วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พลเอกประยุทธ์ต้องปกป้องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เอาผิดธัมมชโย







เห็นล่าสุด ท่านนายกฯ ได้พูดว่า เรื่องของพระก็ให้พระตัดสิน เรื่องความเชื่อความศรัทธาบังคับกันไม่ได้

ท่านพูดแบบนี้ไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้พระที่มีอำนาจตัดสิน ได้ถูกอามิสสินจ้างจากธัมมชโยครอบงำไปหมดแล้ว ถ้าใครอยากศรัทธาธัมมชโยไม่ได้ห้ามครับ แต่อย่ามาแอบอ้างใช้พุทธศาสนาบังหน้าสิครับ




ผมขอถามว่า พลเอกประยุทธ์ ท่านเคยอ่านพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช แล้วหรือยัง ?

พระลิขิต 26 เมษายน 2542 ทรงวินิจฉัยแล้วว่า ธัมมชโยปาราชิก


แต่เมื่อกรรมการมหาเถรสมาคมในขณะนั้นยังข้องใจ ยังชักช้า ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้

สมเด็จพระญาณสังวร จึงทรงมีพระลิขิตมาอีก 2 ฉบับเพื่อย้ำอีก2 ครั้ง ว่าพระองค์ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายและอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายโดยสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว

พระลิขิตลงวันที่ 1 พ.ค. 2542


"ในกรณีเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้

ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดี ด้วยมีกตัญญกตเวทิตาธรรม" 

ลงพระนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปริณายก



พระลิขิตต่อมาคือ พระลิขิตลงวันที่ 10 พ.ค. 2542 ให้สังเกต สมเด็จพระสังฆราชใช้คำว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย




"ได้แจ้งให้เป็นที่เข้าใจชัดเจนดีทั่วกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าในตำแหน่งผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย สมบูรณ์ที่สุดแล้วตามอำนาจ 

ท่านกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งหลายจะทำอะไรต่อไปตามความต้องการ จะไม่มานั่งรับรู้รับฟังในที่ประชุมวันนี้ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2542" 

ลงพระนาม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังปริณายก


คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!

http://imgur.com/7BjpM3z,98EAfkb#0
หมายเหตุ พระลิขิตมีทั้งหมด 5 ฉบับแบ่งเป็นฉบับ 1-2 ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่มีตราพระนามย่อของพระองค์ท่าน ถือได้ว่าเป็นเอกสารส่วนพระองค์ แต่ฉบับที่ 3-5 เป็นพระลิขิตที่เป็นเอกสารอย่างเป็นทางการที่ทรงระบุชัดเจนต่อกรณีปัญหานี้

เนื่องจากกรรมการมหาเถรสมาคมในขณะนั้น พ.ศ. 2542 ก็คงไม่ต่างจากมหาเถรสมาคมในยุค 2558 เท่าไหร่นัก คือคงมีอำนาจเงินของธัมมชโยเข้ามาง้างความเห็นกรรมการ มส. ไว้ได้หลายรูปทีเดียว อย่างเช่น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ก็เป็น 1 ในกรรมการ มส. ในตอนนั้น

จนต้องมีพระลิขิตฉบับที่ 10 พ.ค. 2542 ของสมเด็จพระสังฆราช ทรงเขียนมาย้ำชัดว่า ธัมมชโย เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายไปแล้ว และพระองค์ได้ทำหน้าที่ในการเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย

เมื่อสมเด็จพระสังฆราช ได้ย้ำ 2 ประเด็นสำคัญนี้แล้ว จึงทำให้มหาเถรสมาคมต้องได้มีมติ 16/2542 อย่างเป็นทางการเพื่อรับรองพระลิขิตทั้ง 3 ฉบับ คือรับรองฉบับเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2542 ที่ได้ทรงวินิจฉัยว่า ธัมมชโย ได้ปาราชิกแล้ว รวมทั้งรับรองพระลิขิตฉบับวันที่ 1 พฤษภาคม 2542 และ 10 พฤษภาคม 2542 ด้วยดังนี้

เอกสารมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 16/2542


หมายเหตุ เลขา ฯ สมเด็จพระสังฆราช ได้ส่งพระลิขิตไปให้มหาเถรฯ  โดยใช้คำว่า พระวินิจฉัย แต่มหาเถร ฯ ไปแปลงใหม่เป็นคำว่า พระดำริ เพื่อเลี่ยงบาลี เพื่อจะอ้างว่าพระลิขิตเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น


มติมหาเถรสมาคมครั้งที่ 16/2542 ได้รับรองพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชทั้ง 3 ฉบับ ตามที่ผมนำมาให้ดู

มติมหาเถรสมาคมครั้งที่16/2542 ได้รับรองพระลิขิตทั้ง 3 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราชว่า ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม 

"...ที่ประชุมรับทราบพระดำริสมเด็จพระสังฆราชมาทั้งหมด มหาเถรสมาคมมีมติสนองพระดำริโดยตลอดให้ชอบด้วยกฎหมาย พระธรรมวินัย และกฎมหาเถรสมาคม

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และเห็นสมควรส่งเรื่องให้ฝ่ายสังฆการดำเนินการตามมติมหาเถรสมาคมต่อไป"

ลงชื่อ นายประยูร รักยิ้ม 
(ที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม)

---------------------

เมื่อได้อ่านพระลิขิตทั้งสามฉบับของสมเด็จพระสังฆราช แล้ว ท่านนายกฯ ประยุทธ์คิดยังไงครับ ?

แต่มติมหาเถรสมาคมจากรรมการ มส. ทั้ง 12 รูป เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นมติมหาเถรสมาคมอย่างเป็นทางการ เพราะไม่ได้มีการออกเป็นหนังสือราชการลงครั้งที่ และ พ.ศ.

รุปคือ พระลิขิตทั้ง 3 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นกฎหมายแล้ว จะต้องปฏิบัติตาม ไม่อาจฝ่าฝืนพระลิขิตได้อีก

ถ้าท่านนายกฯ ประยุทธ์ ต้องการปกป้องพระลิขิตและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ก็ควรถอดผ้าเหลืองสมีธัมมชโยทันที


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และทรงพระราชทานน้ำสังข์เพื่อถวายการแต่งตั้งแก่สมเด็จพระญาณสังวร เป็นสมเด็จพระสังฆราชอย่างถูกต้องตามโบราณราชพิธีแล้ว


ใครอยากดูคลิปในหลวงพระราชทานน้ำสังข์แก่สมเด็จพระญาณสังวร แล้วสมเด็จพระญาณสังวรทรงนำน้ำขึ้นมาลูบพระเศียรของพระองค์ คลิกที่นี่


ในขณะที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เพราะเป็นผู้มีสมณศักดิ์สูงสุดและอาวุโสที่สุดในกรรมการมหาเถรฯ ขณะนั้น จนได้รับการแต่งตั้งในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (จึงมีพระเสื้อแดงออกมาปกป้อง)



ดังนั้นท่านนายกฯ ประยุทธ์ อย่าให้ มติอย่างไม่เป็นทางการของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ที่แค่มาทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช มาทำลายพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชซึ่งถูกต้องตามกฎหมายได้ครับ



ถ้ายุค คสช. นี้ยังไม่สามารถเอาผิด ถอดผ้าเหลืองสมีธัมมชโยได้

แสดงว่า พลเอกประยุทธ์ ล้มเหลวในการปฏิรูปประเทศชาติโดยสิ้นเชิง เพราะสถาบันหลักของชาติ คือ ศาสนา ถูกย่ำยีเพราะโจรในผ้าเหลืองไปแล้ว

-------------------

เมื่อสมัยทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ ขึ้นเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ท่ามกลางเสียงคัดค้านมากมาย แต่ก็ไม่เป็นผล

ต่อมาเมื่อธัมมชโยคืนทรัพย์ให้แก่วัดพระธรรมกาย อัยการสูงสุดจึงถอนฟ้อง แล้วมหาเถรสมาคมในยุคสมเด็จเกี่ยว ก็คืนความเป็นพระและตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายให้แก่ธัมมชโย

พอมองภาพออกไหมครับ ??


คลิกอ่าน เอาผิดทางกฎหมายกรรมการ มส. 12 รูป ขัดพระลิขิต

คลิกอ่าน ถอดผ้าเหลิองธัมมชโย สมเด็จเจ้าอาวาสวัดปากน้ำต้องแสดงความรับผิดชอบ (ดู กม.สงฆ์สมัยรัชกาลที่1)

คลิกอ่าน 2558 ถึงยุคเสื่อมมหาเถรสมาคม กรณีอุ้มสมีไชยบูลย์ (ดูความเสื่อมของโฆษกกรรมการเถรสมาคม)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น