วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

แฉ ลอร์ดออฟเดอะเลว จ้างนางแบบอมครั้งละล้าน







ไอ้ชั่วอาจรอดจากมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ของ ๆ มันก็พิการไปด้วย แต่ความอยากมันยังอยู่ แม้จะใช้ออกรบไม่ได้ แต่ถ้าใช้ใครมาอมก็ยังพอไหว

ไอ้ชั่วมันเลยจ้างนางแบบ นักร้อง ไปอมเพื่อสนองความต้องการของมันสม่ำเสมอ

วันนี้จิตแพทย์ชื่อดัง หมอกัมปนาท ได้เผยเรื่องราวพฤติกรรมลับล้วงอม ของคนที่คุณก็รู้ว่าเลว


--------------


วันที่ (19 ก.ย.) นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์ทางเฟซบุ๊ก "นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล (Kampanart Tansithabudhkun, M.D.)" ภายหลังเกิดกระแสข่าวนักร้องสาว ใบเตย (สุธีวัน ทวีสิน) ที่ออกมาเผยว่าได้เดินทางไปร้องเพลงพร้อมทานข้าวกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ว่า...

"เรื่องหนักอก (หนักใจ)....

วันนี้จะคุยกันเรื่องหนักอก(หนักใจ)ที่มิใช่ เรื่อง "แน่นอก" ครับ ...

เมื่อสองเดือนก่อน มีพิธีกร นางแบบสาวท่านหนึ่ง คุยกันไปคุยกันมาก็หลุดปากพูดออกมาเนื่องจากมีความสนิทสนมกัน บอกว่า เพื่อนสาวของเธอ เพิ่งกลับมาจากประเทศแถวตะวันออกกลาง ...ผมก็ถามว่าไปทำอะไร เธอบอกว่า ไปทำงานให้ใครบางคนที่นั่น ผมก็อยากรู้ว่าคนคนนั้นคือใคร(อยากรู้มาก) เธอเลยเฉลยว่า คนคนนั้นคือ "ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ " หรือ "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" และงานที่ไปทำ ไม่ใช่ไปกินข้าว หรือไปร้องเพลง แต่ไป "อม" 

ผมเลยสงสัยว่าถ้าไม่กิน แล้วอม(ข้าว)อย่างเดียว ข้าวไม่บูดหมดหรือ ? ...แต่ไม่ได้คำตอบกลับมา รู้เพียงว่าค่า"อม" หนึ่งล้านบาท ....ก็ได้แต่ทอดถอนใจว่าท่านลอร์ดท่านนี้ช่างฟุ่มเฟือยเสียจริง แต่มาคิดอีกทีก็พบว่า เงินที่จ่ายทีละล้าน สำหรับการบินไป"อม" นั้น (นั่นหมายความว่ามีการดาหน้ากันไป ไม่ใช่รายแรกและรายเดียวนะครับ) มันก็แค่เศษเงินของเขา และที่สำคัญมันอาจจะมาจากเงินที่คอรัปชั่นประเทศชาติของท่านลอร์ดเองนั่นแหละ ถึงไม่ได้รู้สึกอะไร

ผ่านไปสองเดือน ฟังข่าวฮ็อตๆวันนี้ ก็ให้อดสงสัยมิได้ว่า จะเป็นจำพวกเดียวกันหรือเปล่า แต่ค่าตัวไม่เท่ากัน ความจริงหนึ่งล้านบาทนั่น อาจจะไม่ใช่เงินอย่างเดียว อาจจะรวมค่าสิ่งของอื่นๆแล้วเบ็ดเสร็จหนึ่งล้านบาทพอดีก็ได้เนาะ


เลยเอาวิดีทัศน์ที่เคยให้สัมภาษณ์มานานแล้วมาฝากเป็นความรู้กันพอเป็นน้ำจิ้ม ให้เข้าใจท่านลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ผู้ที่ "ของ"ใช้งานไม่ได้แล้ว แต่ยังมี "desire" อยู่ มันช่างน่าเห็นใจเสียกระไร http://www.youtube.com/watch?v=f0RIbJRoHJY

ฝากข้อระวังถึงสาวๆที่ชอบดาหน้ากันไปต่อคิว"อม" (ข้าวบูด) กันนะครับ ระวังกัมมันตภาพรังสีที่ฝังในตัวท่านลอร์ดเพื่อใช้รักษามะเร็ง จะลามมาบริเวณคอหอย จนต่อมไทรอยด์โต บวกกับลามไปที่ปอด จนน้ำท่วมปอด ...แล้วจะมาหาว่า ..."แน่นอก" ...แต่ครานี้ แค่ยก ก็ไม่ออกแล้วนะจ๊ะ ...ตายสถานเดียว

คลายเครียด...ยามฝนตก รถติด และน้ำกำลังจะท่วมหนักอีกครั้ง ...เตรียมรับมือกับพายุลูกใหญ่กันด้วยนะครับ ....ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะครับ (ยืมมาจากดีแทคคอลเซ็นเตอร์ 555)"

http://astv.mobi/Ax5d0kV





จ้างอม.. ครั้งละล้าน แหม ใช้เงินแบบไม่เห็นหัวไอ้พวกไพร่เลยนะ 555

ไอ้ตัวพ่อชอบให้อม ส่วนอีลูกคนโตชอบให้อัดตูด


วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556

เสื้อสีตกของนายกปู บ่งบอกถึงอะไร ?






นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ขณะเดินทางถึงเมืองมิลาน อิตาลี ได้ปรากฎภาพของนายกฯ ใส่เสื้อที่มีรอยสีตกมาเปื้อน ซึ่งทางนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ก็ได้โพสสารภาพลงเฟสบุ๊คของตัวเองว่า

"ตอนนี้เดินทางถึงนครมิลาน มีโอกาสใส่เสื้อที่ตัดมาจากผ้าไหมของศูนย์ศิลปาชีพ ที่โดนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทำให้ผ้าสีอื่นตกใส่จนเกิดเป็นลายผ้าแบบใหม่ที่ใส่มาในวันนี้ค่ะ"




หากคนรักนายกฯ ปู ก็จะแสดงความเห็นทำนองว่า นายกฯ ชั่งดีเลิศจริง ๆ เลย ที่ไม่เรื่องมาก ยอมใส่เสื้อสีตกก็ได้ แสดงว่านายกฯ เป็นคนที่เรียบง่าย ไม่เรื่องมาก จึงไม่ได้ยึดติดแฟชั่นว่าต้องเนี๊ยบเสมอ"

แต่ถ้าเรามองแบบลึกซึ้งจริง ๆ ก็คงต้องบอกว่า เรื่องที่ทำเป็นว่าไม่เป็นไร ไม่ใส่ใจนั้น บางทีมันไม่ได้ช่วยให้นายกรัฐมนตรีของไทยดูดีขึ้นเลย

ผมถามว่า ถ้าคุณผู้อ่านเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ ๆ สำคัญ ๆ สักงาน แล้วแขกที่มาในงานของคุณใส่เสื้อสีตกมาในงานสำคัญของคุณ คุณคิดว่า แขกคนนั้นให้เกียรติงานคุณมากพอหรือไม่ ?

คือถ้าไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเฉพาะหน้าแก้ไขไม่ทัน ก็พอเข้าใจได้ คงไม่มีใครว่าอะไร แต่นี่มันการเตรียมการมาก่อน นี่จึงเป็นกรณีที่เจตนาใส่เสื้อผ้าสีตก


ที่สำคัญ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ได้บอกเองว่า เสื้อนี้เป็นเสื้อผ้าไหมที่ตัดจากศูนย์ศิลปาชีพ และโดนผ้าสีอื่นตกใส่ตั้งแต่น้ำท่วมปี 2554 !!

ถามว่า เหตุการณ์มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว ทำไมจึงต้องน้ำเสื้อสูทที่โดนผ้าสีอื่นตกใส่มาใส่ในการเยือนต่างประเทศด้วย ?

ใส่เสื้อสีตกในการเยือนต่างประเทศ มันถูกกาลเทศะแล้วหรือ ?

2 ปีที่ผ่านมาหาเสื้อมาเปลี่ยนแทนไม่ได้หรือ ? เจาะจงว่าต้องใส่เสื้อที่โดนสีตกใส่ด้วยหรือ ? เจตนาเพื่ออะไรกันแน่ ?

ถ้าใส่ออกในงานประเทศก็ยังพอทน แต่นี่เดินทางไปเป็นตัวแทนประเทศ กลับไม่พิถีพิถันในการเลือกชุดที่จะใส่ให้ดีพอ

แล้วที่สำคัญอ้างด้วยว่า เป็นเสื้อที่ตัดจากศูนย์ศิลปาชีพ ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า ทำไมต้องใส่เสื้อสีตกที่มาจากศูนย์ศิลปาชีพด้วย ?

ทำไมไม่หาเสื้อสูทจากปราด้า หรือชาแนลที่สีตกใส่ไปใส่แทนล่ะ ?

ซึ่งจริง ๆ แล้วระดับนายกฯ รวยขนาดนี้ ถ้าเกิดฉุกเฉินไม่มีเสื้อใส่จริง ๆ ก็ให้ทีมงานแอบไปซื้อสูทดี ๆ ของอิตาลีมาหาใส่แทนก็ได้

เพราะปกติการที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ใส่เสื้อจากศูนย์ศิลปาชีพ เจตนาก็เพื่ออยากจะโปรโมทผ้าไหมไทยว่าสวยงาม ตัดชุด ตัดสูทอะไรก็สวยงาม และเพื่อจะโปรโมทว่า ผลงานจากช่างศูนย์ศิลปาชีพในพระราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ฯ นั้นมีมาตรฐานงานที่ประณีต และสวยงามเพียงใด

แล้วทำไมจู่ ๆ ต้องไปนำเสื้อสูทผ้าไหมที่สีตกนำไปใส่อวดชาวต่างชาติด้วย ?

จะให้คนต่างชาติเขาคิดอย่างไร ?
ศูนย์ศิลปาชีพกล้าส่งเสื้อที่สีตกมาให้นายกฯ ใส่ได้ยังไง ?

มาตรฐานการผลิตและตัดเย็บของศูนย์ศิลปาชีพต่ำขนาดนี้หรือ ? ที่ยอมปล่อยผลงานที่บกพร่องผ่านมาส่งแก่ลูกค้าได้หรือ ?

ผมถามหน่อยว่า มีผู้นำประเทศชาติไหนบ้างที่ไปเยือนต่างประเทศด้วยเสื้อผ้าสีตก ?

ทำไมทีมงานนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เอง คิดยังไงถึงยังเลือกที่จะหยิบเสื้อสีตกไปใช้ในการเยือนต่างประเทศ

ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่า ทีมงานนายกฯ และตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์เอง ใช้หัวแม่ตีนคิดหรืออย่างไร ?

เหตุการณ์ผ้าสีตกผ่านมาตั้ง 2 ปีแล้ว แก้ไขไม่ได้เหรอ?
หรือไปขอเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหม่จากศิลปาชีพใหม่ไม่ได้เหรอ ?

หรือใช้ตัวอื่นแทนก็ไม่ได้ เจตนาทั้งหมดทำเพื่ออะไร ?

อยากอวดผ้าไหมไทยสีตกเนี่ยนะ คงทำให้ชาวต่าวชาติประทับใจในผ้าไหมไทยมากล่ะสิ

นายกฯ ยิ่งลักษณ์เจตนาจะไปอวดผ้าไหมไทย หรือจะไปช่วยทำลายชื่อเสียงผ้าไหมไทยโดยเฉพาะของศูนย์ศิลปาชีพ ฯ กันแน่ ?

หรือทั้งหมดเป็นสิ่งที่ ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ หรือไง ?

------------------

ล่าสุดเมื่อสักครู่นี่เอง ผมดูรายงานข่าวการเยือนมิลานของนายกฯ ปู เจตนาก็เพื่อจะไปส่งเสริมผ้าไหมไทย ให้ดีไซน์เนอร์ดัง ๆ แห่งเมืองมิลานหันมาใช้ผ้าไหมไทยในการตัดชุด

ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ มิลานมีชื่อเสียงด้านแฟชั่นของอิตาลีมาก ๆ

แล้วนายกฯ จะไปโปรโมทผ้าไหมไทย แต่กลับใส่เสื้อผ้าไหมสีตกไปเยือนมิลานเนี่ยนะ ?

การกระทำของยิ่งลักษณ์แบบนี้ว่า เจตนาดีแต่ประสงค์ร้ายมากกว่า 

คนมิลานเขาจะคิดยังไง นายกฯ ไทยใส่เสื้อสีตกมาเยือนบ้านเมืองเขา นี่คือการให้เกียรติเขาหรือ ?




วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

เฉลย คลิป อีโง่ คือใคร ?









เฮ่อ.. แค่นายอภิสิทธิ์ พูดคำว่า อีโง่ แค่นี้ มีพวกฟายแดงร้อนกันใหญ่

ถ้าเป็นคนฉลาด ๆ น่ะ ถ้าไม่ได้เอ่ยชื่อเขาตรง ๆ

เขาจะต้องไม่ใส่ใจว่า อีโง่ นั้นหมายถึงใคร ?

เพราะถ้ายิ่งไปเดือดร้อน อยากจะรู้มากกว่าอภิสิทธิ์พูดถึงใคร ? ด่าใคร ?

นั่นแสดงว่า ร้อนตัวกันไปเอง หรือไม่ก็ ยอมรับกันไปเองว่า อีโง่ คือใคร ?

ก็เท่ากับว่ายิ่งไปตอกย้ำว่า คนที่ฟายแดงคิดว่าคือ อีโง่ นั้น ก็คือการยิ่งไปด่าคน ๆ นั้นให้เป็น อีโง่ อย่างจริงจังซ้ำเข้าไปอีก

--------------

ปีที่แล้วของแพง ใครเคยบอกประชาชนคิดไปเอง ?

ฉะนั้นคำตอบว่า อีโง่ คือใคร ?

ก็อยากบอกว่า ฟายแดงคิดไปเองเหมือนกัน 5555

ถ้าฟายแดงยังไม่เข้าใจที่ผมเขียน

ผมถามง่าย ๆ ว่า คนที่มันบอกให้เอาหญ้าแพรกไปดูดซับน้ำ นั่นแหละอีโง่

ถ้าฟายแดงยังไม่รู้อีกว่าใคร งั้นใบ้ให้อีกเรื่อง

ใครที่มันพูดว่า อาเซียนมีประชากรครึ่งหนึ่งของโลก ?

ถ้าบอกแบบนี้ฟายแดงยังไม่รู้อีกว่าใคร ?

งั้น ช่วยใบ้ให้เรื่องสุดท้ายนะ

ใครที่มันบอกว่า ซิดนีย์ เป็นประเทศ ก็คน ๆ นั้นแหละ อีโง่

ถ้าใบ้มาขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีก ผมว่า พวกฟายแดงทั้งประเทศนั่นแหละคือ  อีโง่ 55555


ปล. ล่าสุดอีโง่ไปเยือนนครรัฐวาติกัน พบสมเด็จพระสันตปะปา ดันโพสเฟสบุ้คและทวิสเตอร์ว่า ไปเยือนนครรัฐอิตาลี !!




คลิกอ่าน รวมคลิปฮา จ่าประสิทธิ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์

คลิกอ่าน โอ๊ค ก็นายกหญิงคนแรกมันโง่ จะให้ตอแหลว่าฉลาดรึ ?



วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

เรามาไหว้ โลก พระอาทิตย์และพระจันทร์ แต่ไม่ไหว้ราหูกันเถอะ









บ่อยครั้งที่ผมออกจากบ้าน เมื่อผมเห็นดวงอาทิตย์ ผมจะยกมือไหว้ดวงอาทิตย์ เพราะดวงอาทิตย์เป็นต้นกำเนิดแหล่งพลังงานมหาศาล ในการสร้างสิ่งมีชีวิตบนโลก ดวงอาทิตย์จึงเป็นผูัมีพระคุณสูงสุดต่อสรรพชีวิต

เพราะดวงอาทิตย์มีพลังแห่งชีวิต ซึ่งทั้งในอินเดีย และจีน ก็เชื่อเช่นนั้น ไม่ว่าจะต้นไม้ สรรพสัตว์ รวมทั้งมนุษย์ หากไม่ได้รับพลังจากแสงอาทิตย์บ้างเลย ก็จะล้มป่วย ร่างกายก็จะอ่อนแอ

และผมก็ไหว้ แผ่นดิน หรือไหว้โลก เพราะผมถือว่า โลกคือมารดาแห่งสิ่งมีชีวิตทั้งหลายบนโลกนี้ โลกจึงเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดอันดับแรก

และบ่อยครั้งที่ผมไหว้ดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเต็มดวงหรือไม่ก็ตาม เพราะดวงจันทร์ มีอิทธิพลต่อการกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลกเช่นกัน ยิ่งตอนคืนวันพระใหญ่ เช่นวันวิสาขบูชา และวันสำคัญทางศาสนาอื่น ๆ ผมจะยิ่งต้องไหว้ดวงจันทร์เช่นกัน เพราะเป็นดวงจันทร์ดวงเดียวกับที่พระพุทธองค์ ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดวงจันทร์จึงเป็นผู้มีพระคุณสูงสุดรองลงมาจากโลกและพระอาทิตย์


หากให้ผมเปรียบ ผมว่า โลกเปรียบเสมือนแม่ ดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนพ่อ ดวงจันทร์เปรียบเสมือนน้ำคร่ำและสายสะดือแห่งครรภ์มารดา

ส่วนพระพุทธเจ้า คือ ครูแห่งสรรพสัตว์ และบิดามารดาของเรา คือพระอรหันต์ของลูก





พระราหู คืออะไร ?

คำตอบก็คือ เงาของโลกที่ไปบังดวงจันทร์ในกรณีจันทรคาส หรือดวงจันทร์ทั้งดวงมาบังดวงอาทิตย์ ในกรณีสุริยคราส

ในโบราณกาล คนโบราณเชื่อว่า โลกคือศูนย์กลางของจักรวาล แม้แต่พระอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์อื่น ๆ เป็นเพียงบริวารของโลก

การที่คนโบราณตกใจเห็นดวงจันทร์มืดมิด ก็เพราะคนโบราณไม่รู้ว่า นั่นคือเงาของโลกมาบดบัง

หรือเห็นพระอาทิตย์มืด ก็ไม่รู้ว่านั้นคือการเดินทางของดวงจันทร์มาบดบังดวงอาทิตย์ ตามหลักการโคจรของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ที่โลก ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ โคจรมาทับซ้อนในแนวเดียวกัน

แล้วตกลงพระราหูคือเงาของโลก แล้วราหูก็เป็นดวงจันทร์ด้วยอย่างนั้นหรือ ? 
แบบนี้ยิ่งถือว่า ไหว้มั่ว !!

ผมน่ะไหว้โลก ไหว้พระจันทร์ และไหว้พระอาทิตย์ เพราะทั้ง 3 สิ่งนี้ ทำให้มีพวกเราบนโลกแห่งนี้ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เช่น หากไม่มีดวงจันทร์ ก็ไม่เกิดสภาวะที่เหมาะสมเพียงพอต่อการมีสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้เช่นกัน (นี่คือตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าไว้)

ส่วนดวงจันทร์นั้นเกิดจากการพุ่งชนของอุกาบาตขนาดใหญ่ประมาณดาวอังคารที่มาชนโลก ทำให้เปลือกของโลกเกิดการระเบิดและกระจายออกสู่ห้วงอวกาศ

ซึ่งหลังจากการพุ่งชนเพียง 1 ปี เปลือกของโลกที่แตกกระจายนั้น ก็ได้ค่อย ๆ รวมตัวกันเป็นดวงจันทร์ เมื่อประมาณ 3,000 ล้านปีที่แล้วครับ

ส่วนในประเทศไทยมีลัทธิบูชาราหู ลัทธิหาเงิน ขายของบูชา ขายวัตถุมงคล ที่เกี่ยวกับพระราหู ?

เพราะราหูก็คือเงาของโลก แทนที่จะมาไหว้โลก ดันไปไหว้เงาของโลกแทน ผมว่า ลัทธิไหว้ราหูนี้เกิดจากการนำความโลภของคนเรามาหลอกล่อ ให้คนศรัทธาอีกที

คนที่หวังรวย หวังลาภ จึงไปหลงเชื่อเรื่องงมงายเหล่านี้โดยง่าย ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาตั้งตนเป็นเจ้าลัทธิไหว้พระราหู ก็ยังไม่เท่าไหร่

แต่บังเอิญมีพระในพระพุทธศาสนานำเรื่องพระราหูมาหากิน หลอกให้ชาวพุทธไปหลงศรัทธานอกเรื่องในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอน อันนี้ผมถือว่า พระรูปนั้นไม่ใช่พระครับ

โดยพระที่ชอบสนอให้คนไหว้พระราหูมักจะอ้างว่า พระราหูมีอยู่ในพระสูตรในพุทธศาสนา และพระราหูเคยพบพระุทธเจ้า และมีคาถาขับไล่พระราหู

ซึ่งถ้าเรายอมรับว่า พระราหูคือเทวดาที่มายึดพระอาทิตย์และพระจันทร์ไว้ ก็เท่ากับว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสได้ค้านกับหลักวิทยาศาสตร์

ทั้ง ๆ ที่เรารู้กันดีว่า ราหูก็คือ เงาของโลกที่บดบังดวงจันทร์ หรือบางครั้ง ราหูก็คือ ดวงจันทร์ที่โคจรมาบดบังแสงอาทิตย์


แม้พระราหู หรือ อสุรินทราหู จะเป็นพระโพธิสัตว์ และจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกัปเดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย ก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงพ้องชื่อเท่านั้น หาใช้พระราหูแบบที่พวกโหราศาสตร์หรือศาสนาฮินดูเชื่อ

ในเรื่องราหูในพุทธศาสนา ผมแนะนำให้อ่านบทวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง '“ราหูอมจันทร์” ในพระไตรปิฎกควรตีความอย่างไร ?'' คลิกอ่านที่นี่




ที่ผมเล่ามาว่า ผมไหว้ดวงจันทร์ ไหว้ดวงอาทิตย์ และไหว้โลก มันเป็นหลักการของผมเอง ไม่เกี่ยวกับศาสนาและลัทธิความเชื่อใด ๆ ทั้งสิ้น

เพราะผมเห็นว่าทั้ง 3 สิ่งคือโลก พระอาทิตย์ พระจันทร์ คือจุดกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนโลก จะขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ทั้งสิ้น ผมจึงไหว้ทั้ง 3 เปรียบเสมือนไหว้ผู้มีพระคุณครับ

เห็นผมไหว้ 3 สิ่งนี้ แต่ผมไม่ได้ไหว้ พระศิวะ พระพรหม หรือพระนารายณ์ นะครับ เพราะผมนับถือพระพุทธศาสนา ผมจึงไม่ไหว้พระเจ้า ทั้ง 3 เหล่านี้ เพราะผมเชื่อว่า ไม่มีจริง แต่ผมก็ไม่ได้ลบหลู่ความศักดิ์สิทธิ์ในรูปปั้นเหล่านี้ 


เพราะในสมัยพุทธกาลมีแต่ศาสนาพราหมณ์เท่านั้น ซึ่งมีพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวคือ พระพรหม

ต่อมา ฤาษีในศาสนาพรหมณ์ ยุคต่อๆ มาอีกหลายคนหลายร้อยปี ก็แต่งคัมภีร์เพิ่มเติม จนกำเนิดพระศิวะ พระนารายณ์ และเทพองค์อื่น ๆ ตามกันอีกเพียบ แล้วลดบทบาทพระพรหมลง ต่อมาศาสนาพราหมณ์ก็กลายเป็นศาสนาฮินดู ในที่สุด

แถมศาสนาฮินดู ยังแบ่งเป็นลัทธิย่อย ๆ อีกมากมาย นับถือ เคารพเทพแตกต่างกันไป เช่นบางลัทธิเน้นนับถือพระพิฆเนศ บางลิทธิก็นับถือหนุมาน ฯลฯ

ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงไม่ปฏิเสธพระพรหมซะทีเดียว แต่พระพรหมของพุทธศาสนา ก็คือ พรหมโลก 16 ชั้น ใช้คำ ๆ เดียวกันกับศาสนาฮินดู ซึ่งถ้าใครได้ไปเสวยสุขในชั้นพรหมโลก ก็ถือเป็น พระพรหมทั้งสิ้น และเหนือกว่าพรหมโลก ก็คือ อรูปพรหม 

ส่วนในพระไตรปิฎกของเถรวาท จะไม่มีการกล่าวถึง พระศิวะ พระนารายณ์ เลย เพราะพระศิวะ พระนายรายณ์เป็นการแต่งเพิ่มเติมทีหลัง

ส่วนความเชื่อส่วนตัวของผมเชื่อว่า รูปปั้นใดที่คนไปไหว้เคารพกันมาก ก็มักจะมีเทพเทวดามาจุติ และพลังจากความศรัทธาของคนจำนวนมาก ก่อเกิดพลังอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองได้ โดยไม่จำเป็นว่า ต้องเทพเจ้าเหล่านั้นจริง ๆ มาอยู่ในรูปปั้น

เช่น รูปปั้นพระพิฆเนศ ตามสถาบันช่าง หรือสถาบันสอนศิลปะต่าง ๆ  ที่นักศึกษาสายนี้เขาไหว้เคารพกัน รูปปั้นพระพิฆเนศจะเกิดความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้ อาจเพราะวิญญาณครูบาอาจารย์สายช่างที่ได้ไปเป็นเทพเทวดาไปแล้ว อาจจะมาสถิตในรูปปั้น เพื่อให้ความสิริมงคลต่อลูกศิษย์ต่อ ๆ ไป

แต่ไม่ใช่พระพิฆเนศมาสถิตแน่นอน เพราะพระพิฆเนศหรือจะเป็นเทพเจ้าพระพรหม พระศิวะ พระวิษณุ ของศาสนาฮินดูไม่ได้มีจริงตามหลักพุทธศาสนา


แต่ผมไหว้พระเยซู ครับ เพราะผมถือว่า พระเยซูเป็นคนดี เป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ ผมจึงไม่ได้ไหว้พระเยซู เพราะผมนับถือคริสต์แต่อย่างใด

หากชาวมุสลิมมาชวนผมไหว้เคารพ ศาสดาของเขา เช่นในพิธีละหมาด ผมก็สามารถทำได้ครับ เพราะผมถือว่า ผมไหว้คนดี ไหว้ศาสดาของศาสนาอิสลาม

แม้แต่รูปพระพุทธเจ้าที่ผมวาดเป็นแบบการ์ตูน ผมก็ไหว้ครับ เมื่อตอนผมไปอยู่ต่างจังหวัด ผมไม่ได้นำพระพุทธรูปติดไปด้วย ผมเลยวาดรูปพระพุทธรูปปางสมาธิขึ้นมาเอง แล้วก็ติดที่หัวนอน ไว้ไหว้บูชาแทนพระพุทธรูปครับ



วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

สาเหตุที่ยางพาราไทยราคาตกและถุงยางยิ่งลักษณ์







จริง ๆ แล้ว ผมไม่เห็นด้วยกับการอุ้มราคาพืชผลทางการเกษตรให้มีราคาสูงกว่าราคาตลาดโลกทุกชนิด ไม่ว่าจะยางพารา ข้าว และอื่น ๆ

เพราะการอุ้มราคาพืชผลทางการเกษตรให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดโลก คือการทำให้เกษตรกรไทยอ่อนแอลง

แต่ถ้ามาเป็นรัฐบาลคิดแค่อุ้มราคาข้าวให้สูงกว่าราคาตลาดโลกเพื่อหวังคะแนนนิยม รัฐบาลนั้นก็นับว่าเลวสุด ๆ

หรือถ้าจะไม่อุ้มราคายาง โดยอ้างว่า จะทำให้กลไกลตลาดเสีย ถ้าอ้างแบบนี้ประเทศนี้ก็ไม่สมควรมีรัฐบาลเช่นกัน

หรือแม้แต่ราคาสินค้าแพง พอไข่แพง ก็อ้างว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ผลิตน้อยลง แล้วก็ปล่อยให้ประชาชนรับชะตากรรมไป แบบนี้ก็ถือว่า เอาแต่แก้ตัว ไม่ใช่แก้ปัญหา

หรือพอของแพง ก็แก้ปัญหาโดยการจะไปจัดตลาดนัดธงฟ้า แบบนี้เขาก็เรียกว่า แก้ปัญหาแบบขอไปที เพราะไม่ได้ช่วยประชาชนส่วนใหญ่ได้เลย

-----------------

พอช่วงนี้เกิดปัญหาชาวสวนยางประท้วง ก็พอดีกับนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้ไปจีน

พอกลับมา นายกปูก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ได้ขอให้จีนช่วยซื้อยางพาราจากไทย ซึ่งจีนก็รับปากแล้วว่าจะช่วยซื้อ"

เฮ่อ.. สติปัญญาของนายกยิ่งลักษณ์คงทำได้เท่านี้แหละ

เพราะจีนเขาก็รับปากไปแบบนั้นแหละ เพราะที่ราคายางพาราไทยราคาตกก็เพราะจีนนี่แหละที่ซื้อยางไทยน้อยลง

(เรื่องขายข้าวจีทูจีกำมะลอ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็โกหกมาแล้ว)

----------------

จีน กับ ปัญหายางพาราไทย

สมัยตอนที่จีนเริ่มพัฒนาเรื่องการสร้างรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์เพื่อการค้ามากขึ้น จีนจึงมีความต้องการยางพารามหาศาลในการผลิตยางรถยนต์ และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ต่าง ๆ อย่างมาก ซึ่งจีนเป็นประเทศที่ผลิตยางรถยนต์มากที่สุดในโลก

จีนจึงรับซื้อยางพาราอย่างมากมายจากไทยเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ราคายางพาราพุ่งสูง ชาวสวนยางไทยก็พลอยชื่นบานไปด้วย

ระหว่างนั้นจีนก็ให้เจ้าสัวธนินท์ มาช่วยพูดให้รัฐบาลไทยสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกยางพารามากขึ้น โดยเฉพาะทางเหนือ และอีสาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดทุนซ้ำซากจากการปลูกข้าว

รัฐบาลไทยก็เลยสนับสนุนให้เกษตรกรไทยหันมาปลูกยางพารากันมากขึ้น จนเคยเกิดคดีกล้ายางมาแล้วคงจำกันได้

แต่จีนเขาฉลาด ระหว่างที่ยุยงให้คนไทยปลูกยางมากขึ้น จีนเองก็ไปลงทุนจ้างเกษตรกรลาวปลูกยางพาราเช่นกัน เป็นการจ้างเกษตรกรลาวปลูก โดยสนับสนุนให้ทุกอย่างทั้งปุ๋ย ยา เครื่องไม้เครื่องมือ (จีนไปส่งเสริมการปลูกยางพาราทั้งในกัมพูชา และเวียดนามด้วย)

แต่ต้นยางพารากว่าจะกรีดยางได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี ช่วงระหว่างรอต้นยางพาราในลาว ในกัมพูชาสามารถให้ผลผลิตได้ ช่วงนี้เลยทำให้ยางพาราตลาดโลกราคาดีต่อเนื่องมาหลายปี

แล้วในที่สุดเมื่อยางพาราลาวถึงเวลากรีดได้ จีนก็หันไปซื้อยางพาราจากลาวแทน นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ราคายางตลาดโลกตกลง

อีกทั้งในประเทศจีนก็มีการส่งเสริมการปลูกยางพาราเช่นกัน แม้จะได้น้ำยางไม่มากเพราะสภาวะอากาศดีไม่เท่าแถบอาเซียนก็ตาม แต่ก็ถือว่าได้ต้นทุนยางที่ถูกลงกว่าซื้อยางจากต่างประเทศ

หรือแม้แต่บริษัทของไทยเราเอง ก็หนีไปร่วมลงทุนกับจีนในการปลูกยางพาราในประเทศลาว และกัมพูชา เหมือนกัน เช่น บริษัทพันปีกรุ๊ป (ความร่วมมือปลูกยางส่งจีนโดยไทย ลาว กัมพูชา) มีเกษตรกรสวนยางในโครงการใน 17 แขวงของลาว จากเหนือลงไปจนถึงแขวงจำปาสักทางตอนใต้สุดของประเทศ

หรืออย่างเช่น บริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ปลูกและผลิตยางพารารายใหญ่ที่สุดของไทยเข้าทำสวนยางในลาวตั้งแต่ปี 2549 โดยร่วมกับบริษัทจากจีนและลาว และใช้เงินลงทุนไปกว่า 40 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีเนื้อที่เพาะปลูกหลายหมื่นไร่ ทั้งปลูกในที่ดินสัมปทานและด้วยระบบเกษตรพันธสัญญา

และบริษัทสัญชาติไทยทั้งสองนี้ กำลังไปส่งเสริมการปลูกยางพาราในพม่าแล้วด้วย เพื่อส่งออกให้จีนโดยตรง

ซึ่งเราคงจะไปโทษบริษัทไทยเหล่านี้ไม่ได้ เพราะธุรกิจเสรีก็คือการแข่งขันเสรี อย่างไทยฮั้ว ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เก่งเรื่องฮั้ว !!

หากรัฐบาลไทยยังโง่ตามตลาดเสรีไม่ทัน โอกาสที่จะเป็นเบี้ยล่างเรื่องยางพาราก็จะมีให้เห็นเหมือนในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเราเป็นผู้ผลิตยางพาราเพื่อการส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถควบคุมราคายางพาราได้

อยากจะบอกเกษตรกรไทยทุกชนิดว่า เกษตรกรไทยชอบเห่อ ชอบตามกระแส คิดว่าพืชผลไหนให้ราคาดี ก็แห่ตาม ๆ กันไปปลูก สุดท้ายเมื่อแห่กันปลูกมาก ๆ ผลผลิตออกสู่ตลาดก็ยิ่งมาก เมื่อของมาก แต่ความต้องการกลับไม่เพิ่มขึ้นแล้วล่ะก็ ราคามันก็ต้องตกเป็นธรรมดา

ราคายางพาราเมื่อปี 2554 เคยสูงสุดถึง 146 บาทต่อกิโล ช่วงนั้นเกษตรกรสวนยางรวยอู้ฟู่ ไปผ่อนรถใหม่ รถมอไซค์ใหม่ รถปิคอัพใหม่กันมากมาย บางรายผ่อนรถ 2 คันก็มี บางรายไปช่วยผ่อนรถไถให้ลูกทำนาก็มี

แต่พอราคายางตกมาเรื่อย ๆ เหลือแค่ 70 กว่าบาทต่อกิโล เกษตรกรที่ไปผ่อนของไว้ ก็หน้าแห้ง เงินหมุนไม่ทัน ส่งผลกระทบวงกว้างจากปัญหาราชาเงินผ่อนนี่แหละ

----------------

ปัญหาค่าครองชีพ ค่าแรงสูง ยางพาราไทยเลยซวย

เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงได้ แถมค่าแรง 300 บาทก็ทำให้ต้นทุนทุกอย่างในการทำสวนยางก็พลอยสูงไปด้วย

แถมประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีค่าแรงที่ต่ำกว่าไทยมาก ก็หันมาปลูกยางพาราเพื่อส่งออกจีนกันมากขึ้น จึงให้การแข่งขันด้านราคายางพาราเริ่มรุนแรงขึ้น

แล้วยางพาราไทยที่มีต้นทุนการเพาะปลูกและกรีด สูงกว่าที่อื่น ๆ ก็ต้องเจอภาวะราคายางตกแบบนี้แหละครับ

เมื่อไม่สามารถปรับตัวด้านต้นทุนและราคาในการแข่งขันได้ ชาวสวนยางก็คงแย่ลงเรื่อย ๆ

------------------------------

ประเทศไทยขาดการสนับสนุนการแปรรูปยางพารามานาน

ประเทศไทยส่งออกยางพาราในรูปวัตถุดิบมากกว่า 90% จากผลผลิตยางพาราที่ผลิตได้

มีเพียง 10 % เท่านั้นที่ได้รับการแปรรูปเพื่อให้มีมูลค่าสูงขึ้น สาเหตุนั่นเพราะรัฐบาลไทยมันไร้วิสัยทัศน๋ทุกรัฐบาลที่ผ่านมานั่นแหละ

มิชลิน ของฝรั่งเศส ตั้งโรงงานในไทยมา 26 ปีแล้ว
บริจสโตน ของญี่ปุน ตั้งโรงงงานในไทย 46 ปีแล้ว
กู๊ดเยียร์ ของสหรัฐอเมริกา ตั้งโรงงานในไทย 45 ปีแล้ว

นี่คือ ผู้ผลิตยางรถยนต์ รายใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกของโลก และมีส่วนแบ่งการขายมากที่สุดในโลก

แต่ทำไม ยางพาราไทย ก็ยังไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ดีพอ ทั้ง ๆ ที่ไทยเราเป็นประเทศที่ยักษ์ใหญ่ยางรถยนต์ของโลกมาตั้งฐานการผลิต ด้วยวัตถุดิบยางพาราไทย ?

ยางรถยนต์ราคามีแต่จะแพงขึ้น ๆ ไม่เคยตก แต่ราคายางพาราราคาตกเอา ๆ ??

มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้ยางพารามาผลิต เช่น พวกหมอน ที่นอน แผ่นยางรองพื้นในรถยนต์ ชิ้้นส่วนรถยนต์ที่ทำด้วยยาง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ปี ๆ นึงต้องใช้ยางรถยนต์ตั้งเท่าไหร่ ต้องใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ตั้งเท่าไหร่ ? แต่ทำไมราคายางพาราไทยจึงตกเอา ๆ

ในขณะที่ราคารถยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ กลับราคาไม่ตก

คนมาเป็นรัฐบาลมันต้องตีโจทย์นี้ให้แตก แม่งส่งเสริมเหลือเกินเรื่องผลิตรถยนต์ ส่งเสริมคนซื้อรถยนต์ แต่วัตถุดิบอย่างยางพาราไทยกลับไม่ค่อยได้รับผลประโยชน์เท่าที่ควร

นี่แหละเขาถึงว่า ประเทศไทยคนไทยไม่พ้นความลำบาก เพราะรัฐบาลไทยแม่งโง่!!

--------------------

ยิ่งลักษณ์บอก จะสนับสนุนแปรรูปยางพาราเป็นถุงมือยาง

เหอะ ๆ ผมล่ะขำกลิ้ง เรื่องถุงมือยางน่ะเขาทำกันอยู่แล้ว และคู่แข่งก็เพียบ

ผมว่า ถ้ายิ่งลักษณ์จะสนับสนุนการแปรรูปยางพาราให้ได้เจ๋งสุด ๆ ใคร ๆ ก็อยากทดลองใช้ (โดยเฉพาะพวกเสื้อแดง)

ยิ่งลักษณ์ควรผลิตถุงยางอนามัย ยี่ห้อ ยิ่งลักษณ์คอนด้อม ออกมาน่าจะดีกว่านะผมว่า

ผมมั่นใจว่า ขายดีสุด ๆ แน่นอน แถมถ้าส่งออกก็จะขายดีไปทั่วโลก เชื่อผมเถอะ นายกยิ่งลักษณ์จงทำเพื่อช่วยเกษตรกร ประกาศผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อยิ่งลักษณ์ไปเลย

(ส่วนอภิสิทธิ์น่ะเหรอ ที่เคยใส่หมวกถุงยางน่ะเหรอ ถือว่าพลาดอย่างแรง)




หรือจะเป็น ที่นอนยางพาราแท้ 100 % ซึ่งทุกวันนี้ราคาค่อนข้างแพง แถมมีที่นอนยางพาราปลอมมาหลอกขายกันเยอะ

หากรัฐบาลหันมาสนับสนุนการผลิตที่นอนยางพาราแท้ เพื่อสุขภาพคนไทยด้วยก็จะยิ่งดี

ลองนึกดู ถ้าที่นอนยางพาราไทย มีรูปนายกยิ่งลักษณ์ในชุดนอนบางหวิว ทำท่านอนหลับอย่างสบายอยู่หน้าบรรจุภัณฑ์ คิดดูจะขายดีขนาดไหน ??

บรรดาเสือ สิงห์ กระทิง ควายแดง คงแย่งกันซื้อจนผลิตแทบไม่ทัน 55555


คลิกอ่าน พลิกวิกฤติเป็นโอกาสผลิต YingLuck Condom