วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไม่ควรเรียกรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5







บทความนี้เป็นเพียงคำแนะนำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น
เงินที่ใช้ในการสร้างพระบรมรูปทรงม้าเป็นเงินบริจาคจากประชาชน ซึ่งเป็นเงินประมาณ 2แสนกว่าบาท และเงินที่เหลือจากการสร้าง รัชกาลที่6 นำไปสร้างอาคารหลังแรกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ผมเห็นมีลัทธินึงเกิดขึ้นในเมืองไทย นั่นคือ ลัทธิบูชาเสด็จพ่อร.5 ซึ่งผมกลับมองว่า เป็นลัทธิความเชื่อบนความงมงายไสยศาสตร์ มากกว่าบูชาความดีงาม

เพราะอะไร?

เพราะลัทธิบูชาเสด็จพ่อร.5 นั้น ประเด็นหลักคือ สอนให้คนงมงายไม่ต่างอะไรกับการบูชาภูตผี หรือหลงติดไสยศาสตร์เลย ต่างกันเพียงแอบอ้างพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 5 บังหน้าเท่านั้น เพราะที่ไหว้นั้น คนจำนวนมากในยุคหลังๆ ไหว้เพราะหวังขอโน่นขอนี่ให้พระองค์ช่วยเหลือทั้งนั้น (ก็ไม่ผิดหรอกถ้าจะขอพึ่งพระองค์ แต่อย่าพึ่งด้วยความเชื่อที่ผิดๆ)

------------------------------

เพราะอะไรการไหว้ ร. 5 จึงเริ่มผิดเพี้ยน ?

คำตอบก็คือ มันเกิดจากพวกทรงเจ้าเข้าผี ช่วยกันสร้างความเชื่อผิดเพี้ยนให้คนไทยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ด้วยวิธีพูดกันปากต่อปาก 

จากเคยไหว้รัชกาลที่5 เพราะรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่5 ที่ทรงนำพาประเทศไทยผ่านวิกฤติมากมาย เช่น ทรงพาไทยให้รอดจากการตกเป็นเมืองขึ้นชาติตะวันตก ทรงริเริ่มสร้างสาธารณูปโภคให้คนไทยมากมาย ทรงเลิกทาสได้โดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อ ทรงวากรากฐานการพัฒนาประเทศที่ทันสมัย เป็นต้น

แต่ไปๆ มาๆ อิทธิพลพวกทรงเจ้า ทำเอาการไหว้รัชกาลที่ 5 ผิดเพี้ยนไปหมด จากการไหว้เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กลายเป็นไหว้แบบงมงายไปเสียฉิบ แถมดันมีการทรงเจ้าเสด็จพ่อ ร.5 อีกด้วย นี่ยิ่งดึงพระเกียรติของพระองค์ให้ตกต่ำลงไปอีก

สุดท้ายลัทธิบูชาเสด็จพ่อ ร.5 ก็กลายเป็นลัทธิแห่งหลอกลวง งมงาย หลอกให้คนเสียเงินเสียทองไปซะอีก พวกทรงเจ้า ร.5  นี่น่าจะโดน ม.112 ซะให้เข็ด

ลัทธิบูชาเสด็จพ่อ ร. 5 จึงคล้ายกับพุทธพาณิชย์ชนิดหนึ่ง หากศรัทธากราบไหว้และ เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์บ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าถึงขนาดงมงายจนดึงพระองค์ให้ตกต่ำนั้น ก็มิบังควรอย่างยิ่ง!!

แต่เอาเถอะ ความเชื่อและความศรัทธาของคนเราคงจะห้ามกันไม่ได้ เพราะสติปัญญาผู้คนมีหลายระดับ บางอย่างถึงบอกไปบางคนก็ไม่มีวันเข้าใจ นั่นเพราะความหลง และนิยมในไสยศาสตร์มาครอบงำจนขาดปัญญาไปแล้ว

แต่ที่ผมอยากจะติงคือ การเรียกรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อร. 5 นั้นถือว่ามิบังควร

แต่เพราะกระแสปากต่อปาก พูดกันไปกันมา เรียกกันไปกันไปจนแพร่หลาย จึงพากันเรียกรัชกาลที่ 5 แบบผิด ๆ กันไปหมด

นั่นเพราะใคร ๆ ก็เรียกกันแบบนี้กันทั้งบ้านทั้งเมือง จนเชื่อกันไปว่า นี่คือการเรียกที่ถูกต้อง

--------------------------

ต้นกำเนิด ที่มาของการเรียก "เสด็จพ่อ ร.5"

เวลาพวกทรงเจ้าเข้าผี เข้าทรงวิญญาณ ซึ่งร้อยละ99.99 คือการหลอกลวงทั้งสิ้น ก็มักจะสอนให้บรรดาลูกศิษย์เรียก คนทรงในขณะทรงว่า เจ้าพ่อ เจ้าแม่ เป็นต้น

ทีนี้เมื่อเจ้าพ่อ เจ้าแม่ เริ่มมีเกร่อมากมาย พวกทรงเจ้าก็หาหนทางใหม่คือ หาอะไรที่คนไทยนับถือศรัทธาได้ง่าย มาใช้เข้าทรงแทน

อย่างเช่น การเข้าทรงกรมหลวงชุมพร การเข้าทรงเจ้าแม่กวนอิม และที่มีมากและฮิตก็คือ การเข้าทรงในหลวงรัชกาลที่ 5

ถ้าใครเคยดูรายการเรื่องจริงผ่านจอ หรือรายการแปลกๆ ที่เคยพาไปดูงานรวมพลคนทรงเจ้า

คุณจะเห็นว่า จะมีคนทรงเจ้าเจ้าแม่กวนอิม หรือคนทรงรัชกาลที่ 5 ลงทรงพร้อมกัน ๆ ทีเดียวหลายองค์

ผมขอย้ำว่า นั่นคือแทบทั้งหมดเป็นการหลอกลวงเพื่อหากินทั้งสิ้น

และอีกจำนวนหนึ่งของพวกทรงเจ้าคือ พวกโรคจิตที่มีปมในใจ จนหาทางออกด้วยการสะกดจิตตัวเองให้ตนเองสำคัญว่ามีเจ้ามาเข้าทรง เพื่อให้คนมานับถือบูชา

ซึ่งในทางจิตเวชถือว่า เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง คือ อยากเป็นคนสำคัญ ชอบให้ผู้คนมา กราบ มาไหว้ แต่ในโลกแห่งความจริง ตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ได้ จึงต้องใช้วิธีการทรงเจ้ามาหลอกตัวเองและหลอกสาวก

ทีนี้พวกที่อ้างว่า เป็นร่างทรงรัชกาลที่ 5 ก็จะสอนให้บรรดาลูกศิษย์ เรียกตัวเองว่า เสด็จพ่อ 

เพราะพวกนี้ใช้ตรรกะที่ว่า ในเมื่อรัชกาลที่ 5 เป็นกษัตริย์ ถ้าเวลาเข้าทรงมีลูก (ลูกศิษย์) มาขอความช่วยเหลือ ก็เลยต้องสอนลูกศิษย์ให้เรียก คนทรงรัชกาลที่5 ว่า เสด็จพ่อ 

ฉะนั้น จงจำไว้เลยนะครับ การเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 มีต้นกำเนิดมาจากพวกทรงเจ้าเข้าผี สอนให้เรียกแบบนั้นทั้งสิ้น

และพวกทรงรัชกาลที่ 5 ก็จะขายพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และพระบรมฉายาลักษณ์ให้ลูกศิษย์กลับไปบูชาด้วย แถมสอนด้วยว่า ต้องไหว้วันไหน ไหว้อย่างไร ต้องถวายอะไรเวลาไหว้พระองค์ที่บ้าน

การทรงรัชกาลที่ 5 ล้วนเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันได้มากกว่าการทรงเจ้าเข้าผีบุคคลอื่น ๆ แปลง่าย ๆ คือหลอกได้ง่ายกว่า สอนให้คนศรัทธาได้ง่ายกว่า และทำเงินได้มากกว่านั่นเองครับ

ทีนี้คำเรียกแบบนี้ก็เริ่มแพร่ออกไปในสังคม จนผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกทรงเจ้า แต่ไม่รู้ที่มา ก็เลยเรียกผิดเพี้ยนตาม ๆ กันไป

ฉะนั้น ถ้าเราเป็นผู้มีปัญญา ไม่งมงาย และเข้าใจกาลเทศะ ก็ไม่ควรดึงฟ้าลงมาต่ำ ยกตนเสมอพระองค์ท่านนะครับ เพราะถือเป็นการกระทำมิบังควร !!

--------------------------------

การเรียกเสด็จพ่อร. 5 คือตีเสมอเบื้องสูง 

เพราะพวกเราเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ไม่ใช่พระบรมวงศานุวงศ์

ที่สำคัญพวกเราไม่ใช่พระราชโอรส พระราชธิดาในรัชกาลที่5 เราจึงเรียกรัชกาลที่5 ว่า "เสด็จพ่อ" ไม่ได้ 

ลองคิดง่ายๆ นะ หากคุณย้อนกลับไปในสมัยพระองค์ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ ถามว่า คุณกล้าเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 ต่อหน้าพระพักตร์หรือไม่ ?

หรือแม้แต่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็ยังไม่เรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อ เลย ?

เพราะผู้ที่จะเรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อ ได้ ก็ต้องเป็น สมเด็จพระเทพรัตนฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ หรือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์เท่านั้นที่จะเรียกได้

แล้วทำไมคนไทยจำนวนมากถึงได้กระทำมิบังควรบังอาจเรียก รัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ ร.5 ได้ หรือคิดว่า เพราะรัชกาลที่5 พระองค์ได้สวรรคตแล้ว ถึงได้กล้าลบหลู่ตีเสมอ (เช่นตีตนเสมอรัชกาลที่ 6 รัชกาลที่7 เพราะทั้งสองพระองค์คือพระราชโอรสในรัชกาลที่ 5)



ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้คิดตีตนเสมอพระองค์หรอก แต่เพราะความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงทำให้ไม่รู้จักกาลเทศะต่างหาก ที่ทำให้เรียกรัชกาลที่ 5 แบบผิด ๆ ตาม ๆ กันมา

"ผู้ไม่รู้ ย่อมไม่ผิด" แต่เมื่อรู้แล้ว ก็ไม่ควรเรียกผิด ๆ อีก

ซึ่งเมื่อเรารู้แล้วว่านั่นเป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง ผมขอแนะนำว่า ต่อไปเราก็ควรจะเรียกพระองค์ให้ถูกต้องว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง หรือ พระปิยมหาราช หรือ ในหลวงรัชกาลที่ 5 หรือ รัชกาลที่ 5 ก็ได้

อย่าเรียกพระองค์ว่า เสด็จพ่อร.5 ตามที่พวกทรงเจ้าเข้าผีมันสอนให้เรียกผิดๆ หรือพวกด้อยการศึกษา สอนให้เรียกผิดๆ ตามๆ กันมา เลยนะครับ เชื่อผมเถอะ

เราเป็นแค่พสกนิกรของพระองค์ท่าน จงอย่าลบหลู่พระเกียรติ ด้วยการดึงพระองค์มาเสมอชนชั้นสามัญอย่างเรา หรือยกตัวเราไปอยู่ในชนชั้นเดียวกับพระองค์ ด้วยการเรียกพระองค์ผิดๆ เลยนะครับ ผมขอร้อง

ผมเองก็ไหว้บูชารัชกาลที่ 5 เสมอที่บ้าน ผมก็เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เช่นกัน แต่ผมไม่เคยเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อ ร.5 เลย เพราะผมรำลึกเสมอว่า พระองค์คือพระมหากษัตริย์ของผม พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน

แม้ใครจะเคารพรักพระองค์ไม่ต่างจากรักพ่อก็ตาม ก็ไม่ควรเรียกว่าพระองค์ว่า เสด็จพ่อ นะครับ

การเรียกพระองค์อย่างถูกต้อง คือการเคารพเทิดทูนพระองค์อย่างสมพระเกียรติ

------------------------

ขอยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพ

ถ้าผมมีไทม์แมชชีนให้คุณย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้ ให้คุณไปเข้าเฝ้ารัชกาลที่ 5

ถามว่า คุณกล้าเรียกในหลวงรัชกาลที่ 5 ว่า เสด็จพ่อ หรือไม่ ?

อย่าลืมนะครับ ในสมัยนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช การหมิ่นพระเกียรติกษัตริย์ อาจมีโทษหนักนะครับ

หรือในสมัยปัจจุบัน ถ้าคุณได้เข้าเฝ้าในหลวงรัชกาลที่ 9 คุณกล้าเรียกในหลวงต่อหน้าพระพักตร์ว่า เสด็จพ่อ หรือไม่ครับ ?

ส่วนกรณีเพลงของธงไชย แมคอินไตย์หลายเพลง ที่มีคำว่าพ่อ ซึ่งแทนความหมายถึง ในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้น ถือเป็นการเปรียบเทียบเปรียบเปรย แต่นั่นไม่ใช่การเรียกพระองค์โดยตรง

แม้แต่ในเพลงเทิดทูนในหลวงทุกเพลง ก็ไม่เคยมีคำว่า เสด็จพ่อ ในบทเพลงใด ๆทั้ง ๆ ที่เราคนไทยรักและเทิดทูนในหลวงเสมือนพ่อ ก็ตาม

แต่พระองค์ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน 

-------------------------------

พระปิยมหาราช ทรงฉายพระรูปในอิริยาบถแบบชาวบ้านๆ



จากพระบรมฉายาลักษณ์ด้านบน ในหลวง ร. ๕ ทรงทำอาหาร ณ บริเวณ พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต รูปเดิมไม่มีสี ผมพยายามแต่งสีเพิ่มเข้าไป

ซึ่งคนในปัจจุบัน ที่ทำกิจการร้านอาหารมักชอบนำพระบรมฉายาลักษณ์รูปนี้ไปติดไว้ในร้าน เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ทำมาค้าขายดี



ตามความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่า 

การที่พระพุทธเจ้าหลวง ทรงประกาศเลิกทาสแบบไม่เสียเลือดเนื้อได้นั้น ในทางหนึ่ง ในหลวงก็ทรงรับเทคโนโลยีของตะวันตกเข้ามาพัฒนาประเทศด้วย เพื่อให้ประเทศเจริญทัดเทียมชาติอื่นๆ เพื่อไม่ให้พวกฝรั่งล่าอาณานิคมมีเหตุอ้างในการยึดครองสยาม ด้วยข้ออ้างที่ว่า เพราะสยามด้อยพัฒนาล้าหลังและป่าเถื่อน ได้

ซึ่งคนไทยในสมัยก่อนโดยส่วนใหญ่จะไม่เคยเห็นในหลวง ไม่เคยรู้ว่าในหลวงมีพระพักตร์เป็นอย่างไร แถมวัฒนธรรมของคนไทยก็มักเคารพเทิดทูนในหลวงดุจดั่งสมมุติเทพ

ในหลวงร.5 จึงทรงใช้กุศโลบาย ด้วยการฉายพระรูปของพระองค์ในพระอริยาบถแบบชาวบ้านๆ ทั่วไป เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ว่า เจ้านายชั้นสูงก็ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาเฉกเช่นคนไทยทุกคน ซึ่งในอดีตโบราณที่ผ่านๆ มา คนไทยจะไม่เคยเห็นว่า ในหลวงจะฉลองพระองค์แบบชาวบ้านสามัญเช่นนี้

ผมคิดว่า นี่ก็อาจเป็นกุศโลบายอีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยในการประกาศเลิกทาส เลิกระบบทาส ไพร่ เลิกระบบศักดินา ได้โดยไม่ยากของพระองค์เช่นกันครับ

คลิกอ่าน ทุกข์ที่สุดของรัชกาลที่ 5




4 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าอย่างงั้น...ท่านใหม่ เมืองเอก.. ช่วยตีประเด็นที่คนไทยนิยมห้อยพระที่คอให้ฟังหน่อยครับ
    ท่านเป็นถึงพระพุทธเจ้า ศาสดาของชาวพุทธ ...ทำไมเอามาห้อยไว้ที่คอ(ตั้งแต่สมัยโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน)

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พระเครื่อง พระเหรียญ กับ พระพุทธเจ้า คนละอย่างกันนะครับ อย่านำมาปนกันจนมั่วแยกแยะไม่ออก

      เพราะพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ส่วนพระที่คนไทยห้อยคอ ก็แค่วัตถุที่อยากจะใส่เพื่อระลึกถึงใครก็ได้ ที่เราอยากจะระลึกถึง

      ก็เหมือนชาวคริสต์ห้อยไม้กางเขน หรือคนบางคนห้อยรูปพ่อแม่ไว้ ก็เท่านั้น

      เพราะคอ เป็นอวัยวะที่เหมาะสมกับการใส่สร้อยคอ ก็เท่านั้น ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องคิดลึกครับ

      ลบ
    2. พระห้อยคอเพื่อเตือนสติ ให้รลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ว่าจุดประสงค์ของคนห้อย อันนั้นก้อแล้วแต่สติปัญญาที่จะเข้าใจ ต่างจิตต่างใจ บัวยังมีสี่เหล่า

      ลบ
    3. ตามคำสอนพระพุทธเจ้า ไม่มีบัวสี่เหล่านะครับอย่ามั่ว บัวมีแค่สามเหล่า ....บัวสี่เหล่าคนไทยมาคิดเองทั้งนั้น......หาข้อมูลบ้างนะครับไม่ใช่เอาแต่เชื่ออย่างเดียว.....

      ลบ