วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พลเอกประยุทธ์ต้องปกป้องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เอาผิดธัมมชโย







เห็นล่าสุด ท่านนายกฯ ได้พูดว่า เรื่องของพระก็ให้พระตัดสิน เรื่องความเชื่อความศรัทธาบังคับกันไม่ได้

ท่านพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้พระที่มีอำนาจตัดสิน ได้ถูกอามิสสินจ้างจากธัมมชโยครอบงำไปหมดแล้ว ถ้าใครอยากศรัทธาธัมมชโยไม่ได้ห้ามครับ แต่อย่ามาแอบอ้างใช้พุทธศาสนาบังหน้าสิครับ




ผมขอถามว่า พลเอกประยุทธ์ ท่านเคยอ่านพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช แล้วหรือยัง ?

พระลิขิต 26 เมษายน 2542 ทรงวินิจฉัยแล้วว่า ธัมมชโยปาราชิก


แต่เมื่อกรรมการมหาเถรสมาคมในขณะนั้นยังข้องใจ ยังชักช้า ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้

สมเด็จพระญาณสังวร จึงทรงมีพระลิขิตมาอีก 2 ฉบับเพื่อย้ำอีก2 ครั้ง ว่าพระองค์ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายและอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโดยสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว

พระลิขิตลงวันที่ 1 พ.ค. 2542


"ในกรณีเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้

ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดี ด้วยมีกตัญญกตเวทิตาธรรม" 

ลงพระนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปริณายก



พระลิขิตต่อมาคือ พระลิขิตลงวันที่ 10 พ.ค. 2542 ให้สังเกต สมเด็จพระสังฆราชใช้คำว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย




"ได้แจ้งให้เป็นที่เข้าใจชัดเจนดีทั่วกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าในตำแหน่งผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย สมบูรณ์ที่สุดแล้วตามอำนาจ 

ท่านกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งหลายจะทำอะไรต่อไปตามความต้องการ จะไม่มานั่งรับรู้รับฟังในที่ประชุมวันนี้ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2542" 

ลงพระนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปริณายก


คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://imgur.com/7BjpM3z,98EAfkb#0
หมายเหตุ พระลิขิตมีทั้งหมด 5 ฉบับแบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้

เนื่องจากกรรมการมหาเถรสมาคมในขณะนั้น พ.ศ. 2542 ก็คงไม่ต่างจากมหาเถรสมาคมในยุค 2558 เท่าไหร่นัก คือคงมีอำนาจเงินของธัมมชโยเข้ามาง้างความเห็นกรรมการ มส. ไว้ได้หลายรูปทีเดียว อย่างเช่น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ก็เป็น 1 ในกรรมการ มส. ในตอนนั้น

จนต้องมีพระลิขิตฉบับที่ 10 พ.ค. 2542 ของสมเด็จพระสังฆราช ทรงเขียนมาย้ำชัดว่า ธัมมชโย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไปแล้ว และพระองค์ได้ทำหน้าที่ในการเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย

เมื่อสมเด็จพระสังฆราช ได้ย้ำ 2 ประเด็นสำคัญนี้แล้ว จึงทำให้มหาเถรสมาคมต้องได้มีมติ 16/2542 อย่างเป็นทางการเพื่อรับรองพระลิขิตทั้ง 3 ฉบับ คือรับรองฉบับเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2542 ที่ได้ทรงวินิจฉัยว่า ธัมมชโย ได้ปาราชิกแล้ว รวมทั้งรับรองพระลิขิตฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 2542 และ 10 พฤษภาคม 2542 ด้วยดังนี้

เอกสารมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 16/2542


หมายเหตุ เลขา ฯ สมเด็จพระสังฆราช ได้ส่งพระลิขิตไปให้มหาเถรฯ  โดยใช้คำว่า พระวินิจฉัย แต่มหาเถร ฯ ไปแปลงใหม่เป็นคำว่า พระดำริ เพื่อเลี่ยงบาลี เพื่อจะอ้างว่าพระลิขิตเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น


มติมหาเถรสมาคมครั้งที่ 16/2542 ได้รับรองพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 3 ฉบับ ตามที่ผมนำมาให้ดู

มติมหาเถรสมาคมครั้งที่16/2542 ได้รับรองพระลิขิตทั้ง 3 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราชว่า ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม 

"...ที่ประชุมรับทราบพระดำริสมเด็จพระสังฆราชมาทั้งหมด มหาเถรสมาคมมีมติสนองพระดำริโดยตลอดให้ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และเห็นสมควรส่งเรื่องให้ฝ่ายสังฆการดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมต่อไป"

ลงชื่อ นายประยูร รักยิ้ม 
(ที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม)

---------------------

เมื่อได้อ่านพระลิขิตทั้งสามฉบับของสมเด็จพระสังฆราช แล้ว ท่านนายกฯ ประยุทธ์คิดยังไงครับ ?

แต่มติมหาเถรสมาคมจากรรมการ มส. ทั้ง 12 รูป เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นมติมหาเถรสมาคมอย่างเป็นทางการ เพราะไม่ได้มีการออกเป็นหนังสือราชการลงครั้งที่ และ พ.ศ.

รุปคือ พระลิขิตทั้ง 3 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นกฎหมายแล้ว จะต้องปฏิบัติตาม ไม่อาจฝ่าฝืนพระลิขิตได้อีก

ถ้าท่านนายกฯ ประยุทธ์ ต้องการปกป้องพระลิขิตและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ก็ควรถอดผ้าเหลืองสมีธัมมชโยทันที


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทรงพระราชทานน้ำสังข์เพื่อถวายการแต่งตั้งแก่สมเด็จพระญาณสังวร เป็นสมเด็จพระสังฆราชอย่างถูกต้องตามโบราณราชพิธีแล้ว


ใครอยากดูคลิปในหลวงพระราชทานน้ำสังข์แก่สมเด็จพระญาณสังวร แล้วสมเด็จพระญาณสังวรทรงนำน้ำขึ้นมาลูบพระเศียรของพระองค์ คลิกที่นี่


ในขณะที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เพราะเป็นผู้มีสมณศักดิ์สูงสุดและอาวุโสที่สุดในกรรมการมหาเถรฯ ขณะนั้น จนได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (จึงมีพระเสื้อแดงออกมาปกป้อง)



ดังนั้นท่านนายกฯ ประยุทธ์ อย่าให้ มติอย่างไม่เป็นทางการของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ที่แค่มาทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มาทำลายพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชซึ่งถูกต้องตามกฎหมายได้ครับ



ถ้ายุค คสช. นี้ยังไม่สามารถเอาผิด ถอดผ้าเหลืองสมีธัมมชโยได้

แสดงว่า พลเอกประยุทธ์ ล้มเหลวในการปฏิรูปประเทศชาติโดยสิ้นเชิง เพราะสถาบันหลักของชาติ คือ ศาสนา ถูกย่ำยีเพราะโจรในผ้าเหลืองไปแล้ว

-------------------

เมื่อสมัยทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ ขึ้นเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ท่ามกลางเสียงคัดค้านมากมาย แต่ก็ไม่เป็นผล

ต่อมาเมื่อธัมมชโยคืนทรัพย์ให้แก่วัดพระธรรมกาย อัยการสูงสุดจึงถอนฟ้อง แล้วมหาเถรสมาคมในยุคสมเด็จเกี่ยว ก็คืนความเป็นพระและตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายให้แก่ธัมมชโย

พอมองภาพออกไหมครับ ??


คลิกอ่าน เอาผิดทางกฎหมายกรรมการ มส. 12 รูป ขัดพระลิขิต

คลิกอ่าน ถอดผ้าเหลิองธัมมชโย สมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำต้องแสดงความรับผิดชอบ (ดู กม.สงฆ์สมัยรัชกาลที่1)

คลิกอ่าน 2558 ถึงยุคเสื่อมมหาเถรสมาคม กรณีอุ้มสมีไชยบูลย์ (ดูความเสื่อมของโฆษกกรรมการเถรสมาคม)



วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ถอดผ้าเหลืองธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดปากน้ำต้องแสดงความรับผิดชอบ







ตงฟางปุกป้าย แห่งลัทธิจานบิน

วานนี้ 18 ก.พ. 2558 คณะกรรมการปฏิรูปแนวทางพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธาน ได้เชิญผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาชี้แจง ประกอบหลักฐานต่างๆ จำนวนมาก

ในที่สุดที่ประชุมมีมติชี้ว่า ธัมมชโยเป็นปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุตามพระลิขิตสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบต้องบังคับการให้เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคม

ต่อมาในวันเดียวกัน รายการ ตอบโจทย์ ทางไทยพีบีเอส ก็ได้เชิญนายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธาน กมธ.ศาสนา.สปช. และนายสันติสุข โสภณศิริ กรรมการที่ปรึกษามูลนิธืเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป มาร่วมรายการเพื่อพูดถึงการปาราชิกของธัมมชโย

ซึ่งผมจะขอสรุปความเห็นของผู้ร่วมรายการทั้งสองท่านให้คุณผู้อ่านได้เห็นคร่าว ๆ แต่ที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษคือความเห็นของคุณสันติสุข โสภณศิริ ที่มีข้อน่าสนใจอย่างมาก

ก่อนอื่นขอสรุปความเห็น คุณไพบูลย์ นิติตะวันก่อน


http://imgur.com/tbrRwuQ,taacYXK,V7vhi3P,KqwQ5SS#0
คุณไพบูลย์ จะพูดถึงพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีทั้งหมด 5 ฉบับที่เกี่ยวกับการปาราชิกของธัมมชโย

โดยใน 2 ฉบับแรกเป็นพระลิขิตที่ไม่เป็นทางการ แต่อีก 3 ฉบับต่อมาเป็นพระลิขิตที่เป็นทางการ ซึ่งมหาเถระสมาคมก็มีมติรับรองพระลิขิตทั้ง 3 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราชว่า เป็นจริง และถูกต้องตามกฎหมาย ถูกต้องตามกฎมหาเถรสมาคม และถูกต้องตามพระธรรมวินัยแล้ว

ซึ่งคุณไพบูลย์ ได้อธิบายว่า การปาราชิกของธัมมชโยในตอนนั้น มีทั้งสิ้น 2 เรื่องคือ

1. เรื่องบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นเหตุให้สงฆ์แตกแยก เข้าข่ายอนันตริยกรรมมีความผิดขั้นปาราชิก

2. เรื่องยักยอกที่ดินของวัดมาเป็นของตน จึงเป็นเหตุให้ปาราชิก แม้ภายหลังธัมมชโยจะนำที่ดินคืนวัดแล้วก็ตาม แต่ไม่อาจลบล้างความผิดฐานปาราชิกได้ เพราะกฎหมายทางโลกกับพระธรรมวินัย เป็นคนละส่วนกัน

ส่วนร่วมฟอกเงินหรือยักยอกเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก็เป็นความผิดหลังปาราชิกไปแล้ว

คุณไพบูลย์ เน้นว่า พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชมีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ว่า ธัมมชโยได้ปาราชิกขาดความเป็นพระไปแล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาในการไปถอดผ้าเหลืองธัมมชโยออกเลย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ที่วงการสงฆ์ไทยไม่กล้าไปเอาผิดโทษปาราชิกกับธัมมชโย

ซึ่งตอนนี้ทาง คณะกรรมการปฏิรูปฯ ก็รอว่า ทางมหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งถ้าถอดผ้าเหลืองธัมมชโยไม่ได้ สงสัยคงต้องถึงขั้นปฏิรูปมหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศานาครั้งใหญ่ไปด้วย

------------------------

ความเห็นของคุณ สันติสุข โสภณศิริ ซึ่งน่าสนใจมาก



คุณสันติสุข โสภณศิริ กรรมการที่ปรึกษามูลนิธืเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ผู้ร่วมรายการอีกท่าน ได้แสดงความเห็นอย่างน่าสนใจมาก โดยคุณสันติได้ยกกฎหมายตรา 3 ดวง ในสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสิทร์ ซึ่งพระองค์ได้ทรงตรากฎหมายตรา 3 ดวงที่ทรงนำแบบอย่างมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยา มาใช้เพื่อปกป้องและบำรุงกิจแห่งพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมถอย

สมดั่งโคลงกลอนขององค์ปฐมกษัตริย์ตั้งแต่เริ่มตั้งราชธานี คือ "ตั้งใจจะอุปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา..."

ซึ่งคุณสันติ เล่าว่า สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ต้องปาราชิก มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


ซึ่งมีกรณีตัวอย่างของ สมีรัก หรืออดีตพระรัก วัดบางหว้าใหญ่ ที่คล้ายกับกรณีของธัมมชโย

คือพระรักได้รับของมีค่าจากผู้หญิง แล้วนำไปเก็บไว้เป็นของตน แต่ภายหลังโดนจับได้ พระรักจึงรีบคืน แล้วอ้างว่า ตนไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อคืนไปแล้วก็แค่อาบัติปาจิตตีย์เท่านั้น แต่ทางการและกฎหมายบ้านเมืองตัดสินว่า ไม่ใช่แค่อาบัติปาจิตตีย์ แต่เป็นอาบัติปาราชิก

เพราะการที่พระยึดเอาของมีค่าเกิน 5 มาสก ไว้กับตนเองเกิน 10 วัน แล้วไม่คืนให้แก่วัดและส่วนกลาง ย่อมถือเป็นอาบัติปาราชิก (ส่วนธัมมชโยยึดที่ดินเป็นของตนเองร่วม 10 ปี)

แต่เนื่องด้วยเพิ่งตั้งราชธานีใหม่ ๆ  สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจึงทรงละเว้นโทษประหารชีวิตให้สมีรัก แต่ให้สมีรักออกจากความเป็นพระแล้วถูกเฆี่ยนตามกฎหมาย และถูกสักที่หน้าว่าปาราชิก จะได้ไม่ไปบวชที่ใดได้อีก

คุณสันติ ยังเล่าอีกว่า สมัยรัชกาลที่ 1 แม้พระจะอาบัติปาจิตตีย์เล็กน้อย แต่ถ้ากระทำผิดเป็นประจำ ก็จับสึกได้เช่นกัน ซึ่งก็คงเหมือนในสมัยนี้ที่ถ้าเจอพระดื่มเหล้า ซึ่งอาบัติปาจิตตีย์เท่านั้น ก็จะถูกจับสึกเลย

แต่บางคนได้อาบัติปาราชิกในยุคนี้แล้ว แต่กลับไม่มีใครไปจับถอดผ้าเหลือง ??

ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจที่สุดที่คุณสันติ เล่าไว้ก็คือ คณะกรรมการมหาเถรสมาคมเป็นพระระดับพระราชาคณะ ต่างมีอาวุโสทั้งสิ้น ไม่เคยรู้เลยหรือว่าธัมมชโยปาราชิกนานแล้ว แต่กลับร่วมกันปกปิดไม่กระทำการใด ๆ ซึ่งถือว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถ้าเป็นในสมัยรัชกาลที่ 1 พระที่เป็นคณะกรรมการมหาเถรสมาคมก็จะถือว่ามีความผิดร่วมกันด้วย

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

กฎพระสงฆ์ฉบับที่ 3 เน้นเรื่องพระอุปัชฌาย์ที่อุปสมบทให้แก่ศิษย์ แต่กลับปล่อยปละละเลยให้ศิษย์ไปกระทำผิด ก็เข้าข่ายละเว้นหน้าที่ ถือว่ามีความผิดร่วมกัน

ในเรื่องอวดอุตริมนุสธรรมนั้น สำหรับสมีธัมมชโย ก็เคยโอ้อวดคุณธรรมวิเศษเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่มีการเอาผิด

---------------------

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากนำ มีความผิดร่วมกันกับธัมมชโยหรือไม่ ?

แล้วสมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ผู้ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นประธานมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง และเข้าเป็นคณะกรรมการมหาเถรสมาคมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2538 เท่ากับว่า สมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำได้รู้เห็นในพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวรฯ สมเด็จพระสังฆราช มาตั้งแต่ต้น

แล้วแบบนี้ สมเด็จมหารัชมังคลาจารย์สมควรมีความผิดร่วมกับธัมมชโยหรือไม่ ?

จากกฎพระสงฆ์ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2326 ด้วยเหตุที่ สมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำเป็นพระอุปัชฌาย์ของธัมมชโย แถมยังเคยมอบพัดยศเลื่อนสมณศักดิ์ให้ธัมมชโย จากพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ขึ้นเป็นพระเทพญาณมหามุนี เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 จึงเท่ากับสมรู้ร่วมคิดให้ท้ายธัมมชโยด้วยหรือไม่ ?


วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระที่พระเทพญาณมหามุนี

ทั้ง ๆ ที่ ธัมมชโยได้ปาราชิกไปตั้งแต่พ.ศ. 2542 แล้ว แต่ พ.ศ.2554 กลับยังได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์อีก เท่ากับเป็นการหลอกลวงเบื้องสูงหรือไม่ ??

หากการเลื่อนสมณศักดิ์ของธัมมชโย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ถามว่า สมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ยังสมควรปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราชอยู่ต่อไปหรือครับ ?

ไม่ละอายใจบ้างหรือครับ ??? 
เพราะถ้าเป็นสมัยรัชกาลที่ 1 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คงโดนจับสึกไปด้วย

แม้ยุคปัจจุบันนี้จะไม่ได้ใช้กฎหมายตราสามดวงแล้ว แต่คนเราน่ะถ้าได้สนับสนุนคนผิดให้อยู่ในเพศสมณะต่อไป ก็ควรมีความละอายใจบ้าง

ความจริงสมเด็จเกี่ยว แห่งวัดสระเกศ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทักษิณให้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ก็ถือว่า มีความผิดเช่นกัน เพราะรับผิดชอบเรื่องนี้เป็นคนแรก แต่กลับไม่ทำหน้าที่ แต่ตอนนี้สมเด็จเกี่ยวก็ได้มรณภาพไปแล้ว

ส่วนการปฏิรูปแนวทางพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาของ สปช. นั้น แนะนำว่า สมควรนำกฎหมายตราสามดวงมาใช้ประกอบการปฏิรูปก็น่าจะดี เพราะที่ผ่านมาพระที่กระทำผิด ทำลายพระพุทธศาสนา ก็จะมีโทษแค่จับสึกเท่านั้น จึงไม่เข็ดหลาบ

-----------------

แถมกฎพระสงฆ์ สมัยรัชกาลที่ 1 เรื่องห้ามถวายเงิน ทอง แก่สมณะ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!


นอกจากได้ปาราชิกแล้ว สมีธัมมชโยยังสมควรโดนข้อหาแต่งกายเลียนแบบสงฆ์อีกกระทงด้วย เพราะได้แต่งกายเลียนแบบพระ หากินด้วยการหลอกคนมาทำบุญมากว่า 15 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปาราชิกโดยพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช ในปี 2542

--------------

คลิปรายการตอบโจทย์ ไทยพีบีเอส ตอน ปริศนาพระลิขิต ปาราชิกธัมมชโย


ถ้าท่านใดมีเวลาสักครึ่งชั่วโมง ก็อยากแนะนำให้ชมคลิปรายการตอบโจทย์ ในเรื่องนี้ครับ ได้ประโยชน์และสาระมากมายจริง ๆ



ตัวอย่างเปรียบเทียบ เรื่อง นาย ก. ขโมยไก่

นาย ก. ไปขโมยไก่ที่บ้านนาย ข. แต่นาย ข จับได้ จึงแจ้งตำรวจมาจับนาย ก.

แต่ นาย ก. บอกว่า ไม่ได้ขโมย เพราะพอนาย ข. หาเจอ ก็ได้ส่งไก่คืนให้นาย ข. ทันที จึงไม่ได้ขโมย เพราะไก่ก็ยังอยู่กับนาย ข.

แต่ตำรวจบอกว่า การกระทำผิดฐานขโมยได้เกิดขึ้นแล้ว แม้นาย ก. จะรีบคืนไก่ให้นาย ข. ก็ตาม แต่คดีอาญายอมความไม่ได้ สุดท้ายตำรวจจึงจับนาย ก. ไปดำเนินคดี

--------------------

ส่วนคดีสมีธัมมชโยได้ยักยอกที่ดินวัดนั้น แม้คดียักยอกจะเป็นคดีอาญาที่สามารถยอมความกันหากนำทรัพย์มาคืน

แต่ความผิดจากการยักยอกทรัพย์ ในด้านพระธรรมวินัยถือว่าผิดถึงขั้นปาราชิกไปแล้ว ย้อนกลับมาให้บริสุทธิ์ดังเดิมไม่ได้


http://imgur.com/QF6ISxl

คลิกอ่าน พ.ศ.2558 ถึงเวลายุคเสื่อมของมหาเถรสมาคม กรณีสมีธัมมชโย

คลิกอ่าน สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นแล้วย่านคลองหลวง

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

การ์ตูน เหตุผลที่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯในโรงหนัง (ดีกว่าหนังโฆษณา)






เมื่อ 2 วันก่อนผมได้เขียนบทความเรื่อง ผมไม่ชอบโฆษณาไทยประกันชีวิต เรื่อง เหตุผลที่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญฯ (คลิก)

ซึ่งผมอธิบายไปแล้วว่า เว่อร์เกินไป

แต่ผมได้ไปเห็นการ์ตูนภาพของคุณมุนิน ในเฟสบุ๊ค เรื่องเหตุผลที่ยืน (เหมือนกัน)

ผมกลับชอบมาก และรู้สึกว่า การ์ตูนของคุณมุนิน ทำได้ดีกว่าหนังโฆษณาของไทยประกันชีวิต ชุด เหตุผล หรือ The Reason เสียอีก

ไม่ต้องมีคำบรรยาย ไม่ต้องมีใครออกมาพูดให้ซาบซึ้ง แต่กลับตรงใจกว่ากันเยอะ

ขอเชิญชมการ์ตูนชุด เหตุผล ของคุณมุนินครับ

1



2



3



4



5



6



7




8




9




10




11




12




13




14




15




16





17





18

http://imgur.com/3k2K5eO,iZQ8gwM,TLzm9lz,mfwhG6P,U2z53fG,j8sK5Fb,Vcb77xM,crny5SR,n36bhgy,X5mm7aV,6KfN1dn,NePRjbO,qKmzZ6i,3etxAFb,vQhRkjz,Wh4XKpV,dxmuJzG,XrMwiEy#0

คลิกอ่าน Look ! The King never Smiles ??




วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ฮาจริง ๆ จตุพร ยุให้ยิ่งลักษณ์ยอมติดคุก (ดูคลิป)






จตุพร พรหมพันธุ์ ยุให้ยิ่งลักษณ์ยอมติดคุก โดยไอ้ตู่เชื่อว่า ถ้าถึงวันนั้นจริง ๆ คุกแตกแน่นอน





เหอะ ๆ ไอ้ตู่เอ๋ย ขนาดเอามึง ไอ้ตู่ ไอ้เต้น ไอ้เหวง ไอ้วีระกานต์ ไอ้ก่อแก้ว และอีกหลายตัว เข้าคุกพร้อมกัน คุกก็ยังไม่แตกเลยว่ะ

และถ้าถึงวันที่ยิ่งลักษณ์จะต้องติดคุกจริง ๆ ไอ้พวกแกนนำแดงสู้แล้วรวย รับรองได้ไปนอนเล่นปรับทัศนคติก่อนแน่นอน หรือไม่ก็หน้าบ้านทุกตัวจะมีทหารไปอารักขาให้ทุกตัวปลอดภัย ได้นอนอยู่ในบ้านไม่ต้องออกไปซ่าที่ไหนแน่นอน เพราะมึงเสือกโง่ออกมาแบไต๋ก่อนแล้วนี่

แต่ยิ่งลักษณ์คงไม่โง่เชื่อมึงหรอกไอ้ตู่ ก็คงหนีไปเมืองนอกตามที่มึงบอกวิธีหนีในคลิปนั่นแหละ

เพราะคนตระกูลชินวัตรไม่มีใครสู้เพื่อประชาธิปไตยจริง ๆ หรอก

ที่สำคัญ เสื้อแดงฉลาด ๆ คงไม่โง่แห่มาทำให้คุกแตกหรอก เพราะเคยโดนแกนนำหลอกให้เผาบ้านเผาเมืองจนติดคุกไปแล้วหลายคน แต่ไอ้คนสั่งเผายังลอยนวล


เริ่มในนาทีที่ 52.20 ตู่ จตุพร บอกว่า ถ้ายิ่งลักษณ์คิดจะหนีก็หนีเมื่อไหร่ก็ได้


การที่จตุพรบอกว่า ถ้ายิ่งลักษณ์จะหนีเมื่อไหร่ก็หนีได้ แค่ไปโผล่ชายแดนเงียบ ๆ ตามช่องทางต่าง ๆ ก็ออกไปได้แล้ว

คำพูดนี้ของจตุพร จึงสามารถแปลความได้อีกว่า ถ้ายิ่งลักษณ์โดนโทษจำคุกจริง ๆ ก็ค่อยหนีในช่วงเวลานั้นก็ได้ 555


ตรรกะเสื้อแดง




---------------------

ที่แท้ทหารเขาหวังดี 555




สังเกตหน้ายิ่งลักษณ์ เยาะเย้ยสาวที่มาถ่ายรูปด้วย

ยากเห็นคุกแตกจริง ๆ ถ้าเอายิ่งลักษณ์ไปไว้ในแดนนักโทษชายนะ 5555

ตัวอะไรเอ่ย เป็นตำรวจกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่ตัวมันดันไปคอยรับใช้ผู้หญิงตลอดวันตลอดคืน ไม่มารับใช้ประชาชน ?

ถ้ายิ่งลักษณ์หนีคุกไปเมืองนอกจริง คณผู้อ่านว่า ไอ้หนุ่ยมันจะตามไปบริการยิ่งลักษณ์ต่อหรือไม่ ?

---------------------

ล่าสุด สตช. ยอมรับอนุญาตสารวัตรหนุ่ย อารักขายิ่งลักษณ์ 1 ปี

"โฆษกตร." ยอมรับ "สตช." อนุญาตให้ "สารวัตรหนุ่ย" ไปเป็น ตร. ติดตามคอยอารักขา "ยิ่งลักษณ์" ชี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตร. และให้ทำหน้าที่ตั้งแต่ ส.ค.57-ส.ค.58

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสืออนุญาตให้ พ.ต.อ.วทัญญู ตำแหน่ง ผู้ช่วยนายเวร (สบ 4) รอง ผบ.ตร. ไปติดตามและดูแล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญได้

เนื่องจากทางสำนักนายกรัฐมนตรีมีหนังสือขอตัวไปช่วยในการปฎิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย สมัยที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยทาง สตช..ได้อนุมัติให้ปฎิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ ส.ค.2557-ส.ค.2558 ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบหลักเกณฑ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เดลินิวส์ออนไลน์ รายงาน

==================

สตช. ก็เปลี่ยนตัวสิ ไม่ต้องเป็นสารวัตรหนุ่ยก็ได้

ความยากของสารวัตรหนุ่ยคือ ถ้ายิ่งลักษณ์หนีออกนอกประเทศเพื่อลี้ภัยการเมือง หรือหนีออกนอกประเทศ ทั้ง ๆ ที่ศาลไม่อนุญาต

สารวัตรหนุ่ยอาจมีความผิดในฐานะตำรวจที่ปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีคดีออกนอกประเทศสำเร็จ ยกเว้นแต่ สารวัตรหนุ่ยจะตามไปบริการยิ่งลักษณ์ตลอดชีวิต 555

ทำไมต้องเป็นสารวัตรหนุ่ย ?? 

ถึงเวลาที่ สตช. ควรเรียกสารวัตรหนุ่ยกลับมา แล้วปล่อยให้สารวัตรเหลิมส่งไอ้ปื๊ดไปดูแลยิ่งลักษณ์แทนได้แล้ว 55555

----------------------

อันวาร์ อิบราฮิม ไม่หนีคุก เหมือนทักษิณ


http://imgur.com/46AHDr7
10 ก.พ. 58 อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคฝ่ายค้านมาเลเซีย ต้องรับโทษจำคุก 5 ปีข้อหาวิปริตทางเพศ หลังศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลอุทธรณ์

ก่อนหน้านั้นนายอันวาร์อ่านคำแถลงสุดท้ายต่อศาลในช่วงก่อนการพักเที่ยงระบุว่า เขาจะเดินเข้าเรือนจำเป็นครั้งที่สาม แต่มั่นใจได้ว่าเขาจะเดินเชิดหน้าเข้าไป เขายืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ และคำตัดสินเป็นเพียงการกุเรื่องทั้งสิ้นจากแผนการสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองเพื่อขัดขวางเส้นทางอาชีพการเมืองของเขา

และเมื่อผู้พิพากษาจะลุกจากบัลลังก์ อันวาร์วิจารณ์ผู้พิพากษาด้วยว่าพวกเขาได้จารึกชื่อตัวเองว่าเป็นผู้ที่ยอมก้มหัวให้กับผู้นำทางการเมือง และกลายเป็นผู้มีส่วนพัวพันในการฆาตกรรมกระบวนการยุติธรรม จากนั้นผู้พิพากษาสั่งให้เขาหยุดพูด แต่เขาไม่หยุด ผู้พิพากษาจึงออกจากห้องไป

นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่นายอันวาร์ต้องเข้าคุก แต่เขาไม่เคยหนีคุกเลยสักครั้ง แม้เขาคิดว่า เขาถูกใส่ร้ายทางการเมือง !!

ส่วนภรรยาของนายอันวาร์ ได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนนายอันวาร์ ร่วมกันจุดเทียนหน้าคุกในวันที่อันวาร์ต้องเดินทางไปเข้าคุกในวันที่ 11 ก.พ.



คลิกอ่าน ลูกค้าคนสำคัญของ ข้าวลืมผัว

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ป้ายนี้สิเจ๋งกว่า ป้ายเห่ย ๆ ในฟุตบอลประเพณีจุฬา ธรรมศาสตร์ 58






บ่ายวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธุ์ 58 ได้มีการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจุฬา - ธรรมศาสตร์

ซึ่งตอนเด็ก ๆ ผมก็เห่ออยากดูนะ เพราะว่า เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับ 1 และ 2 ของประเทศที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนเขายกย่องไว้แบบนั้น เขามาแข่งฟุตบอลกัน

ผู้ใหญ่ยุคก่อนเขามักบอกเด็ก ๆ อย่างผมให้ดูว่า กลุ่มปัญญาชนแนวหน้าของไทยเขามาเตะฟุตบอลกัน เขามีเดินพาเหรด มีแปรอักษรล้อการเมืองน่าสนใจ เด็ก ๆ ควรดูไว้

แต่พอผมโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ ผมกลับเริ่มสนใจฟุตบอลประเพณีของ 2 มหาลัยนี้ลดลงเรื่อย ๆ เพราะแท้จริงแล้ว พอผมโตขึ้นเริ่มเข้าใจว่า กลุ่มปัญญญาชนของ 2 มหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้เป็นปัญญาชนผู้นำความคิดที่ดีของสังคมอีกแล้ว

อย่างเช่น นิสิตจุฬาฯ แทนที่จะเป็นผู้นำทางความคิดเรื่องความพอเพียง ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนไทยรุ่นน้องทำตาม แต่กลับกลายเป็นว่านิสิตจุฬาผู้นำแฟชันฟุ้งเฟ้ออันดับ 1 ของไทย เป็นผู้นำเห่อแฟชั่นเทคโนโลยีแบบทาสเทคโนโลยีต่างชาติ แทนที่จะเป็นผู้นำคิดค้นนวัตกรรมสร้างเทคโนโลยีเพื่อชาติบ้านเมือง

(หมายเหตุ ขอแก้ไขคำว่า "เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ" เป็นคำว่า ความพอเพียง แทน เพราะมีคนแสดงความโง่ ๆ ด้านล่างมันตีความไปไกลเกินบทความ)

นิสิตจุฬา ทั้งหญิงชาย ไปดูเหอะ ใช้โทรศัพท์มือถือราคาแพง ๆ ทั้งนั้น จนโจรฉกชิงวิ่งราวที่เพิ่งโดนจับล่าสุด จากการก่อคดีปล้มมือถือเด็กจุฬามากถึง 6 คดี  มันได้เล่าว่า พวกโจรมันบอกต่อ ๆ กันว่า คิดจะปล้นมือถือราคาแพง ต้องไปดักปล้นเด็กจุฬา

ส่วนเด็กธรรมศาสตร์น่ะเหรอ แทนที่จะใช้ความรู้เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แทนที่ใช้สติปัญญาและจิตสำนึกปกป้องประประชาธิปไตยให้พ้นจากนักการเมืองโกงกินที่อาศัยการเลือกตั้งหาประโยชน์เข้าพวกพ้อง ดันเสือกทะลึ่งสนับสนุนพวกล้มเจ้าให้เกลื่อนธรรมศาสตร์ แถมปิดปากเงียบยามเมื่อนักการเมืองชั่ว ๆ กำลังทำลายจิตสำนึกประชาธิปไตยที่ถูกต้อง

---------------------

การทิ้งขยะไม่เป็นที่ vs ประชาธิปไตย

แล้วประชาธิปไตยของพวกนักศึกษายุคนี้คืออะไร ? 
พวกนี้ไม่ได้รู้จริงหรอก แค่อวดเอาเท่ว่ารักประชาธิปไตยไปแบบงั้น ๆ แหละ เพราะแค่หน้าที่ของพลเมืองที่ดีพวกนี้มันยังไม่รู้จักกันเลย

ถามว่า การทิ้งขยะเรี่ยราดในที่สาธารณะผิดกฎหมายหรือไม่ ?

ถ้ากฎหมายง่าย ๆ ยังทำไม่ได้ ก็ควรสำนึกว่า หัวใจประชาธิปไตยที่แท้จริง หมายถึง ต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมครับ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวแบบนี้







ขอบคุณรูปจากเฟสบุ๊ค คุณมล เลิศคอนสาร และคุณน้อย เพื่อนผมครับ

ถ้าอ้างว่า หาถังขยะใกล้ ๆ ไม่เจอ ก็เลยทิ้งตรงนั้นเลย

พ่อแม่นักศึกษาพวกนี้ควรส่งควายมาเรียนมหาวิทยาลัยแทนเถอะ เรื่องแค่นี้หาทางออกดี ๆ ไม่เป็น


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เคยเล่าผ่านคลื่นเอฟเอ็ม 101 ตอนคุณหญิงไปเที่ยวญี่ปุ่นไว้ว่า "พี่เคยเห็นคนญี่ป่นนะ พอเขาสูบบุหรี่เสร็จ ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นเหยียบให้ดับ เขาจะก้มลงเก็บก้นบุหรี่ โดยมีไม้กวาดขนาดจิ๋วที่พกมาในกระเป๋าเสื้อ เขาจะกวาดก้นบุหรี่และเศษฝุ่นใส่กระดาษ แล้วห่อเก็บไปทิ้งถังยะ ยากไหม? แต่เขาก็ทำกัน"



วกทำบ้านเมืองสกปรกจงพินาศ ประชาชนรักสะอาด รักระเบียบวินัยจงเจริญ

--------------------

ขออภัยนิสิตนักศึกษาทั้งสองมหาวิทยาลัยสำหรับคนที่มีจิตสำนึกที่ดีด้วย



คลิกอ่าน จำไว้นะ หน้าที่ ต้องมาก่อนสิทธิเสมอ

คลิกอ่าน ต้องมีหัวใจประชาธิปไตยก่อน จึงจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง

คลิกอ่าน คำขวัญตกยุค ธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน