วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เมื่อนายกรัฐมนตรียิ่งอัปลักษณ์ ปาฐกถาที่โกโนเรีย







เมื่อนายกฯ ยิ่งลักษณ์ของฟายแดง ไปโชว์ปาฐกถาเพื่อพี่ชายที่แสนดีของเธอ แต่เป็นแสนเลวของประเทศชาติ

พี่ชายผู้ซึ่งได้เขียนโพยให้เธอไปอ่านประจานประเทศไทย เพื่อยกหางพี่ชายของเธอจนเรียบร้อยแล้ว

บรรดาขี้ข้าของทักษิณทั้งหลาย รวมทั้งฟายแดงต่างดีใจราวกับได้แดกหญ้าแพรกสด ๆ กันอีกครั้งด้วยความสะใจ

ไม่เป็นไรหรอก เมื่อนายกรัฐมนตรีอยากประจานชาติด้วยการนำไฟในประเทศออกนอก ก็สมแล้วที่ยิ่งลักษณ์จะได้ฉายาชื่อว่า กาลกิณีขี่ควายแดง

-------------------------------

นิทานสอนหญิง เรื่อง ยิ่งอัปลักษณ์นำไฟในบ้านออกนอก !!

ต่อไปนี้ผมมีเหตุการณ์สมมุติในโลกจินตนาการ ให้ได้อ่านกันบ้าง

คือได้มีนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งตอแหลแลนด์ ชื่อว่า นางสาวยิ่งอัปลักษณ์ ชินโกงวัด ได้ไปปาฐกถาที่ประเทศสมมุติที่ชื่อว่า สาธารณรัฐโกโนเรีย ที่มีเมืองหลวงชื่อว่า อีปูมันสะตอ ในหัวข้อเรื่อง ปัญหาในครอบครัวระดับนานาชาติ

ขอเรียนเชิญพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรียิ่งอัปลักษณ์ จากประเทศตอแหลแลนด์ ขึ้นกล่าวปาฐกถาค่ะ


"ท่านประธาน,ท่านผู้มีเกียรติ,ท่านผู้เข้าร่วมประชุม,

ดิฉันขอเริ่มด้วยการขอบคุณท่านประธานาธิบดีแห่งโกโนเรียที่ได้เชิญให้ดิฉันมาปาฐกถา ณ การประชุมปัญหาครอบครัวระดับนานาชาติครั้งนี้

ดิฉันได้ตอบรับเชิญไม่เพียงเพราะดิฉันต้องการที่จะได้มีโอกาสเยือนโกโนเรีย ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาครอบครัวในชาติ หรือไม่ได้มาเพียงที่จะได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว แต่ดิฉันเดินทางมาที่นี่เพราะปัญหาครอบครัวมีความสำคัญต่อดิฉันอย่างมาก และที่สำคัญยิ่งกว่าคือปัญหาครอบครัวมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศบ้านเกิดของดิฉัน ประเทศตอแหลแลนด์ที่ดิฉันรัก

ปัญหาครอบครัวนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมายาวนานปัญหาครอบครัวได้นำมาซึ่งความรุนแรงและความผิดหวังสำหรับผู้คนจำนวนมาก และในขณะเดียวกัน มีผู้หญิงจำนวนมากได้ใจแตก มีลูกก่อนวัยอันควร  เหมือนที่ดิฉัยเคยมีประสบการณ์มาเอง

เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัญหาครอบครัวได้นำมาซึ่งภาระของชาติอย่างไร ตามตัวอย่างที่ดิฉันจะเล่าประวัติครอบครัวของดิฉัน เป็นตัวอย่างดังต่อไปนี้

ความจริงแล้วดิฉันเกิดมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ เพราะแม่ของดิฉันใจแตก ตั้งแต่อายุไม่ทันจะยี่สิบ แม่ก็คลอดดิฉันออกมาแล้ว แต่เพราะคุณตาคุณยายสงสารแม่ของดิฉัน และด้วยความอับอายขายขี้หน้าที่มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน

คุณตาคุณยายจึงต้องรับดิฉันไว้เป็นลูกสาวคนเล็กของท่านแทน เพื่อปกปิดไม่ให้สังคมได้รับรู้ เพราะตระกูลของคุณตาคุณยาย หรือที่ดิฉันต้องมาเรียกว่า คุณพ่อคุณแม่ แทนนั้น เป็นตระกูลดัง จึงอายที่จะให้คนที่บ้านเกิดดิฉันรับรู้

ในภาษิตตอแหลแลนด์ มีภาษิตหนึ่งได้กล่าวว่า ดูหมาให้ดูหาง ดูสาวให้ดูแม่ นั้นคงจะจริง เพราะแม่ดิฉันใจแตกอย่างไร ดิฉันก็ใจแตกเหมือนท่านไม่ผิดเพี้ยน ท่านผู้มีเกียรติก็ลองสังเกตที่ก้นดิฉันสิคะ ที่มันบานขนาดนี้น่ะ ดิฉันบานมาตั้งแต่ยังไม่ทันจบม.ต้นด้วยซ้ำค่ะ ฮิๆ

ต่อมาเมื่อพี่ชายทักจิ๋ม หรือความจริงก็คือน้าชายแท้ๆ ของดิฉัน ได้รับรู้ว่า ดิฉันร่านผู้ชายตั้งแต่นมยังไม่แตกพาน พี่ทักจิ๋มก็เลยจับดิฉันใส่ตระกร้าล้างน้ำ ส่งดิฉันไปเรียนปริญญาโทต่อที่เมืองนอก จนจบปริญญาโทต๊อง จากมหาวิทยาลัยเคนตักกี้ ฟรายชิกเก้น มาค่ะ

ดิฉันเชื่อว่า เพราะปัญหาครอบครัวทำให้ดิฉันมีอุปนิสัยชอบทำปากหวอล่อผู้ชายค่ะ แม้อยากจะเลิกยังไงก็เลิกไม่ได้ซักที จนกระทั่งดิฉันได้แต่งงานกับคุณสรณ์ แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนะคะ

เพราะพี่ทักจิ๋มบอกว่า ถ้าจดแล้ว เดี่ยวจะยุ่งยากทีหลัง เพราะสามีนอกสมรสของดิฉัน เขามีฉายาว่า กูฟันดะ เขาฟันดะตั้งแต่พนักงานสาวโสดไปจนถึงเด็กฝึกงานในออฟฟิศแทบทุกคนเลยค่ะ

ถ้าดิฉันจดทะเบียนสมรสด้วย เดี่ยวจะมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินนะค่ะ พี่ทักจิ๋มเลยสั่งไม่ให้จดน่ะค่ะ

และด้วยความที่สามีของดิฉันก็หื่น ส่วนดิฉันก็ร่าน เราก็เลยมีลูกด้วยกันแค่คนเดียว ชื่อน้องกระโปก  ค่ะ ก็จะให้มีลูกหลายคนได้ไงล่ะคะ

ก็ดิฉันกินยาคุมมาตลอด หากไม่กินป่านนี้คงมีลูกกับผู้ชายอื่นนับไม่ถ้วนไปแล้วมังคะ ฮิๆ นี่ก็คงถือเป็นปัญหาครอบครัวเหมือนกันใช่ไหมคะ

และหลังจากพี่ทักจิ๋มหนีคุกเร่ร่อนอยู่เมืองนอก พี่ทักจิ๋มก็เลยต้องหย่ากับพี่อ้อล้อ เพราะพี่ทักจิ๋มบอกว่า เวลารัฐบาลของดิฉันจะจ่ายค่าหัวคิวในโครงการต่าง ๆ ให้พี่ทักจิ๋ม ดิฉันจะได้โอนเงินเข้าบัญชีพี่ทักจิ๋มได้สะดวก และจะได้ตรวจสอบไม่ถึงพี่อ้อล้อด้วยค่ะ

ครอบครัวพี่ทักจิ๋ม ก็มีปัญหาเหมือนกันนะคะ เพราะความที่พี่ทักจิ๋มเป็นคนเห็นแก่เงิน จึงต้องทำงานหนัก แถมต้องไปเลียเป้าพวกเผด็จการมาโดยตลอด เพื่อหวังฮุบสัมปทานรัฐ ก็เลยทำให้พี่ทักจิ๋มไม่มีเวลาสั่งสอนอบรมตักเตือนลูกชายกำลังโต จนลูกชายคนเดียวของพี่ทักจิ๋ม บ้า ๆ บอ ๆ จะชายก็ไม่ใช่ จะตุ๊ดก็ไม่เชิง แถมติดยา บ้าผู้ชาย ชอบโกงข้อสอบเป็นประจำ มันโกงตั้งแต่อนุบาลยันหมาลัยเลยค่ะ ฮิๆ 

ส่วนลูกสาวคนกลางของพี่ทักจิ๋ม คนนี้วางตัวดี แต่จริงๆ แล้วร่านแบบเงียบๆ ค่ะ ส่วนลูกสาวคนเล็กของพี่ทักจิ๋ม คนนี้ยิ่งถอดแบบพี่ทักจิ๋มมาทุกกระเบียด เพราะทั้งแรด ทั้งเลว เพียบพร้อมเลยค่ะ ฮิ ๆ

ยิ่งตอนที่พี่ทักจิ๋มจะได้สัมปทานดาวเทียม พี่ทักจิ๋มก็เลยส่งดิฉันไปบำเรอกามแก่พวกนายทหารที่มีอำนาจในตอนนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมพี่ทักจิ๋มที่มีเงินสู้กลุ่มเจ้าสัวธนินทร์ไม่ได้ แต่ทำไมพี่ทักจิ๋มถึงชนะได้สัมปทานดาวเทียมมา

ก็เพราะวิชาโอษฐ์สยบมังกรของดิฉันนี่แหละค่ะ ที่ทำให้พวกคณะเผด็จการในตอนนั้นต้องยอมยกสัมปทานดาวเทียมให้พี่ของดิฉัน

ขอสรุปเลยนะคะ คือดิฉันว่า ครอบครัวของดิฉันมีปัญหาค่ะ แต่เป็นปัญหาที่ดิฉันชอบมากค่ะ เพราะมันเสียวดีแท้ ฮิ ๆ

ขอบคุณทุกท่านที่รับฟังปาฐกถาของดิฉันค่ะ

-----------------------

หลังจากนั้น นายกยิ่งอัปลักษณ์ ก็ได้เดินทางกลับตอแหลแลนด์ และได้รับคำชื่นชมจากลุ่มทุยแดงเป็นอย่างมาก

"ท่านนายกทั้งสวยทั้งเก่งเลย สามารถเอาเรื่องจริงในครอบครัวมาเปิดเผยเพื่อแก้ปัญหาสังคม ท่านนายกยิ่งอัปลักษณ์ ช่างสมกับเป็น เบณจกาลกิณีเลยค่ะ" ชาวทุยแดงคนหนึ่งแสดงความเห็น

แต่พอหลังให้สัมภาษณ์นักข่าว กลุ่มทุยแดงก็จับกลุ่มซุบซิบถึงเรื่องที่นายกยิ่งอัปลักษณ์นำมาเปิดเผยกันยกใหญ่

"นี่เธอ ถ้านายกปูว.. ไม่เปิดเผยออกมานะ ชั้นไม่เคยคิดเลยว่า ที่แท้ท่านทักจิ๋มจะเป็นน้าชายของนายกปูว.."

"แต่ข้าว่า บางทีนายกปูว..อาจเป็นลูกแท้ ๆ ของท่านทักจิ๋มก็ได้นะ ท่านทักจิ๋มอาจมีลูก ก่อนจะได้แต่งงานกับคุณหญิงอ้อล้อ"

"ผมล่ะสงสัยจริง ๆ ว่า น้องกระโปกลูกชายนายกปูว.. อาจไม่ได้มีพ่อชื่อสรณ์ก็ได้นะ ก็นายกปูว..ร่านซะขนาดนั้น"

วงซุบซิบเรื่องประวัตินายกปูว.. ของทุยแดงเริ่มออกรสชาติมากขึ้น กลุ่มซุบซิบเริ่มใหญ่ขึ้น และปากต่อปากก็พูดเดากันไปเรื่อย จนถึงขนาดที่ว่า

นายกปูว.. อาจเคยแอบไปกุ๊กกิ๊กจ้ำจี้มะเขือเปราะกับเสี่ยอสังหาริมทรัพย์ ที่โรงแรมเย็นตาโฟร์ซีซั่น.. ตามข่าวที่ลือกันจนแซดจริง ๆ ก็เป็นได้

นี่แหละหนา ปากคน 555


เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับหญิงชั่วเร่ขายชาติของชาติไหนใด ๆ ทั้งสิ้น

ใหม่เมืองเอก ผู้แต่ง !!



คลิกอ่าน จับโกหกปาฐกถายิ่งลักษณ์ที่โมองโกเลีย


2 ความคิดเห็น: