วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ทำไมจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ถึงเจริญไฮเทคอย่างไม่หยุดยั้ง







เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยดูสารคดีของญี่ปุ่นรายการนึง

เป็นสารคดีเชิงแฟนตาซี คือ พิธีกรจะย้อนเวลาย้อนยุคกลับไปในอดีต เพื่อกลับไปดูต้นกำเนิดของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นว่า แรกเริ่มเดิมทีทำไมถึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นในญี่ปุ่น

มันมีตอนนึง เกี่ยวกับ #ทำไมคนญี่ปุ่นเก่งคณิตศาสตร์

สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือ หลายร้อยปีที่ผ่านมา แม้แต่ชาวนายากจนของญี่ปุ่นหลายคนก็คลั่งไคล้การคิดเลข ถึงขนาดเดิมพันตั้งโจทย์เลข แก้โจทย์เลขกัน

คนที่เก่งเลขที่สุด จะได้รับการยกย่องเป็นเสมือนจอมยุทธ์มือ 1 ของแผ่นดิน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วประเทศ

ในรายการนี้มันแบบ มีนักคณิตศาสตร์คนนึง ได้มาเขียนโจทย์เลขซับซ้อนทิ้งไว้ที่วัดในหมู่บ้านแห่งนึง เพื่อท้าคนในหมู่บ้านนี้มาแก้โจทย์เลขข้อนี้ภายใน 7 วันให้ได้

เหมือนเป็นการมาท้าประลองยุทธทำนองนั้น ถ้าไม่มีใครในหมู่บ้านแก้โจทย์เลขข้อนี้ได้ ก็เท่ากับชาวหมู่บ้านนี้โดนดูถูก มันเสียศักดิ์ศรี

ตอนดูสารคดีนี้ มันทำให้ผมรู้เลยว่า ทำไมญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เขาถึงมีความเจริญทางด้านเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างมาก

คำตอบคือ #ความฝักใฝ่ความรู้ด้านวิชาการคำนวณ ชอบฝักใฝ่หาความรู้ด้านคณิตศาสตร์อยู่ในสายเลือดของคนในประเทศเหล่านี้นี่เอง

อย่างตอนผมเด็ก ๆ ก็เหมือนกัน ผมเคยถูกปลูกฝังในหัวว่า ถ้าอยากได้รับการยกย่องว่า เป็นเด็กฉลาด ก็ต้องเก่งเลข ต้องได้เกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น

อย่างเพื่อนผมหลายคน ถ้าได้เกรด 4 ทุกวิชา แต่ถ้าพลาดเกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์ เขาจะถือว่า เขายังเก่งไม่จริง

เพื่อนผมบางคนนะ มันสนใจเฉพาะวิชาเลขอย่างเดียวเลย ขอเกรด 4 เลขอย่างเดียว วิชาอื่น ๆ เอาแค่ผ่านก็พอ คือถ้าไม่ได้เลขเกรด 4 สังคมห้องทับ 1 จะถือว่า คุณไม่เก่งจริง ประมาณนั้น

เพื่อนผมคนนี้ มันบอกว่าเพราะวิชาอื่น ๆ ถ้ามันอยากเก่งเมื่อไหร่ก็เก่งได้ ก็แค่ขยันอ่านหนังสือมาก ๆ เท่านั้น

แต่วิชาคณิตศาสตร์มันต้องฝึกฝนและเก่งเป็นพื้นฐานมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาสมองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง เพราะพ่อมันสอนว่า คนเป็นแพทย์ เป็นวิศวะ ล้วนแต่เก่งเลขตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ทุกคน

#เพราะคณิตศาสตร์คือวิชาพื้นฐานทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์ทุกชนิด

----------

สังคมไทย ถ้าอยากให้ประเทศเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คุณต้องยกย่องเด็กที่เก่งวิทยาศาสตร์ ให้โด่งดังมากยิ่งกว่าเด็กที่เป็นดารานักร้อง

เมื่อหลายปีก่อน กระทรวงศึกษา ฯ เกาหลีใต้ ต้องจัดการสัมมนาครูทั่วประเทศ เพื่อประชุมถกกันเรื่อง จะหาทางยับยั้งเด็กเกาหลีใต้ที่บ้าอยากเป็นดารานักร้องให้น้อยลงอย่างไรดี ?

เพาะถ้าเด็กฉลาด ๆ หัวดี คิดอยากไปฝึกฝนเป็นดารานักร้องกันหมด อาจส่งผลถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในอนาคตของประเทศถดถอยลงจนอาจแพ้ประเทศคู่แข่งได้

----------

สังเกตสิ ประเทศอย่างเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มหาเศรษฐีที่รวยมหาศาลในประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่คือ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทที่ขายนวัตกรรมไฮเทคโนโลยีทั้งนั้น

ส่วนไทยน่ะเหรอ คนที่รวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของไทยส่วนใหญ่คือ #ขายเหล้า #ขายเบียร์ #ขายเครื่องดื่มชูกำลัง หรือไม่ก็รวยจาก #ฮุบสัมปทานรัฐ

มันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างจริง ๆ

จัดรายการประกวดร้องเพลงกันเข้าไปเยอะ ๆ สิ ประเทศจะได้เจริญฮวบ ๆ แทนที่จะจัดรายการแข่งคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ชิงเงินล้านออกทีวีเยอะ ๆ

ประเทศที่เจริญแล้วเขาจะส่งเสริมใน สิ่งที่ประเทศเขายังขาดแคลน

แต่ไทยน่ะเหรอ สังเกตดูข่าวทีวีก่อนและหลังวันที่ 16 กับวันที่ 1 สิ จะรู้เลยว่า ประเทศไทยไม่มีทางเจริญอย่างจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เพราะเหตุใด ?



เครดิตรูป #เฌอปรางBNK48 นักศึกษาสาขาวิชาเคมี ภาควิชาวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล

---------------------

ปัญหาและแนวทางแก้ไขเฉพาะหน้า

ในอดีตไทยเราจะมีรายการที่แข่งขันวิชาความรู้และสติปัญญาอยู่หลายรายการ อาทิเช่น รายการการบินไทยไขจักรวาล รายการไอคิว 180 ที่อยู่คู่สงคมไทยมาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบันก็เลิกรากันไปหมดแล้ว

หรือจะเป็นรายการเกมเศรษฐี ของคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ รายการอัจฉริยะข้ามคืน ของคุณปัญญา นิรันดร์กุล รายการพวกนี้เป็นรายการเสริมสร้างสติปัญญาแต่ก็กลับอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่

ปัญหาคือ ความนิยมคนดูของรายการประเภทนี้ หรือเรตติ้งของรายการไม่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจอย่างยาวนานได้ ก็จำต้องเลิกรากันไป

สาเหตุเพราะระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว ที่ไม่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียน เยาวชน และประชาชนไทยส่วนใหญ่สนใจรายการสร้างสรรค์สติปัญญามากกว่ารายการบันเทิง

ทางแก้ไขเฉพาะหน้า คือ ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐ ต้องสนับสนุนรายการส่งเสริมความรู้และแข่งขันเชิงสติปัญญาให้มาก ๆ โดยอาจจ้างเอกชนเก่ง ๆ ทำรายการประเภทนี้ต่อไป ด้วยงบประมาณของภาครัฐเอง ดีกว่าเอาเงินไปแจกทำประชานิยมห่วย ๆ 



--------------------

บทเรียน เกาหลีใต้ จาก ลอกเลียน เป็น ลอกเรียน จนได้ดี




คลิกอ่าน ทำไมเด็กจีนถึงคิดเลขเก่ง




วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เมื่อคนลาวหัวเราะเยาะเย้ยบั้งไฟพญานาคของไทย






พญานาคเจ้าอารมณ์

ตอน ไอทีวี แฉเรื่อง #บั้งไฟพญานาค ทำเอาปีนั้น พญานาคงอน บั้งไฟพญานาคเลยหายไปเกือบหมด ขึ้นเฉลี่ยจังหวัดละ 2-5 ลูกเท่านั้น

บางสถานที่บั้งไฟพญานาคหายไปดื้อ ๆ เลยก็มี

แต่มาปีนี้ พ.ศ. 2561 บั้งไฟพญานาคดีใจ ที่มี น้องแต้ว กับ น้องญาญ่า ไปรำถวายพญานาคแถว ๆ นั้นเพื่อโปรโมทหนังเรื่องนาคี 2

ท่านพญานาคเลยคึกคักกระชุ่มกระชวยบั้งไฟเลยขึ้นหลายร้อยลูกเลยล่ะ 555
😁




เมื่อสัปดาห์ก่อนที่จะออกพรรษา ผมเคยนึกในใจเล่น ๆ ว่า

เฮ้ย !! ยุคนี้มันยุค #อากาศยานโดรน แล้วนี่หว่า น่าจะมีใครเอาโดรนไปลอยกลางลำน้ำโขง แล้วถ่ายให้ชัด ๆ ว่า

บั้งไฟพญานาค พุ่งขึ้นจากกลางลำน้ำโขงหรือพุ่งขึ้นจากบนแผ่นดินฝั่งลาวกันแน่

เพราะการใช้โดรนลอยกลางอากาศจะได้ภาพหลักฐานชัดเจนที่สุดว่า บั้งไฟพญานาค มันพุ่งขึ้นจากบนแผ่นดินฝั่งลาว หาใช่ขึ้นจากลำน้ำไม่

แล้วปีนี้ก็มีคนใช้โดรนพิสูจน์เรื่อง แหกตาลวงโลก นี้แล้วจริง ๆ

สรุป บั้งไฟพญานาค = กระสุนส่องแสง
เหมือนที่ ITV เคยแฉไว้เมื่อปี 2545 นั่นเอง

คนลาว หลอก ควาย... ได้ตั้งนาน 5555



แนะนำอ่านบทความเก่าตั้งแต่ปี 2555 เรื่อง เหตุผลที่ผมไม่เชื่อเรื่องบั้งไฟพญานาคว่ามีจริง ตามลิงค์นี้

http://newake.blogspot.com/2012/10/blog-post_31.html




วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ฆ่าสัตว์อันตราย แบบไม่ผิดกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์






ทุกปี เราจะมีข่าวสุนัข หรือ หมา กัดคนจนบาดเจ็บหรือล้มตายลงทุกปี ซึ่งถ้าในประเทศที่เจริญแล้ว เขาจะมีกฎหมายลงโทษหมาที่เสียหมาไปแล้ว ตามที่ผมเคยเขียนในบทความเก่าเรื่อง ไทยควรมีกฎหมายจัดการหมาที่เสียหมา จัดการคนที่เสียคน

ก็เลยมีข้อครหาว่า ทีคนทำร้ายหมา คนมีความผิด แต่หมาทำร้ายคน หมากลับลอยนวล ไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย

อย่างล่าสุดขณะที่ผมกำลังเขียนบทความอยู่นี้ มีข่าว พ่อคนนึงตีหมาที่ตัวเองเลี้ยงจนตาย สาเหตุเพราะหมาตัวนั้นมากัดลูกชายวัย 5 ขวบของเขา

โดยหลักทั่วไป คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมรักลูกมาก แล้วถ้าหมาที่ตัวเองเลี้ยงแท้ ๆ ดันมากัดลูกของเจ้าของ มันก็เป็นไปได้ในพ่อแม่บางคน อาจโกรธจนขาดสติทำร้ายหมาตัวนั้นจนถึงตายได้

หรือแม้แต่ในกฎหมายปกติ ถ้ามีใครมาด่าพ่อแม่ของเรา เราก็อาจบันดาลโทสะจนทำร้ายคนที่มาด่าพ่อแม่เราได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อขึ้นศาล ศาลก็อาจตัดสินให้เราพ้นผิดได้ ถ้าเรามีเหตุบรรเทาโทษที่เหมาะสม และไม่เกินกว่าเหตุ

แล้วกรณี พ่อทำร้ายหมาที่กัดลูกของตัวเองจนบาดเจ็บ จนหมาตาย ถามว่า พ่อคนนั้นมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่

ที่จริงไม่จำเป็นต้องเฉพาะกรณีพ่อตีหมาที่กัดลูกตัวเองจนตายหรอกครับ กรณีทั่ว ๆ ไป ถ้าหมามากัดคน ผู้ใดมาพบเหตุก็มีสิทธิเข้าไปจัดการหมาตัวนั้นเพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตคน หรืออันตรายต่อร่างกายคนได้เช่นกัน โดยไม่ผิดกฎหมาย ตามนี้ครับ

ดูที่ กฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ มาตรา 21 ข้อ 6

มาตรา 21 การกระทำดังต่อไปนี้ ไม่ถือว่าเป็นการทารุณกรรมสัตว์ตามมาตรา 20

1 การฆ่าสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหาร ทั้งนี้ เฉพาะสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหาร
2 การฆ่าสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
3 การฆ่าสัตว์เพื่อควบคุมโรคระบาดตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์
4 การฆ่าสัตว์ในกรณีที่สัตวแพทย์เห็นว่าสัตว์ป่วย พิการ หรือบาดเจ็บและไม่สามารถเยียวยา หรือรักษาให้มีชีวิตอยู่รอดได้โดยปราศจากความทุกข์ทรมาน
5 การฆ่าสัตว์ตามพิธีกรรมหรือความเชื่อทางศาสนา

6 การฆ่าสัตว์ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์อื่น หรือป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สิน

7 การกระทำใด ๆ ต่อร่างกายสัตว์ซึ่งเข้าลักษณะของการประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ โดยผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ หรือผู้ซึ่งได้รับยกเว้นให้กระทำได้โดยไม่ต้องขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการสัตวแพทย์
8 การตัด หู หาง ขน เขา หรืองาโดยมีเหตุอันสมควรและไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ หรือการดำรงชีวิตของสัตว์
9 การจัดให้มีการต่อสู้ของสัตว์ตามประเพณีท้องถิ่น
10 การกระทำอื่นใดที่มีกฎหมายกำหนดให้สามารถกระทำได้เป็นการเฉพาะ
11 การกระทำอื่นใดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ





------------------------

อธิบายขยายความ ตามมาตรา 21 ข้อ 6

"การฆ่าสัตว์ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายแก่ชีวิตหรือร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์อื่น หรือป้องกันความเสียหายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สิน"

หมายความว่า ถ้ามีสัตว์ที่มีท่าทางดุร้ายน่ากลัว แล้วจะเข้ามาทำอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของคนและสัตว์อื่น ๆ ผู้พบเหตุการณ์ก็สามารถกระทำการป้องกันเหตุไว้ก่อนได้

หรือแม้แต่สัตว์ที่จะมาทำลายทรัพย์สินของเราให้เสียหาย ก็สามารถป้องกันทรัพย์สินนั้นด้วยการฆ่าสัตว์นั้นได้โดยไม่ผิดกฎหมาย (แต่ต้องมีเหตุผลอันจำเป็นสมควรจริง ๆ โดยบางกรณีอาจต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน)

แปลความง่าย ๆ ว่า ถ้าสัตว์ยังไม่ทันจะกัดคน หรือกัดสัตว์อื่น ๆ เช่นสัตว์ที่เราเลี้ยงเช่น หมู ไก่ เป็ด ฯลฯ เราก็สามารถป้องกันเหตุร้ายก่อนได้ ด้วยการฆ่าสัตว์ดุร้ายตัวนั้นทันที โดยไม่จำเป็นต้องรอให้สัตว์ดุร้ายนั้นก่อเหตุร้ายขึ้นก่อน

เช่น ถ้ามีหมาจะมากัดสัตว์เลี้ยงของเรา เราก็ไม่รู้ว่า หมาตัวนั้นเป็นหมาบ้าหรือไม่ เราย่อมป้องกันเหตุร้ายก่อนจะกัดสัตว์ของเราได้

หรือเช่น ถ้าคุณมีลูกเล็ก ๆ หมาดุร้ายวิ่งมาเข้าหาลูกคุณด้วยท่าทางดุร้ายอาละวาด คุณคงไม่รอให้หมากัดลูกคุณก่อนใช่ไหมค่อยระงับเหตุ หรือว่า คุณจะรอให้หมากัดลูกคุณก่อน แล้วจึงระงับเหตุ ?

นี่แหละครับ ใจความสำคัญของกฎหมายที่ใช้หลักป้องกันสัตว์ร้ายก่อนเกิดเหตุร้ายขึ้น

---------------------

ยกตัวอย่างเพิ่มให้เห็นภาพ

เช่น ตัวเหี้ยแอบเข้ามาในบ้านของคุณ แล้วกำลังจะกัดเด็กทารกลูกของคุณที่นอนอยู่ หรือมีท่าทีว่าจะเข้าไปใกล้เด็กทารก หรือตัวเหี้ยกำลังคาบเด็กทารกหนีไป ถ้าคุณมาพบเห็นก็รีบชิงฆ่าตัวเหี้ยนั้นก่อน แบบนี้ก็จะไม่ผิดกฎหมายครับ เพราะมันมีเหตุจำเป็นอันควร

หรือเช่น เห็นหมาดุร้ายกำลังจะขย้ำหรือกัดเด็ก หรือกัดคน ถ้าผู้พบเห็นเหตุสามารถระงับเหตุร้ายได้ก่อน ด้วยการฆ่าหมาตัวนั้น แบบนี้ก็ไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น บางคนที่กลัวหมา ไม่กล้าที่จะไปห้ามหมาที่จะกัดคน เพราะกลัวตัวเองจะถูกกัดไปด้วย แต่ถ้าเขามีอาวุธ เช่น ปืน แล้วถ้าเขายิงหมาดุร้ายตัวนั้นตาย แบบนี้ก็สมเหตุสมผลทางกฎหมายเช่นกัน

หรือในกรณีที่เราเกิดตกบ่อจระเข้ คุณว่า ถ้ามีใครยิงจระเข้ที่กำลังจะขย้ำคุณ เพื่อให้คุณรอดพ้นจากความตาย แบบนี้คุณจะขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้น หรือกล่าวโทษเจ้าหน้าที่คนนั้นว่า ฆ่าจระเข้ทำไม ไหม ?

--------------------

สรุปท้ายบทความ

กฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ เขียนครอบคลุมถึงสัตว์ทุกชนิดที่อาจทำร้ายชีวิตผู้อื่นได้ กฎหมายไม่ได้เขียนเจาะจงว่าใช้เฉพาะสุนัข หมา แมว ที่ใกล้ชิดคนเท่านั้น

หากสัตว์ใดก็ตามที่มีความอันตรายและจะทำร้ายคน ก็ใช้กฎหมายมาตรา 21 ข้อ 6 ปกป้องเหตุก่อนเฉพาะหน้าได้เช่นกัน แต่ต้องไม่ใช่กรณีการแก้แค้นสัตว์ภายหลัง

แต่บางคนพอเห็นว่า เป็นหมา เข้าหน่อย ก็ปกป้องหมาแบบไม่แยกแยะ  เพราะรักเฉพาะหมามากกว่าสัตว์อื่นโดยลำเอียง 

ทั้ง ๆ ที่ จะหมา หรือ แมว หรือ ตัวเหี้ย หรือสัตว์อื่น ๆ เช่น วัว ควาย ช้าง ถ้ามันจะทำร้ายคน ผู้พบเห็นก็สามารถระงับเหตุได้ทันที ซึ่งการระงับเหตุ บางทีมันก็อาจพลาดพลั้งเลยเถิดไปจนถึงฆ่าสัตว์ตัวนั้นตายได้

ผมขอยกตัวอย่างสุดท้ายให้คนรักหมาลองคิดดู

เช่น หมาตัวนึงกำลังจะกัดลูกของคุณ แถมมันเป็นหมาที่อาจมีเชื้อพิษสุนัขบ้าอยู่ด้วย คุณจะป้องกันลูกคุณให้พ้นภัยจากหมาตัวนั้นอย่างไรให้ทันท่วงทีในฐานะเป็นคนรักหมา หรือจะอ้างว่า ฉันรักแต่หมาที่ไม่บ้า งั้นเหรอครับ  ฝากให้คิด

บางคนเห็นคนทำร้ายหมาที่ดุร้าย หรือหมาที่กัดเด็ก แล้วคิดจะไปแจ้งความเอาผิดเขาว่า กระทำผิดกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ ก็ขอให้ระวังไว้ด้วยว่า ถ้าเขากระทำไปโดยมีเหตุจำเป็นอันควร แล้วเขาพ้นข้อกล่าวหา เขาอาจฟ้องกลับคุณก็ได้นะครับ โทษฐานทำให้เขาเสียชื่อเสียง

ผมไม่ได้สนับสนุนการฆ่าสัตว์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะมันผิดศีลข้อ 1 แน่นอน ดังนั้น ถ้าสามารถละเว้นการฆ่าได้ก็ประเสริฐที่สุด

แต่บทความนี้เจตนาให้แง่คิดทางด้านกฎหมายครับ

----------------

ถ้าคุณยังไม่ค่อยเชื่อบทความนี้ ลองดูคลิปนี้ครับ

ทนายความ สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์  พูดถึงกรณีหมาจะมากัดเรา หรือกัดคน เราทำอะไรได้บ้าง ฆ่าหมาได้ไหม ?

ให้ดูคลิปในนาทีที่ 3.33 เป็นต้นไป






วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2561

เฌอปราง BNK48 วีรสตรีผู้สร้างความเจ็บให้พวก MBK39








ถ้าผมเป็นลุงตู่นะ ผมจะมอบรางวัล สตรีดีเด่นผู้ทำพวกร่านเจ็บแห่งปี ให้ เฌอปราง เลย

มีดาราดัง ๆ ไปออกรายการของ คสช. หลายคน แต่พวกลิเบอร์ร่าน MBK39 ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจ

แต่พอ เฌอปราง #bnk48 ไปออกรายการของ คสช. เท่านั้น ทำเอาพวกร่านเจ็บไปหลายคน 555

#รู้สึกสะใจ 😁
#เฌอปรางป็นชาวสงขลา
#ขอบคุณ




คลิปสัมภาษณ์เฌอปรางหลังเข้าพบนายก ฯ




ตอนแรก ๆ ผมไม่สนกระแส น้องเฌอปราง เลยนะ

แต่พอดีตั้งแต่ปีที่แล้ว นุ้งกวาง อาริศา หอมกรุ่น เธอจะคลั่งไคล้ เฌอ และ #bnk48 มาก ๆ เพราะแชร์บ่อย ผมเลยถึงเพิ่งรู้จัก เฌอ ก็เพราะตามเฟสนุ้งกวาง นี่แหละ

ตอนหลังพอเห็น เฌอ ออกทีวีหลายรายการ ผมถึงเล็งเห็นว่า เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ

คือ เฌอมีความเป็นซุปตาร์ในตัวสูงมาก รู้จักการวางตัว ฉลาดในการตอบคำถาม มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้มีคนหลงใหลเธอเยอะมาก แถมเรียนเก่งอีกต่างหาก

ผมก็เลยเริ่มชอบ #แคปเฌอ ตามคนอื่น ๆ บ้าง แต่ไม่ถึงขึ้นโอตะ

แต่ตอนนี้ยิ่งชอบมากขึ้นอีก เหตุผลไม่ต้องอธิบายแล้วนะ เพราะโพสไปเมื่อวานละ 555





ไอ้พวกร่าน #MBK39 จ้องเล่นงานเจาะจงแต่ เฌอปราง ทั้งที่มีศิลปินดาราตั้งเยอะแยะที่เคยร่วมงานกับรัฐบาลนี้

จึงเป็นการเลือกรังแก #เฉพาะคน นั่นยิ่งแสดงถึงสภาวะจิตใจที่กระจอกอ่อนแอของพวกร่านเอง #ร่านรังแกเด็ก

#รู้นะว่าพวกร่านมันเจ็บ 555

ขอบคุณ Cherprang BNK48 ที่ทำให้พวกชั่วมันเจ็บ 😁

---------

กติพวกบรรดาโอตะต้องเสียเงินเพื่อรอจับมือกับ #bnk48 แค่ 8 วิ

แต่รูปนี้ เหล่าน้อง ๆ bnk48 กลับยืนรอจับมือกับลุงตู่คนละ 8 วิ แทน




ดูคลิป bnk48 รอจับมือลุงตู่ 8 วิ




13 ก.ย. 61 วันนี้ศิลปิน AKB48 จากญี่ปุ่นขอเข้าพบ ลุงตู่ เพื่อ ตอกย้ำ ว่า ศิลปินต้นแบบของ BNK48 ก็เชียร์ลุงตู่เหมือนกัน ให้พวกร่านมันอิจฉาเล่น 555

#พี่ AKB48มาช่วย  Cherprang BNK48 แล้ว

แน่จริงพวก #ลิเบอร์ร่าน #MBK39 อย่าลืมแอนตี้ akb48 ด้วยล่ะ 😁😁😁




คลิป AKB48 เข้าพบนายกรัฐมนตรีไทย




รูป CherprangBNK48 ที่ยืนอยู่หลังลุงตู่ จะมี 2 ชอต คือ ชอตที่ไม่มีมือยกขึ้นมา กับ ชอตที่ แคปเฌอ ชู 2 นิ้ว ข้างหลังลุงตู่ ตามรูป

วันนี้ เย็นนี้ 6 โมงเย็น เฌอ จะออกรายการ เดินหน้าประเทศไทย เชิญชวนแฟน ๆ เฌอ ช่วยกันดูด้วยนะ #MBK39

"ลุงตู่ สู้ ๆ" #เฌอปราง ✌️✌️



https://imgur.com/a/6KBiyHb


คลิปรายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน เฌอปราง พบน้อง ๆ โรงเรียนวัดราชระหงษ์พระนครศรีอยุธยา


คลิป เฌอปราง ตอบอย่างผู้ดี กรณีถูกกระแสพวกร่านแอนตี้




ส่วนคลิปนี้  เฌอปราง แสดงวิสชั่นที่ทำให้รู้ว่า เฌอ คือ อัจฉริยะ






วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

บทเรียนราคาแพงของ วีเจจ๋า กับคำว่า เมียน้อย 2018






กรณีวีเวจ๋า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีข่าวลือว่า เธอไปแย่งสามีชาวบ้าน หรือไปเป็นเมียน้อยผัวชาวบ้านนั้น

ซึ่งต่อมา ผู้ชายคนนั้นได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้คบหาดูใจกับวีเจจ๋า จริง ๆ โดยทั้งคู่เคยเรียนคอร์สบางอย่างด้วยกัน จึงรู้จักเป็นเพื่อนร่วมคอร์สกัน

โดยฝ่ายชายมีสถานะคือ ยังไม่ได้หย่ากับเมียของตัวเอง แต่อ้างกับวีเจ๋าว่า เขากับเมียไม่ได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยามานานแล้ว

ซึ่งต่อมาฝ่ายภรรยาของเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า สามีตัวเองโกหกทั้งหมด เพราะยังอยู่กันในบ้านเดียวกันฉันผัวเมียเหมือนเดิม

----------------

หมดราคาเลยวีเจจ๋า น่าเสียดายๆ

สมัยยังมีช่อง ITV ก่อนจะกลายเป็นไทยพีบีเอส มีละครเรื่องนึงมี ลีโอพุฒ กับ ซาร่า ผุงประเสริฐ แสดงนำ

ในตอนนั้นมีตัวประกอบหญิงคนนึง เล่นบทเพื่อนนางเอกและบทตลก แต่ผมกลับเห็นว่า ตัวประกอบคนนี้ สวยมาก สวยกว่านางเอกเยอะ

ซึ่งปรากฏว่า ต่อมาดาราประกอบคนนี้ก็โด่งดังจนเป็นนางเอกแถวหน้าในวงการในที่สุด เธอคือ วีเจจ๋า นั่นเอง

แม้วีเจจ๋า จะมีข่าวคราวความรักคบหาเลิกรากับผู้ชายหลายคนที่ผ่านมา แต่ภาพลักษณ์ของเธอก็ยังดูดี มีประชาชนชื่นชมเธอเยอะ

แต่พอมีข่าวคาวล่าสุดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเธอจะคบกันแบบจริงใจกับผู้ชายคนนี้อย่างไร

แต่ตอนนี้จากที่ผมอ่าน คห. จากข่าว สังคมได้ตัดสินเธอแล้วว่า วีเจจ๋าเป็น #กิ๊ก หรือเป็น ชู้ กับสามีคนอื่น

เหตุเพราะผู้ชายที่เธอคบหาดูใจนั้น ยังไม่หย่าขาดกับภรรยา แม้ผู้ชายจะอ้างว่า ไม่ได้อยู่กันฉันผัวเมีย แยกกันอยู่กับเมียมานาน 2 ปีกว่าแล้วก็ตาม

บอกตรง ผู้ชายหน้าภาชนะหุงต้มทุกคน มันก็มักจะอ้างแบบนี้ทั้งนั้นแหละ สุดท้ายผู้หญิงก็ตกเป็นเมียน้อยของมัน

โดยจิตสำนึกและสามัญสำนึก ตราบใดถ้าผู้ชายยังไม่หย่าขาดกับเมีย ก็ต้องห้ามคบหาสนิทสนมจนเกินเลยเด็ดขาด

วีเจจ๋า มีการศึกษาระดับด็อกเตอร์ ภาพลักษณ์ดีมาตลอด ไม่น่าเห็นกิเลสตัณหาสำคัญกว่าเกียรติของพ่อแม่และศักดิศรีของตัวเธอเองเลย

ขึ้นชื่อว่า คบหาดูใจกับสามีคนอื่น ก็เข้าข่ายผิดศีลข้อ 3 นั่นแหละ (ทำไมเธอไม่มีเพื่อนแท้ตักเตือนเธอเลยนะ)

คนเราจะวัดว่า เป็นคนดีหรือไม่ ไม่ใช่ดูที่ชอบทำบุญเข้าวัดฟังธรรม ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ นะ

แต่คนดีมันวัดกันตรงสามารถระงับยับยั้งชั่งใจไม่ทำชั่วตามกิเลสที่มายั่วเย้าได้หรือไม่ต่างหากครับ



ฝากถึงทุกคนว่า แม้แต่แค่พูดคุยกับสามีคนอื่นภรรยาคนอื่นทุกวันทางไลน์ หรือทางโทรศัพท์ บ่อย ๆ หรือแทบทุกวัน โดยไม่มีเหตุจำเป็นอันควร
.
ก็เข้าข่ายไม่เคารพและให้เกียรติคู่ครองของคุณเช่นกัน เหมือนกรณีสามีของตั๊กแตน ชลดา ที่ผมเคยเขียนไว้ในโพสเก่าตามลิงค์นี้ https://bit.ly/2KfOQGB

-----------------------

หลังจากฝ่ายผู้ชายแถลงข่าวได้ไม่นาน วีเจจ๋า ก็ออกมาชี้แจงว่า ตัวเองเชื่อว่า ฝ่ายผู้ชายได้แยกกันอยู่กับภรรยาแล้วจริง ๆ

บอกตรง ๆ นะ คำแก้ตัวของวีเจจ๋าฟังไม่ขึ้นเลยครับ

แค่ไปถามผู้ชายว่า คุณเลิกกับเมียแล้วใช่ไหม แล้วถ้าผู้ชายบอกว่า ใช่ คุณ ดร.วีเจจ๋า ก็ดันเชื่อง่าย ๆ อย่างนั้นแลย เหอะๆ

เลิกกันหรือไม่ มันรู้ได้ไม่ยาก ก็แค่ขอใบหย่าของเขามาดูสิครับ

หรือถ้าจะเอาให้ชัวร์ ถ้าเขามีใบหย่า ก็พาเขาไปที่เขตที่เขาหย่า ไปให้ที่เขตดูเลยว่า นี่คือใบหย่าจริงไหม

แค่เขาบอกว่า แยกกันอยู่กับเมียมา 2 ปีแล้ว ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันแล้วฉันสามีภรรยา แต่ไม่ได้หย่า ใครที่เชื่อผู้ชายโดยง่ายแบบนี้

ผมเห็นอยู่แค่เหตุผลเดียวคือ วีเจจ๋า รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก มากกว่านะ

สำหรับผู้ชายที่เขารักผู้หญิงจริง ๆ นะ เขาจะไม่นำพาความเสื่อมเสียมาให้ผู้หญิงที่เขารักหรอก เขาจะทำทุกอย่างให้มันโปร่งใสที่สุด เพราะนั่นคือการเห็นว่า ผู้หญิงคนนั้นมีคุณค่ากับเขาจริง ๆ

กรณีผู้ชายที่วีเจจ๋าคบนั้น คือ ผู้ชายเอาแต่ได้ หรือ ได้แต่เอา แปลว่า คิดจะหลอกฟันฟรี ๆ นั่นแล




--------------------

หลังจากข่าวคาวเรื่อง การเป็นเมียน้อยของวีเจจ๋า ผ่านมาไม่ทันจะถึง 2 เดือน

วันก่อน มีข่าวลงว่า วีเจจ๋า ได้ไปถ่ายรูปที่ต่างประเทศ ใส่กางเกงขาสั้นแนวหวิวลง IG ตามรูปด้านล่าง

ก็มีคนเข้าไปวิจารณ์แนวลบว่า ไปกับใคร หรือ ใครถ่ายรูปให้ หรือ แต่งตัวแนวของฝากจากสระบุรี เป็นต้น

จนวีเจจ๋า เดือดโพสตอบโต้พวกวิจารณ์เธอแบบไม่ยั้งหลายโพส จนเป็นข่าวขึ้นมาอีกข่าว

คือแทนที่ประชาชนจะเข้าใจในสิ่งที่วีเจจ๋าชีแจงว่า เธอไปทำงาน โดยมีช่างภาพของผู้ว่าจ้าง คือผู้ถ่ายรูปให้ แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม

ผมอ่าน คห. ผู้คนแสดงความเห็นต่อข่าวนี้ สรุปคือ มีความเห็นหลายร้อยความเห็นยิ่งกระหน่ำสั่งสอนวีเจจ๋า ทั้งสอนแบบผู้ดีแต่เจ็บมาก และด่าวีเจจ๋าแบบหยาบคายก็เพียบ

คลิกอ่านความเห็นผู้คนใน Line เกี่ยวกับการที่วีเวจ๋าออกมาตอบโต้เรื่องการแต่งตัวของเธอ

สรุปว่า วีเจจ๋า กับพฤติกรรมผิดศีลข้อ 3 ที่เป็นข่าว ภาพพจน์ภาพลักษณ์ดี ๆ ที่สั่งสมมาไม่เหลือเลย ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ให้อภัยเธอ

เป็นอุทาหรณ์จริงๆ




ภายหลังต่อมา ผู้ชายของจ๋าก็ได้ไปจดใบหย่ากับเมียแล้วหลังเกิดดราม่า เลิกกันเพราะใครก็รู้ ๆ อยู่

คลิป จ๋าบอกผู้ชายหย่าเมียแล้ว ดูตั้งแต่นาทีที่ 5.55



แนะนำไปอ่านความเห็นหลังผู้ชายของจ๋าหย่าเมียแล้ว ได้ที่ คลิกอ่านที่นี่




วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

สิ่งที่ ศรีวราห์ พูดที่ถ้ำหลวงเขานางนอน เขาเรียก เสียมารยาท







จากกรณี พล.ต.อ. ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. เดินทางไปถ้ำหลวง ในเทือกเขานางนอน แล้วไปสอบถามเรื่องข้อกฎหมาย ใบอนุญาตเจาะถ้ำ ใบอนุญาตบินโดรน นั้น ต้องบอกว่า เป็นการกระทำเสียมารยาทมาก

เพราะว่า นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งว่า การจัดการช่วยเหลือ 13 ชีวิต มอบให้ผู้ว่า ฯ เชียงรายเป็นผู้มีอำนาจสั่งการสูงสุดในเหตุการณ์นี้ (ก็เพื่อป้องกันปัญหาอำนาจทับซ้อนและพวกขาเสือก)

ดังนั้นการปฏิบัติงานทุกเรื่องที่นั่น จะขุด จะเจาะอะไร จะทำอะไร ก็ต้องผ่านการอนุมัติจากท่านผู้ว่า ฯ ทุกเรื่องก่อนแล้วทั้งสิ้น

เพราะทีมผู้ว่า ฯ มีทีมงานจากทุกหน่วยราชการตรงนั้น ดูแลเรื่องข้อกฎหมายทั้งหมดอยู่แล้ว ก่อนจะอนุมัติทำอะไรลงไป

ซึ่งถ้าผมเป็น จนท. หน้างานชั้นผู้น้อย แล้วดันมีนายตำรวจใหญ่มาถามอะไรแทม่ง ๆ กวนตีน ผมจะแกล้งโง่แล้วตอบไปว่า




คนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เมื่อไปอยู่หน้างาน แล้วไม่ใช่ผู้มีอำนาจสั่งการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรง ควรไปแค่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานก็พอ เช่นพูดว่า "น้องมีอะไรติดขัดอยากจะให้พี่ช่วยก็บอกมานะ"

เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เจ้าหน้าที่ ๆ กำลังทำงานช่วยเหลือ 13 ชีวิตมีกำลังใจในการทำงานแล้ว แต่ดันไปถาม จนท.กรมทรัพยากรที่กำลังขุดเจาะ ว่า ใช้กฎหมายข้อไหน มันถามใช่เรื่องไหม ??

แล้วที่ศรีวราห์ ไปถาม ตำรวจป่าไม้ในเรื่องใบอนุญาตการใช้โดรน ก็เป็นคำถามโง่ ๆ เพราะตำรวจป่าไม้เขามีอำนาจโดยหน้าที่ในการใช้โดรนขึ้นบินสำรวจป่าไม้ในเขตความรับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่ต้องมาขอใบอนุญาตอะไร

ส่วนเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบอะไร ถ้าคุณศรีวราห์อยากจะแนะนำอะไร ก็ควรไปคุยกับผู้มีอำนาจในระดับเดียวกัน นั่นคือ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

การไปถามอะไรแบบนั้นเหมือนไม่ให้เกียรติผู้มีอำนาจสั่งการสูงสุดที่นั่นครับ

หมายเหตุ ปัจจุบัน ผู้ว่า ฯ เชียงรายท่านนี้ ได้มีคำสั่งย้ายท่านไปเป็นผู้ว่า ฯ พะเยา ตั้งแต่เดือนเมษาที่ผ่านมา ขณะนี้รอโปรดกล้า ฯ


---------------------

ศรีวราห์ พูดไม่ผิดกฎหมาย แต่แค่ไม่รู้จักกาลเทศะ

แม้แต่ประมวลกกฎหมายอาญาบางข้อ ยังต้องเขียนเพื่อให้ หลักรัฐศาสตร์ นำหน้าเพื่อช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า ข้อกฎหมาย

ลองดูความเห็นในมุมมองทนายความและนักกฎหมายดูครับ




----------------------

ดูพฤติกรรมกร่างเก่า ๆ ของท่านศรีวราห์

ทีพูดกับข้าราชการชั้นผู้น้อย รวมถึงข้าราชการท้องถิ่น ศรีวราห์พูดจากข่มขู่กร่างกับเขา แต่ทีพูดกับเปรมชัย ล่ะ พูดจานุ่มนวลอ่อนเชียว

แต่คลิปนี้ ศรีวราห์ เจอคนจริง !!



--------------------

สรุปปิดท้ายบทความ

เขียนยาว ๆ ตรง ๆ บางคนอาจไม่เกท เลยต้องใช้รูปประโยคคำถาม

ใครเอ่ย พอเจอข้าราชการที่ดี กลับใช้เสียงแข็งใส่ แต่เจอผู้ต้องหารวยหน่อยกลับเสียงอ่อยเสียงหวาน ?

ใครเอ่ย พอเจอข้าราชการชั้นผู้น้อยปกป้องป่า ไม่เคยเห็นยกมือไหว้หรือขอบคุณที่เขาทำเพื่อชาติ แต่พอเจอผู้ต้องหาทำลายชาติกลับยกมือรับไหว้มันซะงามนอบน้อมสุด ๆ ?

ใครเอ่ย เสร่อไปถามข้อกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่กำลังทำงานอย่างเหนื่อยยากเพื่อช่วย 13 ชีวิตในป่า (ทำแสร้งเจตนาดีแต่กึ่งจับผิด)

แต่กับนายตำรวจระดับนายพลบุกรุกสร้างบ้านพักในป่า กลับไม่เคยไปถามหาข้อกฎหมายถึงในป่าบ้าง

ใครเอ่ย ไม่คิดเอาผิดตำรวจสารวัตรบอดี้การ์ดยิ่งลักษณ์ ที่แกล้งโง่ปล่อยให้ยิ่งลักษณ์หนีคดีได้สำเร็จ แถมยังปล่อยให้มันไปรับใช้ยิ่งลักษณ์ถึงลอนดอนมาเย้ยอีกด้วย

ใครเอ่ย บอกจะจับธัมมชโยมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 3 เดือน แต่สุดท้ายธัมมชโยมันก็หนีไปได้

ใครวะ ??




รูป สารวัตรหนุ่ย ตำรวจอารักขายิ่งลักษณ์พูดกับศรีวราห์เพื่อขอตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าไปตรวจค้นบ้านยิ่งลักษณ์ ภายหลังจากยิ่งลักษณ์หนีออกจากประเทศไปแล้ว ทีงี้ท่านศรีทำหงอ !!

คลิกอ่าน บทสรุปสุดท้าย ศรีวราห์ ทำคดีเสือดำ สุดท้ายเปรมชัยหนีแน่




วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2561

เมื่อ คาราบาวแดง ยอดขายแซงหน้า กระทิงแดง !!







แอ๊ด คาราบาว อดีตฉายานักร้องคนจนผู้ยิ่งใหญ่ แต่ปัจจุบันมีฉายาใหม่ว่า นักร้องที่รวยที่สุดของไทย

The Richest Musician of Thailand !!

หุ้นของแอ๊ด คาราบาว ในบริษัทคาราบาวแดง มีมูลค่าประมาณ 5 พันกว่าล้านบาท


ในช่วงที่พีคที่สุดหรือโด่งดังถึงจุดสูงสุดของวงคาราบาว ก็คือ ในช่วงออกอัลบั้ม ชุดเมดอินไทยแลนด์ (พ.ศ.2527) , ชุดอเมริโกย (พ.ศ.2528) , ชุดประชาธิปไตย (พ.ศ.2529) , ชุดเวลคัมทูไทยแลนด์ (พ.ศ.2530) และชุดทับหลัง (พ.ศ.2531)

โดยในช่วงเวลานั้น วงคาราบาว มีเพลงที่รณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าผลิตในไทย อย่างเพลง เมดอินไทยแลนด์

หรือจะเป็นเพลงต่อต้านสหรัฐอเมริกาที่มาหาผลประโยชน์ในทรัพยากรไทย อย่าง เพลงอเมริโกย

หรือจะเป็นเพลงที่เกี่ยวกับการทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมศิลป์ โบราณวัตถุของไทยคืนจากสหรัฐอเมริกา คือ เพลงทับหลัง เป็นต้่น

ช่วงยุครุ่งเรืองของวงคาราบาว ผู้คนทั่วไปในสังคมก็มักจะแซว แอ๊ด คาราบาว กันเล่น ๆ ทำนองว่า แอ๊ด คาราบาว ร้องเพลงเมดอินไทยแลนด์และต่อต้านอเมริกา

แต่ไฉน แอ๊ดกลับนุ่งกางเกงยีนส์ลีวายส์ สูบบุหรี่มาโบโร่แดง ขี่รถมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์เดวิดสัน

การแซว แอ๊ด คาราบาว ในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นการแซวเล่น ๆ เอาฮา ของผู้คนที่ชื่นชอบเพลงคาราบาวในยุคนั้นเท่านั้น

เพราะคนไทยต่างมองว่า ของใช้ของนอกพวกยี่ห้อเหล่านี้ มันก็เป็นของใช้ที่ใคร ๆ เขาก็นิยมใช้กันทั่วไปนั่นแหละ

รสนิยมการใช้ของเมดอินยูเอสเอ ของแอ๊ด คาราบาว จึงไม่ได้ทำให้แฟนเพลงเสื่อมศรัทธาในตัวเขา

จนกระทั่งเมื่อ แอ๊ด คาราบาว หันมาทำธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังประเภทเดียวกับกระทิงแดง นี่แหละ ที่เริ่มมีแฟนเพลงคาราบาวจำนวนไม่น้อย ที่เริ่มเสื่อมศรัทธาในตัวของแอ๊ด คาราบาวลงไปอย่างมาก

เพราะครั้งนึงในอดีต แอ๊ด คาราบาว เคยกล่าวถึงเครื่องดื่มชูกำลังประเภทนี้ว่า

"คนที่เป็นกรรมกร วันหนึ่งต้องดูดบุหรี่ ต้องกินกระทิงแดง ทั้ง ๆ ที่ไม่มีประโยชน์เลยถูกหลอกจนต้องติด ไม่มีใครให้การศึกษาเขาเลยว่า สิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์ แล้วทำไมยังปล่อยให้ขายได้ขนาดนี้"

การที่แอ๊ด คาราบาว พูดถึงเครื่องดื่มชูกำลังประเภท "กระทิงแดง" ในทำนองดูถูกดูแคลน มันเหมือนการประกาศก้องในอุดมการณ์ของเขาไปแล้วว่า เขาต่อต้านเครื่องดื่มไร้สาระประเภทนี้

สมมุติว่า แอ๊ด เคยด่ากระทิงแดง แต่แอ๊ดดื่มกระทิงแดงเสียเองบ้างในบางครั้งบางคราว ก็คงไม่มีใครสนใจจะว่าเขาละเมิดอุดมการณ์ของตัวเองนักหรอกครับ

เพราะเครื่องดื่มประเภทนี้ ใคร ๆ ก็ดื่มเล่น ๆ กันได้ทั้งนั้น คงไม่มีใครอยากหยิบยกมาเป็นประเด็น

แต่การที่แอ๊ด คาราบาว กล่าวประณามเครื่องดื่มชูกำลังถึงขนาดที่ว่า เป็นเครื่องดื่มไร้ประโยชน์ที่หลอกให้คนมีการศึกษาน้อยเสพติด แต่ตัวเองกลับมาผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้เสียเอง จึงเปรียบเสมือนว่า

แอ๊ด คาราบาว กลืนน้ำลายที่ถ่มไปแล้วกลับคืน

ทีนี้ลองมาฟังที่มาที่ไปคร่าว ๆ ถึงจุดเริ่มต้นของทำธุรกิจเครื่องดื่มยี่ห้อคาราบาวแดง จากปากของแอ๊ด คาราบาวเองกันครับ คลิปมีความยาว 3 นาทีกว่า ๆ เท่านั้น



สรุปจากที่แอ๊ด คาราบาว ได้เล่าคร่าว ๆ ก็คือ

ในช่วงเทปผี ซีดีเถื่อน ระบาดรุนแรงในวงการเพลงไทยช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องนึกถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่มีรายได้พอเลี้ยงชีพอย่างมั่นคงมารองรับ

สุดท้ายมาก็ลงตัวที่เครื่องดื่มไร้ประโยชน์ไว้หลอกขายคนมีการศึกษาน้อยให้เสพติด นั่นเอง

เพลงเงินใช่ไหม ผลงานล่าสุดเดือนสิงหาคม 2561 ของ แอ๊ด คาราบาว


เนื้อเพลง

เงินใช่ไหม ทำให้คนจนขื่นขม
เงินใช่ไหม ทำให้สังคมตกต่ำ
เงินใช่ไหม ทำให้คนลืมศีลธรรม
หน้าด้านหน้าดำ เพราะเงินนี่หนอ

เงินใช่ไหม ทำให้ใจคนโหดร้าย
เงินใช่ไหม ทำให้ลูกมันฆ่าพ่อ
เงินใช่ไหม ทำให้เพื่อนฝูงแตกคอ
มีเงินมาล่อ รูปหล่อยังแพ้ขอทาน

* เงินจ้างผีให้โม่แป้งได้
เงินเป็นนายของคนทั่วย่าน
เงินมาผ้าหลุด ความบริสุทธิ์แหลกราน
ทนทรมานกับคำถากถาง

** เงินใช่ไหม ทำให้สังคมสับสน
คือเหตุผล เกิดคนที่ชอบแอบอ้าง
ทำเพื่อชาติ ที่แท้นั้นทำเพื่อตังค์
สังคมผุพัง เพราะอำนาจเงินสั่งมา


-----------------------------

สุดยอดการตลาดของเครื่องดื่มคาราบาวแดง

เครื่องดื่ม คาราบาวแดง เข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545

ใครเล่าเชื่อว่า แค่เพียง 10 ปีเท่านั้นที่ คาราบาวแดง ก็ได้กลายเป็นเครื่องดื่มชูกำลังที่มียอดขายอันดับที่ 2 ในประเทศไทย รองจาก M150 เท่านั้น ยอดขายคาราบาวแดงขึ้นแซงกระทิงแดงมาแล้วร่วม ๆ 6 ปี

โดยคาราบาวแดงครองสัดส่วนในตลาดประมาณ 21 % (โดยคาราบาวแดงครองสัดส่วนประมาณ 21 % นี้มาตั้งแต่ปี 2555



ในไทยคาราบาวแดง อาจเป็นอันดับ 2 รองจาก M150 แต่ถ้าในกลุ่มประเทศ CIMV คาราบาวแดงคือเบอร์ 1 ครัย

-------------------------

สรุปท้ายบทความ

โดยความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า ที่ กระทิงแดง มียอดขายแพ้ คาราบาวแดง อย่างมีนัยยะสำคัญนั้น ก็คือ การเกิดคดีลูกชายกระทิงแดง นั่นเอง

เพราะคดีของลูกชายกระทิงแดงขับรถชนตำรวจจนเสียชีวิต เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2555 ซึ่งก็เป็นปีแรกที่เครื่องดื่มคาราบาวแดงมียอดขายแซงหน้ากระทิงแดง เป็นครั้งแรกในปีนั้น

แน่นอนว่า ก่อนหน้าปี 2555 คาราบาวแดงก็เริ่มมียอดขายตามเบียดกระทิงแดงมาอย่างกระชั้นชิดแล้ว แต่ก็ยังแค่เกือบ ๆ จะแซงได้เท่านั้น

แต่พอมีคดีลูกชายกระทิงแดงเท่านั้นแหละ ยอดขายของคาราบาวแดงก็เบียดเอาชนะกระทิงแดงได้ในที่สุด

แล้วเมื่อลูกชายกระทิงแดงหนีคดีไปเมืองนอก ยอดขายคาราบาวแดงก็เลยยิ่งแซงทิ้งห่าฝยอดขายกระทิงแดงมากขึ้นจนวันนี้

จากที่ผมได้สอบถามและหาข้อมูลมา ผู้ใช้แรงงานที่นิยมเครื่องดื่มชูกำลังส่วนใหญ่จะชอบในรสชาติของ M150 มากที่สุด

ส่วนกระทิงแดง และคาราบาวแดง จะมีคนชอบรสชาติพอ ๆ กัน

ซึ่งถ้าแค่มีรสชาติพอ ๆ กันเท่านั้น ก็ยังยากที่ยอดขายคาราบาวแดงจะแซงหน้ากระทิงแดงได้ง่าย ๆ เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค และการเปลี่ยนพฤติกรรมของร้านค้า มันไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันง่าย ๆ แม้จะพยายามทำการตลาดโปรโมทเพียงใดก็ตาม

ผมจึงมองว่า จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังก็คือ ภาพลักษณ์ดี ๆ ของบริษัทกระทิงแดงที่พังทลายลงไป

จากเหตุที่ลูกชายกระทิงแดง นายบอส หรือนายวรวุทธ อยู่วิทยา หนีคดีขับรถชนตำรวจตายไปอยู่ต่างประเทศนี่แหละครับ ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของกระทิงแดงในประเทศไทยเสียหายยับเยิน

เพราะสโลแกนของกระทิงแดงที่ใช้มาหลายปี คือ ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง กลับกลายเป็นสโลแกนโกหกตอแหล

เพราะทายาทกระทิงแดงนี่แหละครับ ที่กระทำตัวไม่สมเป็นลูกผู้ชายตัวจริง

จึงได้สโลแกนใหม่ว่า

"หนีคดีตัวจริง ลูกชายกระทิงแดง"

------------------------

บทความนี้ขออนุญาตไม่พูดถึงคดีของลูกชายของแอ๊ด คาราบาว นะครับ

เพราะอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ไปแล้ว จึงเสมือนไม่มีคดีติดตัว ซึ่งต่อมาลูกชายของแอ๊ด คาราบาว ก็ได้เป็นนายตำรวจ เชิญไปตามหาข่าวอ่านกันเองแล้วกัน

รวยซะอย่างนิ !! 

ลูกแอ๊ด คาราบาวแดงเป็นตำรวจ 
แต่ลูกชายกระทิงแดงเป็นผู้ต้องหาหนีคดี !!

"..ชีวิตของลูกผู้ชาย
สายลมแสงแดด
หลังแมงกะไซด์
รวยจนอย่าไปสนใจ
ไม่ใช่จุดหมายของเสรีชน.."

จากเพลง ฮาร์เลย์เดวิดสัน วงคาราบาว

---------

แถมท้าย ศึกษากลยุทธ์การตลาดคาราบาวแดง

ส่วนตอนนี้ผมของให้คุณผู้อ่านช่วยวางอคติใด ๆ เกี่ยวกับแอ๊ด คาราบาว ลงไปก่อนนะครับ

หากเรามาสนใจศึกษาแนวทางการทำตลาดของคาราบาวแดง ว่า คาราบาวแดงทำการตลาดอย่างไร ทำไมถึงล้ม กระทิงแดง เครื่องดื่มชูกำลังยอดขายอันดับสองของไทยอย่างยาวนานลงได้

เป็นคลิปที่ดูเพลินและได้ความรู้ดีครับ หากมีเวลาค่อยหาโอกาสดูคลิปนะครับ






คลิกอ่าน แอ๊ด คาราบาว นักร้องเพลงเพื่อชีวิตตัวเอง อุดมการณ์หลังอุดมกิน




วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทสรุป ศรีวราห์ ทำคดีเสือดำ สุดท้าย เปรมชัย หนีแน่ ?







ตั้งแต่มีคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ฆ่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ก็ได้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล เป็นหัวหน้าชุดทีมสอบสวนคดีนี้

จับนายเปรมชัยได้แค่ 2 วัน ก็มีกระแสสังคมเริ่มไม่ค่อยไว้วางใจการทำงานของ คุณศรีวราห์ มากนัก จนมีกระแสเรียกร้องจากกลุ่มคนบางกลุ่มอยากให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าทีมสอบสวนนี้

ทีนี้เรามาดูกันว่าเพราะอะไรที่คุณศรีวราห์ ถึงถูกกระแสสังคมเริ่มไม่ไว้ใจในการทำคดีนี้

1. คุณศรีวราห์ เสนอกรมอุทยานฯ ให้สอบสวนทางวินัยและเอาผิดทางอาญากับคุณวิเชียร ชิณวงษ์ ข้อหาไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน 110 บาท

คือ พอเริ่มมีคดีนายเปรมชัยฆ่าเสือดำเกิดขึ้น สังคมก็จับจ้องว่า ตำรวจจะดำเนินคดีนายเปรมชัย ยังไง

เพราะผู้คนในสังคมเกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิม ๆ ที่คนรวยระดับมหาเศรษฐีในบ้านเมืองนี้ไม่เคยติดคุกสักคน เช่น ทักษิณ ลูกชายกระทิงแดง ธัมมชโย ยิ่งลักษณ์ เป็นต้น

แต่จู่ ๆ คดีผ่านไปยังไม่ทันไร คุณศรีวราห์ กลับพูดเรื่องการเอาผิดทางวินัยและทางอาญากับ หน.วิเชียร กรณีที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ กับนายเปรมชัยขึ้นมา

ทั้ง ๆ ที่คุณศรีวราห์ ควรจะถามไถ่ตรวจสอบเป็นการภายในกับกรมอุทยาน ฯ ให้ชัดเจนก่อนน่าจะดีกว่า

คุณศรีวราห์ ไม่จำเป็นต้องรีบออกมาพูดให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเด็นนี้ จนทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงใจว่า ตำรวจจ้องจะเล่นงานเจ้าหน้าที่อุทยานที่จับกุมนายเปรมชัย มากกว่าสนใจจะเอาผิดนายเปรมชัย

ซึ่งเรื่องค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาตินี้มันเป็นเรื่องภายในของกรมอุทยาน ฯ หากทางตำรวจสงสัย ก็แค่ส่งเรื่องไปสอบถามเงียบ ๆ ก็ได้ แต่คุณศรีวราห์กลับออกมาพูดเอง ทั้งที่มันเป็นประเด็นเล็กมาก เมื่อเทียบกับคดีที่นายเปรมชัยก่อขึ้น

การกระทำของคุณศรีวราห์ เหมือนมีเจตนาข่มขู่อ้อม ๆ เพื่อหวังผลอะไรบางอย่างต่อเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ (ประหนึ่งว่าอยากช่วยแก้แค้นให้เปรมชัยนิดๆ)

แทนที่คุณศรีวราห์จะพูดจาให้เกียรติข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ทำงานอย่างกล้าหาญในจับกุมคนใหญ่คนโต  แต่คุณศรีวราห์กลับทำตัวเหมือนอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับ จนท.อุทยาน ฯ เสียเอง ซะงั้น

คุณผู้อ่านลองคิดถึงจิตใจของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่เข้าจับกุมนายเปรมชัยดูสิครับ แค่จับกุมนายเปรมชัย พวกเขาก็หวั่นใจกับอำนาจอิทธิพลอำนาจมืดต่าง ๆ ที่อาจจะตามมากระทบมาถึงเขาอยู่แล้ว

แทนที่ตำรวจจะพูดจาให้พวกเขามีกำลังใจขึ้น กลับเจอตำรวจจ้องจะเอาผิดกับเรื่องไม่เก็บค่าธรรมเนียมที่ดูจะสลักสำคัญกว่าการฆ่าเสือดำของนายเปรมชัยซะแล้ว





คลิปต่อมา ลองไปฟังคุณศรีวราห์ รู้สึกเดือดร้อนมาก ที่คุณวิเชียร ทำเงินรายได้ของรัฐต้องหายไปตั้ง 110 บาท

โดยคุณศรีวราห์ ได้กล่าวว่า "ก็ต้องสอบสวนนะฮะ เพราะค่าธรรมเนียมรัฐหายไปตั้ง 110 บาท!! "

ดูคลิปนาทีที่ 2.00



สงสัยเสือดำตัวนี้ราคาคงจะถูกกว่าค่าธรรมเนียม 110 บาท หรือไง ดูคุณศรีวราห์ จะเป็นเดือดเป็นร้อนเหลือเกิน

ซึ่งภายหลังกรมอุทยาน ฯ พิจารณาแล้วว่า กรณีค่าธรรมเนียม คุณวิเชียร ไม่มีความผิด

---------------------

2. คุณศรีวราห์ ตำหนิลูกน้องอย่างรุนแรง ที่รับฟ้องข้อหาทารุณกรรมสัตว์กับนายเปรมชัย 




ซึ่งต่อมาก็ได้มี คำสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ และรับคำร้องทุกข์ไว้

ฉะนั้น อาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547 มาตรา 89 ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษข้าราชการตำรวจ อัตราโทษและการลงโทษภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง หรือตัดเงินเดือน พุทธศักราช 2547 จึงให้ลงโทษภาคทัณฑ์ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ


ตรงเรื่องนี้นี่เอง ที่ทำให้สังคมเคลือบแคลงใจคุณศรีวราห์ อย่างมาก

เนื่องจาก ข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ตอนนี้มันยังไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมาย  เหตุเพราะรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ฯ ยังไม่ให้คำจำกัดความคำนิยามกลุ่มสัตว์ที่เข้าข่ายในกฎหมายฉบับนี้ให้ชัดเจน (ใครที่ไม่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายโดยเฉพาะ ก็ยากที่จะตีความกฎหมายเรื่องนี้ได้ถูกต้องแน่ชัด)

ผมมองว่า คุณศรีวราห์กระทำเกินกว่าเหตุกับลูกน้อง ก็ในเมื่อกฎหมายมันไม่ชัดเจน นอกจากจะยกประโยชน์ให้จำเลยแล้ว แต่ก็ควรยกประโยชน์ให้ลูกน้องของท่านด้วย โดยแค่ว่ากล่าวตักเตือนก็ควรจะพอ

เหตุเพราะยังไม่เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน กฎหมายทารุณกรรมสัตว์จึงไม่รู้ว่ามีช่องโหว่ในเรื่องการจำกัดความการทารุณกรรมสัตว์ว่า จะใช้กฎหมายนี้กับกลุ่มสัตว์ในหมวดหมู่ใดได้บ้าง ซึ่งจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายตรงช่องโหว่ในจุดนี้ต่อไป

"เปรมชัย ยังไม่ทันรับโทษ แต่มีคนซวยเพราะคดีนี้หลายคนแล้ว"



------------------

ประเด็น DNA บนมีด เขียง 

คุณศรีวราห์ บอกห้องแลปของกรมอุทยานฯ ทำผลตรวจไม่ชัดเจน เหตุเพราะห้องแลปของกรมอุทยานใช้สารเคมีตรวจไปก่อน เลยไปทำลายผล DNA ของคน

จน หัวหน้านิติวิทยา ของกรมอุทยาน ฯ ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง




-----------------

คุณศรีวราห์ บอก เสือดำไม่ตายฟรี แต่...

ให้ฟังคลิป ตั้งแต่นาทีที่ 12.20 เป็นต้นไป เมื่อคุณศรีวราห์ กล่าวว่า "ตราบใดที่คดียังไม่ถึงศาลฎีกา ผมก็เชื่อว่าเขายังไม่หนี"



ถ้าขนาดคุณศรีวราห์ เอ่ยปากชี้ช่องขนาดนี้แล้ว

บทสรุป คดีเปรมชัยฆ่าเสือดำ คงรู้คำตอบแล้วล่ะนะ ว่าตอนจบเปรมชัยจะติดคุกหรือไม่

----------------------

ย้อนดู ผลงานประกาศจับเก่า ๆ ของศรีวราห์





คุณศรีวราห์ ประกาศจับใครครั้งใด หมายถึง บุคคลคนนั้นหนีแน่ !!

ธัมมชโย ก็หนีมาแล้ว ยิ่งลักษณ์ ก็หนีไปแล้ว

สุดท้าย เปรมชัย ยังไม่ต้องรีบหนี รอคดีให้ถึงศาลฎีกาก่อนก็ได้นะ 555

----------------------------

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมพนักงานสอบสวน นำสำนวนส่งมอบให้กับนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เพื่อพิจารณาแล้ว


รูปจากข่าวสด

บทบาทท่าทีของตำรวจที่มีต่อคดีต่าง ๆ นั้น มันมีส่วนทำให้สังคมเชื่อมั่น หรือ ไม่เชื่อมั่นต่อตำรวจได้ทั้งนั้น

กับผู้ต้องหาทำผิดกฎหมายคดีสำคัญน่ะ ตำรวจไม่ต้องเคร่งครัดมารยาทมากนักก็ได้

แต่กับเจ้าหน้าที่ ๆ เขาทำตามหน้าที่น่ะ ควรได้รับความเมตตาและให้เกียรติจากตำรวจให้มากกว่าผู้ต้องหา

คลิปเปรียบเทียบ ท่าทีต่อผู้ต้องหาของ เสรีพิศุทธิ์ ที่มีต่อ ป.ประตูน้ำ เปรียบเทียบกับ ศรีวราห์ กับ เปรมชัย





ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ก็เพราะอยากให้คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ และหวังว่า วันนั้นคงจะเกิดขึ้นจริง ๆ คือ นายเปรมชัย ได้เข้าคุกตามความผิดที่ก่อขึ้น

ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้นายเปรมชัย หลบหนีคดีได้เหมือนคดีของมหาเศรษฐีรายอื่น ๆ นั้น ก็คงมีแต่ตำรวจ เท่านั้นแหละ

ในประเทศเกาหลีใต้ ตำรวจเขามีหน้าที่ควบคุมป้องกันคนใหญ่คนโตที่ต้องคดีอุกฉกรรจ์ ไม่ให้หลบหนีออกนอกประเทศ

แต่ที่นี่ประเทศไทย ที่ผ่านมาหลายคดี ตำรวจกลับพาผู้ต้องหาหลบหนีเสียเอง !!

คลิกอ่าน สิ่งที่ ศรีวราห์ พูดที่ถ้ำหลวงเขานางนอน เขาเรียกว่า เสียมารยาท




วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความห่วยหน่วยงานรัฐ กับปัญหาฝุ่น pm 2.5







ว้นก่อนได้ดูข่าว เจ้าหน้าที่ของ กทม. จัดกิจกรรมล้างถนนเพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง ที่เรียกว่า ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งก็คือฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก ๆ คือเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่สูงเกินค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. ในหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร

ผมดูข่าวนี้แล้วรู้สึกเหมือนถูกหน่วยงานรัฐที่มีชื่อว่า "กรุงเทพมหานคร" ดูถูกว่า ประชาชนโง่ ยังไงยังงั้นเลย

เพราะที่ กทม. ล้างถนนน่ะ มันแค่กิจกรรมปาหี่ ลูบหน้าปะจมูก แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แก้ปัญหาแบบผักชีโรยหน้าไปวัน ๆ เท่านั้น

(แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างน้อยก็ได้ผลเชิงจิตวิทยามวลชนให้รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย และถนนก็สะอาดขึ้น ถถถ !! )

เพราะความจริงแล้ว ฝุ่น pm 2.5 มันมักไม่ตกลงสู่พื้นเป็นฝุ่นสกปรกหรอก แต่มันมักลอยฟุ่งไปมาในอากาศอยู่แทบตลอดเวลา เพราะขนาดมันเล็กและเบามากจนไม่ค่อยตกนิ่งลงบนพื้นง่าย ๆ

เพราะถ้าฝุ่น pm 2.5 ตกลงบนพื้นง่าย ๆ มันคงไม่มีสภาพอากาศแบบหมอกควันลอยคลุ้งในอากาศจนเป็นปัญหาหรอก

ส่วนฝุ่นที่ตกลงพื้นง่าย ๆ มันคือฝุ่นขนาดใหญ่ ที่มันแค่สร้างความสกปรก แต่มันไม่ค่อยอันตรายมากนัก เพราะคนเรามีกลไกปกป้องฝุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.5 ไมครอนอยู่แล้ว หรือแค่ใส่ผ้าปิดจมูกก็พอป้องกันได้พอควร

ส่วนฝุ่น pm 2.5 มันเล็กมากขนาดที่ว่า เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าปอด แล้วจากปอดก็สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้เลย หรือถ้าตกค้างในปอด ก็มักไม่ค่อยออกมาจากปอด แต่มักจะตกค้างจนก่อโรคในปอดได้ อันเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งโรคมะเร็งหลายชนิด


หมอกฝุ่น pm 2,5 เกินมาตรฐานในกรุงเทพฯ (ไทยรัฐ)

------

แล้วหน้าที่ของ กทม. ที่ถูกที่ควรทำคืออะไร ?

สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น pm 2.5 ก็คือ การก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ใน กทม. รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่าง รวมถึงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดในกรุงเทพฯ

หน้าที่ของ กทม. คือ ตรวจตราดูแลให้เขตการก่อสร้างเหล่านี้ต้องมีการปกคลุมผ้าใบป้องกันฝุ่นละอองหลุดมาสู่ภายนอกให้มิดชิดอย่างมีมาตรฐาน ก็จะช่วยลดปริมาณฝุ่นทุกชนิดลงได้มาก

ขอถาม กทม. หน่อยว่า ทุกวันนี้มีการควบคุมการก่อสร้างต่าง ๆ ในกทม. ดีแล้วรึยัง ?

ไม่ใช่มาดูถูกประชาชน ด้วยจัดกิจกรรมฉีดน้ำล้างถนนเพื่อลดฝุ่น pm 2.5

-------

ตำรวจไทยยังนิ่งเงียบกับปัญหาฝุ่น pm 2.5

สาเหตุสำคัญของการเกิดฝุ่น pm 2.5 ในกรุงเทพ ฯ อีกอย่าง ก็คือ จากควันท่อไอเสียรถยนต์

โดยเฉพาะควันที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์จากเครื่องยนต์ดีเซล จะก่อฝุ่นขนาดเล๊ก pm2.5 มากที่สุด

ซึ่งตำรวจมีหน้าที่ตรวจจับรถยนต์ที่มีควันไอเสียเกินค่ากำหนดโดยตรง

ทุกวันนี้เรายังเห็นรถที่ปล่อยควันพิษเกินค่ากำหนดมากมายบนท้องถนน

หากตำรวจไม่จับปรับให้เด็ดขาดและเอาจริง ปัญหาฝุ่น pm 2.5 ก็ไม่มีทางแก้ไขได้อย่างแน่นอน

ซึ่งผมคิดไว้นานหลายปีแล้วว่า สักวันกรุงเทพฯ จะต้องเจอปัญหาฝุ่น pm 2.5 อย่างหนักแน่ ๆ เพราะความห่วยและการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

ดังนั้นต้นเหตุของปัญหาของฝุ่นละออง pm 2.5 จริง ๆ ก็คือ ความห่วยและโหลยโท่ยของหน่วยงานของรัฐ นั่นเอง

-----

ฝุ่น pm 2.5 กับอุบัติการณ์การเกิดโรคไตอักเสบ


เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการรายงานการศึกษาโดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้พบว่า ปริมาณมลภาวะในอากาศที่มีฝุ่นขนาด PM 2.5 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคไตอักเสบมากขึ้น (จนถึงภาวะไตวาย)

โดยพบว่า ในสหรัฐอเมริกา เมืองที่มีมลภาวะทางอากาศที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงกว่าค่าปกติมาตรฐาน ก็จะมีอุบัติการณ์ของผู้ป่วยไตอักเสบและไตวายมากขึ้นกว่าเมืองที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 ไม่เกินมาตรฐาน

ยิ่งเมืองไหนมีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้น การเกิดผู้ป่วยโรคไตอักเสบและไตวายก็มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน 



คลิกอ่านข่าว ฝุ่น PM 2.5 ก่อให้เกิดโรคไต

-------------------

ผมขออธิบายว่า เพราะ ไตมีหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือด เมื่อฝุ่น PM 2.5 ที่อาจมาจากฝุ่นจากสารเคมีต่าง ๆ ผ่านเข้าสู่ปอด แล้วตรงเข้าสู่กระแสเลือด สุดท้ายก็ต้องผ่านมาถึงไตเพื่อกรองของเสียในเลือด ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้ไตเกิดการอักเสบได้