วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

วิกฤติหวยชาเขียว ที่หน่วยงานสุขภาพของรัฐไทยกำลังละเลย








ช่วงนี้เสี่ยตัน อิชิตัน มหาเศรษฐีอันดับที่ 34 ของไทยกำลังออกโปรโมชันแจกรถเบนซ์ 50 วัน 50 คันอยู่นั้น

คือ หลายคนที่หลงใหลคุณตันก็ยกเรื่อง นี่คือการส่งชิงโชคมาอ้างว่าไม่ใช่การพนันหรืออบายมุข

คือ บอกตรงครับ คนพวกนี้ไม่เข้าใจคำว่าส่งชิงโชค เพราะการส่งชิงโชคจริง ๆ คือ เขียนชื่อที่อยู่พร้อมแนบผลิตภัณฑ์แล้วส่งไปชิงโชคจับสลากในภายหลัง

แต่การเปิดฝารับรหัสแล้วส่งรหัสลุ้นโชควันต่อวัน มันคือ หวย ดี ๆ นี่เอง

เพียงแต่ว่า กฎหมายไทยมันเก่าตามกลยุทธ์อบายมุขแบบนี้ไม่ทัน เพราะในอดีตการให้คนไทยเสี่ยงโชคผ่านสินค้าบังหน้าด้วยวิธีส่งรหัสผ่านโทรศัพท์มือถือแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน

ผมเองเขียนบทความถึงกลยุทธ์ของคุณตันไว้หลายบทความ แต่สาวกคุณตัน เขาเป็นพวกหลงใหลในอบายมุขแบบนี้ไปแล้ว จะว่าอย่างไรจะเตือนอย่างไรก็ไม่มีใครเชื่อผมเท่าไหร่หรอกครับ

เขาเรียกว่า ภูมิคุ้มกันด้านสติปัญญาและคุณธรรมของคนไทยจำนวนมากพร่องไปแล้วจริง ๆ  คือ หลายคนคุยเหตุผลดี ๆกันไม่รู้เรื่องไปแล้ว ถึงขั้นพวกเสพติดอบายมุข เหมือนผีพนันเข้าสิง !! แม้เราเตือนด้วยความหวังดี กลับด่าเราเสียอีก ซึ่งผมเจอมาเยอะ

แต่ปัญหาคือ ถ้ามันเป็นหวยใต้ฝาอย่างเดียวไปเลยก็จะไม่เท่าไหร่ เช่น คุณตันขายฝาที่มีรหัสอย่างเดียวก็พอ ขายฝาพร้อมรหัสฝาละ 10 บาท โดยไม่ต้องขายน้ำในขวดก็ได้ ซึ่งคงจะทำให้ง่ายขึ้นสำหรับคนไทยโง่ ๆ ที่แยกแยะไม่ได้ว่า หวย กับ ส่งชิงโชค แตกต่างกันอย่างไร

แต่การขายหวยพ่วงน้ำหวานนี่สิ คือปัญหาใหญ่ด้านสุขภาพของคนไทยต่อไปแน่ ๆ เพราะมันเป็นอบายมุขแอบแฝง ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่คิดว่า มันจะอันตราย

เป็นประเภทที่ว่า "สุขภาพของกู ถ้ากูจะแย่ก็เรื่องของกู"  แต่พอมึงป่วยจริงๆ แม่งเสือกหายโง่ได้ และไม่ใช่เรื่องของมึงคนเดียวแน่ ๆ   แต่มันจะเดือดร้อนไปถึงงบประมาณด้านสาธารณสุขและหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศที่ต้องมารองรับความโง่ของมึงด้วย

ในเมื่อคนไทยส่วนใหญ่คิดแบบนั้นเสียแล้ว คือคิดไม่เป็น แต่ชอบอวดฉลาดว่า กูรู้อยู่แล้ว ประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา

ดังนั้นผู้ที่จะยับยั้งและแก้ไขปัญหานี้ได้ดีที่สุดคือ หน่วยงานรัฐจะต้องออกมามีบทบาทหรือออกกฎหมายควบคุมอบายมุขแฝงทำลายสุขภาพนี้ได้แล้ว

เพราะชาเขียวแช่เย็น มันคือน้ำหวานผสมคาเฟอินที่ทำลายสุขภาพคนไทยชัด ๆ เพราะมีการกระตุ้นให้คนไทยบริโภคอย่างมากเกินความจำเป็น เพียงเพราะหวังลุ้นโชค

ซึ่งที่ผ่านมา สินค้าใด ๆ ที่อาจทำลายสุขภาพคนไทยได้ ก็จะถูกกฎหมายควบคุมการโฆษณาหรือควบคุมใช้การตลาดประเภทเอาของรางวัลมาล่อ

อย่างชาเขียวที่ตอนนี้กำลังระบาดหนัก เพราะคนไทยจำนวนมากยอมโง่เพื่อหวังรางวัล หลายคนรู้ทั้งรู้ว่า การบริโภคชาเขียวแช่เย็นมาก ๆ อาจเป็นเบาหวานได้ แต่พวกเขาก็ยอมเสี่ยงเป็นเบาหวานเพื่อหวังรางวัลก้อนใหญ่ (มีหลายคนโพสว่าแม้ต้องเป็นเบาหวานก็ยอม) ซึ่งแบบนี้เรียกว่า หลงใหลงมงายกับหวยใต้ฝาแล้วครับ

ซึ่งแบบนี้คงมีแต่หน่วยงานของรัฐ รวมทั้งรัฐบาลเท่านั้นที่จะระงับยับยั้งเพื่อปกป้องสุขภาพคนไทยจำนวนมากที่กำลังบ้าอบายมุขเพื่อหวังของรางวัลใต้ฝาชาเขียว ยี่ห้อนี้ ไม่ให้แย่ไปกว่านี้ (รวมถึงโออิชิด้วยที่ตอนนี้กำลังใช้วิธีเดียวกัน)

--------------

จำนวนน้ำตาลในเครื่องดื่มยอดนิยมชนิดต่าง ๆ

ขอบคุณรูปจำนวนน้ำตาลต่อขวดจากจ่าพิชิต แอดมินดราม่าแอดดิก ซึ่งจ่าพิชิต หลายคนคงรู้แล้วว่า มีอาชีพหลักเป็นแพทย์โรงพยาบาลรัฐแห่งนึงอันไกลโพ้น


http://imgur.com/BX4dHJE,LrHKCYq,JJ937ST,5Chcdfc,fKX5B2V,8Y0GM7l,KhuLHny,LJq9Pgb,5bgqWEG#0




เป็นยังไงครับ ยี่ห้ออิชิตัน ติดอันดับ 1 ความหวานในทุกรูปแบบ

หลายคนที่เห็นตารางนี้แล้วถึงกับบอกว่า นี่มันไม่ใช่ชาเขียว แต่มันคือ น้ำเชื่อมชัด ๆ เลยทีเดียว

-----------------------

เด็กไทยดื่มชาเขียวกันมากเกินไปแล้ว

ทั้ง ๆ ที่ อย.ก็เคยมีผลวิจัยและบทความแนะนำว่า เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรดื่มชาเขียวเลย เพราะมีคาเฟอิน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อสมองที่กำลังเจริญเติบโตของเด็ก  แต่ อย. ก็กลับไม่ทำอะไรที่ดีกว่า แค่ลงบทความแนะนำเท่านั้น

คลิกอ่าน บทความ อย. เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโฆษณาชาเขียวป้องกันโรค(ที่จริงยังมีบทความที่เนื้อหาละเอียดกว่าอีกบทความแต่ลิงค์ล่มไปแล้ว)

อีกทั้งพ่อค้าอย่างคุณตัน ก็ไร้จริยธรรมทางการค้าอย่างมาก เพราะแทนที่จะออกโรงตักเตือนผู้บริโภคของเขาว่า ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีดื่มชาเขียว

แต่คุณตันกลับไม่เคยทำ แถมยังให้ท้ายเด็ก ๆ ที่ดื่มชาเขียวอีกด้วย จากคลิปที่คุณตันเคยไปแจกโชคในสถานที่ต่าง ๆ ก็เห็น ๆ อยู่ว่า มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีหลายคนดื่มชาเขียวต่อหน้าต่อตาเขา แต่คุณตันก็ไม่เคยห้ามปรามแต่อย่างใด ก็คุณตันรักเด็กไม่ใช่เหรอ ??

คือถ้าผู้ใหญ่มันจะโง่มันจะบ้าหวยก็ช่างมันไป แต่กับเด็ก ๆ นี่ ผมว่าคงเกินไปแล้ว เพราะเราต้องไม่ลืมนะครับว่า นี่ไม่ใช่แค่น้ำหวานธรรมดา ๆ แต่มันมีคาเฟอินซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งอยู่ด้วย ซึ่งถ้าเสพไปมาก ๆ ย่อมเสพติดได้ จึงไม่เหมาะกับเด็กเล็ก หากเด็ก ๆ ต้องถูกกระตุ้นให้ต้องเสพมาก ๆ จากกลยุทธ์อบายมุขแบบนี้

ต่อไปนี้ เป็นรูปส่วนหนึ่งของเด็กไทยหลายคนที่ถูกพ่อแม่สอนลูกในทางที่ผิด ที่ผมนำมาจากแฮชแทค #ichiton






http://imgur.com/G6bC5k3





หรือแม่ที่กำลังตั้งครรภ์คนนี้ ก็ให้ลูกเสพชาเขียวตั้งแต่ยังไม่เกิด เฮ่อ...


ถ้าใครเคยดูซีรีย์เกาหลี ซีรีย์ญี่ปุ่นบ่อย ๆ จะรู้ว่าทั้งสองประเทศนี้ เขาจะห้ามผู้หญิงตั้งครรภ์ดื่มชา กาแฟ อย่างเด็ดขาด

แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือ แม่บางคนถึงขนาดให้อาหารทางสายยางกับลูกที่ป่วยด้วยชาเขียวอิชิตันนี่สิครับ ผมนี่สลดเลย




เป็นยังไงครับ คนไทย !!

ผมว่านี่เข้าขั้นวิกฤติแล้ว ที่มหาเศรษฐีนำอบายมุขมาใช้ล่อหลอกทางการตลาดกับคนไทย

ซึ่งผมขอย้ำเหมือนที่เคยเขียนบทความเก่าว่า นี่คือการตลาดที่เลวร้ายมาก ๆ ที่ประเทศที่เจริญแล้วไม่อนญาตให้ใช้

ดังนั้นเหมือนในบทความอื่น ๆ ของผมที่เคยเขียนไว้ว่า จะโทษคุณตันหรือยี่ห้ออื่น ๆ ฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูกนัก ผมเลยต้องด่า อย. ไทยที่ไม่ทำอะไรที่ดีกว่านี้ รวมทั้งกฎหมายไทยมันก็ล้าสมัยตามโลกยุคนี้ไม่ทัน  จึงมีช่องให้พ่อค้าใช้กลยุทธ์การตลาดแบบนี้ได้ (รายละเอียดเรื่องกฎหมายผมเคยเขียนในบทความ ตัน อิชิตัน เจ้ามือหวยออกเบอร์)

ที่จริงผมไม่อยากโยงเข้าเรื่องการเมืองนะ แต่อดคิดไม่ได้ว่า ที่กฎหมายไม่ยอมแก้ทั้ง ๆ ที่กลยุทธ์นี้มีมาหลายปีแล้ว ทั้ง อย. และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคก็เคยเตือนหลายหน แต่ก็ไม่มีการแก้กฎหมายสักที คงเพราะเส้นสายทางการเมืองของบริษัทที่ใช้กลยุทธ์พวกนี้เส้นใหญ่มากรึเปล่า ?

เพราะน้ำอัดลม และเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นสินค้าควบคุมด้วยภาษีสรรพาสามิตไปแล้ว แต่ชาเขียวพร้อมดื่มเป็นสินค้าใหม่ที่ยังได้รับการยกเว้นภาษีส่วนนี้อยู่ ทั้ง ๆ ที่เป็นสินค้าที่มีคาเฟอินและไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ซึ่งหลายรัฐบาลมีความพยายามจะแก้ไขเพิ่มภาษีสรรพสามิตชาเขียวพร้อมดื่ม แต่เหมือนมีอุปสรรคลึกลับบางอย่างมาขัดขวางจึงแก้ไขไม่สำเร็จสักที

อัพเดทบทความเวลา 20.47 ของวันที่ 22 มีนาคม พอดีเพิ่งเจอคลิปอธิบายรายละเอียดเรื่องภาษี



ตอบคำถามคาใจคุณผู้อ่าน หลังจากเผยแพร่บทความไป 1 วันเต็ม

มีหลายคนถามและด่าผมว่า อิจฉาคุณตันหรือ ทำนองว่า ทำไมเขียนแต่ยี่ห้อของคุณตัน รับจ้างยี่ห้ออื่นมาโจมตีคุณตันหรือเปล่า ผมขอตอบว่า ที่ผมเขียนถึงคุณตัน ก็เพราะ

1. ยี่ห้อของคุณตัน คือเจ้าแรกที่ใช้กลยุทธ์ส่งรหัสใต้ฝาลุ้นโชคแบบวันต่อวัน

2. ยี่ห้อของคุณตันใช้กลยุทธ์มอมเมามากที่สุด ผ่านโปรตลอดทั้งปี รวมทั้งทางเฟสบุ๊คของคุณตัน จนยี่ห้ออื่นเลียนแบบ เลยลามเป็นปัญหาใหญ่ในวันนี้

3. ยี่ห้อของคุณตัน เป็นเจ้าที่ขายดีที่สุดแรงที่สุด มีสาวกมากที่สุด จึงเป็นอันตรายมากที่สุด

การที่ผมเขียนถึงคุณตัน เพราะผมต้องการให้กฎหมายไทยแก้ไขและควบคุม ซึ่งถ้าควบคุมที่ยี่ห้อคุณตันได้ ก็เท่ากับควบคุมยี่ห้ออื่น ๆ ไปด้วย

ดังนั้นใครจะด่าผมว่า อคติกับคุณตันก็ไม่เป็นไร ผมไม่ว่า เพราะผมเข้าใจว่า ตอนนี้สาวกคุณตันมีเยอะมาก แต่ผมเขียนเพื่อหวังให้สังคมไทยดีขึ้น คนไทยฉลาดไม่ตกเป็นทาสอบายมุขมากขึ้น ส่วนใครจะไม่เชื่อผม ก็แล้วแต่ครับ ตามสบาย


สาวกคุณตันก็เชื่อว่ามันคือหวย !!



บทความล่าสุด คลิกอ่าน สาวกชาเขียวยอมโง่และเต็มใจให้หลอกเพราะอยากเล่นหวยชาเขียว


บทตวามเก่าที่เกี่ยวข้อง

หมายเหตุตอนนี้ปุ่มไลค์ไม่เสถียร ทำให้ยอดไลค์ในบทความเก่า ๆ หลายบทความหายไปหมดครับ


คลิกอ่าน กลยุทธ์รวยหลอกแดกของตัน อิชิตัน

คลิกอ่าน ตัน อิชิตัน คือเจ้ามือหวยออกเบอรฺ

คลิกอ่าน กลยุทธ์รวยสร้างภาพของเสี่ยตัน

คลิกอ่าน คุณตัน ร่ำรวยก็เพราะรู้จักธาตุแท้สันดานคนไทยส่วนใหญ่

คลิกอ่าน ใครแจกเบนซ์กันแน่ระหว่างคุณตันกับพวกโง่

คลิกอ่าน ผมไม่เคยแดก เย็นเย็น แต่ผมจะลองดื่ม จับใจ

คลิกอ่าน ถ้าได้รถเบนซ์จากอิชิตัน ต้องจ่ายภาษีทั้งหมดเท่าไหร่

คลิกอ่าน ดราม่าเล็ก ๆ เมื่อสาวกคุณตันน้อยใจคุณตันแจกไอโฟนให้แต่คนรวยแล้ว

คลิกอ่าน สาวกชาเขียวยอมโง่ เพราะอยากเล่นหวยชาเขียว

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

สมศักดิ์ เจียม โชว์โง่กฎหมายเรื่อง กบฏ และรัฐประหาร






หงอกเจียม หรือ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้ออกมาโพสเฟสบุ๊คโชว์โง่ในข้อกฎหมายมาตรา 113 ว่าด้วย กบฏ

เพราะอคติของหงอกเจียมโดยแท้ จึงทำให้ตีความกฎหมายแบบโง่ ๆ จนได้ สมแล้วที่เป็นแค่นักวิชาการหัวโตแต่เพี้ยน

ก่อนอื่นขอให้อ่านโพสของหงอกเจียมก่อนครับ


http://i.imgur.com/92kQXlf.jpg

คุณผู้อ่านครับ การที่ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลเก่าสำเร็จ เราเรียกว่า รัฐประหาร

แต่ถ้ายึดอำนาจรัฐบาลเก่าไม่สำเร็จ ก็เรียกว่า กบฏ มีโทษอาญาตามมาตรา 113 นั้นถูกต้องแล้ว

ถามว่า การที่ คสช. ยึดอำนาจการปกครองสำเร็จนั้น เราเรียกว่าอะไร ระหว่าง การรัฐประหาร กับ กบฏ ?

คำตอบที่ถูกต้องคือ เรียกว่า การรัฐประหาร ครับ

การที่ คสช. กระทำรัฐประหารสำเร็จ จนได้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ได้นั้น หมายถึง การที่คุมอำนาจการปกครองสูงสุดในแผ่นดินได้แล้ว สามารถฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งได้ นั่นแสดงว่า การเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของ คสช. นั้นใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญอีก

ดังนั้นกะอีแค่กฎหมายอาญาที่เล็กกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 113 โทษกบฏ ที่หงอกเจียมนำมาอ้างนั้น จึงเป็นเรื่องไร้สาระครับ

ถ้าหงอกเจียม และเสื้อแดงคิดว่า คสช. เป็นกบฏ ก็ไปจับผู้นำคสช. ทุกคน มาลงโทษตามมาตรา 113 สิครับ อย่าเอาแต่เห่า ??

------------------------

ผู้ชนะเป็นรัฏฐาธิปัตย์ คือ ผู้บังคับใช้กฎหมาย

อย่างการปฏิวัติของคณะราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2475 หากกระทำการสำเร็จ ก็ได้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ สามารถจะเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศจากสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตยก็ทำได้

เพราะอำนาจของรัฏฐาธิปัตย์ ก็คือการมีอำนาจอธิปไตยในการปกครองประเทศนั่นเอง

การยึดอำนาจในโลกนี้ ไม่ว่าจะการปฏิวัติประชาชน การรัฐประหารในต่างประเทศ ก็ต้องใช้อาวุธในการยึดอำนาจในการสู้รบกันทั้งนั้น

แต่ประเทศไทยแตกต่างกว่าคือ การยึดอำนาจของ คสช. แม้จะใช้อาวุธยึดอำนาจก็จริง แต่กลับไม่มีการสูญเสียชีวิตและยิงปืนเลยสักนัดเดียวจริงไหม ?


ถ้าใครยึดตรรกะโง่ ๆ ของสมศักดิ์ เจียม ก็เท่ากับว่า การยึดอำนาจด้วยอาวุธในโลกนี้คือผิดหมด ดังนั้นที่ผ่านมา คณะราษฎรก็ต้องผิด

ประชาชนฝรั่งเศสที่ยึดอำนาจจากกษัตริย์ก็ต้องผิด

แม้แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดอำนาจรัฐบาลก๊กมินตั๋ง เปลี่ยนแปลงการปกครองจีนจากระบอบประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์ก็ต้องผิดด้วย

หรือ พรรคก๊กมินตั๋ง ของ ดร.ซุนยัดเซ็น ยึดอำนาจราชวงศ์ชิงของจีน เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นประชาธิปไตยก็ต้องผิดด้วย เพราะใช้อาวุธในการยึดอำนาจเช่นกัน

(หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาบุกถล่มอิรัก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับการฉันทามติจากสหประชาชาชาติก็ยิ่งผิดเช่นกัน)

ดังนั้นจริง ๆ แล้ว ใครยึดอำนาจสำเร็จ ก็คือ ผู้ถือกฎหมาย มีอำนาจรัฐในมือ จึงไม่มีใครผิดหรือใครถูกต้องที่แท้จริงหรอกครับ 

ทั้งนี้มันขึ้นอยู่ว่ากระทำรัฐประหารสำเร็จ หรือ กระทำปฏิวัติยึดอำนาจสำเร็จหรือไม่ ต่างหาก เพราะหากกระทำการไม่สำเร็จก็คือ กบฏ ต้องโทษประหารชีวิตกันไป

เพราะผู้ชนะ(สงคราม) คือ ผู้เขียนประว้ติศาสตร์ว่าจะเขียนให้ใครเป็นกบฏ !!

-----------------------

ตัวอย่างกรณี กบฏวังหลวง

ในปี พ.ศ. 2492 หลังจากได้ลี้ภัยไปจีน นายปรีดี พนมยงค์ ได้กลับมาประเทศไทยเพื่อทำการยึดอำนาจคืนจากรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในเหตุการณ์ "ขบวนการประชาธิปไตย 26 กุมภาพันธ์" เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 แต่ปรีดีกระทำการไม่สำเร็จ จึงเรียกกันว่า "กบฏวังหลวง" จนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศและไม่ได้กลับประเทศไทยอีกเลย

แต่ถ้าปรีดียึดอำนาจจอมพล ป. สำเร็จ ก็จะเรียกว่า รัฐประหาร เช่นกัน ปรีดีก็จะได้เป็นผู้ปกครองประเทศหรือเป็นรัฏฐาธิปัตย์แทน

ดังนั้น การที่หงอกเจียมยกตรรกะมาตรา 113 มาอ้าง จึงเป็นการโชว์โง่โดยแท้ เพราะอำนาจการบังคับใช้กฎหมายอยู่ในมือของผู้เป็นรัฏฐาธิปัตย์

เพราะตำรวจก็ไม่จับ คสช. มาลงโทษตามมาตรา 113 หรือแม้แต่รัฐบาลเก่าอย่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่กล้าไปแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 113 กับ คสช. โทษฐานกบฏเลย

ถ้าหงอกเจียมสนิทกับวรเจตน์ แห่งนิติราษฏร์จริง ๆ ก็ลองวานให้วรเจตน์และกลุ่มนิติราษฎร์ไปแจ้งความจับ คสช. โทษฐานกบฏ ตามมาตรา 113  สิ ไปสิ ๆ

แล้วอย่าลืมแจ้งความข้าราชการทุกคนในประเทศนี้ที่ทำตามคำสั่ง คสช. ว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยล่ะ

ถ้าทำไม่ได้ ก็แสดงว่า ตรรกะหงอกเจียมเรื่อง กบฏ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง !! (แถมขึ้นศาลไหนก็แพ้ เพราะศาลย่อมรับรองผู้เป็นรัฏฐาธิปัตย์)

ซึ่งเชื่อว่า วรเจตน์ นิติราษฏร์ ซึ่งเป็นนักกฎหมายก็คงไม่โง่เหมือนหงอกเจียมหรอก เพราะเขาเข้าใจคำว่า ตอนนี้ คณะ คสช. คือ รัฏฐาธิปัตย์ คือผู้ใช้อำนาจอธิปไตยบนแผ่นดินนี้

แต่ถ้าทำแบบนั้นที่ผมแนะไม่ได้ ก็เหลือวิธีเดียวคือ ทำรัฐประหารซ้อนรัฐประหาร คสช. เข้าไปซะ เพื่อให้ คสช. กลายเป็น กบฏ จริง ๆ

เพราะการฉีกรัฐธรรมนูญโดยสำเร็จของผู้นำเผด็จการ ก็เท่ากับประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการไปแล้ว

ในเมื่อประเทศปกครองด้วยระบอบเผด็จการไปแล้ว การฉีกรัฐธรรมนูญของระบอบประชาธิปไตยจึงไม่มีความผิดแต่อย่างใด

แต่พอประเทศไทยกลับไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง จึงทำให้ผู้นำเผด็จการต้องเขียนในรัฐธรรมนูญใหม่ในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้การรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นความชอบธรรมและถูกต้อง

แล้วผมขอย้อนถามกลับหงอกเจียมว่า ในรัฐธรรมนูญของไทยทุกฉบับที่ผ่านมา ไม่ว่าประเทศไทยจะปกครองด้วยระบอบใดก็ตาม ก็เขียนให้ องค์พระประมุขทรงอยู่เหนือการเมือง ผู้ใดจะมาละเมิดมิได้ และใครคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ถือว่า เป็นกบฏ เช่นกัน

ถามว่า แล้วหงอกเจียมล่ะ เคยคิดจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญในหมวดกษัตริย์หรือไม่ ?

บทความที่เกี่ยวข้อง

คลิกอ่าน ความโง่ของพวกล้มเจ้า ประเด็นในหลวงสนับสนุน คสช.

คลิกอ่าน สมศักดิ์เจียม ขี้ตู่ให้ปรีดีเป็นพวกล้มเจ้าและเป็นคอมมิวนิสต์