วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

บก.ลายจุดแค่ซื้อข้าวสารโรงสี มาบรรจุขายก็รวยแล้ว







แม้ บก.ลายจุด จะชอบโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ซึ่งถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผม แต่ผมก็สนับสนุนที่จะมีใครก็ตามที่ไปรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาแพง ๆ ด้วยเงินของตัวเอง แล้วนำมาบรรจุข้าวสารขายเพื่อช่วยชาวนาจริง ๆ

เพียงแต่ว่า การทำแบบนี้มันต้องโปร่งใสว่า ได้ไปช่วยเหลือชาวนาจริง ๆ ไม่ใช่แอบไปซื้อข้าวสารมาบรรจุถุงขายในราคาแพง ๆ แล้วไปขายหลอกสาวกที่อุตส่าห์ชื่นชมอุดมการณ์

อย่างกรณี ข้าวลายจุด ของ บก.ลายจุด โครงการ 1 ผมได้ติงมาหลายบทความว่า บก.ลายจุด ได้ไปซื้อจากชาวนาจริง ๆ เหรอ ?

เพราะ บก.ลายจุด ไม่เคยระบุถึงกลุ่มชาวนาที่ไปรับซื้อข้าวเปลือกให้ชัดเจนเลย ว่าเป็นใคร กลุ่มไหน หรือชื่ออะไร จนเกิดข้อครหาว่า สงสัย บก.ลายจุด อาจจะไม่ได้ไปซื้อข้าวสารจากชาวนาจริง ๆ

อย่างโพสล่าสุดของโอ๊ค พานทองแท้ ที่ได้ชื่นชม บก.ลายจุด ก็ได้แจกแจงว่า บก.ลายจุดมีกำไรจากการขายข้าวสารตันละ 4,880 บาท ตามนี้



คุณผู้อ่านช่วยจำไว้ก่อนนะครับว่า บก.ลายจุด บอกโอ๊คว่า มีกำไรจากการขายข้าวสารตันละ 4,880 บาท

สมมุติว่า ถ้าผมเป็น บก.ลายจุด แล้วผมเกิดคิดไม่ซื่อ คิดจะหลอกสาวกเสื้อแดง ด้วยการที่ผมจะไปซื้อข้าวสารหอมปทุมถุงละ 5 กก. ยี่ห้อ Big C ราคาถุงละ 169 บาท มาบรรจุใส่ถุงยี่ห้อลายจุดแทน แล้วขายถุงละ 200 บาท เท่ากับผมจะได้กำไรถุงละ 31 บาทต่อ 5 กก. เลยทันที 

หรือเท่ากับผมได้กำไรตันละ 6,200 บาท ซึ่งมีกำไรมากกว่าที่ บก.ลายจุดได้กำไรแค่ตันละ 4,880 บาทเท่านั้น



ซึ่งถ้าผมขายข้าวสารได้ 25 ตันตามที่ บก.ลายจุดได้โม้ไว้ ผมก็จะได้กำไรมากถึง 155,000 บาท มากกว่าที่ บก.ลายจุดได้กำไรที่ 122,000 บาทเสียอีก



เป็นไงครับคุณผู้อ่าน มองเห็นพิรุธอะไรไหม ??

ทำไมผมแค่ไปซื้อข้าวสารบรรจุสำเร็จรูปขนาด 5 กก.ยี่ห้อบิ๊กซี มาบรรรจุใส่ในอีกยี่ห้อแทน แต่ผมกลับได้กำไรมากกว่าที่ บก.ลายจุดได้เสียอีก ??

ทั้ง ๆ ที่ บก.ลายจุดอ้างว่า ไปซื้อข้าวเปลือกมาจากชาวนาโดยตรง  ?

โอเค ตัวเลขที่ผมคำนวณเล่น ๆ ไม่ได้มีต้นทุนค่าถุง ไม่ได้มีค่าแรงในการบรรจุ ก็มองเลยว่า กำไรเยอะ

แต่ในความเป็นจริง ผมก็ไม่โง่ไปซื้อข้าวสารสำเร็จรูป 5 กก. มาบรรจุถุงขายใหม่หรอกครับ เพราะมันกำไรน้อยมาก ๆ (แต่ก็กำไรมากกว่าที่ บก.ลายจุด)

ซึ่งที่ถูกต้อง ผมต้องไปซื้อข้าวสารหอมปทุมแบบยกกระสอบ 100 กก. เลยดีกว่า แล้วนำมาบรรจุถุง 5 กก. ขาย ซึ่งได้กำไรมากมายกว่าเดิมเยอะ

เพราะราคาข้าวสารหอมปทุมขนาด 100 กก. มีราคากระสอบละ 2,000 บาท เท่านั้น หรือตกกิโลกรัมละ  20 บาท



เมื่อผมนำข้าวสารหอมปทุม ที่มีต้นทุนราคากิโลกรัมละ 20 บาท มาบรรจุถุง 5 กก. ขาย ก็เท่ากับมีต้นทุนข้าวสารแค่ถุงละ 100 บาทเท่านั้น

เมื่อคิดค่าบรรจุถุง ตกถุงละ 10 บาท (เท่ากับที่ บก.ลายจุดอ้าง) ก็เท่ากับ ข้าวสารหอมปทุมขนาด 5 กก. จะมีต้นทุนทั้งหมดที่ 110 บาท

ถ้าผมขายถุงละ 200 บาทเท่าที่ บก.ลายจุดขาย ก็เท่ากับ ผมจะได้กำไรถุงละ 90 บาท !!

เท่ากับ ได้กำไรมากถึงตันละ 18,000 บาท ซึ่งมากกว่าที่ บก.ลาย จุดอ้างว่าได้กำไรตันละ 4,880 บาท ตั้ง 3 เท่า เชียวนะ

สรุป ถ้าสมมติว่า ผมเป็น บก.ลายจุด แล้วไปซื้อข้าวสารยกกระสอบราคาขายส่ง มาแบ่งบรรจุขายทั้งหมด 25 ตัน ก็เท่ากับผมจะฟันกำไรมากถึง  18,000 x 25 = 450,000 บาท ภายใน 18 วัน เชียวนะ !!

บก.ลายจุด ต้องรวยโคตร ๆ แน่ ๆ ถ้าทำแบบที่ผมตั้งข้อสงสัย

ขนาดซื้อข้าวสารจากผู้ค้าส่งที่เขาบวกกำไรไว้แล้ว นำมาบรรจุถุง 5 กก. ขาย ยังได้กำไรมากขนาดนี้ แล้ว บก.ลายจุด ที่อ้างว่า ไปซื้อข้าวเปลือกมาสีขายเองจะกำไรมโหฬารขนาดไหน

(ย้ำเตือน !! ว่า ผมลองสมมุติตัวเองเป็น บก.ลายจุด ที่มีสาวกหลงใหลเชื่อถือมากมาย แล้วมาหลอกขายข้าวสารราคาแพงให้สาวก โดยอ้างว่าช่วยชาวนาบังหน้า)

--------------------

เสื้อแดงกำลังโดนหลอกให้กินข้าวสารแพงเกินจริง

แม้ บก.ลายจุด จะอ้างว่า ไปซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาหมื่นห้าต่อตันจริง เพื่อช่วยชาวนา

แต่ที่ถูกต้องที่สุด จะต้องไม่ให้ผู้บริโภคต้องกินข้าวสารแพงกว่าราคาตลาดทั่วไปด้วย ไม่เช่นนั้น บก.ลายจุดได้กำไร ชาวนาได้กำไร แต่ผู้บริโภคข้าวสารกลับต้องขาดทุนจากการกินข้าวแพงแทน

เปรียบเสมือน บก.ลายจุด รวยเอา ๆ แต่พวกเสื้อแดงต้องกลายเป็นคนอวดฉลาดกินข้าวสารราคาแพง !!

ก็ในเมื่อ โอ๊ค กับ บก.ลายจุด โจมตีพ่อค้าคนกลางว่าค้ากำไรเกินควร แล้วทำไม บก.ลายจุด กลับเอากำไรมากเสียเองเล่า เพราะขายข้าวสารลายจุดแพงกว่าราคาตลาดตั้งเยอะ จริงไหม ??

ที่ถูกต้องที่ บก.ลายจุด ควรทำคือ ซื้อข้าวจากขาวนาที่มีตัวตนจริง ๆ ตรวจสอบได้ ไม่ใช่แอบไปซื้อข้าวสารยกกระสอบแบบที่ผมตั้งข้อสงสัย แล้วนำมาบรรจุถุงขายเอากำไรเกินควร

สิ่งที่ บก.ลายจุด ต้องทำคือ ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาตันละหมื่นห้า แล้วนำมาผลิตเป็นข้าวสารขายในราคาไม่แพงกว่าราคาตลาดทั่วไป แบบนี้ถึงจะเรียกว่า ไม่ได้แอบค้ากำไรเหมือนพ่อค้าคนกลางทั่วไป จริงไหม ??

เพราะถ้าซื้อข้าวเปลือกมาแพง แล้วเอามาขายเป็นข้าวสารราคาแพงกว่าราคาตลาดมาก ๆ ก็เท่ากับว่า สิ่งที่ บก.ลายจุด ทำไปนั้น แล้วมันจะแตกต่างจากพ่อค้าคนกลางที่ขายเอากำไรมาก ๆ ตรงไหน ??

สงสัยเสื้อแดงจะโดนบก.ลายจุดหลอกฟันแล้วล่ะ เสื้อแดงเอ๊ย ผมล่ะขำจริง ๆ 5555555555

------------------

ล่าสุด บก.ลายจุด ไปจดทะเบียนยี่ห้อแล้ว



บก.ลายจุด อ้างว่าขายข้าวสารไป 25 ตัน แต่เพิ่งจะไปจดทะเบียนพาณิชยกิจ ยี่ห้อ ข้าวลายจุด เมื่อ 24 เมษายน ที่ผ่านมา (ขายข้าวสารหมดก่อน เพิ่งจะมาจดทะเบียนพาณิชย์ทีหลัง)

ผมก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่เอาจริงเอาจัง ขอเพียงอย่าไปซื้อข้าวสารยกกระสอบ 100 กก. มาแบ่งบรรจุถุงขายแล้วอ้างว่า ได้ไปซื้อข้าวเปลือกมาจากชาวนาล่ะ

ผมหวังให้ บก.ลายจุด จะทำทุกอย่างโปร่งใสในโครงการ 2 ตรวจสอบได้ ช่วยให้ชาวนาได้เงินจริง ๆ ไม่ใช่แค่ถูกแอบอ้างเท่านั้น

หวังว่านี่คงไม่ใช่มหกรรม ไวท์ไลน์ ล่ะ  5555

แม้ล่าสุด บก.ลายจุด จะอ้างว่า ที่ปกปิดชื่อชาวนา โรงสี เพราะไม่อยากให้ถูกรบกวน แล้วจะเฉลยในสารคดี NHK



เหอะ ๆ มาเฉลยตอนนี้ก็ขาดความน่าเชื่อถือแล้วครับ ก็คงมีแต่เสื้อแดงเท่านั้นที่จะเชื่อคุณ ก็เพราะทั้งนายกรณ์ จาติกวณิช หรือ หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม เขาก็เปิดเผยที่มาของแหล่งข้าวที่เขาซื้อมาบรรจุถุงขาย เขายังไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย เพราะไม่มีใครจะมารังแกชาวนาแบบคนที่ชอบคิดในทางร้ายชอบคิดเองเออเองหรอกครับ

แล้วแม้จะมีสารคดี NHK จะมาถ่ายทำ ก็อาจเป็นการถ่ายทำจากการเมคชาวนา เมคโรงสี ขึ้นในภายหลังของคุณก็ได้ เพราะสื่อญี่ปุ่นเขาไม่รู้เท่าทันระบบการค้าข้าวไทยจริง ๆ หรอกครับ เพราะถ้าญี่ปุ่นเขารู้จริง เขาจะไม่โง่มาทำสารคดีกับ บก.ลายจุด แน่นอน 555

เพราะถ้า NHK เขาฉลาดเท่าทันนะ เขาจะต้องถาม บก.ลายจุดว่า แล้วทำไมโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ถึงขาดทุน ทำไมถึงเจ๊งหลายแสนล้าน ทำไมต้องเอาแต่กู้เงินมาจ่ายชาวนาจนเกินวงเงินกู้ 5 แสนล้านบาท แล้วทำไมไม่ขายข้าวแล้วเอาค่อยเงินมาจ่ายชาวนาล่ะ ????

ที่สำคัญทำไม บก.ลายจุด ไม่รับซื้อข้าวเปลือกหอมปทุมในราคาตันละ 16,000 บาทเท่ากับโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ??

ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ตั้ง บก.ลายจุด เป็นที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ ช่วยขายข้าว??

จริงไหม ??

ย้ำ ในเหมือนในทุกบทความตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร ผมบอกเสมอว่า ถ้าแน่จริงไปเรียกโอ๊คมาลงหุ้นสิครับ เพราะการซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาแค่ 40 ตัน ซึ่งข้าวเปลือกปริมาณแค่นี้ ถ้าช่วยชาวนาจริง ๆ ก็ช่วยได้ไม่ถึง 5 รายหรอกครับ  มันก็แค่หวังผลทางการเมืองเพื่อเอาหน้าเท่านั้น !!!

คลิกอ่าน ข้าวสารตราลายจุดทำผิดกฎหมายฉลากตรงไหน?

คลิกอ่าน จับผิด บก.ลายจุด ขายข้าว ต่างจากโครงการจำนำข้าวอย่างไร

คลิกอ่าน โทษ ม.44 โยนความผิดให้ทหาร คือทางลงของข้าวสารลายจุด

คลิกอ่าน บทสรุปอันหลอกลวง ของข้าวสารลายจุด โครงการ 1




วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558

บทสรุปอันหลอกลวงของ ข้าวสารตราลายจุด โครงการ 1






นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ได้ประกาศปิดโครงการข้าวสารตราลายจุด โครงการ 1 ไปแล้ว

เหอะ ๆ โดยไม่สรุปถึงยอดจำหน่าย และไม่ระบุว่า ได้ซื้อจากชาวนาคนไหน หรือซื้อจากกลุ่มชาวนากลุ่มไหน ในราคา 1.5 หมื่นบาทจริงหรือไม่ ?

เพราะอาจเป็นแค่โม้ สร้างภาพไปวัน ๆ เท่านั้น

นี่ไม่ใช่พอผมตั้งข้อสังเกตนี้ บก.ลายจุด ก็เลยรีบไปอุปโลกชาวนาขึ้นโชว์มาล่ะ เพราะที่ผ่านมา บก.ลายจุด กระทำไม่โปร่งใส ไม่เคยเปิดเผยตัวตนชาวนามาโดยตลอด

อย่ามาอ้าง เพื่อความปลอดภัยล่ะ เพราะไม่เข้าท่า !!

ดังนั้นจึงมีหลายคนตั้งข้อสังเกตนี่คือ มหกรรมปาหี่ของ บก.ลายจุด ที่ขายข้าวสารจริง ๆ แค่ไม่กี่ถุง เช่น อาจขายข้าวสารได้สัก  200 ถุงเท่านั้น

แต่เอามาโม้ เอามาโพนทะนา ยกหางตัวเอง และเพื่อยกหางให้โครงการจำนำข้าวที่มีมูลค่าความเสียหาย 6 แสนล้านกว่า ๆ ของยิ่งลักษณ์อย่างได้ผล

เท่ากับ บก.ลายจุด นี่คือ สุดยอดนักเมคเรื่องเพื่อโฆษณาอันยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย




ทีนี้พอโม้มาก ทหารเขาก็เลยขอเข้าตรวจสอบว่า ไปซื้อข้าวจากชาวนาตัวจริง ในราคาหมื่นห้าพันบาทจริงหรือไม่ ? แล้วซื้อไปแล้วกี่ตัน ??

เพราะทหารเขาอาจสงสัยเหมือนกันว่า อาจไปซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาแค่รายเดียวก็ได้ หรืออาจไม่ได้ซื้อจากชาวนาเลยก็ได้ แต่แอบไปซื้อกับพรรคพวกของเจ๊ดอ รึเปล่า ใครจะรู้จริงไหม ?

สมมุติเช่น ถ้า บก.ลายจุดไปซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเพียงรายเดียว มาสัก 2 ตันข้าวเปลือก ซึ่งจะสีได้ข้าวสาร 1 ตัน นำมาบรรจุถุง 5 กก. ก็ได้ทั้งหมด 200 ถุง แค่นั้น

แต่ บก.ลายจุด เอามาโม้ซะ ยิ่งใหญ่ ว่าข้าเก่งเหลือเกิน พอขายหมดก็ปิดโครงการทันที แล้วก็โม้ว่า ข้าเก่ง ข้าซื้อข้าวจากชาวนาตันละหมื่นห้าได้ และข้าก็ขายข้าวมีกำไรอีกด้วย

เหอะ ๆ บก.ลายจุด ก็หลอกได้แต่เสื้อแดงเท่านั้นแหละครับ แค่ซื้อข้าวไม่กี่ตัน ไปขายให้พวกเสื้อแดงที่ยอมกินข้าวสารแพงกว่าราคาตลาดไม่กี่คน ก็อวยกันซะใหญ่โต

ซึ่งในความเป็นจริง มีโครงการของชาวนาในประเทศนี้ที่ดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ อีกหลายกลุ่ม ซึ่งเขาก็ขายข้าวได้ตันละมากกว่า 2 หมื่นด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เอามาโม้เพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างที่ บก.ลายจุด กระทำ

เช่น โครงการโรงสีพระราชทานในจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ โครงการข้าวอินทรีย์จากสหกรณ์เกษตรอินทรีย์จังหวัดสุรินทร์ และกลุ่มอื่น ๆ อีกมากมาย

--------------------

หลักการขายของ บก.ลายจุด มันแค่จ็อบเพื่อสร้างภาพให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์เท่านั้น

ผมเคยเขียนบทความเก่าในหลายบทความตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร โดยแนะนำมานานแล้วว่า บก.ลายจุด ควรไปชวนโอ๊ค พานทองแท้ ที่มีเงินนับหมื่นล้านแสนล้าน มาทำ ข้าวสารตราชินวัตร ขายสิ โดยไปเหมาข้าวจากโกดังจำนำข้าวมาเลย

แต่ บก. ก็ไม่คิดจะทำ  ก็เพราะ บก.ลายจุดฉลาดไงจริงไหม ? คือถ้าทำก็มีแต่เจ๊ง

ดังนั้น บก.ลายจุด จึงอ้างว่าไปขอเงินทุนจากป้าเช็ง น้ำหมักรักษาโรคจนตาบอด มา 10 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2557 เพื่อจะมาทำข้าวสารตราลายจุดขาย ซึ่งจริง ๆ แล้วได้เงินมา 10 ล้านบาทจริง ๆ รึเปล่า ก็ไม่มีใครรู้ เพราะแกไม่ให้ตรวจสอบไง

โอเคอาจอ้างว่า พอถึงเวลาจ่ายภาษีเงินได้ประจำปี เดี๋ยวก็รู้เองว่ายอดขายข้าวสารทั้งหมดเท่าไหร่

แต่จะเป็นตัวเลขจริงหรือไม่ ใครจะไปรู้ จริงไหม เพราะแกไม่ได้ให้ตรวจสอบตั้งแต่แรก อาจอุปโลก เมคยอดขาย ตามกำลังเงินของนายทุนโอ๊คมาช่วยจ่ายภาษีให้ในตอนหลังก็ได้ (ผมขอตั้งข้อสังเกต)





-------------

ถ้าโอ๊ค พานทองแท้ จะเลียนแบบ บก.ลายจุด

สมมุติ โอ๊ค พานทองแท้ ไปรับซื้อข้าวเปลือกแล้วอ้างว่าซื้อจากชาวนา มาตันละ 5 หมื่นบาท แล้วนำมาบรรจุข้าวสารถุง โดยขายถุงละ 1,000 บาท โอ๊คก็ทำได้ จริงไหม ?

เพราะแวดวงการเมือง แวดวงธุรกิจที่สนิทสนมกับเครือชินวัตรมีมากมาย ย่อมสามารถช่วยซื้อข้าวสารจากโอ๊คในราคาแพงนี้ได้สบายมาก

แล้วโอ๊ค ก็เอามาโม้แบบที่ บก.ลายจุด โม้ก็ได้ว่า นี่ไงโอ๊คเก่งไหมไปซื้อข้าวจากชาวนาตันละ 5 หมื่นบาท แล้วมาขายถุงละ 1 พันบาท ยังขายได้เลย (แต่ไม่บอกว่าขายไปกี่ตัน กี่ถุง)

พอโอ๊คโม้เสร็จ โอ๊คก็ปิดจ็อบ แล้วอวยโครงการจำนำข้าวดีอย่างโน้นอย่างนี้ เหมือนที่ บก.ลายจุด กระทำ จริงไหม ?

แค่ขายข้าวกับคนไม่กี่คน ไม่กี่กลุ่ม แต่โม้ซะ

ประเทศไทยไม่ได้ปลูกข้าวขายข้าวแค่ในประเทศนะครับ คิดสิคิด !!

ข้าวเปลือกตันละหมื่นห้า เก่งจริงเอาไปขายต่างประเทศให้หมดสิ ไปเหมาเลยในโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ที่เหลืออยู่เอาไปขายให้หมด


ข้าวสารลายจุดกำลังดัง ดังแต่เปลือกล่ะสิไม่ว่า


นี่ล่าสุด โอ๊ค พานทองแท้ ก็ออกมาอวยให้บก.ลายจุดแล้ว งั้นก็ไปร่วมมือกันเลยสิ ผมสนับสนุนให้โอ๊คซื้อข้าวราคาแพงจากชาวนาเยอะ ๆ ซื้อทุกเมล็ดได้เลยยิ่งดี เพราะมีนักการตลาดชั้นเยี่ยมอย่าง บก.ลายจุด มาขายข้าวให้แล้วนี่ ยังไงก็ไม่ขาดทุน จริงไหม ? 555555555555

เมื่อขายข้าวมีกำไร จะหยุดขายทำไม ขายต่อเลยสิ นายทุนโอ๊ค พานทองแท้ก็มาแล้วนี่นา ขอทุนจากโอ๊คไปรับซื้อข้าวจากชาวนาทั้งประเทศมาขายเลย

ผมยืนยันว่า ผมสนับสนุนโครงการของ บก.ลายจุด เพื่อช่วยชาวนา(ได้จริงๆ รึเปล่า) ได้ลืมตาอ้าปาก โดยไม่ต้องสร้างภาระหนี้ให้ประเทศชาตินับ30 ปี เหมือนโครงการนำจำข้าวของยิ่งลักษณ์ แต่ต้องให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ด้วย

ซึ่งถ้าไม่ทำตามนี้ ผมจะถือว่า บก.ลายจุด แสดงปาหี่หลอกพวกเสื้อแดงครับ

--------------------

มีหลายคนมอง บก.ลายจุด ในแง่ร้าย ถึงขนาดที่ว่า บก.ลายจุดคงมีข้าวสารจริง ๆ ไม่กี่สิบถุง แต่เอาไปถ่ายลงเฟส โปรโมทให้มันดัง เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น

เพราะไม่เคยบอกว่า ช่วยซื้อข้าวจากชาวนาได้กี่ราย ซื้อข้าวเปลือกมากี่ตัน เพราะทุกอย่างไม่เคยถูกเปิดเผย





--------------------

บก.ลายจุด จะขายมะนาว



ก็ดีครับ  แต่ผมฝากคลิปต้นมะนาว ให้ผลผลิตต้นละ 3 พันลูก พันธุ์แป้นวโรชา ของชาวอ่างทองให้ บก.ลายจุด ดู เผื่อจะหูตากว้างขวางมากขึ้น แต่มะนาวพันธุ์แป้นวโรชา เขาขายกิ่งละ 300 บาท

ใครสนใจมะนาวต้นละ 3 พันลูก ก็เฟสนี้เลย https://www.facebook.com/VarochaGarden

ถ้า บก.ลายจุด จะขายต้นมะนาวไต้หวัน ต้นละ 150 บาท ผมก็สนับสนุนครับ

ว่าแต่ต้นนึงได้สักกี่ผลล่ะ ? แล้วมันจะเปรี้ยวถูกใจคอส้มตำไหมเท่านั้นแหละ




-----------------

หลังจากที่หมอวรงค์ บอกว่า ไม่เชื่อว่า บก.ลายจุดจะขายข้าวได้จริงตามโม้

ล่าสุด 22 เมษายน บก.ลายจุด ออกมาโม้เกทับหมอวรงค์ ว่าตัวเองขายข้าวสารได้ 25 ตัน หรือ 25,000 กิโลกรัม หรือถุงละ 5 กก. จำนวน 5 พันถุง ภายใน 18 วันดังนี้



เอ่อ... ไหนว่า ขอเงินป้าเช็งมาตั้งแต่ปี 2557 แล้วทำไมมาบอกว่า ขายแค่ 18 วันเท่านั้น

แถมขายแค่ 18 วันได้ตั้ง 25 ตัน มีกำไรตันละ 4,880 บาท หรือ 122,000
บาท รายได้ดีขนาดนี้ดันเลิกขายซะแล้ว มันแปลก ๆ นะ


คลิกอ่าน จับผิด บก.ลายจุด ขายข้าว ต่างจากโครงการจำนำข้าวอย่างไร

คลิกอ่าน โทษ ม.44 โยนความผิดให้ทหาร คือทางลงของข้าวสารลายจุด


ส่วนด้านล่างคือบทความล่าสุด ที่สอนการขายข้าวแบบได้กำไรมากกว่า บก.ลายจุด ขาย 3 เท่า แถมง่ายและเร็วกว่าด้วย

คลิกอ่าน เมื่อข้าวสารลายจุดอาจค้ากำไรเกินควร เสื้อแดงระวังจะโดนหลอกนะ




วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

โทษ ม.44 โยนความผิดให้ทหาร คือทางลงของข้าวสารตราลายจุด






คือ จริง ๆ แล้วผมสนับสนุน บก.ลายจุด ทำข้าวสารตราลายจุดขาย ตามที่ผมอธิบายไปแล้วในบทความที่แล้ว

แต่ต่อมา บก.ลายจุด กลับอ้างว่า ถูกทหารตามไปตรวจสอบ จนทำให้ร้านที่วางขายข้าวสารลายจุด กลัวจนต้องปิดร้านไป ตามนี้




ดังนั้นผมขอยกความเห็นคุณห่วยตูน ที่อธิบายความได้ดีว่า ทำไม บก.ลายจุด ถึงต้องโทษทหาร ทำไม บก.ลายจุด ไม่ชนด้วยความโปร่งใสล่ะ ?




ใช่ครับ ถ้าเราทำการค้าอย่างโปร่งใส ย่อมตรวจสอบได้

หากคิดทำการค้าสุจริตก็ย่อมไม่หวั่นการถูกตรวจสอบ เพราะถ้าคิดขายข้าวเพื่อช่วยชาวนาอย่างจริงใจ อุปสรรคแค่นี้มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ทำให้มันถูกต้องโปร่งใสซะ จะได้ค้าขายได้ยาว ๆ

ต่อมา บก.ลายจุด โพสทำนองว่า ไม่มีโรงสีไหนกล้าสีข้าวให้ข้าวลายจุดอีก เลยโพส รูปครกตำข้าวประชดตามนี้


ข้าวสารตราลายจุด คิดจะหันไปใช้แรงงานเด็กในการตำข้าวแทนการสี 555

แล้วที่ผ่านมา บก.ลายจุด ใช้โรงสีไหนสีข้าวให้ล่ะ ??

จริง ๆ แล้ว หากไม่มีโรงสีไหนสีข้าวให้ ก็สามารถไปซื้อเครื่องสีข้าวขนาดเล็กหรือขนาดกลางมาใช้ในการสีข้าวก็ได้ มีขายในราคาไม่แพงแล้ว ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 6 หมื่นบาท ซึ่งกลุ่มชาวนาหลายกลุ่มเขาก็รวมตัวกันสีข้าวขายเอง เพื่อตัดปัญหาโรงสีและพ่อค้าคนกลาง

ตัวอย่าง เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก สีอย่างต่ำ 100 กก.ต่อชั่วโมง ราคาเครื่องเริ่มต้นแค่หมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง


ฉะนั้น ไอ้การอ้างว่า โรงสีไม่ยอมสีข้าวให้ มันไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โต เพราะเครื่องสีข้าวขนาดเล็กราคาถูกกว่าที่นอนยางพาราที่ บก.ลายจุด ซื้อมาใชัหลังละ 2 หมื่นบาทเสียอีก


หลังจากโทษทหารว่า มาตรวจข้าวลายจุด พอผ่านไปแค่ 2 วัน บก.ลายจุด ก็อวดว่า การซื้อข้าวราคาตันละ 15,000 บาท สามารถส่งออกไปขายอาฟริกาใต้ได้สบาย ๆ เพราะเพื่อนนักธุรกิจบอก



ใช่เลย ส่งออกข้าวลายจุดไปต่างประเทศเลย เพราะนี่คือหนทางช่วยชาวนาและช่วยชาติได้ถูกต้องที่สุด

ว่าแต่ ทำไม บก.ลายจุดไม่ไปประมูลข้าวจากโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ที่ยังเหลือค้างในโกดังอีกหลายล้านตัน ไปส่งออกดูล่ะ นี่แหละจะได้ช่วยแก้ต่างและช่วยใช้หนี้ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้อย่างถูกต้องที่สุด จริงไหม ??

การส่งออกข้าวน่ะไม่ยากดอก แต่จะมีคนซื้อหรือเปล่านี่สิยากกว่า !!!

-------------------------

ขายไม่ดี กำไรน้อย ไม่คุ้มเหนื่อย เลยหาทางลงด้วยการโทษทหาร

การซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา ตันละ 15,000 บาท

ซึ่งข้าวเปลือก 1 ตัน จะสีได้ข้าวสารขาวล้วน ๆ ประมาณ 500 กิโลกรัม (ให้แบบเยอะสุดๆ) ส่วนผลพลอยได้จากการสีข้าว เช่น รำข้าว ปลายข้าว จมูกข้าว และอื่น ๆ ก็ยกให้โรงสีไป เพื่อถือเป็นค่าจ้างสี

ดังนั้น ข้าวเปลือกหอมปทุม 1 ตัน ของ บก.ลายจุด จึงสีได้ข้าวสารประมาณ 500 กก. นำไปบรรจุถุง ถุงละ 5 กก. ขายในราคาถุงละ 200 บาท ซึ่งราคาแพงกว่าข้าวหอมปทุมยี่ห้ออื่น ๆ

เท่ากับข้าวสารหอมปทุม 500 กก. ขายได้เงิน 20,000 บาท 

ดังนั้น เท่ากับ บก.ลายจุดมีกำไรจากการซื้อข้าวเปลือก 1 ตันในราคาตันละ 15,000 บาท  แต่ขายเป็นข้าวสารได้ 500 กก. ได้เงิน 20,000 บาท เท่ากับ บก.ลายจุดมีกำไรจากการข้าวสารตันละ 5,000 บาท โดยประมาณ

แต่กว่าจะไปรับซื้อข้าวจากชาวนา กว่าจะขนข้าวเปลือกมาสีที่โรงสี หักค่าใช้จ่าย หักค่าแรง หักค่าขนส่ง หากมีลูกค้าสั่งซื้อจำนวนมากไปขายต่อ ก็ต้องมีส่วนลดให้เขา ดังนั้นกำไรของ บก.ลายจุด เลยเหลือไม่ถึงตันละ 5 พันบาท สงสัยจะไม่คุ้ม!!

บก.ลายจุด ก็เลยหาทางลง ด้วยการโทษทหาร รึเปล่า ?

--------------------

ความข้าวยังไม่ทันหาย บก.ลายจุด เปลี่ยนไปเรื่องจะซื้อยางพารามาผลิตที่นอนยางพาราขายอีกแล้ว



เรื่องที่นอนยางพารา ผมเห็นด้วยกับ บก.ลายจุด และผมก็เคยเขียนบทความเรื่องที่นอนยางพาราไปแล้วเช่นกัน ว่าควรให้ประเทศไทยผลิตที่นอนยางพาราออกขายให้มากขึ้น เพื่อช่วยแปรรูปผลผลิตจากยางพาราล้นตลาด และช่วยให้คนไทยได้นอนที่นอนที่ดีที่สุดในโลก

แต่เรื่องข้าวสารตราลายจุดน่ะ บก.ลายจุด ก็เชิญทหารมาตรวจสอบต่อหน้าสื่อเช่น ข่าวสด มติชน เลยสิ ทำให้มันโปร่งใสซะ ทุกอย่างก็จะได้เดินหน้าต่อไปโดยสะดวก

หรือที่ บก.ลายจุด ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพราะอยากจะเลิกขายข้าวไปขายที่นอนยางพาราแทนแล้วล่ะ ใช่ไหม ???

คือถ้าไม่ทำอะไรให้โปร่งใสเสียตั้งแต่แรก ก็จะโดนตรวจสอบอีกนั่นแหละ


----------------

ฝากให้คิด

ถามกลับง่าย ๆ เลยนะครับ

ทำไมตระกูลชินวัตร ไม่รับซื้อข้าวเปลือกตันละหมื่นห้า หรือสองหมื่นไปเลยก็ได้จากชาวนา แต่ต้องใช้เงินตัวเองนะ อย่าเอาเงินภาษีชาติไปซื้อ

แล้วขายไปเลย "ข้าวสารตราชินวัตร"

คิดสิคิด ทำไมคนรวยมหาศาลแสนล้านมันไม่ทำ แต่ให้ บก.ลายจุด ที่มีเงินไม่เท่าไหร่ทำ ??




วาทกรรมใหม่ของ บก.ลายจุด อ้างถึงซีพี



คือ บก.ลายจุด นับเป็นคนที่สร้างวาทกรรมเก่งคนนึง ไว้เพื่อหลอกเสื้อแดงโง่ ๆ ไง

ประเด็น ซีพี กับโครงการจำนำข้าวนั้น เจ้าสัวธนินท์เคยพูดว่า จะรับซื้อข้าวราคาแพงตามนโยบาย 2 สูงเอง หากรัฐบาลไม่ทำโครงการจำนำข้าว ซีพีก็จะทำเอง

แต่เอาเข้าใจจริง ๆ ซีพี เขาก็ไม่เคยซื้อข้าวจากโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ไปขายต่อเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ?

คำตอบคือ ข้าวในโครงการจำนำข้าวคุณภาพห่วยกว่าข้าวที่ซีพีเขาทำสัญญาซื้อจากชาวนาโดยตรงอยู่แล้ว เพราะโครงการจำนำข้าวมีปัญหาข้าวเสื่อมสภาพ แถมมีปัญหาสารตกค้างจากการรมควันยาฆ่าแมลงสูง เพราะข้าวสารมันเหลือค้างโกดังเยอะ เพราะขายไมออกไงครับ

ไม่มีนักธุรกิจรายไหนกล้าซื้อข้าวทุกเมล็ดจากชาวนาทั้งประเทศในราคาแพงกว่าราคาตลาดโลกร่วมๆ 50 %หรอกครับ เพราะนี่ไม่ใช่แค่การขายข้าวแค่ในเมืองไทยเท่านั้น เพราะประเทศไทยผลิตข้าวเหลือเกินกว่าบริโภคในประเทศปีละกว่า 10 ล้านตัน

ดังนั้น บก.ลายจุด ถ้าแน่จริง ก็ลองไปชวนตระกูลชินวัตร และแกนนำเสื้อแดงรวย ๆ ทุกคน ไปเหมาซื้อข้าวในโกดังจำนำข้าวของรัฐบาลไปขายต่อต่างประเทศสิ ไม่ใช่เอาแต่โม้แต่ในกะลาแดงกะแค่ผู้ซื้อเพียงไม่กี่คน

เพราะไม่งั้นที่ บก.ลายจุดทำมาทั้งหมด มันก็แค่ยกหางนโยบายของเพื่อไทยไว้เพื่อหลอกควายแดงต่ออีกทอดเท่านั้น

-----------------

ล่าสุด 19 เมษายน 2558 บก.ลายจุด ได้โพสเฟสบุ๊ค ประกาศหยุดข้าวสารตราลายจุดโครงการแรกแล้ว

แต่ก็ไม่วายโม้ให้ควายแดงรอโครงการ 2 ต่อไป

ผมว่า สงสัยคงจะไปยืมเงินป้าเช็งมาอีก 10 ล้าน เพื่อมาหลอกควายแดงต่อในโครงการ 2 แหง ๆ

กำไรและหน้าตา บก.ลายจุดได้ไป ส่วนความโง่เสื้อแดงก็ได้ไป 555 /@akecity


คลิกอ่าน บทสรุปอันหลอกลวงของข้าวสารตราลายจุด โครงการ 1

คลิกอ่าน จับผิด บก.ลายจุด ขายข้าว ต่างจากโครงการจำนำข้าวยิ่งลักษณ์อย่างไร

ส่วนด้านล่างคือบทความล่าสุด ที่สอนการขายข้าวแบบได้กำไรมากกว่า บก.ลายจุด ขาย 3 เท่า แถมง่ายและเร็วกว่าด้วย

คลิกอ่าน เมื่อข้าวสารลายจุดอาจค้ากำไรเกินควร เสื้อแดงระวังจะโดนหลอกนะ




วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

จับผิด บก.ลายจุด ขายข้าวสาร ต่างจากโครงการจำนำข้าวยิ่งลักษณ์อย่างไร






ตอนนี้นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ฉายา บก.ลายจุด คนดังในหมู่เสื้อแดง ได้ผลิตข้าวสารปทุม 100 % ขาย โดยได้โฆษณาไว้หน้าถุงข้าวว่า

"ข้าวในถุงนี้รับซื้อจากชาวนาในราคายุติธรรมเกวียนละ 15,000 บาท"

คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!


โดยที่ผมทราบ คือ บก.ลายจุด ได้บอกว่า ได้ไปซื้อข้าวเปลือกจากจากชาวนาเสื้อแดงในจังหวัดปทุมธานี

หรือโฆษณาผ่าน ป้ายโฆษณา แบบนี้

"ข้าวในถุงนี้รับซื้อจากชาวนาในราคา 15,000 บาทต่อเกวียนแบบเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว"

คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!


ซึ่งราคาขายข้าวหอมปทุม ยี่ห้อ ลายจุด ขนาด 5 กก. ขายในราคาถุงละ 200 บาท

ถ้าถามผมว่า ราคาข้าวหอมปทุม 5 กก. ราคา 200 บาทยี่ห้อลายจุด แพงไปไหม ?

ผมตอบได้ทันทีว่า ค่อนข้างแพงครับ คือ ขนาดบ้านผมซื้อข้าวหอมมะลิ 100 % จากร้านค้าสวัสดิการ ทอ. ยี่ห้อดังยี่ห้อนึง ยังซื้อในราคาถุงละ 158 เท่านั้น (หมายเหตุว่า ร้านค้า ทอ. จะราคาถูกกว่าห้างทั่วไปประมาณ 10-20 % ครับ)

แต่ถ้ามาดูราคาข้าวหอมปทุม 100 % ยี่ห้อบิ๊กซี ขายผ่านช็อปออนไลน์ ถุง 5 กก. ราคาถุงละ 169 บาทเท่านั้น ถูกกว่าข้าวของบก.ลายจุด ถึง 31บาท ซึ่งปกติราคาช้อปออนไลน์ จะแพงกว่าซื้อที่ห้างประมาณ 5-10 % ด้วยซ้ำ




คือการขายข้าวสารของ บก.ลายจุด ผมถือว่า เมื่อเขาเจตนาทำดีเพื่อช่วยชาวนา ผมก็สนับสนุนครับ แต่มันเป็นการขายได้เฉพาะกลุ่ม หรือเฉพาะพรรคพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกันเท่านั้น เพราะราคาข้าวจะขายแพงกว่าราคาตลาดทั่วไปพอสมควร

อย่างข้าวหอมปทุม 100 % ถ้าคุณผู้อ่านไปซื้อตามห้าง จะราคาประมาณ 150 บาทเท่านั้น หรือถูกกว่านี้ด้วยซ้ำ

------------------------

บก. ลายจุดซื้อข้าวจากชาวนาเกวียนละ 15,000 บาท เหมือนโครงการจำนำข้าว เป็นการพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว

ทำไมผมถึงบอกว่า บก.ลายจุด พูดความจริงครึ่งเดียวในประเด็นนี้ ??

คำตอบคือ เพราะราคาเกวียนละ 15,000 บาท เป็นแค่ราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้า 100 % ครับ ไม่ใช่ราคารับจำนำข้าวเปลือกหอมปทุม

เพราะราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมปทุม ในโครงการรับจำนำข้าวที่ผ่านมา ถ้าความชื้นไม่เกิน 15 % จะรับซื้อราคาตันละ 16,000 บาท (คุณภาพเมล็ดสีได้ข้าวสาร 42 กรัมต่อข้าวเปลือก100กรัม)



แต่ บก.ลายจุด กลับรับซื้อข้าวเปลือกหอมปทุม ในราคาตันละ 15,000 บาทเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าราคาในโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ที่รับจำนำข้าวเปลือกหอมปทุมในราคาตันละ 16,000 บาท

จะบอกว่า บก.ลายจุด โกหก ก็คงเกินไป ผมเลยใช้คำว่า พูดความจริงแค่ครึ่งเดียวก็แล้วกัน

คือถ้าข้าวเปลือกของ บก.ลายจุด มีความชื้นเกิน 15 % หรือสีข้าวไม่ได้มาตรฐานข้าวสาร 42 กรัมต่อข้าวเปลือก 100 กรัม  ก็เป็นไปได้ที่ บก.ลายจุด จะรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคา 15,000 บาทเท่านั้น


แล้วราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมปทุม ในราคาตลาดปัจจุบันทั่วไป ราคาเท่าไหร่ ?

คำตอบก็คือ ราคาข้าวเปลือกหอมปทุม ณ วันที่ 3 เมษายน 2558 ราคารับซื้อในราคาตลาดทั่วไป ราคาตันละหรือเกวียนละ 11,000 บาท ครับ ซึ่งถูกกว่าข้าวที่ บก.ลายจุด ไปรับซื้อจากชาวนา 4,000 บาท ต่อตัน



เมื่อซื้อข้าวเปลือกมาถูก ก็ย่อมขายข้าวสารได้ถูกกว่า อย่างใครอยากกินข้าวหอมปทุม 5 กก. ราคาตั้ง 200 บาทยี่ห้อลายจุด ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน ถ้าเขาพอใจจะซื้อข้าวสารแพงโดยคิดว่าช่วยชาวนา ก็เรื่องของเขา นี่คือสิทธิเสรีภาพ

แต่ถามว่า จริง ๆ แล้ว ถ้าซื้อข้าวเปลือกในราคาแพง แล้วมาขายข้าวสารราคาถูกเพื่อคนไทยไม่ต้องกินข้าวสารแพง ทำได้ไหม ? อันนี้ฝากให้คิด

เพราะอะไรที่ผมต้องถามแบบนั้น ?

เพราะถ้าเปิด AEC เมื่อไหร่ ถ้าข้าวสารไทยยังแพงกว่าข้าวหอมพม่า ข้าวหอมเขมร ชาวนาไทยก็จะยิ่งเจ๊งมากกว่านี้ เพราะข้าวอันดับ 1 ของโลกจากประเทศเพื่อนบ้านของเรา ทั้งข้าวหอมเขมร ข้าวหอมพม่า ซึ่งได้อันดับ 1 ของโลก จะเข้ามาตีตลาดข้าวไทยมากขึ้นในราคาที่ถูกกว่าข้าวหอมมะลิของไทยอย่างมาก

คลิกอ่าน "เปิด AEC เมื่อไหร่ จะทำชาวนาไทยเจ๊งมากขึ้น ถ้ายังทำโครงการจำนำข้าว"


แต่ถ้าเป็นผมเกิดไปห้างโลตัสในช่วงนี้ ผมขอซื้อข้าวหอมมะลิ 100 % ขนาด 5 กก. ยี่ห้อเทสโก้ ราคา 179 บาทดีกว่าเป็นต้น คุณภาพก็ใช้ได้เลย เพราะเคยกินหลายหน  (แต่ปกติเดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ซื้อของจากห้างต่างชาติเท่าไหร่นักแล้ว)

ราคาช่วง 2-8 เมษายน 2558


-----------------

ผมขอสนับสนุนการขายข้าวแบบ บก.ลายจุด ให้เกิดขึ้นเยอะๅ

จริง ๆ แล้วปัญหาของชาวนาทุกวันนี้คือ พ่อค้าคนกลาง หรือ โรงสี จะกดราคาชาวนามากเกินไป แต่กลับไปทำกำไรมโหฬารจากการขายข้าวสารราคาแพง

หากผู้รับซื้อเอกชนต่างช่วยกันซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่เป็นธรรมแบบที่ บก.ลายจุดทำ  ชาวนาก็ย่อมอยู่ได้อย่างไม่ขาดทุน เช่น ที่มีเอกชนหลายราย ไปรับซื้อข้าวคุณภาพจากชาวนาโดยตรง แล้วมาขายในราคาที่แพงได้ราคาดี ก็มีหลายเจ้า เช่น ช่อง 3 เป็นต้น

แล้วการซื้อข้าวของ บก.ลายจุด แตกต่างจากโครงการรับจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์อย่างไร ?

คำตอบก็คือ บก.ลายจุด ใช้เงินทุนของตัวเองในการซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง และจำกัดการซื้อเท่าที่เงินทุนมีอยู่ ไม่ได้ตะบี้ตะบันไปกู้เงินมาซื้อข้าวไม่อั้นจนต้องเป็นหนี้มโหฬาร

แล้ว บก.ลายจุด ก็นำข้าวสารมาบรรจุถุง 5 กก. ขายให้กับลูกค้าเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขายตรง จึงกำหนดราคาได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป และเป็นการขายในกลุ่มพรรคพวกเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ มีการคำนวณปริมาณอุปสงค์ อุปทาน ที่ใกล้เคียงความจริง จึงไม่มีภาวะสต๊อกข้าวล้น และส่วนใหญ่เป็นการขายประเทศ ไม่ได้ส่งออก อีกทั้งข้าวยี่ห้อลายจุดมีปริมาณน้อยสามารถควบคุมบัญชีได้ง่าย ไม่มีการโกงเกิดขึ้น


ส่วนโครงการรับจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ ไม่ได้นำเงินของตระกูลชินวัตรมาซื้อ แต่เป็นการเอาภาษีชาติและการกู้เงินอนาคตในนามรัฐบาลไทยมาซื้อ และรับซื้อข้าวทุกเมล็ดจากชาวนา จึงไม่สามารถควบคุมปริมาณข้าว และปริมาณเงินที่ต้องใช้ในโครงการรับจำนำข้าวได้ ไม่สามารถควบคุมปริมาณการขายข้าวออกต่างประเทศได้ จึงทำให้มีข้าวเหลือคาโกดังจำนวนมาก เพราะไม่สามารถขายข้าวปริมาณมหาศาลให้ได้กำไรในต่างประเทศได้หมด จึงมีค่าโสหุ้ยเช่นค่าเช่าโกดังเก็บข้าวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีค่าเสื่อมสภาพข้าวเกิดขึ้นตลอดเวลา (ยังไม่รวมถึงการทุจริตอีกมากมาย)



ดูที่ผมคุยกับ บก.ลายจุด




ริง ๆ แล้ว หลักการที่ บก.ลายจุด ไปรับซื้อข้าวราคาเป็นธรรมจากชาวนาโดยตรง แล้วนำมาขายเองถึงผู้บริโภคโดยตรง ก็คือ การตัดปัญหาพ่อค้าคนกลาง

ซึ่งถ้าชาวนารวมกลุ่มกัน แล้วรวมกันสีข้าวเอง หาตลาดจัดจำหน่ายเอง มันก็คือ ระบบสหกรณ์ดี ๆ นี่แหละครับ ซึ่งชาวนาญี่ปุ่นเขาใช้ระบบสหกรณ์แบบนี้ประสบความสำเร็จมาหลายสิบปีแล้ว จนปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องมาช่วยเหลือชาวนาญี่ปุ่นเลยด้วยซ้ำ

ส่วนการขายข้าวแบบที่ บก.ลายจุด เป็นการขายได้เฉพาะกลุ่ม ไม่สามารถแข่งขันในตลาดแมสได้ เพราะราคาข้าวสารจะสูงกว่าราคาทั่วไป

หาก บก.ลายจุด ทำเพื่อหวังผลทางการเมือง ก็ขอบอกว่า ก็หวังผลได้ในหมู่เสื้อแดงที่ไม่เข้าใจกลไกการตลาดเท่านั้นแหละครับ

คือ ถ้าบก.ลายจุด คิดจะทำโครงการนี้เพื่อหวังว่า จะอวยโครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์ว่าเป็นโครงการที่ดี  ก็เท่ากับ บก.ลายจุด คิดผิด !! เพราะโครงการรับจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์เป็นการบิดเบือนกลไกลราคาตลาดอย่างรุนแรง จึงต้องมีสภาพขาดทุนชิบหายวายป่วงแบบนี้ไงครับ

สรุปนะครับ เรื่องซื้อข้าวในราคาสูงจากชาวนา ควรเป็นเรื่องของเอกชนที่มีจิตใจอยากช่วยเหลือชาวนาเป็นผู้กระทำ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลไทยจะมาทำ เพราะถ้ารัฐบาลซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูง ก็จะวนมาอีหรอบเดิมอีก คือ ข้าวล้นตลาด ขายไม่ออก รัฐบาลสร้างหนี้ให้คนทั้งชาติเหมือนเดิมครับ

-------------------

ทำไมจนวันนี้มีแต่ บก.ลายจุด ที่คิดช่วยชาวนาด้วยเงินตัวเอง 

แล้วพวกนักการเมืองพรรคเพื่อไทย รวมถึงคนในตระกูลชินวัตร ไม่มาลงเงินช่วยซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงบ้างล่ะ ?? เสื้อแดงคิดสิคิด !!!

เช่น ณัฐวุฒิ ทำข้าวตรา "ผมรับผิดชอบเอง" , จตุพร ทำข้าวตรา "คางคกขึ้นวอ"

หรือจะเป็น ยิ่งลักษณ์ ทำข้าวตรา "สี่ฤดู" คงจะเวิร์คน่าดู คนในพรรคเพื่อไทยช่วยกันซื้อข้าวจากชาวนาให้สูงเท่าราคาในโครงการจำนำข้าว แล้วโฆษณา เช่น

"ข้าวถุงนี้ใช้เงินจากตระกูลชินวัตร ซื้อในราคาตันละ 15,000 บาท จากชาวนาเหมือนโครงการรับจำนำข้าว"

แต่ก็ไม่มีใครทำ เสื้อแดงคิดสิคิด !!



ส่วนเรื่องคุณภาพข้าวสารของบก.ลายจุด เป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดีอย่างไร ผมคงวิเคราะห์ให้ไม่ได้นะครับ ถ้าใครอยากรู้ต้องไปถามพวกเสื้อแดงที่ซื้อกินเองครับ หรือไม่ก็ไปหาทดลองซื้อกินดูก็ได้  ถ้าคุณกล้าพอ !!

จบ..

คลิกอ่าน โทษ ม.44 โยนความผิดให้ทหาร คือทางลงของข้าวลายจุด

คลิกอ่าน บทสรุปอันหลอกลวง ของข้าวสารลายจุด โครงการ 1


ส่วนด้านล่างคือบทความล่าสุด ที่สอนการขายข้าวแบบได้กำไรมากกว่า บก.ลายจุด ขาย 3 เท่า แถมง่ายและเร็วกว่าด้วย

คลิกอ่าน เมื่อข้าวสารลายจุดอาจค้ากำไรเกินควร เสื้อแดงระวังจะโดนหลอกนะ



วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558

ขำ ปวิน โชว์โง่เรื่อง แต่งชุดไทยกินเบอร์เกอร์







หลังจากมีกระแสรณรงค์แต่งชุดไทยกันให้เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ก็เป็นอันไปกระเทือนต่อมเกลียดความเป็นไทยของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นังตุ๊ดล้มเจ้าเข้า

แล้วจนกระทั่งมีรูปแม่ลูกคู่หนึ่งแต่งชุดไทยสวยงาม แต่กำลังนั่งกินเบอร์เกอร์คิง

อีปวิน ตุ๊ดล้มเจ้าใจหยาบ ก็เลยได้โอกาสเสียดสีกระแนะกระแหนทันทีตามสันดานลิเบอร์ร่าน ตามรูปนี้


http://imgur.com/CU9P3DX,ImbjwL4,uE3560i,dSCIDmf#2

คือผมคงไม่ต้องเท้าความมาก คุณผู้อ่านคงตามข่าวกันอยู่แล้ว เพราะอีปวินก็โดนเพจอีเจี๊ยบ เลียบด่วนเอาโพสไปแชร์ จนมีคนเข้ามากระหน่ำด่าอีปวิน ลามไปถึงเพจดราม่าแอดดิก ก็แคปรูปจากอีเจี๊ยบไปแชร์ต่อ ก็เลยมีคนเข้ามารุมด่าตรรกะเห่ย ๆ ของอีปวิน อย่างร้อนแรง

คือผมไม่จำเป็นต้องอธิบายตรรกะความโง่ของอีปวินมาก เพราะมีคนด่าเยอะแล้ว

แต่พวกสาวกของอีปวินน่ะสิ ดันมาใช้ตรรกะควาย ๆ เพื่อแก้ต่างให้อีปวินว่า

"ก็เมื่อคุณใช้เสรีภาพในการใส่ชุดไทยแล้วแชร์รูปออกสาธารณะ อาจารย์ปวินก็ย่อมมีสิทธิที่จะวิจารณ์ได้เช่นกัน"

มีความเห็นทำนองนี้ของสาวกอีปวินหลายความเห็น เหอะ ๆ พลาดโชว์โง่แล้วยังจะแถ ครับ ๆ เชิญ ๆ เชิญอีปวินโชว์โง่ได้ตามสบาย 555

นี่ผมเห็นอีเจี๊ยบ เลียบด่วน บ่นว่า โดนอีปวินบล็อกอีเจี๊ยบแล้ว อีเจี๊ยบเลยไม่สามารถเห็นเฟสบุ๊คของอีปวินได้อีก


http://imgur.com/fokIA2j

ฮ่า ๆ ต่างคนต่างใช้สิทธิกันเต็มที่ ใครเอารูปกูไปแชร์จนกูโดนด่า มึงต้องโดนบล็อค เพราะนี่คือสิทธิของกูจริงไหม อีปวิน ?

โดนด่าแค่นี้ อีปวินยังบล็อคอีเจี๊ยบได้ แล้วทีพวกมึงใส่ร้ายสถาบันกษัตริย์ ถ้าคนไทยอยากจะบล็อคพวกมึงด้วย ม.112 บ้างไม่ได้เหรออีปวินเอ๋ย จริงไหม ?

งานนี้เรียกได้ว่า อีปวิน เสียหมาจริง ๆ ก็ขนาดสมศักดิ์เจียมก็ยังโพสในเรื่องนี้เลย



คือบอกตามตรง พวกล้มเจ้าน่ะ โชว์โง่สม่ำเสมอ รวมทั้งหงอกเจียมด้วย

แต่หงอกเจียม ยังหลงตัวเองว่าตัวเองฉลาดที่สุดในหมู่ล้มเจ้า เหอะ ๆ

----------------------------------

ก่อนจบบทความ ขอฝากรูปขำ ๆ แล้วกัน 

เพราะอีปวินมันอยู่ญี่ปุ่น ก็เลยเอารูปจากญี่ปุ่นมาตอกย้ำความโง่ของอีปวินแล้วกัน 555555555








-------------------

ล่าสุด เบอร์เกอร์คิงเลยเกาะกระแสแต่งชุดไทยกินเบอร์เกอร์ ด้วยการออกโปรโมชัน ใครแต่งชุดไทยในวันที่ 13 เมษายนนี้ ให้ไปรับเบอร์เกอร์ฟรีที่เบอร์เกอร์คิง ตามรูปนี้ครับ


http://i.imgur.com/P66ircJ.jpg

คลิกอ่าน ปวิน โชว์โง่อีกแล้ว กรณีคดีนักโทษการเมือง

คลิกอ่าน ปวิน ตุ๊ดใจหยาบไร้ศาสนา ไร้วัฒนธรรม