วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

จุดเริ่มต้นคดีหมอหยองแอบอ้างเบื้องสูง







ทำไมอยู่ ๆ จึงเกิดการกวาดล้างขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงของคดีหมอหยอง

เบื้องลึกคดีนี้ เพราะหมอหยองมันโลภมากเกินเหตุ ไปแอบอ้างเบื้องสูงขอเงินจากเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ บิ๊กบอสเครือซีพี จำนวน 100 ล้านบาท อ้างว่าจะนำมาช่วยในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ และปั่นเพื่อพ่อ (เพราะหมอหยองเป็นต้นคิดโครงการนี้ขึ้นมา)

เจ้าสัวยังไม่ได้ให้เงินหมอหยองไป แต่ก็ให้บริษัทซีพีช่วยเหลือกิจกรรมไปพอประมาณ

แต่เจ้าสัวยังเกิดทะแม่ง ๆ เกิดข้อสงสัยว่า หมอหยองมาไถเงินโดยแอบอ้างเบื้องสูงนับ 100 ล้าน มันมีพิรุธ น่าจะเป็นเรื่องผิดปกติ และมันชักมากเกินไป

เจ้าสัวธนินท์เลยไปแจ้งความในทางลับ เพื่อให้ตำรวจและทหาร ช่วยทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง

นี่แหละครับ จุดเริ่มต้นของการกวาดล้างขบวนการหมอหยอง

หมอหยองมันได้คืบจะเอาศอก โลกมากเกินไป แถมโลภมากกับมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทย

ระดับเจ้าสัวนี่ไม่ใช่กระจอกนะครับ เจ้าสัวนี่ระดับเซียน ทำให้มองออกว่า หมอหยองมันโกหก

เมื่อเจ้าสัวธนินท์เจอแบบนี้ ก็เรื่องใหญ่สิครับ

เพราะไอ้หมอหยองมันโลภมากเลยลาภหาย และนี่ไม่ใช่คดีแรกที่หมอหยองแอบอ้าง แต่ที่ผ่าน ๆ มา เหยื่อที่ถูกหลอกจากขบวนการหมอหยองไม่ใหญ่จริงและไม่กล้าพอเท่ากรณีเจ้าสัวธนินท์

คดีนี้จึงต้องขอบคุณเจ้าสัวธนินท์ จริง ๆ







แน่นอน คดีแบบนี้เข้าทางพวกล้มเจ้าอย่างสมศักดิ์เจียมให้ได้โจมตีสถาบัน ฯ

สุดแต่คนจะคิดไป

แต่เคยมีนายตำรวจท่านนึงบอกผมเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วว่า มันมีขบวนการที่จะไม่ให้มีรัชกาลที่ 10

เพราะรัชกาลปัจจุบัน พวกมันบอกล้มยาก จึงได้มีข่าวลือมากมายมาหลายปีเพื่อทำลายพระบรมฯ แทน

----------------------------

มูลเหตุอีกเรื่องที่ว่ากันว่า เป็นต้นเหตุของคดีปรากรม หมอหยอง

คือหมอหยองแอบอ้างเบื้องสูง ได้จัดงานขอบคุณผู้ที่ร่วมบริจาค

เรื่องนี้ ถ้ามองในแง่ความเป็นไปได้ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของคดีนี้ก็เป็นไปได้ครับ

ขบวนการนี้มี พ.ต.ต.ปรากรม เป็นหัวโจก ที่ผูกคอตายไปแล้วในเรือนจำ

ซึ่งทางตำรวจจึงบอกว่า ต้องเรียกคดีนี้ว่า คดีปรากรม กับพรรคพวก

ยังมีรูปในงานที่หมอหยองแอบอ้างว่า เป็นงานขอบคุณผู้บริจาค ผมเห็นแล้ว แต่ไม่ขอลงรูปนะครับ เดี๋ยวจะมีความผิด

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ

คลิกอ่าน หมอหยองตายเพราะติดเชื้อในกระแสเลือดไม่แปลก

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เหตุผลที่ดาราโพสรูปขวดเบียร์ กระทำผิดกฎหมายทุกคน






นับตั้งแต่วันแรกที่ได้ยินข่าวว่า มีดาราหรือดีเจคนดังหลายคน โพสรูปขวดเบียร์ลงอินสตาแกรม

ผมก็คิดว่า ก็ไม่น่าจะมีดรามาอะไรยืดยาว เพราะถึงไม่รู้กฎหมาย ก็ควรรู้โดนสามัญสำนึกว่า มันผิดกฎหมายแน่นอนทุกคน แต่กลายเป็นว่า กลายเป็นเรื่องยากจนตำรวจไทยมึน !!

ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว แต่ตำรวจไทยกลับยังดำเนินคดีใครไม่ได้สักคน

ยิ่งถ้าใครได้อ่าน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 และประกาศของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว

ยิ่งเห็นชัดเจนว่า ดาราทุกคนที่ตกเป็นข่าวโพสรูปขวดเบียร์กระทำผิดกฎหมายทุกคน  โดยตำรวจไม่ต้องถามไปว่า มีเจตนาหรือไม่ ?

เพราะถ้าตำรวจอ่านกฎหมายแตก ก็จะรู้ว่าในหลักกฎหมายถือว่า ดาราที่โพสรูปขวดเบียร์มีเจตนากระทำผิดกฎหมายทุกคน

แปลง่าย ๆ คือ ผิดกฎหมายเต็ม ๆ เรียกดำเนินคดีได้ทันทีทุกคน

แต่ตำรวจไทยตอนแรกก็ทำแกล้งโง่ เหมือนพวกเกรงใจดารา ตีความกำกวม รวมถึงรองนายกฯ ที่ชื่อ ประจิน จั่นตอง ที่ไม่รู้กฎหมายจริง แต่เสือกรีบให้ความเห็นโง่ ๆ

ทำนองว่า มีดาราบางคนผิด บางคนก็ไม่ผิด ถุย !!!

บิ๊กตู่ ควรปลด ตาประจิน ออกเถอะ แกเหมาะไปเลี้ยงหลานที่บ้านได้แล้ว อยู่ให้เปลืองเงินเดือนภาษีชาติเปล่า ๆ

--------------------

ตีความ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 32

มาตรา 32 "ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม

การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้ เฉพาะการให้ข้อมลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น

เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเท่านั้น ทั้งนี้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง"



ในมาตรา 32 ประโยคแรก หมายถึง  ห้ามมิให้ผู้ใด ซึ่งหมายถึง ห้ามทุกคนโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรง หรือโดยอ้อม

กรณีดาราโพสรูปขวดเบียร์ แม้ดาราจะไม่ได้อวดอ้างสรรพคุณ แต่ถือว่าเป็นการชักจูงผู้อื่นดื่ม โดยเฉพาะมีคำว่า "โดยอ้อม" นี่แหละ ที่ไม่อาจปฏิเสธความผิดของดาราได้เลย



ในมาตรา 32 ประโยคที่ 2 หมายถึง ถ้าจะโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอออล์ จะต้องโฆษณาเชิงสร้างสรรค์สังคมเท่านั้น และต้องไม่ให้เห็นตัวสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

ดาราที่โพสรูปขวดเบียร์ จึงเข้าข่ายความผิดกฎหมายเต็ม ๆ เพราะขวดเบียร์จัดเป็นตัวสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ แม้จะโพสโดยไม่เห็นยี่ห้อเบียร์ก็ตาม แต่ถ้าผู้ดูรูปดูรู้ว่านั่นคือ ขวดเบียร์ หรือบรรจุภัณฑ์เบียร์ ก็เข้าข่ายความผิดกฎหมายเต็ม ๆ

อย่ามาแก้ตัวว่าผมไม่ได้เจตนา เพราะผมไม่รู้กฎหมาย
หรืออย่ามาแก้ตัวว่าโฆษณาช่วยเพื่อน

เพราะทั้ง 2 อย่าง ผิดกฎหมายทั้งหมด ผิดโดยไม่ต้องมีใครมาจ้างโพส
โพสเองฟรี ๆ ก็ผิดกฎหมายเต็ม ๆ


ถ้าให้ยกตัวอย่างโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำถูกกฎหมาย ก็ให้ไปดูโฆษณารีเจนซี่ทุกชุด เป็นตัวอย่าง

เพราะโฆษณาเขาจะไม่ให้เห็นตัวสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์เลย แต่ตอนจบโฆษณาอาจปิดท้ายด้วยตัวหนังสือ ยี่ห้อรีเจนซี่ เท่านั้น

แต่สังเกตโฆษณาชุดหลัง ๆ จะมีแต่ปรากฎชื่อบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น

--------------------------------------------

และเพื่อให้การดำเนินการในการบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตามมาตรา 32 หมวดที่ 4 เรื่องการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย และเพื่อประโยชน์สาธารณะในการป้องกันการริเริ่มดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ของเยาวชนและประชาชนทั่วไป อันเนื่องจากโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนเพื่อให้การดำเนินการตามกฎหมายเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ออกแนวทางปฏิบัติถึงการกระทำที่มีลักษณะส่อหรือแสดงให้ เห็นว่า มีเจตนาที่จะโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 32 ดัง ต่อไปนี้

(1) โฆษณาที่ทำให้เกิดทัศนคติว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ประสบ ความสำเร็จทั้งทางสังคมและทางเพศหรือทำให้สมรรถนะทางร่างกายดีขึ้น

(2) การโฆษณาที่ชักจูง เชิญชวน หรือโน้มน้าวให้ซื้อหรือบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ 

(3) โฆษณาใช้ดารา นักร้อง นักกีฬา ผู้ใช้แรงงาน ผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมหรือเด็ก อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้แสดงแบบโฆษณาโดยถือสถานภาพการเป็นดารานักร้อง นักแสดง ณ วันที่ออกอากาศเป็นครั้งแรก

(4) การโฆษณาที่ใช้ภาพการ์ตูน

(5) การโฆษณาที่มีการปรากฎภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ 

(6) การโฆษณาที่มีลักษณะ แถมพก หรือให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือมีการให้ ของแถม

(7) การโฆษณาที่มีลักษณะอวดอ้างสรรพคุณ คุณประโยชน์ หรือคุณภาพของ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

(8) การโฆษณาอื่น ๆ ที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน การโฆษณาที่สามารถกระทำได้โดยผู้ผลิตจะต้องไม่ขัดต่อแนวปฏิบัติข้างต้น และให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสาร และความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ยี่ห้อ) หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม แอลกอฮอล ์นั้นเท่านั้น ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆที่มีผลใช้บัง คับในปัจจุบันด้วย


-------------------------------

จากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ ให้จะดูอย่างไรว่า มีเจตนาโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

พวกดาราที่โพสรูปขวดเบียร์ เข้าข่ายความผิดว่ามีเจตนาโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชัดเจน ก็คือความผิด ในข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 5 ข้อ 8 อย่างชัดเจน

โดยเฉพาะในข้อ 3  เขาห้ามอย่างเด็ดขาดว่า พวกดารา นักร้อง ผู้มีชื่อเสียงในสังคม ห้ามเด็ดขาดที่จะโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

ฉะนั้น ตำรวจเรียกดาราที่โพสรูปขวดเบียร์มาดำเนินคดีได้ทุกคน เพราะมีความผิดชัดเจนว่า มีเจตนาโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

-------------------

พงศพัศ มั่วกฎหมายรึเปล่า

พอดีเห็นข่าวว่า พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ ออกมาให้ข่าวว่า "ได้รับรายงานจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ทราบว่า มีนักแสดงและบุคคลมีชื่อเสียง เบื้องต้น จำนวน 24 คน มีการโพสต์ภาพถ่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ตามมาตรา 26 มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกทั้ง 24 คน เข้าพบเจ้าหน้าที่"

ที่มาข่าว คลิกที่นี่

ผมว่า ท่านพงศพัศ มั่วกฎหมายแล้วครับ เพราะกรณีดาราโพสรูปขวดเบียร์ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับมาตรา 26 ตรงไหนเลย เพราะมาตรา 26 มีดังนี้



กรณีดาราโพสรูปขวดเบียร์ มีความผิดตามมาตรา 32 ครับผม ท่านพงศพัศ

---------------------

อัตราโทษผู้ที่กระทำผิดตามมาตรา 32

มาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ


คุณผู้อ่านคิดว่า ดาราพวกนี้ ควรโดนปรับสักเท่าไหร่ดี ???

ปรับเงินจากจำนวนไลค์ แล้วคูณด้วย 10 ดีไหม ?? (แต่ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท)


วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ชัยชนะของพลเอกประยุทธ์ ต่อสหรัฐอเมริกา








พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและภริยา ถ่ายรูปกับ นายบารัค โอบามา และภริยา

ซึ่งเป็นรูปถ่ายอย่างเป็นทางการ จากงานเลี้ยงรับรองโดยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ช่วงประชุมสหประชาชาติ

จากรูป เราจะเห็นว่า ทั้งนายบารัค และนางมิเชล แสดงออกทางสีหน้าและภาษากายว่า อยากจะเป็นมิตรกับไทยมาก ๆ

ในขณะที่นายกฯ ประยุทธ์ และภริยา ยังสงวนท่าทีไม่ยิ้มจนออกหน้าออกตามากเกินไป

------------

พวกเสื้อแดงโง่ ๆ จำนวนมาก ออกมาถากถางว่า พวกสลิ่มด่าสหรัฐฯ ด่าโอบามา แล้วทีนี้ทำมาดีใจที่ประยุทธ์ได้ถ่ายรูปกับโอบามา

นั่นคือ มุมมองของพวกปัญญาทึบอย่างพวกเสื้อแดง ที่ไม่รู้จักเรื่อง "นโยบายวางตัวเป็นกลางต่อชาติมหาอำนาจของไทย" ซึ่งไทยเราปฏิบัติแบบนี้มานานแล้ว มันคือเรื่องหลักการถ่วงดุลและคานอำนาจต่อชาติมหาอำนาจของประเทศไทย

ไม่ใช่เปิดเผยแบบแก้ผ้าหมดเปลือก ไม่รักษากริยารักนวลสงวนตัว ราวกับเชื้อเชิญสหรัฐอเมริกาให้มาเชยชมลิ้มลองเต็มที่ เหมือนอย่างที่อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงไทยเคยกระทำ


แต่ถ้ามองแบบกลยุทธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ นี่คือ ชัยชนะของพลเอกประยุทธ์ ที่มีต่อทางการสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน

เพราะตั้งแต่มีการรัฐประหาร คสช. ในช่วงแรก ๆ รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีท่าทีต่อต้านการรัฐประหารครั้งนี้อย่างชัดเจน ถึงขนาดทูตคริสตี้ เคนนีย์ หมดวาระการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแล้ว

ทางการสหรัฐอเมริกา ก็ยังไม่ส่งเอกอัครราชทูตคนใหม่มาทำหน้าที่แทนทันที แต่กลับส่งแค่อุปทูตมาทำหน้าที่แทนชั่วคราว

นั่นคือการลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทยของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อรัฐบาล คสช.

แต่รัฐบาล คสช. ก็ไม่หวั่น ยังยืนยันว่า นี่คือความจำเป็นที่ต้องทำรัฐประหาร เป็นการทำเพื่อชาติ

จนกระทั่งรัฐบาล คสช. ได้รับการยอมรับจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้

ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่า ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เขาถือว่า เป็นลูกหม้อสหรัฐอเมริกา ที่คอยถ่วงดุลอำนาจของจีน และเกาหลีเหนือ ให้สหรัฐอเมริกาในภูมิภาคนี้

แถมต่อมามหาอำนาจอย่าง จีน  รัสเซีย และอินเดีย ก็ยังแสดงความเป็นมิตรที่ดีกับรัฐบาล คสช. อีก

ก็เท่ากับว่า ไทยเราไม่จำเป็นต้องง้อสหรัฐอเมริกาเท่าไหร่แล้ว มหาอำนาจของโลกอย่าง จีน รัสเซีย อินเดีย หรือมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แถมมีศัตรูสหรัฐอเมริกาอย่าง เกาหลีเหนือ อีกด้วย ที่ร่วมกันให้การยอมรับรัฐบาล  คสช. กันทั้งหมด

นี่เท่ากับรัฐบาล คสช. คือ ช้างศึกติดปีก ทันที เรียกว่า เนื้อหอมมาก ๆ

ส่วนสหรัฐอเมริกาก็ งง เป็นอินทรีหน้ามึนไป

อะไรวะ ? ทั้ง จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยัน เกาหลีเหนือ ต่างหันมาเป็นพันธมิตรกับไทยเสียหมด  อย่างงี้ กูก็เป็นอินทรีหัวเน่าน่ะสิ

แถมเพื่อนบ้านใกล้ชิดไทยอย่างอาเซียน ก็ให้การยอมรับรัฐบาล คสช. กันหมดทุกประเทศ แล้วแบบนี้ สหรัฐอเมริกา จะทำหยิ่ง ทำเบ่งข่มไทยอีกต่อไปก็คงไม่ได้

เพราะผลประโยชน์อันหอมหวลในอาเซียน ที่สหรัฐอเมริกาหวังจะเข้ามาเขมือบยังมีอีกเยอะแยะ แถมการเปิด AEC ในปีหน้า จะยิ่งทำให้ไทยมีความสำคัญเชิงภูมิศาสตร์ในภูมิภาคมากที่สุด

ถ้าสหรัฐอเมริกาไม่รีบง้อไทย ก็ควายมะกันแล้วครับ จริงไหม 555

ส่วนพลเอกประยุทธ์ ท่านอ่านเกมขาดตั้งแต่แรกแล้วว่า ยังไง ๆ สหรัฐอเมริกาก็ต้องหันกลับมาง้อไทย เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอ้างประชาธิปไตยแบบโง่ ๆ เพื่อช่วยระบอบทักษิณและเอาใจควายแดงต่อไป

ยิ่งถ้าปล่อยให้ รัสเซีย จีน สนิทกับไทยมากเกินไป สหรัฐอเมริกาเองนั่นแหละที่จะเสียผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ไป

ในช่วงประชุม UN  อียูก็เพิ่งต่อเวลาให้ไทยจัดการปัญหาประมงเพิ่มอีก 3 เดือน ส่วนสหรัฐอเมริกา ก็ออกมาชื่นชมไทยที่จริงใจในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ แถมเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยก็เข้ามาทำหน้าที่เต็มตัวแล้ว

ทั้ง EU และ USA ต่างมีท่าทีที่ดีขึ้นต่อรัฐบาล คสช.

------------------------------

โอบามา เดินมาหาพลเอกประยุทธ์ โดยคนยืนข้าง ๆ คือ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย






ที่หน้างานเลี้ยงรับรอง ที่สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ






-----------------------------

เหนือกว่า ดีกว่า ประชานิยม คือ ประชารัฐ

"ประชานิยมมีทั้งดีและไม่ดี และเป็นเรื่องชั่วคราว เพราะการพัฒนาอย่างยั่งยืน คือ ประชารัฐ เนื่องจากเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชน"

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตร กล่าวในการประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐอเมริกา 24 กันยายน 2558 (ตามเวลาท้องถิ่น)



คุ้น ๆ ไหมครับคำว่า ประชารัฐ ?

"....เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล.."