วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทำไมขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค คุณวีระ ต้องออกมาสู้ก่อนมี สปช.






ไอ้พวกโง่ที่ถามว่า ทำไมกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน และกลุ่มมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ตลอดจนคุณวีระ สมความคิด ทำไมไม่รอปฏิรูปพลังงานใน สปช. ?

ขอตอบให้ไอ้พวกโง่ได้รู้เลยว่า ที่จริงพวกเขาก็อยากจะรอให้ปฏิรูปพลังงานใน สปช. เหมือนกัน

แต่ ไอ้ ปตท. กับ ไอ้ปิยสวัสดิ์ ทำไมพวกมันเสือกรีบจะแปรรูปท่อก๊าซให้เป็นบริษัทเอกชนก่อนการปฏิรูปพลังงานล่ะ

ทำไมไอ้ปิยสวัสดิ์และ ปตท. ไม่รอให้เกิดการปฏิรูปพลังงานใน สปช.ก่อนล่ะ ?
ทำไม ปตท. ต้องเร่งรีบแปรรูปท่อก๊าซก่อนการปฏิรูปพลังงานโดยมีภาคประชาชนเข้าร่วมใน สปช.

ตอบแค่นี้ไอ้พวกโง่ ที่ถือหางปิยสวัสดิ์ หายโง่นะ ไอ้สัส !!

ถ้ามัวแต่รอ สปช. เกิดขึ้นก่อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะมีคนจากฝ่ายขาหุ้นปฏิรูปจะได้เป็น สปช. หรือไม่

ท่อก๊าซก็คงเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนปิยสวัสดิ์กับไพรินทร์ไปแล้วโว้ย !!

--------------------


นั่นคือ คำตอบที่ผมตอบให้ไอ้พวกโง่ที่ถือหางปิยสวัสดิ์ ได้รู้

แต่ถ้าเอาคำตอบแบบชัดเจน มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ก็ให้ดูจากคลิปรายการ เสียงประชาชน ที่หม่อมกร มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และคุณประสิทธิชัย หนูนวล ตัวแทนจากขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ได้ตอบคำถามแรกที่พิธีกรถามในเรื่อง ทำไมไม่รอให้เกิดสภาปฏิรูปแห่งชาติก่อน 

อยากให้คุณผู้อ่านได้ดูคลิปรายการเสียงประชาชน ในตอนนี้

คุณจะเข้าใจภาพรวมเรื่องพลังงาน เรื่องกฎอัยการศึก เรื่องกลุ่มทุนที่พยายามจะหมดเม็ดรีบแปรรูปท่อก๊าซก่อนการปฏิรูปพลังงาน

ทำไมพวกเขาถึงเลือกเดินเท้าระยะทางไกลยาวนานถึง 2 เดือน และการเปรียบเทียบเรื่องนโยบายพลังงานของ บ.ปิโตรนัส ของมาเลเซีย ว่าแตกต่างจากบริษัทเลว ๆ อย่าง ปตท. อย่างไร

นอกจากนี้ ทางตัวแทนขาหุ้นปฏิรูปพลลังงาน ยังพูดถึงเรื่องถ่านหิน ที่พวกกลุ่มนายทุนพยายามอยากให้มีโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน มากกว่าโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

หรือยังมีประเด็นเรื่องปิโตรนาส ที่หม่อมกร ได้ยกตัวอย่างว่า "บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ปิโตรนาส ของมาเลเซีย รัฐบาลถือหุ้น 100 % และ รัฐบาลมาเลเซียจะหักเงินจากกำไรของปิโตรนาสมา 20 % เพื่อมาอุดหนุนราคาน้ำมันให้คนมาเลเซียใช้ถูกลง เท่ากับรัฐบาลมาเลเซียได้จ่ายปันผลหุ้นให้คนมาเลเซียที่ใช้น้ำมันทุกลิตร" เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ผมแค่ยกตัวอย่างอธิบายเพียงคร่าว ๆ แต่รายละเอียดจริง ๆ ถ้าได้ดูจากคลิป คุณจะเข้าใจว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องออกมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมเรื่องพลังงานเพื่อคนไทย



คนที่มีความจริงใจต่อประชาชน อธิบายความให้เข้าใจได้ง่าย ๆ

พวกเขาทำเพื่อคนไทยทุกคน โดยไม่มีการแบ่งสีแบ่งฝ่าย เพื่อให้คนไทยได้ใช้ราคาพลังงานที่เป็นธรรม

ฉะนั้น ใครที่คิดว่ายังไม่ค่อยเห็นด้วยกับพวกเขา ก็ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วรอให้พวกเขาทำไป

ถ้าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นถูกต้อง พวกคุณก็ได้ประโยชน์ด้วย แต่ถ้าสิ่งพวกเขาทำไม่ถูกต้อง ความจริงจะตอบโจทย์และตอบแทนการกระทำให้พวกเขาเอง

ในคลิปนี้ หม่อมกร ยังได้บอกว่า ถ้าผมไม่สมัครเป็น สปช. คนก็ด่าผมว่า เขาให้ไปพูดในสภา ทำไมไม่เข้าไป มาพูดข้างนอกทำไม หรือถ้าผมไปสมัคร เป็น สปช. คนก็จะด่าผมว่า ที่แท้ก็อยากมีตำแหน่งล่ะสิ ฉะนั้น ผมตัดสินใจว่า จะไปสมัครเป็น สปช. เพื่อวัดใจคณะกรรมการคัดเลือกว่า จะเลือกผมเป็น สปช. หรือไม่ !!

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แค่แย่งที่จอดรถคนพิการ กลายเป็นรากฐานของการคอร์รัปชัน







ากกระแสคลิปที่ คนพิการไปถ่ายคลิปที่จอดรถในห้างว่า ทำไมมีรถราคาแพง ๆ มาจอดในที่จอดรถสำหรับคนพิการ โดยที่รปภ. ตอบว่า เป็นรถของพวก VIP



แล้วก็มีคนโง่บางคน โชว์โง่เสียดสีคนพิการทำนองว่า "ก็เห็นเรียกร้องว่า อยากให้มองคนพิการเหมือนคนปกติ เรียกร้องสิทธิเท่าเทียมกันไม่ใช่เหรอ งั้นก็ไม่ต้องมีที่จอดเฉพาะคนพิการสิ "

นี่คือความโง่ของคนจิตใจชั่วโดยแท้ เพราะ คนพิการเขามีร่างกายที่ด้อยกว่าคนปรกติ การที่จะทำให้คนพิการได้มีสิทธิเท่าเทียมกับคนปรกติได้ นั่นคือคนปรกติต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้พวกเขา

คำว่า สิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ได้หมายถึง ไม่ต้องไปช่วยเหลือคนพิการ

แต่คำว่า "สิทธิที่เท่าเทียมกัน" สำหรับคนพิการ ที่ถูกต้องหมายถึง การช่วยให้คนพิการได้มีสิทธิเข้าถึงสาธารณูปโภคของรัฐและบริการอื่น ๆ ได้เหมือนที่คนทั่วไปสามารถใช้ได้โดยสะดวก หรือช่วยให้คนพิการได้เข้าถึงบริการเป็นสาธารณะทั่วไปได้อย่างไม่ยากลำบาก

อย่างเช่น สิทธิการใช้รถโดยสารประจำทาง ทุกวันนี้คนพิการที่ต้องนั่งรถวีลแชร์ หมดสิทธิขึ้นรถเมล์เพราะบันไดรถเมล์สูงเกินไป ซึ่งไม่เอื้ออำนวยให้รถวีลแชร์ขึ้นไปบนรถเมล์ได้โดยง่าย

หรืออย่างเช่น กรณีใช้บริการจากห้างสรรพสินค้า ซึ่งคนปกติทั่วไปสามารถนำรถไปจอดไกลตรงไหน ก็ยังเดินมาใช้บริการในห้างได้ปกติ

ในขณะที่คนพิการที่นั่งรถวีลแชร์ หากพวกเขาต้องไปจอดรถที่ไกลออกไป ย่อมไม่สะดวกในการลงจากรถ เพราะที่จอดรถทั่วไปจะแคบกว่าที่จอดรถสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ และก็ไม่สะดวกที่คนพิการจะเข็นรถวีลแชร์เข้ามาในห้างโดยง่าย

ดังนั้น ทางห้างสรรพสินค้าจึงต้องจัดเตรียมที่จอดรถสำหรับคนพิการ เพื่อช่วยคนพิการได้มีสิทธิเข้าถึงการใช้บริการได้โดยสะดวกเท่าเทียมคนปกติทั่วไปใช้

อธิบายแบบนี้พอเข้าใจไหมครับ

-----------------

แย่งที่จอดรถสำหรับคนพิการ คือพื้นฐานพฤติกรรมคอร์รัปชัน

บางคนอาจงงว่า การแย่งที่จอดรถคนพิการไปเกี่ยวอะไรกับการคอร์รัปชัน

นั่นก็เพราะที่จอดรถสำหรับคนพิการ มีไวัสำหรับคนพิการใช้ แต่คนที่ไม่พิการกลับไปแย่งที่จอดรถสำหรับคนพิการ  นี่จึงถือว่าเป็นการโกงชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่เป็นการโกงกฎกติกาสังคม

การไปจอดรถในที่จอดรถของคนพิการ ถ้าเป็นในต่างประเทศบางประเทศ ถือเป็นความผิดทางกฎหมายด้วยซ้ำ ผู้ละเมิดต้องโดนเจ้าหน้าที่มาลากรถออกไปเสียค่าปรับจำนวนมากเลยครับ

การที่ประเทศไทยมีการคอร์รัปชันกันมากทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ล้วนมีต้นเหตุจากความไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมที่เริ่มจากเรื่องเล็กน้อยมาก่อนทั้งสิ้น

เช่น ถ้าคุณไม่เคารพกฎจราจรไปจอดรถในที่ห้ามจอด หรือ คุณขี่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร เพราะความมักง่าย เรื่องต่าง ๆ เหล่าน้ล้วนบ่มเพาะให้คนเราเริ่มเห็นแก่ตัวมากขึ้น ๆ และเมื่อทำไปแล้วก็ไม่มีใครว่า ไม่มีบทลงโทษจริงจัง ต่อไปคุณก็จะคิดว่า "ถ้าเราไม่ทำสิโง่ เพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน"

จากการละเมิดกฎหมายในเรื่องเล็ก ๆ เช่นกฎจราจร เมื่อทำบ่อยเข้าก็จะเริ่มละเมิดกฎหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าไปได้เรื่อย ๆ อย่างเช่น การเลี่ยงภาษี เรื่อยไปจนถึงขั้นหนีภาษี โกงภาษี เรื่อยไปจนถึงการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้ข้าราชการ เพื่อให้ช่วยอำนวยความสะดวกให้เรา ไปจนถึงขึ้นโกงกินคอร์รัปชันในโครงการใหญ่ ๆ

ซึ่งการคอร์รัปชันทุกอย่างนั้น มันก็เริ่มต้นมาจากความเห็นแก่ตัวในเรื่องเล็ก ๆ ที่ถูกบ่มเพาะมาเรื่อย ๆ มาก่อนทั้งสิ้น

ฉะนั้น ถ้าคุณเกลียดการคอร์รัปชัน ก็ต้องเริ่มที่คุณหยุดคอร์รัปชันเองเสียก่อน

เช่น หยุดจอดรถซ้อนคันหน้าปากซอยเพียงเพื่อลงไปซื้อของในเซเว่น เพราะคุณคิดว่า ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่แป๊บเดียวเอง ใคร ๆ เขาก็ทำกัน

เช่น หยุดเดินข้ามถนนใต้สะพานลอย เพราะคุณคิดว่า ใคร ๆ เขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น ไปเดินขึ้นสะพานลอยให้เมื่อยให้เหนื่อยไปทำไม และอีกหลาย ๆ เรื่อง

ทุก ๆ สิ่งเหล่านี้นี่แหละคือ การบ่มเพาะความเห็นแก่ตัวของเราให้มากขึ้นเรื่อย ๆ

ทีนี้พอเรามีโอกาสคอร์รัปชันในระดับที่สูงขึ้นกว่านั้น เราก็อาจจะทำ เช่น เริ่มจากขโมยเอาปากกาและยางลบของใช้ในสำนักงานมาใช้ที่บ้านตัวเอง นี่ก็คอร์รัปชันเช่นกัน

หรือ เล่นเฟสบุ๊ค หรือเล่นไลน์ ในเวลาทำงาน นี่ก็คือการคอร์รัปชันเช่นกัน แต่เป็นการคอร์รัปชันเวลาของสำนักงาน

-----------------



ข้อสังเกต รถของคนพิการส่วนใหญ่เขาจะหาสติ๊กเกอร์คนพิการมาติดไว้หน้ารถกันครับ ถ้ารถคันใดไม่มีสติ๊กเกอร์คนพิการติดอยู่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ไม่ใช่รถของคนพิการ

แล้วถ้าเป็นรถที่พาคนพิการหรือผู้สูงอายุที่นั่งวีลแชร์มา ส่วนใหญ่เขาจะไม่จอดรถในที่จอดรถคนพิการครับ เพราะคนขับรถจะไปจอดรถที่หน้าประตูห้าง แล้วเขาจะช่วยพาคนพิการลงจากรถหน้าประตูห้างเลย

ฉะนั้น ที่จอดรถสำหรับคนพิการ โดยมากจึงมักเป็นที่จอดรถสำหรับคนพิการขับรถมาเองเพียงคนเดียวครับ 

หรือคนพิการบางคนก็ได้เล่าว่า ถ้าปกติขับรถมากับผู้ช่วยเหลือ เขาก็ไม่จอดรถในที่จอดรถคนพิการครับ เขาจะไปจอดในที่จอดรถปกตินี่แหละแต่จะไกลออกไป

แล้วผู้ช่วยที่มาด้วยกับเขา ก็จะนำวีลแชร์ออกมา แล้วอุ้มเขามานั่งรถวีลแชร์ แล้วค่อยเข็นเข้ามาเข้าห้าง

ส่วนในต่างประเทศ เขามีการออกบัตรคนพิการให้แขวนหน้ารถ หรือสติ๊กเกอร์ติดกระจกรถ แบบนี้



กรุณาอย่าจอดรถชิดเกินไป ผมจำเป็นต้องมีที่มากพอสำหรับรถวีลแชร์


----------------

ทำไมรถคนรวยชอบแย่งที่จอดรถคนพิการ




ที่จริงคนรวย ๆ ที่ดี ๆ มีอยู่มากมาย แต่พวกคนรวยแถมเห็นแก่ตัวก็มีมากมายเช่นกัน โดยเฉพาะคนรวยที่รวยจากเงินที่ได้มาเพราะความเห็นแก่ตัว 

คนเราพอร่ำรวยมาก ๆ หลายคนมักจะเกิดความหยิ่งยโสหลงตัวเองว่า กูรวย กูมีเงินซะอย่าง ถึงกูจะจอดรถในที่ห้ามจอด ถ้ากูโดนตำรวจจับ กูก็ไม่แคร์ เพราะกูมีเงินจ่ายค่าปรับอยู่แล้ว

คนรวยที่สันดานเลว ๆ แบบนี้จึงมีอยู่มาก เพราะคิดว่า กูมีเงินซะอย่าง จึงไม่กลัวว่าต้องเสียค่าปรับหากกระทำผิดกฎหมายจราจร

หรือถ้าใครจะปรับกูเพราะไปแย่งที่จอดรถคนพิการ กูก็ไม่เดือดร้อน เพราะกูมีเงินจ่าย

คนรวยเลว ๆ ที่คิดว่า มีเงินซะอย่างกูจะทำอะไรก็ได้นั้น คนรวยพวกนี้ก็จะหาทางหาเงินให้มากทุกวิถีทาง เพื่อมารองรับหรือซับพอร์ตสันดานความเห็นแก่ตัวของตนเองในเรื่องต่าง ๆ 

นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่า แค่แย่งที่จอดรถคนพิการก็เป็นรากฐานของการคอร์รัปชันได้เช่นกัน

ทั้งที่ความจริงกฎหมายไม่ได้มีไว้ให้ฝ่าฝืน เหมือนที่พวกคนเลวชอบคิดด้วยตรรกะนี้ แต่กฎหมายมีไว้เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข สันติ และไม่เอาเปรียบสิทธิซึ่งกันและกัน

ทีนี้คนรวยเลว ๆ มักคิดว่า กูไปที่ไหนก็มีแต่คนเกรงใจ เอาใจกู เพราะกูขับรถหรูราคาแพง มีแต่คนคอยพินอบพิเทากูทั้งนั้น

ทีนี้พอเจอคนเข้ามาพินอบพิเทาบ่อย ๆ เข้า คนรวยเลว ๆ พวกนี้ก็มักหลงตัวเองว่า กูจะทำอะไรก็ได้ เพราะกูรวย กูมีเพื่อนเป็นคนใหญ่คนโตมากมาย ยังไง ๆ ใคร ๆ ก็ต้องไม่กล้าด่ากู ใคร ๆ ก็เกรงใจกูกันทั้งนั้น เพราะกูรวย ขนาดกูขับรถมาจอดในห้าง ห้างยังต้องทำที่จอดรถVIP ให้รถหรู ๆ อย่างที่พวกกูใช้ พวกกระจอกยังไม่มีสิทธิได้จอดรถแบบกูเลย

เหมือนกรณีที่ คุณณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้ประกาศข่าวไทยพีบีเอส เคยถูก รปภ.ของห้างแห่งหนึ่ง ไม่ให้รถของคุณณัฏฐาเข้าจอดรถในห้าง เพราะ รปภ.อ้างว่า ทางห้างได้กันไว้สำหรับเป็นที่จอดเฉพาะรถเบนซ์หรือรถหรูเท่านั้น (แต่ไม่มีป้ายบอก)

ส่วนประเด็นที่จอดรถสำหรับคนพิการ มันมีอีกประเด็นคือ พวก รปภ. นี่แหละตัวดี พอเห็นคนรวย ๆ ขับรถหรู ๆ เข้ามา ก็อยากจะได้เงินติ๊บ ก็เลยรีบกุลีกุจอหาที่จอดให้คนรวย ทีนี้พอที่จอดรถมันเต็มแล้ว รปภ. ก็เลยให้คนรวยไปจอดในที่จอดรถของคนพิการแทน

ส่วนคนรวยก็ชอบสิ เมื่อ รปภ. จัดให้ คนรวยก็เลยรีบสนอง แล้วก็ติ๊บไปสัก 20 บาท 50 บาท หรือ 100 นึง เพียงแค่นี้ รปภ.ห้างก็ยิ้มแล้ว


ถ้าในต่างประเทศ เขาเขียนป้ายแบบนี้ไว้กันพวกโง่แอบมาใช้ที่จอดรถสำหรับคนพิการครับ



Stupidity is Not a Disability ความโง่ไม่ใช่ความพิการ

ดังนั้นถึงแม้คุณจะโง่ คุณก็ไม่มีสิทธิมาจอดตรงนี้ แรงนะเนี่ย (ขอบคุณรูปและแปลจากเรียนภาษาอังกฤษจาก 9 gag)

-----------

ถ้าคนเราหากมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อย เห็นใจผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า รู้จักเคารพกฎระเบียบของสังคม รู้จักเคารพกฎหมาย ก็ย่อมไม่แย่งที่จอดรถคนพิการ

และเช่นเดียวกัน พวกที่ไม่เคารพกฎกติกาสังคม ไม่มีจิตสำนึกสาธาณะ จิตใจเห็นแก่ตัวขนาดแย่งที่จอดรถคนพิการได้ เขาย่อมสามารถคอร์รัปชันในเรื่องต่าง ๆ ได้เช่นกัน คุณเชื่อไหม ?

เมื่อ 2 วันก่อน ได้ฟังอาจารย์มหาวิทยาลัยคนนึงพูดว่า ถ้าคนเรามีความพอเพียงในจิตใจ ก็จะไม่คอร์รัปชัน

เพราะการคอร์รัปชันล้วนเริ่มต้นมาจากความเห็นแก่ตัว ความโลภ ทั้งสิ้น เพราะคนโลภคือคนที่ไม่รู้จักพอ คุณผู้อ่านเชื่อไหม ?

แต่ผมเชื่อ!!



เรื่อง รถสปอร์หรู ราคาระดับ 10 ล้านขึ้นไป ผมอยากแนะนำให้ไปอ่านข้อคิดดี ๆ ของดีเจภูมิ ตามลิงค์บทความข้างล่างต่อครับ

คลิกอ่าน นพพร ศุภพิพัฒน์ กรณีตัวอย่างที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยคือแหล่งฟอกเงินที่ดีที่สุด

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คดีตำรวจยิงวัยรุ่นผิวสีตาย สหรัฐอเมริกาบอกนี่เป็นเรื่องภายในของสหรัฐ






ว่าแต่เขา สหรัฐฯ เสือกเอง




จากกรณีนายไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี โดนตำรวจยิงเสียชีวิต ทั้งที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือ ในรัฐมิสซูรี จนเป็นเหตุให้เกิดการประท้วงและจราจลในเวลาต่อมา

ทำให้ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี ถึงขนาดต้องประกาศเคอร์ฟิวส์ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีการรัฐประหาร โดยทางการรัฐมิสซูรีได้ห้ามประชาชนออกจากบ้านยามวิกาล ตั้งแต่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา

แต่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นก็ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวส์ ออกมาประท้วง

ในที่สุดทางการมิสซูรี ก็ได้สั่งให้กองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติของรัฐมิสซูรี ทำการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง จนนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ว่าทำรุนแรงไปหรือไม่





ล่าสุด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาตอบโต้ว่า นี่เป็นเรื่องภายในของสหรัฐฯ



จากเหตุการณ์นี้ เราได้ข้อคิดอะไร ?

เรื่องแรกคือ ความรู้สึกเหยียดผิวยังมีฝังอยู่ในใจชาวสหรัฐฯ เพราะตำรวจยิงคนผิวสีทีไร ก็จะเกิดปัญหาประท้วงทำนองนี้ทุกครั้ง

และพอนานาชาติออกมาวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ กรณีสลายการชุมนุม

สหรัฐอเมริกาก็ถึงกับให้โฆษกกระทรวงต่างประเทศ ออกมาแถลงทันทีว่า นี่คือเรื่องภายในของสหรัฐฯ

คือทีเรื่องของชาติอื่นสหรัฐอเมริกาเสือกได้ แต่พอเรื่องของตัวเองก็ห้ามคนอื่นยุ่ง !!

ประเทศไทยคนไทยเราไม่เคยกีดกันหรือเหยียดผิว เหยียดชนชาติใด ใครรักเมืองไทย คนไทยเราก็พร้อมต้อนรับเสมอ

ทำให้มีคนต่างชาติอยากมาอยู่เมืองไทยกันมากมาย จริงไหม ?

แต่พวกเลว ๆ พยายามจะหลอกให้คนไทยโง่ ๆ หลงเชื่อว่า ประเทศไทยเรามีการแบ่งแยกชนชั้นเป็นอำมาตย์ เป็นไพร่



----------------

ล่าสุด เริ่มมีชาวอเมริกันบางส่วนหันมาเข้าข้างตำรวจ และบริจาคเงินช่วยเหลือตำรวจผู้นั้นเนื่องจากถูกพักงาน เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาทแล้ว




วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตำรวจวังทองหลางเกรงใจคนรวย ปรับรถวอลโว่จอดหน้าโรงเรียนแค่ 100 เดียว







จากกรณี ผู้หญิงเจ้าของรถวอลโว่มารับลูก แล้วจอดรถหน้าโรงเรียนอุดมศึกษา แต่เธอจอดรถในช่วงเวลาห้ามจอด ตั้งแต่ 15.00 - 20.00 น. แถมเธอยังเข้าเกียร์ P เอาไว้ด้วย

แล้วรถวอลโว่คันนี้ ก็โดนตำรวจล็อคล้อรถ แล้วเจ้าของรถ เธอก็ได้เขียนป้ายกระดาษด่าตำรวจติดไว้รอบรถของเธอ สุดท้ายกลายเป็นประจานตัวเองตามที่สื่อได้ลงในหลาย ๆ สื่อไปแล้ว












ผู้หญิงเจ้าของรถวอลโว่คันเจ้าปัญหา




เจ้าของรถเข้าเกียร์ P เอาไว้ ทำให้ตำรวจมาลากรถไปไม่ได้
ซึ่งกรณีโดนลากรถ ต้องโดนปรับ 1 พันบาท




ประมวลภาพ เจ้าของรถ วอลโว่ v70 ทะเบียน ฌฐ-2857 กทม. (ใส่เสื้อสีเหลือง กระโปรงสีเทา ใส่แว่นดำ สะพายกระเป๋าหลุยส์) จอดรถผิดกฎหมาย คาไว้หน้าโรงเรียนอุดมศึกษา กีดขวางการจราจร เมื่อเวลา 16.00 น.วันที 15 ส.ค.57 และถูกตำรวจจราจร สน.วังทองหลาง ล็อคล้อ ปรากฎเมื่อเจ้าของรถกลับมาที่รถ ไม่พอใจ ได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเขียนข้อความติดที่รถของตนตามภาพ

----------------

ตำรวจวังทองหลาง เกรงใจคนรวย

สุดท้ายตำรวจ สน.วังทองหลางปรับเจ้าของรถแค่ 100 บาทเท่านั้น จากรายงานข่าวของรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ของสรยุทธ



ทีคนจนหรือคนทั่วไป โดนปรับในเกณฑ์ทั่วไปคือ 200 บาท (อัตราปรับไม่เกิน 500 บาท)

แถมกรณีถ้าโดนล็อคล้อ ต้องโดนปรับ 500 บาทเป็นอย่างต่ำ

แต่ถ้าโดนลาก ก็ต้องโดนปรับอย่างน้อย 1000 บาท คือรวมค่าปรับ 500 บาท กับค่าลากรถ 500 บาท แต่ก็ลากไปไม่ได้เพราเธอเข้าเกียร์ P เอาไว้

แต่สุดท้ายรถวอลโว่คันนี้ ตำรวจดันปรับแค่ 100 บาทเท่านั้น แถมรถคันนี้ติดป้ายกระดาษด่าตำรวจรอบคัน ซึ่งถือว่า ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งหน้า มีหลักฐานคาหนังคาเขา ถือเป็นคดีอาญาได้เลย

ซึ่งความผิดดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ปญ.มาตรา136  มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แต่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ทำใจดีไม่เข้าท่า !! ปรับไปแค่ร้อยเดียว !!

ส่วนรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ของสรยุทธ ก็เหมือนเดิม พลางใบหน้าและพลางทะเบียนรถวอลโว่คันนี้ตามฟอร์ม

แทนที่จะช่วยประจานคนสันดานไม่ดี เพื่อเป็นตัวอย่างให้คนทั่วไปเห็นว่า ทำแบบนี้ไม่ดี จะถูกประจาน จะได้ไม่กล้าทำ จะได้เกรงกลัวการทำความผิด เพื่อเป็นการรักษากติกาที่ดีของสังคม

และรูปทั้งหมดก็เป็นรูปที่ตำรวจ บก.จร.บก.02 โพสเองทั้งนั้น ไม่เห็นจะต้องไปกลัวอะไรเลยที่จะเปิดเผยใบหน้า แต่สรยุทธก็ไม่กล้า !!

-------------

ตำรวจเพิ่งปรับข้อหาไม่พกใบขับขี่แค่เรื่องเดียว

ล่าสุดวันนี้ (17 สิงหาคม 2557) เฟซบุ๊ก ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร - บก.02 ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงจากข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า

จากกรณีมีข่าวแพร่ในโลกโซเชียลว่าหญิงคนนี้ถูกปรับเป็นเงิน 100 บาทในข้อหาล็อกล้อนั้น จากการตรวจสอบกับสารวัตรจราจร สน.วังทองหลาง ทราบรายละเอียดว่า วันเกิดเหตุ น.ส.นภัสกร (หญิงที่จอดรถผิดกฎหมายตามภาพ) ได้เข้ามาพูดคุย พร้อมแจ้งว่าตนเองเป็นซิงเกิ้ลมัม ต้องเลี้ยงลูก 5 คน ด้วยตัวคนเดียว และมีเงินติดตัวอยู่เพียง 100 บาท เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจใบอนุญาตขับขี่ เพื่อออกใบสั่ง แต่ น.ส.นภัสกร อ้างว่าไม่พกใบอนุญาตขับขี่ติดตัวมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปรียบเทียบปรับ น.ส.นภัสกร เป็นเงิน 100 บาท ในข้อหา "ไม่พกใบอนุญาตขับขี่ติดตัวขณะขับรถ"

เรื่องนี้ยังไม่จบ หญิงคนนี้ ต้องถูกดำเนินคดี ในข้อหา ถูกล็อคล้อ ปรับ 1,000 บาท และ ข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่ ที่มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน สองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 136 ซึ่งเจ้าหน้าทีตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป




ถ้าผมไม่เขียนด่า คนไทยคนอื่น ๆ ไม่เขียนด่าตำรวจ ป่านนี้ตำรวจคงเงียบไม่ดำเนินคดีต่อไปแล้วมั้ง ??

แต่ปรับข้อหาไม่พกใบขับขี่ 100 เดียว ก็เท่ากับเลือกปฏิบัติเช่นกัน เพราะคนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่พกใบขับขี่ยังโดนปรับ 200 เลยครับ

และถ้าตำรวจเรียก เจ้าของวอลโว่มาดำเนินคดีอื่น ๆ ต่อจริง ก็ควรต้องแจ้งข่าวให้สาธารณะชนรับทราบด้วย ไม่อย่างนั้นผมจะถือว่า ตำรวจหมกเม็ด!!

(หมายเหตุ เจ้าของรถคันนี้ขับรถวอลโว่ มีลูก 5 คน ส่งเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดัง อ้างว่า มีเงินติดตัวแค่ 100 เดียว แุถมอ้างว่าตนจน เพราะเป็นซิงเกิ้ลมัม ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว 5 คน)

---------------------

เจ้าของรถวอลโว่ สันดานที่เคยทำมานาน

ผมมั่นใจว่า เจ้าของรถวอลโว่คันนี้ ถ้าขนาดติดป้ายด่าตำรวจได้ขนาดนี้ เธอต้องเคยอวดเบ่งในที่อื่น ๆ กับคนอื่น ๆ ต่อหน้าลูกของตัวเองบ่อย ๆ แน่นอน

แต่กลับมีพวกโลกสวยบอกว่า อย่าไปประณามเขานักเลย กลัวลูกของผู้หญิงคนนี้จะอาย จะกระทบไปถึงเด็ก

นี่แหละ เพราะอ้างว่ากลัวกระทบเด็ก เลยทำให้พวกพ่อแม่รังแกฉัน ทำนิสัยเลว ๆ ต่อหน้าลูก แล้วก็จะเป็นตัวอย่างเลว ๆ ให้ลูกมีพฤติกรรมเลว ๆ ตามพ่อแม่ต่อไปได้ เพราะเห็นพ่อแม่ทำจนเคยชิน เช่น คนรวยเบ่งจนคนจนหงอ

ถ้าใครไม่อยากให้ลูกอาย ก็อย่าทำ

และคนอื่น ๆ ก็ควรดูเป็นตัวอย่างว่า ถ้าไม่อยากให้ลูกของตนเองโดนประณามที่หลังก็อย่าอวดเบ่งกร่างแบบนี้ในสังคม

แต่สื่อกลับเกรงใจ ตำรวจก็เกรงใจคนรวยเหมือนเดิม !!


คลิกอ่าน สรยุทธ ช่วยปกปิดหน้าจาคนขับรถวีออสสันดานเลว

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

นักศึกษากราบเท้าป๋าเปรม กับความโง่ของพวกแดงล้มเจ้า






หลังจากบิ๊กตู่ กล่าวบนเวทีปฏิรูปเดินหน้าประเทศไทยว่า ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีระบบศักดินา ไม่มีไพร่ ไม่มีอำมาตย์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้วนั้น

ซึ่งไอ้พวกแดงส่วนใหญ่มันคงโง่ไม่รู้ความหมายคำว่า ศักดินา แหง ๆ ผมเชื่อเช่นนั้น งั้นพวกมึงก็ไปหาความหมายของคำว่า ศักดินา เสียก่อนนะ

ต่อมาไอ้พวกควายแดง ก็ไปขุดรูปเก่าของป๋าเปรม มาเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยรูปนี้



การที่นักศึกษาจะกราบเท้าผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ทำคุณแก่ประเทศชาติ ซึ่งเป็นถึงรัฐบุรุษและประธานองคมนตรี ก็ไม่เห็นแปลกอะไร


คือพวกแดงล้มเจ้าพยายามจะเสียดสีประเด็นไพร่ อำมาตย๋ ด้วยการใช้รูปนักศึกษากราบป๋าเปรม กับการใช้คำว่า "ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น" ที่บิ๊กตู่ใช้

ตรรกะนี้ ใคร ๆ ก็มองออกว่า พวกแดงล้มเจ้าพยายามจะใช้เรื่องการกราบ มาเทียบเคียงว่า ยังมี ไพร่ อำมาตย์ 

ซึ่งก็คงมีแต่พวกแดงล้มเจ้าหน้าโง่ก็ยังชอบที่เชื่อตรรกะโง่ ๆ แบบนี้ได้ต่อไปเสมอ ๆ

เฮ่อ.. ไอ้พวกแดงล้มเจ้าเนี่ยมันเกิดมาหนักแผ่นดินแท้ ๆ

ปกติของผู้มีจิตใจดีย่อมไม่ดูถูกวัฒนธรรมประเพณีของชาติใด ๆ เพราะแต่ละประเทศก็ย่อมมีขนบธรรมเนียมประเพณีและประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่แตกต่างกันไป ผู้มีความเจริญในจิตใจย่อมไม่ดูถูกวัฒนธรรมประเพณีของผู้อื่นหรือของชาติอื่น

แล้วถ้าเป็นคนในประเทศตัวเอง แต่กลับดูถูกวัฒนธรรมของชาติตัวเอง แบบนี้ต้องถือว่าเป็นพวกจิตใจเลวทรามขนานแท้ ๆ เช่นพวกแดงล้มเจ้า เป็นต้น

พ่อแม่ของคนพวกนี้ได้พวกสัตว์นรกส่งมาเกิดในท้องโดยแท้

อย่างประเพณีวัฒนธรรมไทย เราให้ความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เป็นเรื่องสำคัญมาก

ถ้าเราเคารพใครมาก ๆ เคารพเปรียบเสมือนพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเรา หรือเป็นผู้มีพระคุณต่อตัวเราอย่างสูง หรือเป็นผู้ทำคุณงามความดีต่อประเทศชาติอย่างสูง เราก็สามารถก้มกราบเท้าบุคคลผู้นั้นได้ นี่คือ วัฒนธรรมที่งดงามในเอเซีย ที่คนหลายชาติเขาก็กระทำกัน

อย่างเช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ก็มีประเพณีคุกเข่าก้มหัวลงแนบพื้นในการทำความเคารพ ซึ่งถือเป็นการเคารพสูงสุด

ทีนี้มาดูรูปแรก เช่น เก่ง การุณ ลาบวช ก็ยังไปลา ด้วยการกราบเท้าสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์เลย



ก็คนเขาเคารพนับถือกันมาก เขาก็กราบเท้ากันได้


หรือจะเป็นรูปเสื้อแดง ไปรอรับทักษิณที่สนามบินพนมเปญ พอทักษิณลงมาจากเครื่องบิน เสื้อแดงคนหนึ่งก็รีบก้มกราบเท้าทักษิณเหมือนกัน



หรือขนาดเสื้อแดงหรือ สส. เพื่อไทยก็ไม่แน่ใจ ที่ไปเขมร พอเจอฮุนเซ็น ก็จะรีบก้มกราบเท้าฮุนเซ็นเลย

แต่ดีที่ฮุนเซ็นรีบรับไหว้ไว้ก่อน ไม่งั้นคงได้กราบแทบเท้าฮุนเซ็นแน่นอน




ไอ้พวกแดงล้มเจ้า แม่งก็ขยันโพสแต่รูปนักศึกษาก้มกราบเท้าป๋าเปรมรูปด้านบนสุดกันเหลือเกิน

ทั้ง ๆ ที่รูปกราบเท้าคนอื่น ๆ เช่นที่ผมนำมาให้ดูก็มีอีกมากมาย พวกแดงเสือกไม่เอามาโพสบ้าง

ถ้าเราเคารพใครเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือมาก ๆ  ก็ไหว้ได้ จะกราบเท้าก็ได้ ไม่แปลก

แต่ไอ้การที่คุยไปด้วย พนมมือไปด้วยแบบไอ้เก่งกระทำกับยิ่งลักษณ์ ทั้งที่เป็นสามัญชนเหมือนกันแบบนี้มันออกแนวขี้ข้ากับนายหญิงแล้วครับ 555



แต่รูปสาวเสื้อแดงนี่สิ ท่าทางรักเคารพทหารมากจริง ๆ เลยนะ



ไอ้พวกแดงล้มเจ้า จิตใจมันต่ำเสื่อมดูถูกแม้กระทั่งประเพณีวัฒนธรรมชาติตัวเอง

ไอ้พวกนี้ยังเฮฮาได้ต่อไป เพราะมันไม่รู้หรอกว่า พอถึงเวลาที่มันต้องตาย พวกล้มเจ้าแม่งได้ตายพิสดารเสมอ ๆ จะมารู้ตัวเอาตอนตายนั่นแหละว่า ตัวมันเลว

แต่พวกล้มเจ้าบางตัวก็ไม่ทันรู้ตัวตอนจะตาย หรือสำนึกผิดได้ตอนจะตายหรอก เพราะความตายมาเร็วมาก พวกมันจะไปรู้ตัว ก็ตอนอยู่ลงนรกไปแล้วนั่นแหละ 555


คลิกอ่าน ความโง่ของพวกล้มเจ้า ประเด็นในหลวงทรงสนับสนุน คสช.





วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ความโง่พวกล้มเจ้า ในประเด็น ในหลวงทรงสนับสนุน คสช.







พอดีผมไปเจอความเห็นเลว ๆ ของพวกล้มเจ้าบางคนที่เข้าไปแสดงความเห็นในเพจของกำนันสุเทพ ซึ่งตอนนี้ท่านบวชเป็นพระอยู่

ผมเห็นคนชั่วเข้าไปด่าพระสุเทพ แบบหยาบคายมากมาย ซึ่งผมก็ไม่อยากไปโต้เถียงอะไร ถ้าคนชั่วมันคิดว่ามันทำถูกที่ด่าพระ ก็รับบาปกรรมกันไป

เพราะความจริงกำนันสุเทพหรือพระสุเทพ ก็ยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหาในคดีกบฎเท่านั้น และมีโอกาสชนะคดีจากข้อกล่าวหาของพวกรัฐบาลเก่ามากด้วยซ้ำ ตามที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้ในบทความเก่า

แต่ผมต้องมาสะดุดที่ความเห็นเลวของไอ้พวกล้มเจ้าคนหนึ่ง ซึ่งที่ผมจะต้องมาเขียนบทความนี้ ก็เพื่อได้จะอธิบายให้ผู้คนที่อาจไม่เข้าใจหลักกฎหมายได้เข้าใจให้ถูกต้อง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของไอ้พวกล้มเจ้าที่มันหลงคิดว่า ตัวเองฉลาด

ซึ่งมันดูเหมือนจะฉลาดนะ แต่ความจริงแม่งฉลาดแต่เรื่องโง่ ๆ ต่างหาก

ดูความเห็นของมันก่อน มันชื่อ ไอ้อิทธิพล สุขแป้น







แล้วผมเลยถือโอกาสไปด่าสั่งสอนมันพอหอมปากหอมคอ ตามนี้


ที่จริงผมด่าแค่นี้ คนฉลาดเขาอ่านปุ๊บก็เข้าใจทะลุปรุโปร่ง แต่ผมอยากจะเขียนบทความนี้เพื่อให้ความรู้คนอื่น ๆ เพิ่มเติม

ซึ่งไอ้เลวชื่ออิทธิพล สุขแป้น มันได้แสดงความเห็นที่หมิ่นเหม่ผิด มาตรา 112 เป็นอย่างมาก ผมจึงตัดเอาบางส่วนมาลงเท่านั้น ถ้าหน่วยงานรัฐสนใจจะไปเอาผิดมัน ก็ไปหาความเห็นของไอ้นี่ได้ที่รูปในเพจของกำนันสุเทพ คลิกที่นี่

แม้แต่ที่เฟสบุ๊คของมัน ชื่อ อิทธิพล สุขแป้น ก็แสดงความเห็นหมิ่นตามมาตรา 112 ชัดเจน

-----------

ก่อนอื่นที่มึงปกป้องอยู่นั้น ปกป้องอะไร ? ปกป้องรัฐธรรมนูญ หรือ ปกป้องรัฐบาลรักษาการ หรือปกป้องประชาธิไตย ? หรือแอบอ้างประชาธิปไตยแต่แฝงล้มสถาบัน ?

มึงต้องตอบประเด็นนี้ให้ชัดเสียก่อย

ถ้าตอบว่า มึงบอกว่าปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง มึงก็โง่แล้วล่ะ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกยุบสภาไปแล้ว (เป็นแค่รัฐบาลรักษาการ สถานะเปลี่ยนไปแล้ว)

ที่ คสช. ล้มนั้น คือล้มรัฐบาลรักษาการ ที่หมดความชอบธรรมมาแล้วในหลายเรื่อง ตั้งแต่ยังไม่ยุบสภาจากกระทำการผิดรัฐธรรมนูญเองในหลายมาตรา

ตัวอย่างเช่นเรื่อง นโยบายรับจำนำข้าว ซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์กระทำผิด รธน. มาตรา 43 คือ การที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ผูกขาดทางการค้าข้าวเสียเอง

เพียงแต่ช่องทางร้องเรียนเอาผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์เรื่องนี้ ในรัฐธรรมนูญ 2550 มีความบกพร่อง ทำให้ไม่มีข่องทางให้ยื่นร้องเอาผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดชัดเจน นี่ก็คือข้อบกพร่องของ รธน. 2550

ซึ่งเคยมีอาจารย์จากนิด้าไปยื่นต่อ ศาล รธน. แต่ท่านวสันต์ อดีต ประธานศาล รธน. เคยให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ว่า ศาล รธน. รู้ทั้งรู้ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ผิดประเด็นมาตรา 43 แต่ใน รธน.50 ไม่มีช่องที่ให้ศาล รธน. รับเรื่องนี้ไว้ได้

รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 43 ห้ามการผูกขาดการค้า

คลิกที่รูปเพื่อขยาย



ดังนั้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่างหากที่เป็นกบฏ  มานานแล้ว และพอยิ่งลักษณ์ยุบสภา ก็เท่ากับว่า ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกต่อไป (เหลือแค่สถานภาพรัฐบาลรักษาการตามรัฐธรรมนูญ)

แถมการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยิ่งลักษณ์มีความผิด รวมทั้งการที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มันก็เท่ากับได้เป็นหมดความเป็นรัฐบาลไปนานแล้ว

คลิกอ่าน สุญญากาศทางการเมืองเกิดขึ้นแล้วตามมาตรา 171 

คลิกอ่าน ดูชัด ๆ ครม.ยิ่งลักษณ์ตายไปพร้อมยิ่งลักษณ์แล้วตามมาตรา 180 


ถ้ามึงบอกว่า มึงปกป้องประชาธิปไตย มึงก็โง่อีกนั่นแหละ

เพราะผู้ที่ทำลายประชาธิปไตยจริง ๆ ไม่ใช่ คสช. แต่เป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่างหาก

มึงคงคิดสิว่า การยึดอำนาจมันทำกันง่าย ๆ ?

ถ้าเหตุผลไม่เพียงพอ คสช. ก็ยึดอำนาจไม่สำเร็จหรอก แต่เพราะรัฐบาลที่มีอยู่มันเลวเกินเยียวยาแล้วต่างหาก

เมื่อองค์ประกอบความชั่วของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ครบสมบูรณ์ คสช. ถึงได้ทำสำเร็จได้โดยง่าย

---------------------

ประเด็นแรก 

ก่อนอื่นทุกคนต้องรู้ก่อนว่า ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 8 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้

ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยที่มีกฎหมายปกป้ององค์ประมุข ในทวีปยุโรปที่มีพระมหากษัตริย์ ก็มีกฎหมายปกป้ององค์พระประมุขแบบนี้เช่นเดียวกัน

ไอ้ชั่วอิทธิพลเนี่ย ในเมื่อมึงอยากปกป้องรัฐธรรมนูญ แล้วมึงเคยเคารพในหลวงตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับหรือไม่ ?

จากความเห็นเลว ๆ ของมัน เห็นได้ชัดว่า มันไม่ได้เคารพองค์ประมุขของชาติเลย เพราะถ้ามันต้องการปกป้องและเคารพรัฐธรรมนูญจริง ๆ มันจะไม่แสดงความเห็นเลว ๆ แบบนี้แน่นอน

เพราะไอ้อิทธิพล สุขแป้น มันคือ แดงล้มเจ้าสายจักรภพ เพ็ญแข

ไอ้อิทธิพล สุขแป้น ถ่ายรูปกับอีเพ็ญ จักรภพ


--------------

ประเด็นที่สอง องค์พระประมุข ทรงอยู่เหนือการเมือง

องค์พระประมุขทรงอยู่เหนือการเมือง และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งใด ๆ ทางการเมืองทั้งสิ้น

ฉะนั้น เรื่องการแย่งชิงอำนาจระหว่างทหาร กับนักการเมือง มันเป็นเรื่องของสามัญชนที่ต้องต่อสู้และตัดสินกันเอง ซึ่งองค์พระประมุขจะไม่ทรงเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น

ไม่ว่าใครจะแย่งชิงอำนาจการปกครองรัฐด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม ในหลวงต้องทรงอยู่เหนือความขัดแย้งในการแย่งชิงอำนาจของทุกกลุ่มทั้งสิ้น

ฉะนั้นจะมาอ้างว่า ที่ทหารก่อการรัฐประหารสำเร็จ เป็นเพราะในหลวงลงพระปรมาภิไธยรับรองนั้นไม่ได้!!


เมื่อใครมีอำนาจได้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ในหลวงก็ทรงลงพระปรมาภิไธยไปโดยปราศจากความเห็นส่วนพระองค์ที่จะนำไปสู่ขัดแยังกับทุกกลุ่มอำนาจทั้งสิ้น เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง

ตามหลักการของโลกนี้ ผู้ชนะในการยึดอำนาจก็ได้เป็นรัฎฐาธิปัตย์ ส่วนผู้แพ้ในการยึดอำนาจก็คือกบฎ เป็นแบบนี้เหมือนกันทั่วโลก

ในหลวงไม่ได้มีพระราชอำนาจใด ๆ ในทุกรัฐธรรมนูญที่มากำหนดว่า ในหลวงต้องมีหน้าที่ขัดขวางผู้ก่อการรัฐประหาร นั่นเพราะในหลวงทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง

เข้าใจนะไอ้พวกโง่

ถ้ามึงอยากจะให้ คสช. เป็นกบฎ มึงก็ออกมารบเอาชนะ คสช. สิวะ นั่นแหละหนทางปราบกบฎที่ถูกต้องตามหลักการแย่งชิงอำนาจ

แม้แต่คณะราษฎร์ 2475 ก็ยึดหลักการนี้ในการปฏิวัติยึดอำนาจ

เพราะเมื่อคณะราษฎรปฏิวัติ !!  ในหลวงรัชกาลที่ 7 ก็ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญที่คณะราษฎร์ทูลเกล้าฯ เช่นกัน

ถ้าพวกมึงยังตีความคำว่า ในหลวงทรงอยู่เหนือการเมือง ไม่ได้
ก็จงโง่ต่อไปนะ ไอ้โง่อิทธิพล สุขแป้น และไอ้พวกล้มเจ้าหน้าโง่ทั้งหลาย

----------------------


ในบทความของเปลวสีเงิน ตอน 'เผด็จการ-ปชต.' อยู่ร่วมได้ไหม?

ที่ป๋าเปลว ได้เขียนเล่าถึงอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ก็เคยทำงานให้จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เหมือนกัน

ผมก็ได้ไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับคณะราษฎร์ และ คสช. ไว้ตามนี้



-------------------

ประเด็นที่ 3 กฎหมายอาญาจะใช้กับองค์พระประมุขไม่ได้

ไอ้ล้มเจ้าคนนี้มันอ้างถึง กฎหมายอาญามาตรา 113 และ 114 ข้อหากบฏ ที่เกี่ยวกับการล้มล้างรัฐธรรมนูญ และการล้มอำนาจนิติบัญญัติมีความผิดโทษฐานกบฏ แล้วจะมาบอกว่า ในหลวงทรงกระทำผิดกฎหมายอาญา 2 มาตรานี้นั้น

ประมวลกฎหมายอาญา

หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร


มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ

(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต

มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี



แต่ในรัฐธรรมนูญทุก ๆ ฉบับ ได้เขียนใน มาตรา 8 ไว้ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้

ดังนั้น กฎหมายอาญาทุกมาตราก็จะมาละเมิดพระมหากษัตริย์ไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด สูงกว่ากฎหมายอาญาทุกฉบับ

แม้แต่คณะราษฎร์ ก็กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2475 ในมาตรา 3 เช่นกันว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะมาละเมิดมิได้

และใน รธน. 2475 มาตรา 7 พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป ฯ ย่อมดำรงอยู่ในฐานะเหนือการเมือง

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



ส่วนการล้มล้างรัฐธรรมนูญ และเรื่อง กบฏ นั้น ก็เป็นเรื่องของสามัญชนจะตัดสินกันเองว่า ใครคือ รัฎฐาธิปัตย์ ใครคือ กบฎ

ถ้า คสช. ล้มรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเก่าทิ้งสำเร็จ  คสช. ก็ได้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ถ้า คสช. ก่อการไม่สำเร็จ คสช. ก็กลายเป็นกบฎ

ส่วนการลงพระปรมาภิไธยของในหลวง ก็เสมือนเป็นแค่จารีตประเพณีเท่านั้น

ถ้าคณะรัฐประหารทุกคณะ จะไม่ให้ในหลวงลงพระปรมาภิไธยก็ได้

แต่เพราะ คสช. เทิดทูนองค์พระประมุขของชาติ แม้จะมีรัฐธรรมนูญหรือไม่มีรัฐธรรมนูญก็ตาม พระมหากษัตริย์ก็ทรงเป็นพระประมุขของชาติ และทรงอยู่เหนือการเมืองเช่นเดิม

ไม่เหมือนไอ้พวกล้มเจ้าหรอก ถ้าพวกมันเขียนรัฐธรรมนูญเองได้ มันก็คงไม่ให้มีสถาบันกษัตริย์เพื่อทรงเป็นประมุขของชาติต่อไปแน่นอน เพราะมันอยากเปลี่ยนประเทศเป็นระบอบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข จริงไหมไอ้พวกชั่ว!!

ซึ่งถ้าใครคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อไปเป็นสาธารณรัฐนั้น นั่นแหละ คือล้มล้างการปกครอง ล้มล้างรัฐธรรมนูญที่แท้จริง ถือเป็นกบฏที่แท้จริง

ส่วน คสช. แค่รัฐประหารรัฐบาลเก่า เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่ได้คิดล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแต่อย่างใด

แต่เป็นเพียงเข้ามายึดอำนาจชั่วคราว เพื่อวางระเบียบใหม่ให้ประชาธิปไตยไทยเป็นของประชาชนมากขึ้น แน่นอนพวกที่เกลียดทหาร เกลียดรัฐประหารย่อมไม่ชอบใจเป็นธรรมดา

ในเมื่อ คสช. ฉีกรัฐธรรมนูญสำเร็จ เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญแล้ว คสช. ก็คือ รัฏฐาธิปัตย์ มีอำนาจแทนรัฐธรรมนูญชั่วคราว

ดังนั้นกฎหมายอาญาในมาตรา 113-114 ที่มีไว้ปกป้องรัฐธรรมนูญ  ก็จะแปรเปลี่ยนเป็นใครคิดล้ม คสช. ก็คือ กบฏ แทน





ถามว่า คสช. กระทำการรัฐประหารนั้นผิดไหม ?

แน่นอน ถ้ายึดกันตามหลักการในระบอบประชาธิปไตยก็ถือว่า ผิด

แต่ที่ทำผิดนั้นเพราะมีเหตุจำเป็นที่ต้องกระทำ

นั่นเพราะรัฐบาลรักษาการ นั้นได้หมดความชอบธรรมลงแล้วโดยสิ้นเชิง จากการ กระทำผิดรัฐธรรมนูญ 2550 ในหลายมาตรา

รัฐบาลรักษาการ ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นกบฏต่อรัฐธรรมนูญโดยแท้จริง

คสช. ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการ ไม่ใช่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง


เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็น กบฏ
คสช. ทำรัฐประหารล้มรัฐบาลกบฎยิ่งลักษณ์สำเร็จ
คสช.จึงไม่ใช่ กบฏ !! แต่ คสช. เป็นรัฏฐาธิปัตย์


รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 มาตราม 48 ได้นิรโทษกรรม คสช. ไว้




ถ้าใครคิดจะปกป้องประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ ก็ต้องอย่าให้นักการเมืองขาดธรรมาภิบาลในการปกครองประเทศ

เพราะหน้าที่ปกป้องประชาธิปไตยเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน ไม่ใช่เป็นหน้าที่ขององค์พระประมุขของชาติ

แต่ไอ้พวกล้มเจ้ามันคิดจะโยนภาระในการปกป้องประชาธิปไตยไปให้องค์พระประมุขแทน มันสมควรแล้วเหรอ ?

นั่นเพราะพวกล้มเจ้ามันชั่ว ต้องการกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

ในหลวงทรงเป็นองค์พระประมุขอยู่ในฐานะเป็นที่เคารพสักการะ ไม่ใช่ผู้ที่จะต้องมาเกลือกกลั้วกับการแย่งชิงอำนาจของพวกนักการเมืองและทหาร

เข้าใจไหม ไอ้พวกล้มเจ้าหน้าโง่ !!


---------------------

แผ่นดินไทยนี้เป็นของใคร ?

คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!

http://imgur.com/5Tc06lk

พระราชวังบวรสุรสีหนาท ก่อนเข้าตีค่ายพม่าที่ทุ่งลาดหญ้า ในศึกสงคราม ๙ ทัพ

“พวกเจ้าเป็นไพร่หลวง ข้าเป็นพระราชวงศ์ แต่เจ้ากับข้าเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเราเป็นคนไทย เป็นเจ้าของแผ่นดินเหมือนกัน รบวันนี้เราจะแสดงให้ผู้รุกรานเห็นว่าเราหวงแหนแผ่นดินแค่ไหน รบวันนี้เราจะไม่กลับมาค่ายนี้อีกจนกว่าจะขับไล่ศัตรูไปพ้นชายแดน ข้าจะไม่ขอให้พวกเจ้ารบเพื่อใคร นอกจากรบเพื่อแผ่นดินของเจ้าเอง แผ่นดินที่เจ้ามอบให้ลูกหลานของเจ้าได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุขสืบไป”


คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!



คลิกอ่าน ทำไมทหารต้องฆ่าประชาชนที่โดนหลอกมาตาย ตอนจบบทสรุป



เมื่อแดงตอแหล กริชสุดา ลืมลบไลน์







ที่จริงผมก็ไม่รู้จักเสื้อแดงหญิงคนนี้หรอก แต่สื่อก็ออกข่าวเอิกเกริก จนมันดัง

ชื่ออะไรนะ กริชสุดา คุณะแสน เสื้อแดงที่กล่าวหาว่า คสช. ทำร้ายร่างกายขณะควบคุมตัวเธอ

รายละเอียดคุณผู้อ่านคงพอจะทราบกันอยู่แล้ว แต่พอดีในโซเชียลเน็ตเวิร์คเขาบอกให้ช่วยแชร์กันหน่อยถึงหลักฐานที่นังคนนี้ตอแหลไว้

นั่นคือ มันตอแหลตามคำสั่งนาย (นายไหนหว่า?)

แล้วมันดันลืมลบไลน์ ตามนี้



"นายชมนะว่า เนียนดี" (ตอแหลเนียนดี)

"เดี๋ยวไว้กลับมา นายคงตบรางวัลให้อย่างงาม" (ตอนนี้ถ้านายเจอมึง คงได้ตบบ้องหูมึงแน่!)


เป็นไงล่ะ เห็นรึยังว่า ไม่มีเสื้อแดงคนไหนที่ไม่ตอแหล 555555

รอดูต่อไปว่า เมื่อไลน์ที่ไม่ได้ลบถูกแฉออกมาแบบนี้ มันจะออกมาแก้ตัวว่าอย่างไร ?

อยากให้เรื่องไลน์หลุดไปถึงยูเอ็นจังเลย เห็นยูเอ็นเรียกร้องให้ทางการไทยสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า นังเสื้อแดงคนนี้ถูกซ้อมจริงหรือไม่ ?




โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ OHCHR ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในกรุงเจนีวาเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.57) ว่า

OHCHR มีความกังวลต่อการจับกุมและควบคุมตัวนักการเมือง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ และสื่อมวลชน หลังการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาการทรมาน “กริชสุดา คุณะแสน” แนวร่วมนปช.ขณะถูกคสช.ควบคุมตัว

"เรามีความกังวลต่อวิธีการจับกุมและการควบคุมตัวนักการเมือง นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ และสื่อมวลชน ที่เกิดขึ้นภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม" ราวินา แชมดาซานี โฆษก OHCHR ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในกรุงเจนีวา

OHCHR เป็นห่วงว่าจะมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน การทรมานและการปฏิบัติที่ไม่ดีต่อบุคคลที่ถูกควบคุมตัวโดยไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้"

ข้อเรียกร้องของ OHCHR มีขึ้นภายหลังจากที่น.ส.กริชสุดาให้สัมภาษณ์ในรายการ Thai Voice Media ที่เผยแพร่ทางยูทูปเมื่อวันเสาร์ที่ 2 ส.ค.57 ว่าเธอถูกคสช.ควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.-24 มิ.ย. โดยเธออ้างระหว่างที่ถูกคุมตัวนั้น เธอถูกปิดตาและถูกซ้อมหลายครั้ง รวมทั้งหมดสติหลังจากถูกพลาสติกคลุมหัว

"ทางการไทยควรดำเนินการสอบสวนข้อกล่าวหาอย่างละเอียดโดยคณะกรรมการสอบสวนที่เป็นอิสระ" โฆษก OHCHR กล่าว

"และถ้าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นจริง ผู้กระทำผิดจะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ"

---------------------

เฮ่อ.. พวกล็อบบี้ยิสต์ของนาย.. แม่งเก่งจริง ๆ ให้ยูเอ็นรับลูกทันควัน

แต่ถ้าเรื่องไลน์หลุดเป็นรื่องจริง ไอ้ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ..แต่เป็นแม่ของทักษิณ มันจะว่ายังไงนะ 5555555555

คลิกอ่าน ดูคลิปเปรียบเทียบ กริชสุดา ตอแหลหรือไม่