ฮาเรื่องไร้สาระบ้าง ฮาเรื่องมีสาระบ้าง กับนักการเมืองและบุคคลสาธารณะ / ใหม่เมืองเอก (akecity)
วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ตรรกะโง่ ๆ ของ บก.ลายจุด กับกรณี โจชัวหว่อง
เป็นข่าวดังไป กรณีนายโจชัวหว่อง ชาวฮ่องกงถูกไทยส่งตัวกลับฮ่องกง จนอดไปร่วมงานกิจกรรม "40 ปี 6 ตุลา คนรุ่นใหม่มองอนาคต" ดำเนินการโดยเนติวิทย์ นิสิตปี 1 คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ
ผมบอกตรง และขอให้นิยามกรณีนี้ง่าย ๆ ว่า มันคือแผนยืมมือโจชัวหว่องด่า คสช. แน่นอน เพียงแต่ว่า ไม่ว่า โจชัวหว่อง จะได้ไปร่วมงานสัมนานี้หรือไม่ก็ตาม ทางฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยใหม่ไทย ก็มีแผน 2 รองรับไว้หมด
เช่น แผน 1 ถ้า โจชัวหว่อง ได้เข้ามาในไทย ได้พูดในงานนี้ มันต้องมีคำถามที่ชงให้มีการพูดกระทบรัฐบาลเผด็จการของไทยแน่นอน
แผน 2 แต่ถ้าโจชัวหว่อง เกิดไม่ได้เข้าประเทศไทย มันก็มีเรื่องให้ด่า ด่ากระทบเสียดสีรัฐบาลไทยอยู่ดี ตามที่เห็น ๆ กันอยู่ในตอนนี้
ดังนั้นสรุปง่าย ๆ ว่า การเชิญโจชัวหว่องมาไทย มันแค่แผนตื้นๆ ของไอ้พวกประชาธิปไตยใหม่ไทย ที่ขี้แพ้ชวนตี หลังจากพ่ายแพ้หมดรูปในการลงประชามติรับร่าง รธน. ที่ผ่านมานั่นเอง
ทีนี้มาดูตรรกะโง่ ๆ ของ บก.ลายจุด ที่แม้จะไปแชร์โพสของคนอื่นที่เขียนประชดประเทศชาติตัวเอง จากกรณี โจชัวหว่อง ไม่ได้เข้าไทย
แต่เมื่อ บก.ลายจุด แชร์มาแล้ว ก็เท่ากับ บก.ลายจุด เห็นตรงกับตรรกะโง่ ๆ นี้ เช่นกัน
ตรรกะของคุณอัฐพล ตามรูปข้างน เป็นตรรกะที่โง่และผิดพลาดอย่างมากครับ
เช่น ตรรกะแรกของคุณอัฐพล "40 ปีที่แล้ว กลัวคอมมิวนิสต์ รังเกียจจีน โปรอเมริกัน ใส่ความนักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ..."
ที่ตรรกะนี้ผิดพลาดอย่างมาก เพราะเมื่อ 41 ปีที่แล้ว คือในปี พ.ศ. 2518 ก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ ประเทศไทยกับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ได้สถาปนาเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตต่อกันอย่างเป็นทางการไปแล้วใน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518
เติ้งเสี่ยวผิง มาต้อนรับม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงบันไดเครื่องบิน สนามบินปักกิ่ง ในคราวที่ไทยไปผูกสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี ค.ศ.1975 (พ.ศ. 2518) ถือเป็นการเปิดศักราชการทูตไทย-จีนอย่างเป็นทางการ
ที่สำคัญ ในยุคนั้นคนไทยเราไม่เคยรังเกียจคนจีนเลย แถมแอบมีการเจริญสัมพันธไมตรีอย่างลับ ๆ กับจีนแดงมาก่อน พ.ศ. 2518 อยู่แล้วด้วย เพื่อจะได้ไม่ให้สหรัฐอเมริกามาครอบงำไทยเรามากเกินไป
เพราะไทยเราดำเนินนโยบายคานอำนาจระหว่างชาติมหาอำนาจแบบนี้มาตลอดประวัติศาสตร์ประเทศไทยนั่นแหละ
ดังนั้น ที่ว่ารังเกียจจีน กลัวคอมมิวนิสต์ จึงเป็นตรรกะที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
ที่สำคัญที่สุด เหตุที่พรรคคอมมิวนิสต์ไทยต้องพ่ายแพ้ เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ ประเทศจีนแดงนี่แหละครับ ที่มีส่วนช่วยเหลือไทยจนเอาชนะภัยคอมมิวนิสต์ของเวียดนามสายโซเวียตรัสเซียได้ (ใครไม่รู้เรื่องนี้ก็ไปหาช้อมูลอ่านเอาเองนะครับ)
ดังนั้น คุณอัฐพล โชว์โง่อย่างมากในประเด็นแรกนี้ครับ เพราะความจริงพวกคอมมิวนิสต์สายญวณน่ะ กลัวไทยเราต่างหาก เพราะไทยเราฉลาดกว่าเยอะ 555
ที่สำคัญ พวกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยต่างหากที่วางแผนซ้อนแผนปล่อยข่าวใส่ร้ายนักศึกษาให้เป็นคอมมิวนิสต์เอง เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจผิดว่าฝ่ายรัฐใส่ร้าย ก็เพื่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนไทยด้วยกันเองครับ
ตรรกะที่ 2 ของคุณอัฐพล คือ "40 ปีต่อมา กลัวประชาธิปไตย ฝักใฝ่จีน เหยียดอเมริกัน "
ไม่มีใครกลัวประชาธิปไตยที่แท้จริงหรอกครับ แต่รังเกียจพวกชอบแอบอ้างประชาธิปไตยหากินมากกว่า รังเกียจพวกขี้ข้านักการเมืองเหี้ย ๆ มากกว่าครับ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะ การจัดระเบียบทางเท้า จัดระเบียบคลองโอ่งอ่าง และที่อื่น ๆ ถามว่า ในยุคประชาธิปไตยที่ผ่านมา เคยจัดระเบียบเรื่องพวกนี้ได้ไหม ?
ประชาธิปไตยที่พวกคุณชอบแอบอ้างน่ะ มันเป็นแค่ ระบอบส่งเสริมความไร้ระเบียบวินัยของคนไทยมากกว่าครับ
ถ้าไม่ใช่ยุค คสช. ป่าไม้ไทยคงถูกพวกนายทุนแดกเรียบไม่ยั้งต่อไปจริงไหม ? ทางเท้าก็จะเป็นของพวกแอบอ้างว่าจน หากินไปตลอดชาติจริงไหม ?
ส่วนคำว่า "ฝักใฝ่จีน เหยียดอเมริกัน" ที่คุณอัฐพล เขียน ก็มั่วอีกละ
ผมถามหน่อยว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีสถานทูตประเทศไตัหวันอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกาไหม ? ตอบมา ?
ถ้าขนาดสหรัฐอเมริกายังไม่กล้ามีสถานทูตประเทศไตัหวันอย่างเป็นทางการ พวกคุณก็อย่ามาสะเออะดูถูกประเทศตัวเองเลยครับ ว่า "ฝักใฝ่จีน" นะ คุณ บก.ลายจุด และคุณอัฐพล
เพราะสหรัฐอเมริกาเองก็ยังไม่กล้าหือกับจีนแดงเลย
ส่วนคำว่า "เหยียดอเมริกัน" นี่ก็เป็นตรรกะที่มั่วสุด ๆ เพราะที่เขาต่อต้านสหรัฐอเมริกานั้น เขาหมายถึง ต่อต้านบทบาทบางเรื่องของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาครับ ไม่ได้ไปเหยียดชาวอเมริกัน หรือรังเกียจแผ่นดินสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด
แค่การใช้คำระหว่าง "สหรัฐอเมริกา" กับคำว่า "อเมริกัน" คุณอัฐพล ก็ยังแยกแยะไม่เป็น สมแล้วที่เป็นพรรคพวกเดียวกับ บก.ลายจุด เพราะเรื่องนี้ผมเคยเขียนรายละเอียดไว้ในบทความเรื่อง บก.ลายจุด ยังโง่เหมิอนเดิมกรณีแขวะดร.เสรี จะไปอยู่อเมริกา
ตรรกะที่ 3 ของคุณอัฐพล "นักศึกษาเชิญนักกิจกรรมจากต่างประเทศมาร่วมแสดงปาฐกถา ปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศอย่างไร้เดียงสา"
เฮ่อ.. อ้างมั่ว ๆ ได้ตลอด
จริง ๆ แล้ว ประเทศไทยเรามีสิทธิปฏิเสธการเข้าประเทศของคนบางคนได้ ตามที่มิตรประเทศร้องขอมา เพื่อรักษาความสัมพันธไมตรีอันดีกับมิตรประเทศของไทย
ส่วนในกรณี นายโจชัวหว่อง รัฐบาลไทยก็แถลงไปแล้วว่า ทางรัฐบาลจีนแดง ได้ทำหนังสือร้องขอมาไม่ให้เข้าประเทศไทย เหตุเพราะศาลฮ่องกงเคยได้มีคำตัดสินห้ามโจชัวหว่องเดินทางออกนอกประเทศ นี่จึงเป็นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง และเพราะกลัวเขาจะพูดอะไรให้เสื่อมเสียไปถึงรัฐบาลจีนแดง
ถ้าอยากจะด่าเรื่องห้ามโจชัวหว่องเข้าประเทศไทย โน่นไปด่ารัฐบาลจีนโน่น ไม่ใช่มาด่าประเทศตัวเอง
คุณรับผิดชอบไหวเหรอ หากความสัมพันธ์ไทย-จีน ต้องร้าวฉาน เพราะเรื่องแค่นี้
อย่าเห็นแก่แค่อยากด่าเผด็จการ จนลืมรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติตัวเอง
---------------------
สรุป
พวกแอบอ้างประชาธิปไตย มันรู้จักประชาธิปไตยแต่เปลือก
ผมอยากจะบอกว่า ประเทศจีนแดง เขาก็มีเลือกตั้งเช่นกัน
แต่การเลือกตั้งของเขามีคุณภาพมากกว่าการเลือกตั้งที่พวกแอบอ้างประชาธิปไตยเคยรู้จักเสียอีก ไว้ว่าง ๆ ผมจะเล่าให้ฟัง
"ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เสื้อแดงประท้วงก็มีคนตาย
ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ กปปส.ประท้วง ก็มีคนตาย
ถามว่า ยุค คสช. มีคนตายเพราะประท้วงรึยัง?"
คลิกอ่าน ฮ่องกงอยากได้ประชาธิปไตยจริงหรือ?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น