วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

สาเหตุที่ยางพาราไทยราคาตกและถุงยางยิ่งลักษณ์







จริง ๆ แล้ว ผมไม่เห็นด้วยกับการอุ้มราคาพืชผลทางการเกษตรให้มีราคาสูงกว่าราคาตลาดโลกทุกชนิด ไม่ว่าจะยางพารา ข้าว และอื่น ๆ

เพราะการอุ้มราคาพืชผลทางการเกษตรให้ราคาสูงกว่าราคาตลาดโลก คือการทำให้เกษตรกรไทยอ่อนแอลง

แต่ถ้ามาเป็นรัฐบาลคิดแค่อุ้มราคาข้าวให้สูงกว่าราคาตลาดโลกเพื่อหวังคะแนนนิยม รัฐบาลนั้นก็นับว่าเลวสุด ๆ

หรือถ้าจะไม่อุ้มราคายาง โดยอ้างว่า จะทำให้กลไกลตลาดเสีย ถ้าอ้างแบบนี้ประเทศนี้ก็ไม่สมควรมีรัฐบาลเช่นกัน

หรือแม้แต่ราคาสินค้าแพง พอไข่แพง ก็อ้างว่า ผู้ผลิตรายใหญ่ผลิตน้อยลง แล้วก็ปล่อยให้ประชาชนรับชะตากรรมไป แบบนี้ก็ถือว่า เอาแต่แก้ตัว ไม่ใช่แก้ปัญหา

หรือพอของแพง ก็แก้ปัญหาโดยการจะไปจัดตลาดนัดธงฟ้า แบบนี้เขาก็เรียกว่า แก้ปัญหาแบบขอไปที เพราะไม่ได้ช่วยประชาชนส่วนใหญ่ได้เลย

-----------------

พอช่วงนี้เกิดปัญหาชาวสวนยางประท้วง ก็พอดีกับนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้ไปจีน

พอกลับมา นายกปูก็ให้สัมภาษณ์ว่า "ได้ขอให้จีนช่วยซื้อยางพาราจากไทย ซึ่งจีนก็รับปากแล้วว่าจะช่วยซื้อ"

เฮ่อ.. สติปัญญาของนายกยิ่งลักษณ์คงทำได้เท่านี้แหละ

เพราะจีนเขาก็รับปากไปแบบนั้นแหละ เพราะที่ราคายางพาราไทยราคาตกก็เพราะจีนนี่แหละที่ซื้อยางไทยน้อยลง

(เรื่องขายข้าวจีทูจีกำมะลอ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็โกหกมาแล้ว)

----------------

จีน กับ ปัญหายางพาราไทย

สมัยตอนที่จีนเริ่มพัฒนาเรื่องการสร้างรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์เพื่อการค้ามากขึ้น จีนจึงมีความต้องการยางพารามหาศาลในการผลิตยางรถยนต์ และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ต่าง ๆ อย่างมาก ซึ่งจีนเป็นประเทศที่ผลิตยางรถยนต์มากที่สุดในโลก

จีนจึงรับซื้อยางพาราอย่างมากมายจากไทยเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ราคายางพาราพุ่งสูง ชาวสวนยางไทยก็พลอยชื่นบานไปด้วย

ระหว่างนั้นจีนก็ให้เจ้าสัวธนินท์ มาช่วยพูดให้รัฐบาลไทยสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกยางพารามากขึ้น โดยเฉพาะทางเหนือ และอีสาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาขาดทุนซ้ำซากจากการปลูกข้าว

รัฐบาลไทยก็เลยสนับสนุนให้เกษตรกรไทยหันมาปลูกยางพารากันมากขึ้น จนเคยเกิดคดีกล้ายางมาแล้วคงจำกันได้

แต่จีนเขาฉลาด ระหว่างที่ยุยงให้คนไทยปลูกยางมากขึ้น จีนเองก็ไปลงทุนจ้างเกษตรกรลาวปลูกยางพาราเช่นกัน เป็นการจ้างเกษตรกรลาวปลูก โดยสนับสนุนให้ทุกอย่างทั้งปุ๋ย ยา เครื่องไม้เครื่องมือ (จีนไปส่งเสริมการปลูกยางพาราทั้งในกัมพูชา และเวียดนามด้วย)

แต่ต้นยางพารากว่าจะกรีดยางได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี ช่วงระหว่างรอต้นยางพาราในลาว ในกัมพูชาสามารถให้ผลผลิตได้ ช่วงนี้เลยทำให้ยางพาราตลาดโลกราคาดีต่อเนื่องมาหลายปี

แล้วในที่สุดเมื่อยางพาราลาวถึงเวลากรีดได้ จีนก็หันไปซื้อยางพาราจากลาวแทน นี่แหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ราคายางตลาดโลกตกลง

อีกทั้งในประเทศจีนก็มีการส่งเสริมการปลูกยางพาราเช่นกัน แม้จะได้น้ำยางไม่มากเพราะสภาวะอากาศดีไม่เท่าแถบอาเซียนก็ตาม แต่ก็ถือว่าได้ต้นทุนยางที่ถูกลงกว่าซื้อยางจากต่างประเทศ

หรือแม้แต่บริษัทของไทยเราเอง ก็หนีไปร่วมลงทุนกับจีนในการปลูกยางพาราในประเทศลาว และกัมพูชา เหมือนกัน เช่น บริษัทพันปีกรุ๊ป (ความร่วมมือปลูกยางส่งจีนโดยไทย ลาว กัมพูชา) มีเกษตรกรสวนยางในโครงการใน 17 แขวงของลาว จากเหนือลงไปจนถึงแขวงจำปาสักทางตอนใต้สุดของประเทศ

หรืออย่างเช่น บริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ปลูกและผลิตยางพารารายใหญ่ที่สุดของไทยเข้าทำสวนยางในลาวตั้งแต่ปี 2549 โดยร่วมกับบริษัทจากจีนและลาว และใช้เงินลงทุนไปกว่า 40 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันมีเนื้อที่เพาะปลูกหลายหมื่นไร่ ทั้งปลูกในที่ดินสัมปทานและด้วยระบบเกษตรพันธสัญญา

และบริษัทสัญชาติไทยทั้งสองนี้ กำลังไปส่งเสริมการปลูกยางพาราในพม่าแล้วด้วย เพื่อส่งออกให้จีนโดยตรง

ซึ่งเราคงจะไปโทษบริษัทไทยเหล่านี้ไม่ได้ เพราะธุรกิจเสรีก็คือการแข่งขันเสรี อย่างไทยฮั้ว ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เก่งเรื่องฮั้ว !!

หากรัฐบาลไทยยังโง่ตามตลาดเสรีไม่ทัน โอกาสที่จะเป็นเบี้ยล่างเรื่องยางพาราก็จะมีให้เห็นเหมือนในตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเราเป็นผู้ผลิตยางพาราเพื่อการส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่สามารถควบคุมราคายางพาราได้

อยากจะบอกเกษตรกรไทยทุกชนิดว่า เกษตรกรไทยชอบเห่อ ชอบตามกระแส คิดว่าพืชผลไหนให้ราคาดี ก็แห่ตาม ๆ กันไปปลูก สุดท้ายเมื่อแห่กันปลูกมาก ๆ ผลผลิตออกสู่ตลาดก็ยิ่งมาก เมื่อของมาก แต่ความต้องการกลับไม่เพิ่มขึ้นแล้วล่ะก็ ราคามันก็ต้องตกเป็นธรรมดา

ราคายางพาราเมื่อปี 2554 เคยสูงสุดถึง 146 บาทต่อกิโล ช่วงนั้นเกษตรกรสวนยางรวยอู้ฟู่ ไปผ่อนรถใหม่ รถมอไซค์ใหม่ รถปิคอัพใหม่กันมากมาย บางรายผ่อนรถ 2 คันก็มี บางรายไปช่วยผ่อนรถไถให้ลูกทำนาก็มี

แต่พอราคายางตกมาเรื่อย ๆ เหลือแค่ 70 กว่าบาทต่อกิโล เกษตรกรที่ไปผ่อนของไว้ ก็หน้าแห้ง เงินหมุนไม่ทัน ส่งผลกระทบวงกว้างจากปัญหาราชาเงินผ่อนนี่แหละ

----------------

ปัญหาค่าครองชีพ ค่าแรงสูง ยางพาราไทยเลยซวย

เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงได้ แถมค่าแรง 300 บาทก็ทำให้ต้นทุนทุกอย่างในการทำสวนยางก็พลอยสูงไปด้วย

แถมประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีค่าแรงที่ต่ำกว่าไทยมาก ก็หันมาปลูกยางพาราเพื่อส่งออกจีนกันมากขึ้น จึงให้การแข่งขันด้านราคายางพาราเริ่มรุนแรงขึ้น

แล้วยางพาราไทยที่มีต้นทุนการเพาะปลูกและกรีด สูงกว่าที่อื่น ๆ ก็ต้องเจอภาวะราคายางตกแบบนี้แหละครับ

เมื่อไม่สามารถปรับตัวด้านต้นทุนและราคาในการแข่งขันได้ ชาวสวนยางก็คงแย่ลงเรื่อย ๆ

------------------------------

ประเทศไทยขาดการสนับสนุนการแปรรูปยางพารามานาน

ประเทศไทยส่งออกยางพาราในรูปวัตถุดิบมากกว่า 90% จากผลผลิตยางพาราที่ผลิตได้

มีเพียง 10 % เท่านั้นที่ได้รับการแปรรูปเพื่อให้มีมูลค่าสูงขึ้น สาเหตุนั่นเพราะรัฐบาลไทยมันไร้วิสัยทัศน๋ทุกรัฐบาลที่ผ่านมานั่นแหละ

มิชลิน ของฝรั่งเศส ตั้งโรงงานในไทยมา 26 ปีแล้ว
บริจสโตน ของญี่ปุน ตั้งโรงงงานในไทย 46 ปีแล้ว
กู๊ดเยียร์ ของสหรัฐอเมริกา ตั้งโรงงานในไทย 45 ปีแล้ว

นี่คือ ผู้ผลิตยางรถยนต์ รายใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกของโลก และมีส่วนแบ่งการขายมากที่สุดในโลก

แต่ทำไม ยางพาราไทย ก็ยังไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ดีพอ ทั้ง ๆ ที่ไทยเราเป็นประเทศที่ยักษ์ใหญ่ยางรถยนต์ของโลกมาตั้งฐานการผลิต ด้วยวัตถุดิบยางพาราไทย ?

ยางรถยนต์ราคามีแต่จะแพงขึ้น ๆ ไม่เคยตก แต่ราคายางพาราราคาตกเอา ๆ ??

มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้ยางพารามาผลิต เช่น พวกหมอน ที่นอน แผ่นยางรองพื้นในรถยนต์ ชิ้้นส่วนรถยนต์ที่ทำด้วยยาง

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตรถยนต์มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ปี ๆ นึงต้องใช้ยางรถยนต์ตั้งเท่าไหร่ ต้องใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ตั้งเท่าไหร่ ? แต่ทำไมราคายางพาราไทยจึงตกเอา ๆ

ในขณะที่ราคารถยนต์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ กลับราคาไม่ตก

คนมาเป็นรัฐบาลมันต้องตีโจทย์นี้ให้แตก แม่งส่งเสริมเหลือเกินเรื่องผลิตรถยนต์ ส่งเสริมคนซื้อรถยนต์ แต่วัตถุดิบอย่างยางพาราไทยกลับไม่ค่อยได้รับผลประโยชน์เท่าที่ควร

นี่แหละเขาถึงว่า ประเทศไทยคนไทยไม่พ้นความลำบาก เพราะรัฐบาลไทยแม่งโง่!!

--------------------

ยิ่งลักษณ์บอก จะสนับสนุนแปรรูปยางพาราเป็นถุงมือยาง

เหอะ ๆ ผมล่ะขำกลิ้ง เรื่องถุงมือยางน่ะเขาทำกันอยู่แล้ว และคู่แข่งก็เพียบ

ผมว่า ถ้ายิ่งลักษณ์จะสนับสนุนการแปรรูปยางพาราให้ได้เจ๋งสุด ๆ ใคร ๆ ก็อยากทดลองใช้ (โดยเฉพาะพวกเสื้อแดง)

ยิ่งลักษณ์ควรผลิตถุงยางอนามัย ยี่ห้อ ยิ่งลักษณ์คอนด้อม ออกมาน่าจะดีกว่านะผมว่า

ผมมั่นใจว่า ขายดีสุด ๆ แน่นอน แถมถ้าส่งออกก็จะขายดีไปทั่วโลก เชื่อผมเถอะ นายกยิ่งลักษณ์จงทำเพื่อช่วยเกษตรกร ประกาศผลิตถุงยางอนามัยยี่ห้อยิ่งลักษณ์ไปเลย

(ส่วนอภิสิทธิ์น่ะเหรอ ที่เคยใส่หมวกถุงยางน่ะเหรอ ถือว่าพลาดอย่างแรง)




หรือจะเป็น ที่นอนยางพาราแท้ 100 % ซึ่งทุกวันนี้ราคาค่อนข้างแพง แถมมีที่นอนยางพาราปลอมมาหลอกขายกันเยอะ

หากรัฐบาลหันมาสนับสนุนการผลิตที่นอนยางพาราแท้ เพื่อสุขภาพคนไทยด้วยก็จะยิ่งดี

ลองนึกดู ถ้าที่นอนยางพาราไทย มีรูปนายกยิ่งลักษณ์ในชุดนอนบางหวิว ทำท่านอนหลับอย่างสบายอยู่หน้าบรรจุภัณฑ์ คิดดูจะขายดีขนาดไหน ??

บรรดาเสือ สิงห์ กระทิง ควายแดง คงแย่งกันซื้อจนผลิตแทบไม่ทัน 55555


คลิกอ่าน พลิกวิกฤติเป็นโอกาสผลิต YingLuck Condom


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น