วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

ถ้าเผาเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่การก่อการร้าย แล้วควรใช้กฎหมายไหน







หลังจากศาลแพ่งมีคำพิพากษาว่าการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ไม่ใช่การก่อการร้าย และให้บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ชำระค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงิน 1,977ล้านบาท แก่บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซน ซึ่งถูกเพลิงไหม้ช่วงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น เอ

ดังนั้น คำพิพากษาดังกล่าวจะทำให้แกนนำนปช.ทั้งหมดที่ถูกฟ้องในข้อหาก่อการร้ายจะไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะมีผลทำให้คดีอาญาต่างๆที่ฟ้องแกนนำนปช.ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย จะยึดตามแนวทางคำพิพากษาของศาลแพ่งและอาจทำให้ข้อกล่าวหาก่อการร้ายที่แกนนำนปช.ถูกฟ้องตกไป

มันเป็นเพียงแค่คดีแพ่ง ที่เซ็นทรัลเวิร์ลเขาต้องการให้ศาลแพ่งชี้ขาด เพื่อต้องการค่าสินไหนทดแทนจากบ.ประกันภัยเท่านั้น

ผมเองก็เห็นด้วยกับศาลแพ่ง ว่าคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่คดีก่อการร้ายแน่นอน เพราะระดับสติปัญญาของพวกนปช. และพวกฟายแดงที่คอยฟังคำสั่งแกนนำ มันโง่และถ่อย จนไม่สามารถวางแผนก่อการร้ายได้หรอก

มันสมองพวกแกนนำฟายแดง และฟายแดง มันก็ทำได้แค่เผาอย่างอันธพาลอาละวาดเท่านั้น ซึ่งไม่ต่างกับคดีเผาศาลากลางจังหวัดหรอก จะต่างกันก็เพียงเผาสถานที่ราชการ กับเผาสถานที่เอกชนเท่านั้น

ดังเมื่อปี 2552 พวกฟายแดงมันก็อยากจะเผาถึงขนาดเอารถแก๊สออกมาก็แล้ว เผารถเมล์ก็แล้ว แต่พวกมันยังพ่ายแพ้ มาคราวนี้พวกถ่อยฟายแดง นปช. มันเลยเผาห้างที่พวกมันเคยอาศัยเข้าห้องน้ำของเขาซะ แถมยังรอตกใจ รอเข้าไปขโมยของในห้างเขาอีกด้วย


เสื้อแดงเผารถเมล์ ปี 2552


หรือที่เรียกว่า ขโมยของแบรนด์เนม แล้วเผาห้างทำลายหลักฐานนั่นแหละ และไอ้พวกฟายแดง นปช. มันได้ถอดเสื้อแดงออกนานแล้ว แถมมีบางตัวใส่ชุดลายพรางคล้ายทหารเพื่อหวังใส่ร้ายป้ายสีทหารอีกด้วย มันช่างสารเลวสมกับเป็น แดง นปช. จริงๆ

ปี 2553 นปช. ใส่ร้ายทหาร

แต่พอปี 2554 ทหารคือฮีโร่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภับน้ำท่วม ถ้าไม่ควายไม่โง่ ลองคิดดูเถิด ทหารเขาจะทำร้ายประเทศชาติไปเพื่ออะไร มีแต่พวกชั่วสถุลเท่านั้นที่คิดให้ร้ายทหาร

ในขณะช่วงน้ำท่วมใหญ่ ไอ้พวกนปช. มันเลือกช่วยเฉพาะพวกมันเอง บ้านไหนไม่ติดธงแดง ไม่ต้องแจกของช่วยเหลือ แถมเอาของบริจาคไปติดชื่อตัวเองเพื่อเอาหน้า

ถุย สวะแห่งความเลวต้อง นปช. เท่านั้น

------------------------------

เมื่อการเผาเซ็นทรัลเวิร์ล ไม่ใช่การก่อการร้าย แลัวควรเอาผิดด้วยกฎหมายไหน ?

คำตอบก็คือ ต้องใช้ กฎหมายอาญา มาตรา 218 ครับ

มาตรา 218 ผู้ใดวางเพลิงเผาทรัพย์ ดังต่อไปนี้

(1) โรงเรือน เรือ หรือแพ ที่คนอยู่อาศัย

(2) โรงเรือน เรือ หรือแพ อันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า

(3) โรงมหรสพ หรือสถานที่ประชุม

(4) โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามศาสนา

(5) สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน หรือที่จอดรถ หรือเรือสาธารณะ

(6) เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป อากาศยาน หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ

ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี


และ มาตรา 219 ผู้ใด “ตระเตรียม” เพื่อกระทำความผิดดังกล่าวในมาตรา 217 หรือมาตรา 218 ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับพยายามกระทำความผิดนั้น ๆ

(คดีแพ่ง แยกไปต่างหาก ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเผาห้าง บ.ประกันภัย สามารถไปฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำผิดได้อีกที)

-----------------------

สรุป

กรณี เผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ล และ เผาห้างเซ็นเตอร์วัน จึงเข้าข่ายมาตรา 218 ข้อ (2) โรงเรือน เรือ หรือแพ อันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า


ความรู้สึกของแม่ค้าที่ค้าขายในห้างเซ็นเตอร์วัน หลังโดนเผา



กรณี เผาโรงหนังสยาม เข้าข่ายมาตรา 218 ข้อ (3) โรงมหรสพ หรือสถานที่ประชุม

ความรู้สึกผู้คนที่ผูกพันธ์กับโรงหนังสยาม หลังโดนเผา


ดังนั้นการที่ใครก็ตามที่สั่งคน หรือวานคน ไปเผาตามสถานที่ต่างๆ

หากพบว่ามีหลักฐานเอาผิดมันได้ แม้มันไม่ผิดด้วยข้อหาการก่อการร้ายก็ตาม

ก็ยังสามารถเอาผิดด้วย ความผิดฐานฐานจ้างวานหรือใช้ผู้อื่นวางเพลิงเผาโรงเรือน อันเป็นที่เก็บสินค้า ร่วมกันวางเพลิงเผาโรงเรือนฯ ซึ่งมีอัตราโทษก็เท่ากับเผาเอง ตามมาตรา 218 เช่นกัน

ซึ่งโทษตามมาตรา 218 สูงสุด ก็ถึงขั้นประหารชีวิต เช่นเดียวกันกับข้อหาก่อการร้ายนั่นแหละ ^^

หมายเหตุ ความผิดฐานก่อการร้ายมาตรา135/1 ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท


คลิก ไปดูจะจะ ไอ้พวกไหนที่ดีใจเฮ หลังห้างเซ็นทรัลเวิร์ลโดนเผา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น