วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พวกล้มเจ้า สาวกหงอกเจียม คือ พวกคลั่งเจียม






ผมใหม่เมืองเอก เป็นคนนึงที่เคยเข้าไปถกเถียงกับสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หรือไม่ก็ถกเถียงกับพวกสาวกหงอกเจียมที่ยังชอบตรรกะโง่ ๆ ในเฟสของหงอกเจีบม อยู่หลายหน

ทุกครั้งที่ผมเข้าไปถก นอกจากพวกล้มเจ้ามันจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ สู้ผมไม่ได้ สุดท้ายพวกนี้ก็จะงัดลูกไม้ด่ากระทบเจ้าเพื่อให้ผมโมโห หรือไม่ก็ด่าผมด้วยถ้อยคำหยาบคายเหมือนกัน

ผมเนี่ย เวลาถกเถียงกับหงอกเจียม ผมจะถกด้วยคำปกติ แต่อาจมีกระแนะแหนแซวขำ ๆ ตามสไตล์ผมบ้าง แต่ไม่มีคำหยาบคาย

โดยมากหงอกเจียมจะมาถกเถียงกับผมสักประโยคสองประโยคแล้วก็หายไป

แต่หลังจากนั้นจะมีสาวกหงอกเจียมดาหน้ามารุมผม ซึ่งผมไม่เคยหวั่น ลุยดะเหมือนกันพอหอมปากหอมคอ

แต่สุดท้าย หลังจากผมไปถกกับหงอกเจียม หรือ เถียงกับพวกสาวกกระจอก ๆ ของหงอกเจียมทีไร

เฟสบุ๊คผมจะโดยเรียกเช็คชื่อทุกทึ จนผมต้องเปลี่ยนเฟสบุ๊คใหม่มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 หน คงเพราะพวกสาวกเจียมมันคงรุมรีพอร์ตเฟสผม

ดังนั้น เดี๋ยวนี้ผมเลยเลิกไปถกเถียงกับพวกคลั่งเจียม หรือพวกคลั่งเหี้ยแล้วล่ะ

ไอ้พวกล้มเจ้าพวกนี้มันประเภท ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หาว่า คนอื่นเขาคลั่งเจ้า แต่พอใครไปแตะหงอกเจียมเข้าหน่อย พวกมันก็แห่มารุม มาด่า มากระทบเจ้าทุกครั้งเหมือนกันนั่นแหละ

1 ในตัวอย่าง พวกสาวกหงอกเจียม ที่ตัวเองหาว่า คนรักเจ้ากระแนะกระแหน แต่ตัวมันเองก็พฤติกรรมไม่ต่างกัน



คนอื่นก็แตะหงอกเจียมไม่ได้ พวกล้มเจ้าก็จะออกมาดิ้นพล่านโพสทำนองนี้บ่อย ๆ

ผมยกเอาความเห็นเฉพาะที่ไม่หยาบคายเกินไป แต่จริง ๆ พวกนี้ทั้งชั่วทั้งหยาบ

---------------


ในหลวงทรงทำประโยชน์ให้คนไทยและแผ่นดินมากมาย ทรงเป็นองค์พระประมุขของประเทศชาติ รู้จักคำว่า ประมุขของชาติ ไหม ดังนั้น ใครมาด่ามาว่าในหลวง ก็ย่อมต้องมีคนที่โกรธและทนไม่ได้


แต่ไอ้หงอกเจียมนี่สิ เคยทำประโยชน์อะไรให้แผ่นดินไหม ความรู้ที่มันมีก็เอาไว้สอนให้ลูกศิษย์สันดานเลวตามมัน ตอนนี้ก็คอยยุยงสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทยทุกวัน

หงอกเจียมไปอยู่ฝรั่งเศส รับเงินต่างชาติเลว ๆ เพื่อบ่อนทำลายประเทศชาติตัวเอง ถ้ามีคนกดไลค์เยอะ ๆ หรือมีคนอ่านเยอะ ไอ้หงอกเจียมก็จะเอายอดไลค์ ยอดคนอ่านไปเบิกเงินจากนายทุนฝรั่งที่จ้างมันทำลายชาติบ้านเกิดเมืองนอนตัวเอง

แทนที่หงอกเจียมจะอยู่ปรนนิบัติแม่บังเกิดเกล้าที่แก่มาก อายุเกือบร้อยปีแล้ว แต่หงอกเจียมกลับชอบที่จะล้มเจ้ามากกว่า

ส่วนไอ้พวกที่คลั่งเจียม ก็คือพวกที่คลั่งคนเลวหนักแผ่นดินนั่นเองครับ



พอมีคนด่าหงอกเจียม (บางคนก็ไปเตือนดี ๆ) พวกสาวกเจียมก็จะด่าหาว่าเขาคลั่งเจ้า

แล้วสาวกหงอกเจียมก็พากันไปรุมด่าเขา งั้นแสดงว่า สาวกเจียมก็คลั่งเหี้ยล่ะสิ 555

-------------------------------

เมื่อมีคนไม่เกทเจตนาบทความนี้มาถกกับผม

เมื่อปล่อยบทความนี้ไปสักชั่วโมง ก็มีคนมาถกเถียงกับผมเกี่ยวกับบทความนี้













คลิกอ่าน ในหลวง ร.๙ พระโพธิสัตว์ของผู้ป่วยโรคเรื้อน



วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ตรรกะโง่ ๆ ของ บก.ลายจุด กับกรณี โจชัวหว่อง






เป็นข่าวดังไป กรณีนายโจชัวหว่อง ชาวฮ่องกงถูกไทยส่งตัวกลับฮ่องกง จนอดไปร่วมงานกิจกรรม "40 ปี 6 ตุลา คนรุ่นใหม่มองอนาคต" ดำเนินการโดยเนติวิทย์  นิสิตปี 1 คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ

ผมบอกตรง และขอให้นิยามกรณีนี้ง่าย ๆ ว่า มันคือแผนยืมมือโจชัวหว่องด่า คสช. แน่นอน เพียงแต่ว่า ไม่ว่า โจชัวหว่อง จะได้ไปร่วมงานสัมนานี้หรือไม่ก็ตาม ทางฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยใหม่ไทย ก็มีแผน 2 รองรับไว้หมด

เช่น แผน 1 ถ้า โจชัวหว่อง ได้เข้ามาในไทย ได้พูดในงานนี้ มันต้องมีคำถามที่ชงให้มีการพูดกระทบรัฐบาลเผด็จการของไทยแน่นอน

แผน 2 แต่ถ้าโจชัวหว่อง เกิดไม่ได้เข้าประเทศไทย มันก็มีเรื่องให้ด่า ด่ากระทบเสียดสีรัฐบาลไทยอยู่ดี ตามที่เห็น ๆ กันอยู่ในตอนนี้

ดังนั้นสรุปง่าย ๆ ว่า การเชิญโจชัวหว่องมาไทย มันแค่แผนตื้นๆ ของไอ้พวกประชาธิปไตยใหม่ไทย ที่ขี้แพ้ชวนตี หลังจากพ่ายแพ้หมดรูปในการลงประชามติรับร่าง รธน. ที่ผ่านมานั่นเอง

ทีนี้มาดูตรรกะโง่ ๆ ของ บก.ลายจุด ที่แม้จะไปแชร์โพสของคนอื่นที่เขียนประชดประเทศชาติตัวเอง จากกรณี โจชัวหว่อง ไม่ได้เข้าไทย

แต่เมื่อ บก.ลายจุด แชร์มาแล้ว ก็เท่ากับ บก.ลายจุด เห็นตรงกับตรรกะโง่ ๆ นี้ เช่นกัน



ตรรกะของคุณอัฐพล ตามรูปข้างน เป็นตรรกะที่โง่และผิดพลาดอย่างมากครับ

เช่น ตรรกะแรกของคุณอัฐพล  "40 ปีที่แล้ว กลัวคอมมิวนิสต์ รังเกียจจีน โปรอเมริกัน ใส่ความนักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ..."

ที่ตรรกะนี้ผิดพลาดอย่างมาก เพราะเมื่อ 41 ปีที่แล้ว คือในปี พ.ศ. 2518 ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ  ประเทศไทยกับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ได้สถาปนาเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตต่อกันอย่างเป็นทางการไปแล้วใน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518


เติ้งเสี่ยวผิง มาต้อนรับม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงบันไดเครื่องบิน สนามบินปักกิ่ง ในคราวที่ไทยไปผูกสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี ค.ศ.1975 (พ.ศ. 2518) ถือเป็นการเปิดศักราชการทูตไทย-จีนอย่างเป็นทางการ

ที่สำคัญ ในยุคนั้นคนไทยเราไม่เคยรังเกียจคนจีนเลย แถมแอบมีการเจริญสัมพันธไมตรีอย่างลับ ๆ กับจีนแดงมาก่อน พ.ศ. 2518 อยู่แล้วด้วย เพื่อจะได้ไม่ให้สหรัฐอเมริกามาครอบงำไทยเรามากเกินไป

เพราะไทยเราดำเนินนโยบายคานอำนาจระหว่างชาติมหาอำนาจแบบนี้มาตลอดประวัติศาสตร์ประเทศไทยนั่นแหละ

ดังนั้น ที่ว่ารังเกียจจีน กลัวคอมมิวนิสต์ จึงเป็นตรรกะที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

ที่สำคัญที่สุด เหตุที่พรรคคอมมิวนิสต์ไทยต้องพ่ายแพ้ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ ประเทศจีนแดงนี่แหละครับ ที่มีส่วนช่วยเหลือไทยจนเอาชนะภัยคอมมิวนิสต์ของเวียดนามสายโซเวียตรัสเซียได้ (ใครไม่รู้เรื่องนี้ก็ไปหาช้อมูลอ่านเอาเองนะครับ)

ดังนั้น คุณอัฐพล โชว์โง่อย่างมากในประเด็นแรกนี้ครับ เพราะความจริงพวกคอมมิวนิสต์สายญวณน่ะ กลัวไทยเราต่างหาก เพราะไทยเราฉลาดกว่าเยอะ 555

ที่สำคัญ พวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยต่างหากที่วางแผนซ้อนแผนปล่อยข่าวใส่ร้ายนักศึกษาให้เป็นคอมมิวนิสต์เอง เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจผิดว่าฝ่ายรัฐใส่ร้าย ก็เพื่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยด้วยกันเองครับ


ตรรกะที่ 2 ของคุณอัฐพล คือ "40 ปีต่อมา กลัวประชาธิปไตย ฝักใฝ่จีน เหยียดอเมริกัน "

ไม่มีใครกลัวประชาธิปไตยที่แท้จริงหรอกครับ แต่รังเกียจพวกชอบแอบอ้างประชาธิปไตยหากินมากกว่า รังเกียจพวกขี้ข้านักการเมืองเหี้ย ๆ มากกว่าครับ

ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะ การจัดระเบียบทางเท้า จัดระเบียบคลองโอ่งอ่าง และที่อื่น ๆ  ถามว่า ในยุคประชาธิปไตยที่ผ่านมา เคยจัดระเบียบเรื่องพวกนี้ได้ไหม ?

ประชาธิปไตยที่พวกคุณชอบแอบอ้างน่ะ มันเป็นแค่ ระบอบส่งเสริมความไร้ระเบียบวินัยของคนไทยมากกว่าครับ

ถ้าไม่ใช่ยุค คสช. ป่าไม้ไทยคงถูกพวกนายทุนแดกเรียบไม่ยั้งต่อไปจริงไหม ? ทางเท้าก็จะเป็นของพวกแอบอ้างว่าจน หากินไปตลอดชาติจริงไหม ?

ส่วนคำว่า "ฝักใฝ่จีน เหยียดอเมริกัน" ที่คุณอัฐพล เขียน ก็มั่วอีกละ

ผมถามหน่อยว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีสถานทูตประเทศไตัหวันอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกาไหม ?  ตอบมา ?

ถ้าขนาดสหรัฐอเมริกายังไม่กล้ามีสถานทูตประเทศไตัหวันอย่างเป็นทางการ พวกคุณก็อย่ามาสะเออะดูถูกประเทศตัวเองเลยครับ ว่า "ฝักใฝ่จีน" นะ คุณ บก.ลายจุด และคุณอัฐพล

เพราะสหรัฐอเมริกาเองก็ยังไม่กล้าหือกับจีนแดงเลย

ส่วนคำว่า "เหยียดอเมริกัน" นี่ก็เป็นตรรกะที่มั่วสุด ๆ เพราะที่เขาต่อต้านสหรัฐอเมริกานั้น เขาหมายถึง ต่อต้านบทบาทบางเรื่องของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาครับ ไม่ได้ไปเหยียดชาวอเมริกัน หรือรังเกียจแผ่นดินสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด

แค่การใช้คำระหว่าง "สหรัฐอเมริกา" กับคำว่า "อเมริกัน" คุณอัฐพล ก็ยังแยกแยะไม่เป็น สมแล้วที่เป็นพรรคพวกเดียวกับ บก.ลายจุด เพราะเรื่องนี้ผมเคยเขียนรายละเอียดไว้ในบทความเรื่อง บก.ลายจุด ยังโง่เหมิอนเดิมกรณีแขวะดร.เสรี จะไปอยู่อเมริกา



ตรรกะที่ 3 ของคุณอัฐพล "นักศึกษาเชิญนักกิจกรรมจากต่างประเทศมาร่วมแสดงปาฐกถา ปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศอย่างไร้เดียงสา"

เฮ่อ.. อ้างมั่ว ๆ ได้ตลอด

จริง ๆ แล้ว ประเทศไทยเรามีสิทธิปฏิเสธการเข้าประเทศของคนบางคนได้ ตามที่มิตรประเทศร้องขอมา เพื่อรักษาความสัมพันธไมตรีอันดีกับมิตรประเทศของไทย

ส่วนในกรณี นายโจชัวหว่อง รัฐบาลไทยก็แถลงไปแล้วว่า ทางรัฐบาลจีนแดง ได้ทำหนังสือร้องขอมาไม่ให้เข้าประเทศไทย เหตุเพราะศาลฮ่องกงเคยได้มีคำตัดสินห้ามโจชัวหว่องเดินทางออกนอกประเทศ นี่จึงเป็นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และเพราะกลัวเขาจะพูดอะไรให้เสื่อมเสียไปถึงรัฐบาลจีนแดง

ถ้าอยากจะด่าเรื่องห้ามโจชัวหว่องเข้าประเทศไทย โน่นไปด่ารัฐบาลจีนโน่น ไม่ใช่มาด่าประเทศตัวเอง 

คุณรับผิดชอบไหวเหรอ หากความสัมพันธ์ไทย-จีน ต้องร้าวฉาน เพราะเรื่องแค่นี้

อย่าเห็นแก่แค่อยากด่าเผด็จการ จนลืมรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติตัวเอง

---------------------

สรุป 

พวกแอบอ้างประชาธิปไตย มันรู้จักประชาธิปไตยแต่เปลือก

ผมอยากจะบอกว่า ประเทศจีนแดง เขาก็มีเลือกตั้งเช่นกัน

แต่การเลือกตั้งของเขามีคุณภาพมากกว่าการเลือกตั้งที่พวกแอบอ้างประชาธิปไตยเคยรู้จักเสียอีก ไว้ว่าง ๆ ผมจะเล่าให้ฟัง

"ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เสื้อแดงประท้วงก็มีคนตาย 

ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ กปปส.ประท้วง ก็มีคนตาย

ถามว่า ยุค คสช. มีคนตายเพราะประท้วงรึยัง?"

คลิกอ่าน ฮ่องกงอยากได้ประชาธิปไตยจริงหรือ?