วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

เกษียร สมศักดิ์ ถึงอึดอัด ก็จะหน้าด้านอกตัญญูต่อไป







"ตามปกติ ถ้าเราเกิดมาในบ้านพ่อแม่ อยู่ในบ้านพ่อแม่แล้วเราไม่มีความสุข อึดอัด เราก็ต้องแยกตัวออกไปหาที่อยู่ใหม่ หาบ้านใหม่ของเราเอง จริงไหม

ส่วนพวกลูกอตัญญู มันไม่ไปหาบ้านใหม่อยู่ แต่พวกลูกอกตัญญูกลับคิดไล่พ่อแม่ออกจากบ้านแทน เช่นเอาไปพ่อแม่ไปทิ้งที่ไกล ๆ


เฉกเช่นเดียวกับไอ้พวกล้มเจ้า เมื่อมันเกิดมาบนแผ่นดินของพระราชา แล้วพวกมันไม่มีความสุข อึดอัด แทนที่พวกมันจะย้ายออกจากแผ่นดินที่พวกมันอึดอัดไปซะ


พวกชั่วมันกลับคิดมาไล่พระราชาออก
ไปจากแผ่นดินแทน พวกล้มเจ้ามันชั่วจริง ๆ "


--------------------

แผ่นดินไทยนี้เป็นของใคร ?

คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!

http://imgur.com/5Tc06lk

พระราชวังบวรสุรสีหนาท ก่อนเข้าตีค่ายพม่าที่ทุ่งลาดหญ้า ในศึกสงคราม ๙ ทัพ

“พวกเจ้าเป็นไพร่หลวง ข้าเป็นพระราชวงศ์ แต่เจ้ากับข้าเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเราเป็นคนไทย เป็นเจ้าของแผ่นดินเหมือนกัน รบวันนี้เราจะแสดงให้ผู้รุกรานเห็นว่าเราหวงแหนแผ่นดินแค่ไหน รบวันนี้เราจะไม่กลับมาค่ายนี้อีกจนกว่าจะขับไล่ศัตรูไปพ้นชายแดน ข้าจะไม่ขอให้พวกเจ้ารบเพื่อใคร นอกจากรบเพื่อแผ่นดินของเจ้าเอง แผ่นดินที่เจ้ามอบให้ลูกหลานของเจ้าได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุขสืบไป”


คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!


-----------------

เหนือเมฆ ยังสาบสูญ 


ตอบโจทย์ ตอน 5 ที่ให้ไอ้สมศักดิ์ สถุลไม่เจียม มาดีเบต กับ ส.ศิวรักษ์ สุดท้ายก็ได้ออกอากาศไปแล้ว หลังจากที่โดนระงับยับยั้งไว้ชั่วคราว จนให้ไอ้พวกชั่วมันได้กระดี๊กระด๊า ได้โอกาสเหน็บแนมเรื่องเสรีภาพชั่ว ๆ ไปเปรียบเทียบกับ กรณีละครเหนือเมฆ ที่ไม่ได้ออกอากาศ

ตามที่บทความ หนังสือพิมพ์ มติชั่วจนชิน มันได้ลงในข่าว

แต่แล้วในที่สุด ตอบโจทย์ตอน 5 ก็ได้ออกอากาศไปเมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา

เป็นไงล่ะ ไอ้พวกหนักแผ่นดินทั้งหลาย เงียบไปเลยล่ะสิมึง ไหนบอกแผ่นดินนี้อำมาตย์มีอำนาจมากในประเทศนี้ไง โธ่ ไอ้ตะกวดล้มเจ้าหนักแผ่นดินโง่ๆ ทั้งหลายเหวย ๆ

ประเทศนี้มีแต่นักการเมืองเชี่ย ๆ ที่มีอำนาจชั่ว ๆ นี่แหละที่เป็นตัวปัญหาสำคัญที่สุดของชาติ

แต่ไอ้พวกล้มเจ้าแม่งไม่สนใจ เพราะกูเกิดมาเพื่อล้มเจ้าเท่านั้น

ขอแนะนำไอ้พวกเชี่ยล้มเจ้าทั้งหลายว่า

วิธีล้มเจ้าที่ง่ายที่สุดก็คือ พวกล้มเจ้ามึงก็รีบไปตายซะ แล้วรีบไปชิงตะกวดเกิดใหม่ ในที่ๆ ที่ไม่มีเจ้า

เช่น ฟิลิปปินส์ เอธิโอเปีย ซีเรีย อิรัก บังคลาเทศ อัฟกานิสถาน พม่า (แถวรัฐยะไข่ ถิ่นโรฮิงญา)

รับรองพวกมึงได้มีความสุขในที่ๆ ที่ไม่มีเจ้าอีก เชื่อกูดิ 5555

------------------

ตรรกะ ใครไม่ชอบแผ่นดินนี้ก็ไปอยู่แผ่นดินอื่นซะ

นี่คือตรรรกะที่พวกล้มเจ้ามันเจ็บปวดที่สุด เมื่อพวกมันได้ยินใครบอกแบบนี้กับพวกมัน

แต่พวกมันจะทำเป็นไม่เจ็บ ไม่แคร์ แล้วมันจะประชดกลับ

นั่นเพราะพวกล้มเจ้ามันหน้าด้าน เพราะถ้าพวกมันไม่หน้าด้าน มันก็ไม่ใช่พวกล้มเจ้าน่ะสิ 5555555

สถาบันกษัตริย์อยู่กับคนไทยมาหลายร้อยปี แต่ไอ้พวกลูกหลานคนต่างชาติ(พวกแกนนำล้มเจ้า) ที่หนีมาอาศัยพระบรมโพธิสมภารพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม แม่งดันจะมาเนรคุณ

ถ้าหมาตัวไหนอยากล้มสถาบันกษัตริย์นัก ก็ให้หนีไปอยู่ต่างประเทศ แบบไอ้ใจ อึ้งภากรณ์ ไอ้จักรภพ เพ็ญแข ไอ้ชูพงศ์ ถี่ถ้วน แล้วอยากด่าอยากใส่ร้ายอะไร ก็เอาให้เต็มที่ เพราะไม่มีมาตรา112 มาขวางทาง

ไม่ใช่แม่งหน้าด้านอยู่รับราชการกินภาษีของราชอาณาจักรไทย แต่ดันคิดจะล้มสถาบันกษัตริย์ ไอ้พวกนี้มันช่างหน้าด้านหน้าทนจริง ๆ

เหมือนไอ้ 2 ตัวนี่แหละ เหี้ยประจำธรรมศาสตร์ !!



----------------------------

ไอ้พวกล้มเจ้ามันจะตายแบบไหน

หากคุณได้เคยอ่านข่าวเช่น คนขี่รถอยู่ดี ๆ ต้นไม้ดันมาล้มทับรถจนคนขับรถตายพอดี หรือเช่น หมาที่บ้านดันกัดเจ้าของบ้านตาย หรือกำแพงบ้านอยู่ ๆ ล้มทับคนตาย หรือขับรถไปเสียคาทางรถไฟ แล้วรถไฟมาชนรถจนคนขับตาย

ไอ้พวกที่ตายแปลกๆ ตายพิสดาร ตายไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไปนั่นแหละ ส่วนใหญ่นะ ย้ำว่าส่วนใหญ่แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มักเป็นล้มเจ้าทั้งนั้น

แล้วไอ้พวกล้มเจ้านี้พอตายไป มันจะไม่ได้กลับมาเกิดบนแผ่นดินไทยอีก มันจะได้ไปเกิดเป็นชาวโรฮิงญาบ้าง เกิดในที่ๆ มีการเข่นฆ่าประชาชนแบบโหดร้ายของจริง เช่น ซีเรีย อัฟกานิสถาน เหมือนที่พวกล้มเจ้ามันชอบพยายามใส่ร้ายตอนที่พวกมันได้เกิดมาบนแผ่นดินไทย นั่นแหละ

แล้วพวกเราคอยจับตาดูได้เลยว่า คนอย่างสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล วรเจตน์ ภาครัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล และอีกหลายๆ ตัว มันไม่ได้ตายดีแน่นอน คอยดูเถอะ

----------------------

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ไอ้เกษียร กัดกับไอ้สมศักดิ์

ไอ้เกษียร เตชะพีระ มันบอก ไอ้สมศักดิ์ เจียม แอบไปร้องไห้ หลังโดนคดีหมิ่นตามมาตรา 112

ส่วนไอ้สมศักดิ์ เจียม มันก็กัดกลับไปว่า ..

คลิกอ่านรายละเอียดเองเถิด คลิกอ่านข่าวตะกวดเกษียรกัดกับตะกวดสมศักดิ์เจียม


แต่แล้วไอ้2 ตัวก็กลับมาประสานเสียงกันใหม่ ในประเด็น โดนผบ.ทบ.ไล่ให้ออกไปอยุ่ที่อื่น

แล้วไอ้เกษียร ก็จนมุมกับตรรกะไปอยู่แผ่นดินอื่น เลยต้องมาเขียนกลอนประชด

บทกลอนฉันคือมนุษย์ผู้อึดอัด โดยเกษียร เตชะพีระ

I AM AN UD-AD MAN!

I am an ud-ad man.
Living in ud-ad Thailand.
I wonder why it is so.
Maybe because the generaltells me to go.

I am an ud-ad man.
He says I don′t own thisland.
It′s alright if I agreewith him.
Otherwise my future looksdim.

I am an ud-ad man.
He wishes to kick me out ofthis land.
Simply because I thinkotherwise.
And he says that isn′tright.

I am an ud-ad man.
Born and grown up in ud-adThailand.
It′s the land of the free
so long as you don′t talk,hear and see.

This is the ud-ad land.
Bear with it if you can.
Here love is compulsory.
And hatred is given freely.

Long live ud-ad-ness!
Think otherwise and youmight be dead.
Ud-ad is uniquely Thai.
Freedom is a foreign vice.

(ที่มา เฟซบุ๊ก เกษียร เตชะพีระ)

คำแปล โดย สมศักดิ์เจียมธีรสกุล

"ฉันเป็นมนุษย์อึดอัด
อยู่ในประเทศไทยแลนด์ดินแดนอึดอัด
ฉันสงสัยว่าทำไม
บางทีอาจจะเป็นเพราะท่านนายพลบอกให้ฉันไปเสียไกลๆ

ฉันเป็นมนุษย์อึดอัด
ท่านนายพลบอกว่าฉันไม่ได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน
ถ้าฉันเห็นด้วยกับท่านฉันจะอยู่สบาย
ไม่งั้นอนาคตฉันมีหวังมืดมน

ฉันเป็นมนุษย์อึดอัด
ท่านนายพลหวังจะเตะฉันออกไปจากแผ่นดินนี้
เพียงเพราะฉันคิดต่างออกไป
ซึ่งท่านบอกว่าคิดแบบนั้นรับไม่ได้

ฉันเป็นมนุษย์อึดอัด
เกิดและโตในประเทศไทยแลนด์ดินแดนอึดอัด
นี่เป็นดินแดนเสรีชน
ตราบเท่าทีทุกคนปิดปากปิดหู ปิดตา (ไม่พูด ไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น)

นี่คือแดนอึดอัด
ทนไปเหอะถ้าทนได้
ที่นี่ความรักเป็นเรื่องบังคับ
และความเกลียดชังมีไว้แจกกันง่ายๆเหลือเฟือ

ความอึดอัดจงเจริญ
คิดต่างออกไปคุณอาจม่องเท่ง
อึดอัดเป็นเอกลักษณ์ชาติไทย
เสรีภาพเป็นความชั่วของฝรั่ง

(ที่มา เฟซบุ๊กสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล)

นี่ผมยืนยันตามหลักจิตวิทยาได้เลยว่า ไอ้พวกล้มเจ้ามันพ่ายแพ้แก่ตรรกะโดนไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น พวกมันเถียงไม่ออกจริงๆ ก็ดูจากกลอนที่มันเขียนได้

จำไว้ เจอพวกล้มเจ้า ให้ด่าไล่ให้เมันไปอยู่ที่อื่น พวกมันจะแสนเจ็บปวด แต่จะแสร้งทำเป็นไม่เจ็บปวด

เพราะพวกมันรู้ในใจลึกๆ ว่า ไม่มีที่ไหนที่ดีเท่าเมืองไทยแล้ว ขนาดคนต่างชาติมากมายยังอยากมาอยู่เมืองไทย

แต่พวกล้มเจ้ามันเกิดมาเพื่อล้มสถาบันโดยเฉพาะ มันอยากได้สาธารณรัฐ มันเลยพยายามหาเหตุผลชั่วๆ ใส่ร้ายสถาบัน

แม่งเลวจริงๆ พวกชั่วมันบอกอึดอัด แต่แม่งก็จะหน้าด้านอยู่ต่อไป เหอะๆ

----------------

เสรีภาพย่อมมีขอบเขต

คนไทยเห็นต่างกันได้ในเรื่องมากมาย ไม่ว่าเรื่องอะไรคนไทยมักเห็นต่างกัน จนทะเลาะกันเสมอ ๆ

แต่เรื่องบางเรื่อง เสรีภาพบางอย่างก็ต้องมีขอบเขต

คนไทยอาจเห็นต่างทางการเมือง และเรื่องอื่นๆ ได้

แต่เรื่องสถาบันหลักของชาติ ต้องไม่แตกแยกต้องไม่เห็นต่าง ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

หากใครเห็นต่าง ก็แค่ไปจากแผ่นดินนี้เสีย ไม่ควรคิดสร้างความแตกแยกให้แก่ความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติอีก

สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ยึดเหนี่ยวให้คนในชาติรวมกันเป็นชาติได้มาจนปัจจุบัน

อยู่ๆ ไอ้ลูกหลานเจ๊กกบฎบางตัว ที่ก๋ง เตี่ยมันหนีมาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ มันดันจะมาคิดเนรคุณแผ่นดิน เพียงแค่อ้างเสรีภาพชั่วๆ บังหน้าไว้หลอกควาย

ไอ้พวกนี้ไม่ตายดีแน่นอน คอยดูได้


คลิกอ่าน รวมบทความ เพื่อปกป้องในหลวง

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2556

โลกออนไลน์สะใจแบนตอบโจทย์ แก้แค้นให้เหนือเมฆ







"คนเลวที่มีอำนาจสั่งแบนละครเหนือเมฆ แต่คนดีรักแผ่นดินสั่งแบนตอบโจทย์"

รายการตอบโจทย์ ของสถานีไทยพีบีเอส ที่ถูกระงับการออกอากาศเมื่อคืนวันที่ 15 มีนาคม นั้น เนื่องจาก ผู้ชมสถานีไทยพีบีเอส ประมาณ 20-30 คน เดินทางมายื่นข้อร้องเรียนกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เพื่อขอให้ระงับการออกอากาศ



"แผ่นดินนี้เป็นของคนรักราชอาณาจักรไทย ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกเอเลี่ยนมาปากหมาผ่านทีวีไทย"



เอเลี่ยนพ่อสมศักดิ์ ส่งคลื่นวิทยุพร้อมอุกกาบาตตกที่รัสเซีย มาด่าไอ้สมศักดิ์เจียม ว่า

"ไอ้สมศักดิ์เจียมไอ้ลูกอกตัญญูพ่อแม่ ข้านึกว่าเอ็งจะตายเพราะตกจากยานของข้าไปแล้ว ดันเสือกรอดมาอยู่บนแผ่นดินที่ร่มเย็นเป็นสุขแล้วเสือกอกตัญญูแผ่นดิน"

คลิกอ่านชีวประวัติสมศักดิ์สถุลไม่เจียม ลูกเอเลี่ยน

-----------------------

ความแตกต่างระหว่างแบนละครเหนือเมฆ กับแบนรายการตอบโจทย์ ตอน สมศักดิ์เจียม ดีเบต ส.ศิวรักษ์

ถ้าไม่โง่เหมือนพวกสาวกสมศักดิ์เจียม ต้องแยกแยะได้ว่า ต่างกันอย่างไรได้ไม่ยาก

การที่ละครเหนือเมฆถูกแบน เพราะนักการเมืองคอรัปชั่นมันทนไม่ได้ที่ละครสอนให้ประชาชนรู้ทันความชั่วและเล่ห์เหลี่ยมนักการเมือง มันเลยสั่งแบน

ส่วนการแบนตอบโจทย์ นั่นเพราะ ไอ้สมศักดิ์เจียม ผู้ที่มีความคิดลบหลู่สถาบันกษัตริย์ มันอยากจะให้ล้มมาตรา112 ที่ปกป้องไม่ให้ใครมาลบหลู่ดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมากกว่า 700 ปี

จนทำให้ประชาชนคนดี ทนไม่ไหวเดินทางไปขอร้องให้สถานีหยุดออกอากาศตอนนี้ ซึ่งผู้บริหารสถานีก็เห็นด้วยว่า

มันจะมากไปแล้ว ที่ปล่อยคนชั่วหนักแผ่นดินอย่างไอ้สมศักดิ์เจียมมาออกอากาศพร่ำโชว์ปัญญาควายไปวันนึงแล้ว ดันจะให้มันมาออกอากาศได้อีกวัน

ที่ไอ้สมศักดิ์เจียม มันไม่อยากให้มีกฎหมายปกป้องสถาบันกษัตริย์ เพื่อที่พวกมันจะได้ใส่ร้ายอาฆาตสถาบันกษัตริย์ได้อย่างเต็มที่

ทั้งๆ ที่สถาบันกษัตริย์ เป็นสถาบันที่รัฐธรรมนูญยกไว้ให้เหนือการเมือง มีไว้เคารพ ผู้ใดจะมาละเมิดมิได้

แต่พวกล้มเจ้ามันคิดว่า ต้องละเมิดได้ นี่แหละจึงสมควรถูกแบนมันซะ มีอย่างที่ไหน มันอาศัยแผ่นดินแห่งพระราชาอยู่ ไอ้สมศักดิ์ดันจะมาด่าอยากจะใส่ร้ายพระราชาแบบไม่ผิดกฎหมาย ถ้าสมศักดิ์เจียมและสาวกไม่ใช่พวกชิงตะกวดมาเกิดคิดชั่วแบบนี้ไม่ได้หรอก


คลิกอ่าน รัฐธรรมนูญฉบับแรก กับ สถาบันกษัตริย์




-----------------------


แนะนำ ตอบโจทย์ตอนเอเลี่ยนสมศักดิ์ เอาไปออก Voice TV สิ

จะดูสิว่า อีโอ๊ค พานทองแท้ จะกล้าเอาตัวเอเลี่ยนใจคดหนักแผ่นดินอย่างสมศักดิ์เจียม ออกรึเปล่า

ก็ไหน สมศักดิ์ประกาศตัวเป็นเสื้อแดงเต็มตัวแล้วนี่หว่า 555555555555555



-----------------------


ใครสั่งแบนตอบโจทย์ ตอน สมศักดิ์เจียม ?

กูสั่งแบนตัวเหี้ยหัวโตแค่นี้ ไม่ใช่เรื่องปิดกั้นอะไรหรอก เพราะกูให้แม่งปากหมาฟรี ๆ มาวันนึงแล้ว ได้ออกอากาศฟรี ๆ มาวันนึงแล้ว

ไอ้หัวโตเจียมสถุล ถ้ามึงไปเอาละครเหนือเมฆ ตอนจบ มาออกช่อง 3 ให้คนใช้บ้านกูได้เบิ่งอีกนิดได้

กูอาจจะอนุญาตให้มึงได้ปากหมาทางทีวีไทยได้อีกสักวัน เอามะ แลกกัน จากกู ท่านเทพเทวดา





คลิกอ่าน เกษียร สมศักดิ์เจียม ถึงอึดอัดก็จะอกตัญญูต่อไป!!


วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ถ้าเผาเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่การก่อการร้าย แล้วควรใช้กฎหมายไหน







หลังจากศาลแพ่งมีคำพิพากษาว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ไม่ใช่การก่อการร้าย และให้บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชำระค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงิน 1,977ล้านบาท แก่บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซน ซึ่งถูกเพลิงไหม้ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น เอ

ดังนั้น คำพิพากษาดังกล่าวจะทำให้แกนนำนปช.ทั้งหมดที่ถูกฟ้องในข้อหาก่อการร้ายจะไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะมีผลทำให้คดีอาญาต่างๆที่ฟ้องแกนนำนปช.ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย จะยึดตามแนวทางคำพิพากษาของศาลแพ่งและอาจทำให้ข้อกล่าวหาก่อการร้ายที่แกนนำนปช.ถูกฟ้องตกไป

มันเป็นเพียงแค่คดีแพ่ง ที่เซ็นทรัลเวิร์ลเขาต้องการให้ศาลแพ่งชี้ขาด เพื่อต้องการค่าสินไหนทดแทนจากบ.ประกันภัยเท่านั้น

ผมเองก็เห็นด้วยกับศาลแพ่ง ว่าคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่คดีก่อการร้ายแน่นอน เพราะระดับสติปัญญาของพวกนปช. และพวกฟายแดงที่คอยฟังคำสั่งแกนนำ มันโง่และถ่อย จนไม่สามารถวางแผนก่อการร้ายได้หรอก

มันสมองพวกแกนนำฟายแดง และฟายแดง มันก็ทำได้แค่เผาอย่างอันธพาลอาละวาดเท่านั้น ซึ่งไม่ต่างกับคดีเผาศาลากลางจังหวัดหรอก จะต่างกันก็เพียงเผาสถานที่ราชการ กับเผาสถานที่เอกชนเท่านั้น

ดังเมื่อปี 2552 พวกฟายแดงมันก็อยากจะเผาถึงขนาดเอารถแก๊สออกมาก็แล้ว เผารถเมล์ก็แล้ว แต่พวกมันยังพ่ายแพ้ มาคราวนี้พวกถ่อยฟายแดง นปช. มันเลยเผาห้างที่พวกมันเคยอาศัยเข้าห้องน้ำของเขาซะ แถมยังรอตกใจ รอเข้าไปขโมยของในห้างเขาอีกด้วย


เสื้อแดงเผารถเมล์ ปี 2552


หรือที่เรียกว่า ขโมยของแบรนด์เนม แล้วเผาห้างทำลายหลักฐานนั่นแหละ และไอ้พวกฟายแดง นปช. มันได้ถอดเสื้อแดงออกนานแล้ว แถมมีบางตัวใส่ชุดลายพรางคล้ายทหารเพื่อหวังใส่ร้ายป้ายสีทหารอีกด้วย มันช่างสารเลวสมกับเป็น แดง นปช. จริงๆ

ปี 2553 นปช. ใส่ร้ายทหาร

แต่พอปี 2554 ทหารคือฮีโร่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภับน้ำท่วม ถ้าไม่ควายไม่โง่ ลองคิดดูเถิด ทหารเขาจะทำร้ายประเทศชาติไปเพื่ออะไร มีแต่พวกชั่วสถุลเท่านั้นที่คิดให้ร้ายทหาร

ในขณะช่วงน้ำท่วมใหญ่ ไอ้พวกนปช. มันเลือกช่วยเฉพาะพวกมันเอง บ้านไหนไม่ติดธงแดง ไม่ต้องแจกของช่วยเหลือ แถมเอาของบริจาคไปติดชื่อตัวเองเพื่อเอาหน้า

ถุย สวะแห่งความเลวต้อง นปช. เท่านั้น

------------------------------

เมื่อการเผาเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่การก่อการร้าย แลัวควรเอาผิดด้วยกฎหมายไหน ?

คำตอบก็คือ ต้องใช้ กฎหมายอาญา มาตรา 218 ครับ

มาตรา 218 ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ ดังต่อไปนี้

(1) โรงเรือน เรือ หรือแพ ที่คนอยู่อาศัย

(2) โรงเรือน เรือ หรือแพ อันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า

(3) โรงมหรสพ หรือสถานที่ประชุม

(4) โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา

(5) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน หรือที่จอดรถ หรือเรือสาธารณะ

(6) เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ

ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี


และ มาตรา 219 ผู้ใด “ตระเตรียม” เพื่อกระทำความผิดดังกล่าวในมาตรา 217 หรือมาตรา 218 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับพยายามกระทำความผิดนั้น ๆ

(คดีแพ่ง แยกไปต่างหาก ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเผาห้าง บ.ประกันภัย สามารถไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำผิดได้อีกที)

-----------------------

สรุป

กรณี เผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ล และ เผาห้างเซ็นเตอร์วัน จึงเข้าข่ายมาตรา 218 ข้อ (2) โรงเรือน เรือ หรือแพ อันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า


ความรู้สึกของแม่ค้าที่ค้าขายในห้างเซ็นเตอร์วัน หลังโดนเผา



กรณี เผาโรงหนังสยาม เข้าข่ายมาตรา 218 ข้อ (3) โรงมหรสพ หรือสถานที่ประชุม

ความรู้สึกผู้คนที่ผูกพันธ์กับโรงหนังสยาม หลังโดนเผา


ดังนั้นการที่ใครก็ตามที่สั่งคน หรือวานคน ไปเผาตามสถานที่ต่างๆ

หากพบว่ามีหลักฐานเอาผิดมันได้ แม้มันไม่ผิดด้วยข้อหาการก่อการร้ายก็ตาม

ก็ยังสามารถเอาผิดด้วย ความผิดฐานฐานจ้างวานหรือใช้ผู้อื่นวางเพลิงเผาโรงเรือน อันเป็นที่เก็บสินค้า ร่วมกันวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ ซึ่งมีอัตราโทษก็เท่ากับเผาเอง ตามมาตรา 218 เช่นกัน

ซึ่งโทษตามมาตรา 218 สูงสุด ก็ถึงขั้นประหารชีวิต เช่นเดียวกันกับข้อหาก่อการร้ายนั่นแหละ ^^

หมายเหตุ ความผิดฐานก่อการร้ายมาตรา135/1 ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท


คลิก ไปดูจะจะ ไอ้พวกไหนที่ดีใจเฮ หลังห้างเซ็นทรัลเวิร์ลโดนเผา


วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

สื่อขี้ข้า ข่าวสดหน้าแหก เมื่อผู้ว่าท่า69 ของยิ่งลักษณ์แพ้








เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ผมได้อ่านเจอบทความของสื่อขี้ข้าแม้ว ข่าวสด หรือที่ถูกต้องคือ ข่าวปด

ซึ่งมันก็เป็นสื่อชั่วในเครือมติชั่ว มติชิน มติชน มันได้ลงบทความทำนองถางถาง พรรคเก่าแก่คู่แข่งพรรคเพื่อควาย ว่า เอาเรื่องเผาเมืองมาหาเสียง ถือเป็นการดูถูกประชาชน ดูถูกประชาธิปไตย ซึ่งบทสรุปของไอ้บทความข่าวสดนี้ มันลงท้ายไว้ว่า

"ดูถูกผู้คน ดูถูกประชาธิปไตยอย่างนี ต้องโดนสั่งสอนในวันที่ 3 มีนาคมแน่นอน! "

ผมรีบเก็บลิงค์บทความข่าวสดนี้ไว้ทันที เพื่อจะเก็บเอามาเยาะเย้ยความเป็นขี้ข้าโง่เง่าของคนเขียนที่ชื่อ วงค์ ตาวัน ว่า เอ็งมันชั่งฟายแดงแสนโง่นัก 555

ลองอ่านดูครับ บทความควายๆ ของวงค์ ตาวัน จากสื่อขี้ข้าข่าวสด




ลิงค์บทความข่าวต้นฉบับ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qQTJORFkwTnc9PQ==&sectionid=



เป็นไงล่ะ ไอ้วงค์ ตาวัน สื่อข่าวสดขี้ข้าไอ้เหลี่ยม ใครกันแน่วะ ที่โดนคนกรุงเทพสั่งสอนในวันที่ 3 มีนาคม ใครกันแน่วะ ที่ดูถูกประชาธิปไตย ?

ไอ้วงค์ ตาวัน แห่งข่าวสด มึงหน้าแหกแบบนี้ สมควรไปกราบตีนคุณชายหมู และสมควรไปกราบตีนคนที่มึงกล่าวหาว่า สั่งฆ่า 99 ศพด้วยนะ

ไอ้วงค์ ตาวัน มึงจงจำไว้ คนกรุงเทพฯ เขาเป็นคน ไม่ใช่ควายแดง ที่จะโดนพวกสื่อขี้ข้าทักษิณอย่างพวกมึงสนตะพายง่าย ๆ จนเชื่อว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์สั่งฆ่าประชาชน

เพราะคนกรุงเทพ คือเจ้าของสถานที่เกิดเหตุ เขารู้ดีมาตั้งแต่ปี 2552 แล้วว่า พวกฟายแดงอย่างพวกมึงพยายามใส่ร้ายรัฐบาลอภิสิทธิ์มาครั้งนึงแล้วแต่ไม่ได้ผล

พอมาปี2553 พวกขี้ข้าทักษิณอย่างพวกมึงก็พยายามจะใส่ร้ายรัฐบาลอภิสิทธิ์อีกครั้ง จึงพยายามให้มีคนตายจริงๆ เพื่อจะได้ใส่ร้ายรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้อย่างเต็มที่

ขอย้ำเลยว่า สื่อชั่วข่าวสด และสื่อเชี่ยอย่างมติชน สื่อเลวๆ ของพวกมึงหลอกได้เฉพาะพวกฟายแดงเท่านั้น

แต่ที่นี่คือกรุงเทพฯ ที่ๆ คนส่วนใหญ่ยังเป็นคนฉลาดและมีวิจารณญาณที่ถูกต้องอยู่โว้ย ไอ้ฟายแดงข่าวสด วงค์ ตาวัน 

3 มีนาคม ก็คือวันที่ คนกรุงเทพฯ สั่งสอนพวกเผาเมือง ไงล่ะ ไอ้วงค์ ตาวัน 5555


------------------------------


จูดี้ผู้ว่าถนัดท่า 69 ของยิ่งลักษณ์

ดูซิดู ขนาดส่งนายกยิ่งงั่ง อย่างยิ่งลักษณ์ ไปลงตระะเวนหาเสียงช่วยหมาจูดี้แทบทุกเย็นหลังเลิกเวลาราชการ ทั้งไปหาเสียงที่สยามพารากอน แต่ไม่กล้าไปเซ็นทรัลเวิร์ล?!

หรือจะไปสร้างภาพขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ สู้เต็มสปีดว่านายกยิ่งลักษณ์ เชียร์หมาจูเต็มที่

แต่สุดท้ายเสน่ห์ของยิ่งลักษณ์ก็หลอกคนกรุงเทพฯ แท้ๆ ไม่ได้หรอก คงหลอกได้แต่ฟายแดงที่ทำมาหากินเป็นลูกจ้างในกรุงเทพฯ ได้เท่านั้น

จงจำไว้นะยิ่งลักษณ์และเหล่าขี้ข้าทักษิณทัังหลาย 

พวกเผากรุงเทพ ฟ้าดินได้เป็นพยานซ้ำอีกครั้งว่า มันคือ พวกชั่วที่คนกรุงเทพไม่เอา !!






และถ้าใครอยากรู้ว่า ทำไมน้องเนยไม่ชอบรถเมล์ฟรี ก็ตามไปอ่านต่อได้ที่ คลิก !!


คลิกอ่าน หมาอยู่รู หมูอยู่ตึก ชัยชนะของหมูนอนมา เบอร์ 16


วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ความเห็นแก่ตัวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ช่วงมี ศปภ.







หากย้อนไปเมื่ออุทกภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 เราคงจำบทบาท ศปภ. ที่ห่วยแตกกันได้ ถ้าคุณไม่ใช่คนลืมง่ายหรือความจำสั้น

ไม่ว่าจะเป็น กักของบริจาคไว้ให้พรรคพวกตัวเองนำไปแจก หรือสมอ้างใส่ชื่อตัวเองเป็นเจ้าของสิ่งของบริจาค หรือจะเป็นของบริจาคเช่นส้วมลอยน้ำ เรือ เหลือบาน ที่ศปภ. แต่ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยกลับขาดแคลนเรือ และส้วม เป็นต้น จนต้องให้ช่อง 3 เอาไปแจกแทนเพราะขอไปที่ ศปภ. แล้วเงียบหาย เพราะไม่ใช่เขตที่เลือกสส.เพื่อไทย เป็นต้น

เรื่องห่วยแตกแบบนี้ ถ้าใครไม่เจอกับตัวเอง ก็อาจลืมเลือนไปแล้ว แต่สำหรับบทความนี้ซึ่งยังอยู่ในช่วงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.

ผมจะขอย้อนดูความเห็นแก่ตัวของคนใน ศปภ. ซึ่งก็หมายถึง นายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลที่ร่วมกันบริหารศปภ. ในช่วงที่ ศปภ.ยังตั้งบัญชาการอยู่ที่สนามบินดอนเมือง

นั่นก็คือความเห็นแก่ตัวที่พวกศปภ. ไปลากรถของประชาชนที่นำรถส่วนตัวหนีภัยน้ำท่วม ขึ้นไปจอดบนที่จอดรถชั้น 3 ของลานจอดรถสนามบินดอนเมืองแล้ว

แต่กลับถูกคนของศปภ. ลากรถของพวกเขาลงมาจอดชั้นล่างแทน เพื่อให้เหล่าคณะศปภ. ได้มีที่จอดรถสะดวก ๆ บนชั้น 3 ลานจอดรถสนามบินดอนเมือง แทน

สุดท้ายรถของประชาชนหลายคัน ที่พวกเขาคิดว่ารถของเขาคงปลอดภัยแล้ว กลับกลายต้องจมน้ำท่วมอย่างไม่คาดฝัน เพราะความเห็นแก่ตัวของคนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์แท้ๆ 

อย่างเช่น รถของคุณประพัฒน์ สินธพวรกุล ซึ่งเป็นพนักงานนกแอร์ คุณได้นำรถมาจอดที่ลานจอดรถชั้น 3 สนามบินดอนเมืองก่อนช่วงน้ำท่วม

แต่ปรากฏว่า ตอนหลังรถของคุณประพัฒน์ กลับถูกลากจากลานจอดรถชั้น 3 ลงมาจมน้ำท่วมที่ชั้่น 1 จากฝีมือคนศปก.


คุณประพัฒน์ บ้านอยู่ปากเกร็ด แต่สุดท้ายปากเกร็ดกลับน้ำไม่ท่วม บ้านคุณประพัฒน์ก็เลยน้ำไม่ท่วม แต่เขาเสียใจว่ารถของเขาที่อุตส่าห์นำมาจอดในที่ปลอดภัยกลับกลายต้องโดนลากลงมาจมน้ำ เพื่อเปิดลานจอดรถให้ว่าง เพื่อให้รถของคณะทำงานใน ศปภ. ได้จอดกันอย่างสบาย

สภาพรถของคุณประพัฒน์ ที่โดนลากจากลานจอดรถชั้น 3 ลงมาจมน้ำท่วมชั้นล่างของสนามบินดอนเมือง





ลองฟังคำพูดของคุณประพัฒน์ ครับ

คุณประพัฒน์ "ป้องกันนะ ไม่ใช่ว่าไม่ป้องกัน ถ้าผมนำมาจอดตรงนี้ตั้งแต่แรก (หมายถึงชั้นล่าง) แล้วน้ำท่วม จะไม่มีผมในวันนี้เลย ผมจะไม่มาพูดอะไรเลย แต่ผมได้นำรถไปจอดไว้ในทีปลอดภัยแล้ว แต่กลับถูกย้ายลงมาที่จุดเสี่ยงที่น้ำจะท่วม  คือถ้าเป็นตัวผมน่ะไม่เท่าไหร่

แต่คุณแม่ผมน่ะเสียใจมาก เพราะเขาห่วงรถ แม่ผมเขาบอกทุกวัน"




"ผมเดินตามหาตั้งแต่วันที่11 พฤศจิกา เป็นวันที่ผมรู้ว่ารถผมที่จอดจุดเดิมน่ะหายไปแล้ว พอวันที่ 12 เป็นวันที่ผมนั่งรถเข้ามาเพื่อจะตามหารถ แต่วันนั้นน้ำมันท่วมลึกมาก ผมไม่สามารถลงมาตามหาบริเวณนี้ได้เลย"


ข่าว 3 มิติ รายงาน 28/11/54

---------------------

ตัวอย่างเจ้าของรถที่โดนศปภ. ลากรถลงมาจมน้ำอีกราย

คุณศุกรักษ์ มุ่งฝอยกลาง  เปิดใจว่า "ก็ตกใจน่ะครับ เสียความรู้สึกน่ะครับ อุตส่าห์ไปจอดในที่สูงแล้วครับ กลับโดนลากลงมา"



ข่าว 3 มิติ รายงาน 30/11/54

------------------------

ซึ่งวันต่อมา ก็พบว่ายังมีรถที่โดนแบบหนุ่มนกแอร์อีกหลายคัน ซึ่งก็มีเพียงบางคันโชคดี เจ้าของได้เจอพลตำรวจเอกพงศพัศพอดี ทำให้พลตำรวจเอกพงศพัศน์เลยบอกจะซื้อเครื่องยนต์เปลี่ยนให้

โซลูน่าคันนี้แหล่ะครับ ที่เจ้าของเป็นหนุ่มจากลำลูกกาจอดบนชั้น 3 เหมือนกันแต่โดนลากลงมาจมน้ำ พอดีเจ้าของรถมาเจอพลตำรวจเอกพงศพัศน์จะจะเอง แถมเจอต่อหน้าฐาปนีย์ นักข่าว 3มิติซึ่งกำลังรายงานเป็นพยาน ทำให้หนุ่มลำลูกกาคนนี้ เลยได้เครื่องยนต์ใหม่จากพงศพัศน์ฟรี ๆ พร้อมซ่อมฟรีจากโตโยต้า

เพราะพลตำรวจเอกพงศพัศ ในฐานะโฆษกศปภ. ฝ่ายตำรวจ ที่ได้รับมอบหมายจากนายกยิ่งลักษณ์ ให้มาดูแลแก้ไขในเรื่องนี้ ก็เลยถือโอกาสล้างรถคันนี้โชว์ให้นักข่าวได้ถ่ายรูปสร้างภาพแก้ตัวแทน ศปภ.




คนเป็นข้าราชการระดับชั้นพลเอก อย่างพงศพัศ สุดท้ายก็แค่ขี้ข้านักการเมืองเท่านั้น เพราะคนในคณะทำงาน ศปภ. มีมากมาย ที่ควรออกมารับผิดชอบ แต่ทำไมต้องเป็นพงศพัศ ?

พวกนักการเมืองต่างหากที่ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบาย แต่กลายเป็นว่า พวกนักการเมืองใน ศปภ. ต่างปัดสวะ แล้วส่งขี้ข้าที่มีภาพลักษณ์ดูดีออกมารับหน้าเสื่อแทน นี่แหละที่เขาเรียกว่า ตำรวจยุคนี้เป็นขี้ข้าพวกชั่ว !!

(เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเคยตั้งกระทู้ไว้ที่บอร์ดสนุก ลองไปอ่านความเห็นของคนในช่วงนั้นกันครับ คลิกที่นี่ )

----------------------

สรุป

คือหลังจากรถหลายคันที่โดนพวกคณะศปภ. ลากลงมาจมน้ำชั้นล่างนั้น ไม่มีรายงานข่าวตามต่ออีกว่า ตกลงเงินที่จะนำมาชดใช้ให้เจ้าของรถเป็นเงินของใครกันแน่ ?

เป็นเงินบริจาคที่ศปภ. ได้มา หรือว่า นำเงินภาษีของชาติมาจ่ายชดใช้ให้พวกเขา ? ทั้ง ๆ ที่เป็นความผิดจากความเห็นแก่ตัวของ ศปภ. เองแท้ๆ

ซึ่งประเด็นสำคัญที่สุด ที่ผมนำเรื่องนี้มาให้รับรู้กันอีกครั้งนั้น ก็เพื่อจะบอกว่า

พวกนักการเมืองในรัฐบาลนี้มันชั่วขนาดไหน พวกตัวเองต่างร่ำรวยมหาศาล เปลี่ยนรถป้ายแดง เปลี่ยนรถใบ้หวยกันเป็นว่าเล่น แต่กลับแสดงความเห็นแก่ตัว ไปลากรถของประชาชนที่เขาหนีภัยลงมาจมน้ำท่วมที่ชั้นล่าง เพื่อให้รถของพวกคณะ ศปภ. ทั้งหลายได้มีที่จอดรถกันอย่างสบาย ๆ

หากคนอาสามาทำงานเพื่อประชาชน แต่กลับเห็นแก่ตัวมากกว่าเห็นแก่ประชาชน ย่อมนำพาชาติวิบัติ ย่อมเชื่อถือและไว้ใจไม่ได้

คณะทำงานศปภ. ถ้าไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน ก็ทำงานอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลไปซะก็สิ้นเรื่อง ตอนแรกมาทำงานกันที่ดอนเมือง คุยโวว่าเอาอยู่ๆ แถมมั่นใจว่าดอนเมืองน้ำจะไม่ท่วม สุดท้ายเป็นไงล่ะ ?

แล้วพอน้ำท่วมสนามบินดอนเมือง มีของบริจาคลอยน้ำกันเคว้งคว้างเกลื่อน แล้วไอ้พวกศปภ. ก็ย้ายหนีไปอยู่ตึกกระทรวงพลังงาน หลัง ตึกปตท. แทน

แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะ ? น้ำท่วมตามมาติดๆ อีก

และถ้าใครยังไว้ใจรัฐบาลที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ต่อไป ก็ขอบอกว่า โคตรโง่ล่ะครับ


คลิกอ่าน หลักฐานชี้ชัด ให้ควายบริหารจัดการน้ำ (และไปดูหลักฐานอีกชิ้นของความเห็นแก่ตัวของ พวกศปภ.)