั้งหมดได้ขายหุ้นไป ดังนั้นจึงมีที่มาของเงินอย่างชัดเจน แต่พวกเขายังคงพยายามสร้างเรื่องว่าราคาหุ้นเพิ่มเพราะอิทธิพลของผม จริงๆแล้วหุ้นทั้งหมดในตลาดหุ้นมีราคาเพิ่มขึ้นตามดัชนีมูลค่าหุ้น และบางบริษัทมีราคาเพิ่มกว่าปกติ แต่มันไม่ใช่บริษัทของครอบครัวเรา เป็นบริษัทของคนอื่น ครอบครัวของเราได้รับตามมูลค่าดัชนี

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ถ้ารัฐบาลกล่าวกับคุณว่า “เอาล่ะ เราจะให้เงินคืน แต่คุณต้องอย่าเข้ามายุ่งกับการเมือง ให้เป็นแค่นักธุรกิจ” คุณจะเห็นด้วยไหม

ทักษิณ ชินวัตร: เอ่อ ผมเพียงต้องการความยุติธรรม ผมไม่สนใจว่าผมจะได้กลับไปเล่นการเมืองอีกหรือไม่ แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ยังต้องการผม ตอนนั้นผมจะต้องกลับไป ผมไม่สามารถเห็นแก่ตัวได้ แต่ถ้าจะต้องให้ผมเลือก ผมจะเลือกใช้ชีวิตอย่างสงบ ผมต้องการจะตั้งพรรคการเมืองใหม่เรียกว่า “พรรคความสุขของชีวิต” (หัวเราะ) คุณทราบไหมว่าผมน่ะไม่มีเวลาหาความสุขกับชีวิต ผมทำงานหนักตั้งแต่ผมโตขึ้นมา หลังจากผมประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจแล้ว แทนที่ผมจะได้อยู่อย่างมีความสุข ผมขออาสาทำงานให้กับประเทศ ปกติแล้วการเมืองไม่เหมาะสำหรับคนรวย ยากนักที่คนรวยจะต้องการเข้ามาเล่นการเมือง แต่ผมรักประชาชน ผมรักประเทศของผม ผมต้องการทำสิ่งที่ดีๆสำหรับเขาเหล่านั้น .. ผมอาจเดินหนีไปได้ ผมเอียนจริงๆกับการเมืองแบบไทยๆ แต่ถ้าประชาชนทำให้ผมได้กลับไป นั่นผมเป็นหนี้พวกเขา

ผมน่ะพวกนิยมการเปลี่ยนแปลง ผมต้องการให้มีการปฏิรูป ผมทำการปฏิรูปในหลายๆอย่าง ผมทำการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาลซึ่งเคยเป็นแบบนั้นมานับร้อยปี ผมกำลังปฏิรูประบบยุติธรรมทั้งหมดเพื่อให้ทันสมัยขึ้น

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ตั้งแต่คุณออกจากประเทศไทยแล้ว การสนับสนุนในประเทศไทยเองมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างไหม

ทักษิณ ชินวัตร: ก็ลดลงเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในเมืองซึ่งสื่อลำเอียงต่อต้านผม เอียงกะเท่เร่ด้านเดียวตลอดเวลา แต่หลังจากผมเคลียร์ตัวเองแล้ว การสนับสนุนจะกลับมาอย่างเร็ว การเลือกตั้งครั้งสุดท้ายหลังการทำรัฐประหาร (เดือนธันวาคม ๒๕๕๐) แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าผมไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เรายังคงได้รับที่นั่งเพิ่มขึ้น แล้วจะเป็นจริงขึ้นมาอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าผมต้องอยู่ที่นั่น นั่นจะยิ่งได้คะแนนเสียงมากขึ้นไปใหญ่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฝ่ายตรงข้ามของผม พรรคประชาธิปัตย์ถึงได้กลัวผมนักหนา และพยายามป้ายสีผม พวกเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดผม

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณให้การสนับสนุนทางการเงินกับเสื้อแดงเท่าไร

ทักษิณ ชินวัตร: ถ้าคุณลองไปถามเสื้อแดงคุณจะเข้าใจได้ดีเลยนะว่าพวกเขาออกเงินกันเอง และพวกเขายังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บริจาคเงินบ้างเล็กน้อยเมื่อพวกเขาเข้ากรุงเทพ พวกเขารวบรวมเงินกันนะ พวกเขาช่วยกันเองมากเลย น่าประหลาดใจมาก ไม่เหมือนพวกเหลือง (เสื้อเหลือง) พวกเหลืองนี่มาจากกองทัพที่ไปยึดสนามบิน (เสื้อเหลืองยึดสนามบินสุวรรณภูมิในปี ๒๕๕๑)

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณต้องให้เงินพวกเขาบ้าง คุณเป็นมหาเศรษฐีนี่

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่ครับ ทรัพย์สินของผมถูกอายัดไว้

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: แต่ไม่ทั้งหมดนี่นะ – คุณต้องมีทรัพย์สินอยู่นอกประเทศไทยบ้างล่ะนะ

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่มากครับ ไม่มาก

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณมีสินทรัพย์สุทธินอกประเทศไทยเท่าไร

ทักษิณ ชินวัตร: นอกประเทศไทยมีเพียงแค่สามพันกว่าล้านบาท หรือห้าหกพันล้านบาท จริงๆแล้วมีสามพันห้าร้อยล้านบาท

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ห้าหกพันล้านบาท หรือสามพันห้าร้อยล้านบาท

ทักษิณ ชินวัตร: ผมเคยมีถึงห้าหกพันล้านบาท แต่จ่ายเป็นค่าบ้าน ค่าโน่นค่านี่ เหลือประมาณสามพันห้าร้อยล้านบาท

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: จะใช้ได้ไปอีกนานเท่าไร

ทักษิณ ชินวัตร: ผมไม่ทราบ แต่ตอนนี้ผมทำงาน ผมทำธุรกิจ ผมไม่สามารถนอนงอมืองอเท้าใช้แต่เงิน ผมทำธุรกิจ ขณะนี้ผมลงทุน ผมมีเหมืองทองสิบแห่งที่อูกันดา ผมมีใบอนุญาตดำเนินการล็อตเตอรี่ในอูกันดา ในฟิจิ ในแองโกลา เราจะเริ่มเดือนมกราคม แล้วเรื่องใบอนุญาตเหมืองทอง ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีมาก ผมยังได้ลงนามในสัญญาสัมปทานเหมืองทอง และที่ดินในปาปัวนิวกินี ผมทำเรื่องเพชรดิบด้วย เราเจียรนัยด้วย ผมตัดสินใจไม่ทำเหมืองแร่เนื่องจากว่าเสี่ยงเกินไป เราจะทำให้มีกำไรได้อย่างรวดเร็ว

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณใช้เวลาอย่างไรเมื่อคุณอยู่ที่ดูไบ

ทักษิณ ชินวัตร: ก็ทำธุรกิจ พบปะเพื่อนฝูง และผู้สนับสนุนผมจากประเทศไทย และเดินทาง ผมจะเดินทางประมาณสิบวันต่อเดือน อยู่ที่ดูไบยี่สิบวัน

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณใช้เวลาวันละกี่ชั่วโมงต่อวันในการพูดคุยกับผู้สนับสนุนในประเทศไทย

ทักษิณ ชินวัตร: ประมาณสามชั่วโมงนะ ประมาณนั้น

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณพูดกับใครบ้าง

ทักษิณ ชินวัตร: แม้กับคนขับรถแท็กซี่ พ่อค้าแม่ค้าเล็กๆ และนักการเมืองบ้าง

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: นักการเมืองคนไหน

ทักษิณ ชินวัตร: พรรคเพื่อไทย

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณให้ความช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยอย่างไร คุณทำอะไรสำหรับพรรคบ้าง

ทักษิณ ชินวัตร: ตัวผมเองเป็นจุดขายของพรรค บางครั้งบางคราวผมก็ต้องไปพูดกับบรรดาผู้สนับสนุน ทุกวันอังคารผมต้องทำรายการวิทยุทางอินเตอร์เน็ต

ในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน จะมีคอนเสิร์ตเพื่อการระดมทุน ผมจะร้องเพลง (ชื่อเพลงไทย) “ขอบคุณที่ซ้ำเติม” เพราะพวกเขาเอาแต่โจมตีผม เนื้อร้องของเพลงนี้เป็นอย่างนี้ “ขอบคุณที่คอยเอาแต่ตีซ้ำๆ และตีตรงที่เดิม ซึ่งผมเจ็บช้ำไปหมดแล้ว” นี่เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักนะครับ

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณมีแผนการทางการเมืองไหม

ทักษิณ ชินวัตร: มีครับ แต่ในทางสงบ ผมต้องการเห็นการสมานฉันท์ มากกว่าการประจันหน้ากัน ผมต้องการให้เสื้อแดงกดดันให้มีการสมานฉันท์ ไม่ใช่นองเลือด หรือประจันหน้ากัน

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: คุณกำหนดเวลาไว้ไหมว่าเมื่อไรจะกลับประเทศไทย

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจของผม เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลไทย ผมยังอยู่ที่นี่ได้ปีหนึ่ง สองปี ผมสบายดี แต่สถานการณ์ของประเทศไทยควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ทำไมหรือ ถ้าปัญหาไม่ถูกแก้ไข อะไรจะเกิดขึ้นหรือ

ทักษิณ ชินวัตร: เศรษฐกิจจะยิ่งเลวลง คนไทย ชีวิตของพวกเขา จะแย่ลงไปด้วย และประเทศไทยจะไม่อยู่ในสายตาของประเทศใหญ่ๆอีกต่อไป ศูนย์ทางการเมืองจะไม่อยู่ที่ประเทศไทยอีกต่อไป สำหรับอเมริกาแล้วจะย้ายไปอินโดนีเซียแทน

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: บางคนในประเทศไทยดูเหมือนจะตื่นกลัวมากกว่าแค่เรื่องเศรษฐกิจซบเซา และการเพิกเฉยทางการทูต คุณได้ยินคนพูดกันเรื่องประเภทเศรษฐกิจพังทลาย สงครามกลางเมือง เป็นไปได้ไหม

ทักษิณ ชินวัตร: ประเทศไทยใกล้ถึงขั้น “ล้มเหลว” ทุกสถาบันเกือบไม่สามารถทำงานอะไรได้ เพราะไม่ยอมทำตามกติกา ไม่ยอมใช้หลักนิติธรรม มีแต่ความอคติต่อผู้อื่น คุณไม่โชติช่วงต่อสายตาโลก คุณเอาแต่ต้องการกุมอำนาจโดยไม่คำนึงถึงเรื่องอื่น นั่นทำไมผมถึงพูดว่าประเทศไทยกำลังจะล้มเหลว เพราะไม่มีใครไว้ใจใคร ไม่มีสถาบันใดที่จะได้รับความน่าเชื่อถืออย่างเช่นแต่ก่อน

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ความผิดพลาดของคุณคืออะไร

ทักษิณ ชินวัตร: ผมเล่นการเมืองโดยไม่ทำความเข้าใจให้ดีถึงโครงสร้างอำนาจของสังคม ผมพยายามที่จะจัดการให้เหมือนนักธุรกิจ พยายามที่จะทำการตลาด ทำการรณรงค์ และทำด้านการค้า ผมพยายามที่จะช่วยคนยากจน และรณรงค์เพื่อให้ได้รับความนิยม รณรงค์ในเรื่องที่ผมได้ทำสำหรับพวกเขา และทำงานหนักเพื่อพวกเขาโดยลืมนึกถึงความสลับซับซ้อนของโครงสร้างอำนาจของการเมืองไทย ผมไม่เดียงสาในเรื่องนั้น ผมจึงได้สะดุด

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: เรื่องการขายชินคอร์ปล่ะ (บริษัทโทรคมนาคมของครอบครัวทักษิณ ได้ขายให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ในราคา ๗๗,๔๐๐ ล้านบาทโดยไม่ได้จ่ายภาษี ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทักษิณได้รับการวิจารณ์อย่างหนักในระยะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี) คุณไม่ได้จ่ายภาษี ถ้าเอาเรื่องความผิดถูกทางกฎหมายวางไว้ก่อน นี่เป็นการตัดสินใจผิดพลาดทางการเมืองหรือไม่

ทักษิณ ชินวัตร: แม้ว่าจะต้องการจ่ายภาษี แต่กรมสรรพากรก็ไม่ยอมรับชำระภาษีนั้น สำหรับประเทศไทยแล้วกำไรจากการขายหุ้นไม่ต้องเสียภาษี กฎหมายยกเว้น บางประเทศคิดภาษีจากกำไรนี้ แต่กฎหมายไทยได้บัญญัติไว้มาหลายปีแล้ว เพื่อเป็นสิ่งจูงใจสำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อจะได้รับการยกเว้นภาษีจากกำไรที่ขายหุ้นได้

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: อย่างนั้นคุณไม่เสียใจ หรือวิตกใดๆเกี่ยวกับวิธีที่คุณจัดการในเรื่องนั้น

ทักษิณ ชินวัตร: คุณครับ ผมตกอยู่ในที่นั่งลำบากที่จะพูดอะไรในขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวผม ผมอยู่ในสภาวะอิหลักอิเหลื่อในฐานะนายกรัฐมนตรีที่จะพูดอะไรออกไปได้

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: แต่ถ้าคุณได้พูดในฐานะเป็นประชาชนธรรมดาในขณะนี้ ก็หมายถึงได้ทำผิด ใช่หรือไม่

ทักษิณ ชินวัตร: ไม่ใช่ครับ เพราะเป็นเรื่องความอิจฉา ผมเป็นเพียงไม่กี่คนที่มีเงินสดมาก พวกศักดินาอิจฉา ผมเป็นตัวแทนของชาวชนบทซึ่งเติบโตขึ้นมา และมีเงินมากขนาดนั้น ครอบครัว (ของผม) ต้องการให้ผมมีอิสระ และปราศจากการถูกวิจารณ์ในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้นพวกเขาคิดว่าเป็นทางดีที่จะขาย (บริษัท) ออกไป

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้ (ซึ่งมีประชาชนจำนวนนับพันได้เสียชีวิตจากการถูกโจมตีจากบรรดามุสลิมหัวรุนแรง)

ทักษิณ ชินวัตร: ผมมีอุดมการณ์อย่างอ่อนนอกแข็งใน หนังสือพิมพ์ และสื่อหลักได้วาดภาพให้ผมมีแต่การใช้ไม้แข็ง ผมช่วยในเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก ผมได้ช่วยเหลือในด้านที่อยู่อาศัย ด้านประกันสุขภาพ และด้านการศาสนา

แต่ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น – สภาพยังคงเลวร้ายลงทุกปี

คุณก็คงทราบว่าสถานการมันสุกงอมมาหลายปีแล้วเนื่องจากประวัติศาสตร์ในภาคนั้นของประเทศไทย แผนที่ได้ถูกเขียนขึ้นมาใหม่ บางส่วนที่เคยเป็นของประเทศไทยได้กลายเป็นของมาเลเซีย บางส่วนที่เคยเป็นมาเลเซียกลับกลายมาเป็นของไทย ส่วนของไทยไปเป็นมาเลเซีย ไม่มีปัญหาใดๆแต่ในส่วนของมาเลเซียซึ่งเป็นของไทยนี่แหละที่มีปัญหา พวกเขามองไปที่มาเลเซีย ซึ่งมีความเจริญ แต่ในส่วนทางประเทศไทยไม่เจริญ มันควรจะเจริญ แต่เราไม่ได้จัดการให้ถูกวิธีเนื่องจากปัญหาเรื่องการศึกษา เรายอมให้พวกเขามีแต่การสอนศาสนาได้อย่างเดียว ซึ่งหมายถึงว่าพวกเขาจะออกไปทำมาหากินอะไรไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงยากจน – พวกเขาต้องการกลับไปอยู่ด้านมาเลเซียเพราะด้านนั้นเขาดีกว่า นี่เป็นปัญหาซึ่งเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว

และเมื่อพวกเขาปล้นคลังอาวุธ และยึดเอา เอ็ม ๑๖ ไปมากกว่าสี่ร้อยกระบอก – จากนั้นพวกเขาเริ่มรวบรวมกำลัง และแข็งแรงขึ้น

เราต้องบังคับใช้กฎหมาย แต่โชคไม่ดีที่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ตากใบ (เหตุการณ์โด่งดังที่ชาวมุสลิม ๘๕ คน ได้เสียชีวิต หลังจากถูกจับจากการประท้วงซึ่งสร้างความรุนแรง พวกเขาถูกจับให้นอนซ้อนกันหลังรถบรรทุกขนถ่ายของทหาร ซึ่งเกิดการเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจำนวนมาก) เป็นความโชคร้าย เพราะการขนถ่ายของกองทัพ พวกเขาไม่มีความฉลาดเอาเสียเลย พวกเขาไม่มีรถบรรทุกลำเลียงเพียงพอเลยเอาผู้ประท้วงมาซ้อนกัน จึงขาดอากาศหายใจ เป็นเรื่องโชคร้าย ใน (การชุมนุม) เกิดอุบัติเหตุทำให้เกิดการเสียชีวิตประมาณสี่หรือห้าคน แต่กลายเป็น ๘๐ คนเนื่องจากถูกนำตัวมาซ้อนกัน และยิ่งเป็นช่วงเดือนถือศีลอดแล้วด้วย ยิ่งขาดอากาศได้ง่ายเข้าไปใหญ่ พวกเขาไม่ได้ดื่ม ไม่ได้ทาน แล้วมาถูกนายทหารชั้นผู้น้อยทำการขนย้ายแบบนั้นด้วย พวกทหารไปซ้อนพวกเขา เพราะพวกทหารกลัวตาย

ริชาร์ด ลอยด์ แพรี่: ไม่กี่ปีก่อนคุณได้หย่ากับภรรยา บางคนพูดว่าเป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องทางกฎหมายเพื่อปกป้องทรัพย์สินของคุณ

ทักษิณ ชินวัตร: ภรรยาผมเข้าใจว่าผมมีผู้สนับสนุนเยอะ ผมไม่สามารถเลี่ยงไม่กลับไปเล่นการเมืองได้ เนื่องจากผู้สนับสนุนได้ตั้งความหวังเอาไว้กับตัวผม และเธอไม่ได้สนับสนุนให้ผมเล่นการเมืองมาตั้งแต่แรก เพราะเธอมาจากครอบครัวที่ไม่ชอบทำตัวเด่นดัง เธอไม่ค่อยออกไปไหนกับผม โดยเฉพาะต่างประเทศ เธอไม่เคยติดตามผมไปไหน เธอต้องการอยู่อย่างเงียบๆ เธอไม่ชอบการเมืองเลยแม้แต่สักนิดเดียว แต่เธอเข้าใจดีว่าผมต้องกลับไปเล่นการเมือง เธอเลยบอกกับผมว่า: “น้องไม่สามารถห้ามพี่เข้าไปเล่นการเมืองได้อีกต่อไป เพราะพี่เห็นแก่ผู้ที่สนับสนุนทางพี่ แต่พี่ต้องเห็นใจน้องด้วย น้องรับไม่ได้อีกต่อไปแล้ว มันมากเกินไปสำหรับชีวิตของน้อง ทางที่ดีเราควรหย่ากัน” เราจึงหย่ากันด้วยความเข้าใจกัน เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการดูแลลูก แต่ถ้าเรื่องการเมืองแล้ว เธอพูดว่า “ขอร้องเถอะค่ะ – น้องไม่ต้องการเข้าไปยุ่งอีกต่อไปแล้ว” เธออยู่ที่ประเทศไทย และตั้งแต่หย่าแล้วเราไม่ได้เจอกันอีกเลย

(ในเรื่องการปรับปรุงสถาบันกษัตริย์) เมื่อโลกเปลี่ยนแปลง ทุกๆอย่างต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเหมือนกับร่างกายมนุษย์ เมื่อคุณแรกเกิดเป็นทารก หัวใจจะมีขนาดเล็กมาก แต่เมื่อโตขึ้น หัวใจก็จะต้องโตตามร่างกายที่เติบโตนั้น เราจะมีหัวใจทารกในร่างของผู้ใหญ่ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ทุกสถาบัน ไม่เพียงแต่สถาบันกษัตริย์ ทุกๆสถาบันก็เหมือนกันหมด – ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับอะไรที่กำลังเปลี่ยนแปลง
[On reform of the monarchy] When the world is changing everyorganisation must adapt to the changing environment like the humanbody. When you're born as a baby your heart is very small. When yougrow up your heart must grow up according to your body. You cannotkeep the baby heart in an adult body. It's impossible. Every institution, not just the royal institution, every institution is the same - it must be adaptedto what is changing.

v

v

akecity วิเคราะห์ แม้แต่บทสรุปท้ายคำสัมภาษณ์ ไทม์ยังต้องวงเล็บไว้ว่า ทักษิณเจาะจงหมายถึงการปรับปรุงสถาบันกษัตริย์


ต้องการอ่านคำสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษเต็มๆ คลิกที่นี่

-------------------------------

akecity ขอสรุป

คุณผู้อ่านครับ จากที่ผมวิเคราะห์คำสัมภาษณ์ของทักษิณ พวกเราจงรักภักดีย่อมมองเห็นได้ชัดเจนว่า นี่คือการลบหลู่ให้ร้ายสถาบันกษัตริย์ของทักษิณอย่างชัดเจน

ด้วยวิธีการพูดของทักษิณ คือ ต่อหน้าประหนึ่งยกยอ แสดงความจงรักภักดี แต่เมื่อวิเคราะห์ในเจตนาของแต่ละประโยคดี ๆ แล้ว กลับแฝงด้วยเจตนาให้ร้ายสถาบันและราชวงศ์ทั้งทางตรงทางอ้อมอย่างชัดเจน

ยิ่งในประเด็นที่ทักษิณพยายามยกยอสมเด็จพระบรมโอราสธิราช ผมมั่นใจว่า นั่นแฝงไว้ด้วยเจตนาร้ายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างแน่นอน

เพราะหลังจากทักษิณให้สัมภาษณ์ ไทม์ แล้ว หลังจากนั้นอีกไม่นาน พวกเสื้อแดงก็ทำเสื้อยืดสกรีนคำว่า "เรารักพระบรม" ออกมา

ซึ่งพวกเสื้อแดงไม่เคยมีเสื้อสกรีนคำว่า เรารักในหลวง เลยครับ

สาเหตุที่เสื้อแดงสกรีนเสื้อด้วยคำว่า เรารักพระบรม ไม่ใช่เพราะเสื้อแดงมันจะรักพระบรมจริงๆ หรอกครับ แต่มันมีเจตนาร้ายมากๆ แฝงอยู่ต่างหาก มันเป็นแผน 2 ชั้น





ซึ่งเมื่อคำสัมภาษณ์ของทักษิณเป็นข่าวออกมาแล้ว ทักษิณพยายามแก้ตัวว่า เพราะภาษาอังกฤษของตัวเองไม่ดี พร้อมกล่าวโทษไปที่ไทม์บิดเบือนคำสัมภาษณ์





คลิกอ่านข่าวมติชน เรื่อง"แม้ว"ขอพระราชทานอภัยโทษรับผิดพลาดปากไว พร้อมกรีดเลือดพิสูจน์ยันภักดีท้าปชช.รุม"กระทืบ"หากคิดทรยศ

ส่วนTimes ก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีว่า ทักษิณได้ตรวจทานเทปคำสัมภาษณ์แล้ว

คลิกอ่านข่าวมติชนเรื่อง "ไทม์ส ออนไลน์"แฉฝ่าย"ทักษิณ"ถอดความเองยันคำสัมภาษณ์ตรงกับเทป