วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ปวิน ชัชวาลพงษ์พันธ์ โชว์โง่ กรณีหมอบคลาน กราบ คือเรื่องป่าเถื่อน






ผมเคยเขียนในหลายบทความ และในเฟสบุ๊คว่า พวกล้มเจ้าหลายคนเป็นพวกไม่มีศาสนา โดยเฉพาะศาสนาพุทธเนี่ย พวกล้มเจ้าหลายคนไม่มีความเคารพนับถือเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุที่ศาสนาพุทธในเมืองไทย ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย

มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และพระสุปฏิปัณโณหลายรูปที่ยกย่องในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงสอนและแนะนำส่งเสริมให้ประชาชนรักเคารพและปกป้องในหลวงของเรา ด้วยเหตุนี้พวกล้มเจ้าหลายคนจึงไม่นับถือศาสนาพุทธ

อย่างอีตุ๊ด ปวิณ นักวิชาการสายล้มเจ้าคนนี้ แม้มึงจะเกลียดศัตรูที่มีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกับมึงก็ตาม แต่คนเป็นถึงอาจารย์ต้องรู้จักให้เกียรติแก่ศาสนาที่สำคัญของโลกด้วย


พระสุเทพ ได้ขึ้นปกนิตยสาร LIPS


เมื่อพระสุเทพ ได้ขึ้นปกนิตยสาร LIPS

อีตุ๊ดใจบาป ปวิน มันก็โพสรูปหมาห่มเหลือง พร้อมกับล้อเลียนด้วยว่า RIP เจตนาของมันดูก็รู้ว่า ต้องการด่าพระสุเทพ



แต่อีตุ๊ด ปวิณ เล่นแรงแบบไร้จรรยาบรรณของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์สอนนักศึกษา เพราะมันเล่นเอาผ้าเหลืองของพระมาหมิ่น แม้มันจะต้องการด่าพระสุเทพ หรือ ปภากโรภิกขุ แบบอ้อม ๆ ก็ตาม

ถึงมึงไม่ให้ความเคารพในพระสุเทพว่า ท่านเป็นพระ แต่ก็ควรให้เกียรติผ้าเหลืองหรือจีวร ซึ่งถือเป็นเครื่องแต่งกายของภิกษุในพุทธศาสนา

แต่อย่างว่าล่ะนะ พวกใจบาปหยาบช้า อย่างเสื้อแดงก็เคยกระทืบพระคาผ้าเหลือง ก็มีให้เห็นมาแล้ว แม้ไม่เคารพพระรูปนั้น แต่ก็ควรเคารพและให้เกียรติผ้าเหลืองก็ยังดี


เสื้อแดงไล่กระทืบพระ หน้า ป.ป.ช. เมื่อเดือน ก.พ. 57

ส่วนอีตุ๊ดปวิน คนอย่างมันไร้ศาสนาอยู่แล้ว มันคงจะไม้สำนึกผิดอะไรหรอก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้มันลบรูปหมาห่มผ้าเหลืองนี้ออกจากเฟสบุ๊คไปแล้ว (หรืออาจไม่ได้ตั้งรูปเป็นค่าสาธารณะอีก)

เพราะผมไปดูในเฟสบุ๊คของอีปวินมันเมื่อคืน ก่อนที่จะเขียนบทความนี้ก็ยังเห็นอยู่ แต่พอรุ่งเช้าก็ไม่เห็นรูปนี้แล้ว มันคงจะเพิ่งคิดว่าได้ว่า ได้โชว์ความโง่และต่ำทรามออกมา มันจึงรีบเอาโพสนี้ออกไป เพราะตัวมันสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งนึงในญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นเมืองพุทธเช่นกัน และการให้เกียรติในสิ่งที่คนอื่นเคารพ คนญี่ปุ่นเขาถือว่าเป็นมารยาทสำคัญอย่างหนึ่ง

อย่างนี้เรียกว่า มึงไม่แน่จริงนี่หว่าอีปวิน  ถ้าอยากซ่า ก็ซ่าให้ตลอดรอดฝั่งสิวะ ลบออกทำไม กลัวคนญี่ปุ่นเขามาเห็นรึไง ?

--------------

ประเด็นคืออะไร ?

ประเด็นคือ  ผมไม่ได้สนใจที่ อีปวิน มันจะด่าพระสุเทพ หรือแม้จะด่าพระ ว.วชิรเมธี เพราะอีปวิณมันเชื่อว่า ทั้งสองคนหรือสองรูปไม่ใช่พระ มันอยากจะด่าก็เป็นเรื่องของมัน

แต่ผมที่เขียนบทความนี้คือ อีปวินมันดูถูกและไม่ให้เกียรติเครื่องแต่งกายของพระภิกษุ เอามาเล่นมาย่ำยี เพียงแค่ต้องการด่าคนที่มันเกลียดเท่านั้น

ซึ่งผมถือว่า เรื่องนี้ อีปวิณ มันจิตใจหยาบช้า

-----------------

การหมอบคลานเป็นเรื่องป่าเถื่อน

ก่อนอื่นดูโพสของอีปวิณ ตุ๊ดใจหยาบก่อนครับ


รูปนี้เป็นรูปทักษิณกราบพระบรมฉายาลักษณ์ ในวันที่ได้รับการโปรดเกล้าเป็นนายกรัฐมนตรี เสื้อแดงกรุณาจำไว้นะว่า ปวิน มันด่าทักษิณว่าได้กระทำการป่าเถื่อน !!


ใช่ครับ รัชกาลที่ 5 ทรงเลิกระบบหมอบคลานในการเข้าเฝ้าเจ้านาย ออกเป็นกฎหมายประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ซึ่งในเนื้อหากฎหมายก็ได้ระบุว่า การหมอบคลานเข้าเฝ้า ถือเป็นการบังคับกดขี่ให้ข้าราชการและราษฎรต้องลำบาก จึงทรงเลิกประเพณีเข้าเฝ้าดังกล่าวไป

ซึ่งการยกเลิกหมอบคลานนั้น ผมเห็นด้วยกับรัชกาลที่ 5 เพราะการคลานเข่า แถมต้องหมอบเข้าเฝ้าเป็นเวลานาน ๆ ถือเป็นความลำบากแก่ข้าราชบริพารอย่างมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องข้อเข่า ยิ่งทรมานมาก  หากยังบังคับการคลานเข่า หมอบเข้าเฝ้าต่อไป

แต่ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจอีกเรื่องเสียก่อนว่า ในยุคนั้นพวกฝรั่งล่าอาณานิคมชอบจะยกข้ออ้างเรื่องความไม่เจริญของชาติในเอเซีย หรือวัฒนธรรมเอเซีย ที่พวกฝรั่งอ้างว่านี่คือ ความไม่เจริญ ป่าเถื่อน ล้าหลัง

ประเพณีใด วัฒนธรรมใด ที่ฝรั่งไม่นิยมหรือไม่ชอบ พวกฝรั่งล่าอาณานิคมมันก็จะเหมาไปว่า นี่คือความล้าหลัง

แล้วพวกฝรั่งล่าอาณานิคมจะยกเหตุผลเรื่องความล้าหลัง ป่าเถื่อน ไม่เจริญเหล่านี้มาอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึดครองชาติอื่นเป็นเมืองขึ้น

ซึ่งการไปรุกรานยึดครองชาติอื่นมาเป็นเมืองขึ้น ปล้นทรัพยากรในชาตินั้น ๆ ไปปรนเปรอชาติตัวเอง และล้มล้างทำลายราชวงศ์ต่าง ๆ ในประเทศในเอเซียมากมายนั้น เพื่อกดขี่ให้ประเทศในเอเซียเหล่านั้นต้องเป็นขี้ข้าของฝรั่งอีกที

ถามว่า การไปรุกรานยึดประเทศต่าง ๆ เป็นเมืองขึ้นด้วยอาวุธที่เหนือกว่า นี่คือ การกระทำของผู้มีความเจริญแล้วใช่ไหม ? 

(กรณีนี้แตกต่างจากอาณาจักรในเอเซียรบกันเอง เพื่อรักษาความเป็นชาติ แผ่นดินและเผ่าพันธุ์ ให้อยู่รอด)

ถามว่า ระหว่างการหมอบคลานไหว้ผู้ใหญ่ที่เราเคารพแบบไทย ๆ กับ การที่ฝรั่งไปล่าอาณานิคมยึดครองชาติในเอเซียเป็นเมืองขึ้นด้วยกำลังอาวุธ อย่างไหนคือการกดขี่บังคับฝืนใจป่าเถื่อนมากกว่ากัน ?

ถ้าพวกฝรั่งมันยึดประเทศในเอเซียมากมายแล้วเป็นเรื่องที่ดี คนในประเทศที่ตกเป็นเมืองขึ้นของพวกฝรั่งคงไม่เรียกร้องขอเอกราชคืนจริงไหม บางประเทศถึงกับก่อสงครามเรียกร้องเอกราชคืนด้วยซ้ำ

ดังนั้นการที่รัชกาลที่ 5 ทรงยกเลิกการหมอบคลานนั้น ส่วนหนึ่งก็ถือว่าถูกต้อง เพราะเป็นจารีตโบราณ และเป็นการบังคับให้ต้องทำ ต้องคลาน ในการเข้าเฝ้า ใครไม่ทำถือว่ามีความผิด และถือเป็นการสร้างความยากลำบากแก่ขุนนางและราษฎร

แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทรงยกเลิกก็คือ เพื่อไม่ให้พวกฝรั่งใจทรามหาเหตุผลมาอ้างเพื่อยึดครองสยามประเทศในตอนนั้นด้วย

เมื่อรัชกาลที่ 5 ประกาศเลิกการหมอบคลานไปแล้ว นั่นก็คือ เลิกบังคับคนไทยทุกคนต้องหมอบคลานด้วยกฎหมาย เพราะการบังคับให้หมอบคลานถือเป็นความล้าหลัง

แต่เมื่อพ้นยุคฝรั่งใจทรามล่าอาณานิคมไปแล้ว การหมอบคลาน ก็คือ ประเพณีการเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ของคนไทยในทุกภาคนั่นแหละ ไม่จำเป็นว่าจะต้องหมอบคลานเวลาเข้าเฝ้าในหลวงเท่านั้น

ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยที่ชอบนั่งกับพื้น กินข้าวก็กินก็นั่งกับพื้น อยู่ตามบ้านนอก ก็นิยมประกอบกิจกรรมต่าง ๆ บนพื้นง่าย ๆ ดังนั้น การหมอบคลานจึงเป็นประเพณีที่มากับกิจวัตรของคนไทยที่ชอบทำอะไรกับพื้น

เช่น เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่นั่งอยู่กับพื้น คนไทยเราจะเข้าไปพบผู้ใหญ่ เราก็ต้องไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ก็อาจต้องคลานเข้าไปหาท่าน

ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่งบนเก้าอี้  ไม่มีใครหมอบคลานเข้าไปหาแล้วครับ อย่างมากก็เดินเข่า หรือถ้าเดินไปตามปกติ เมื่อเข้าไปใกล้แล้ว คนไทยเราจะไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ ก็มักจะนั่งลงข้าง ๆ ใกล้ ๆ ผู้ใหญ่ นี่คือมารยาทแบบไทย




เรื่องการไม่ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่เนี่ย ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่มีวัฒนธรรมชอบนั่งกับพื้น ก็มีมารยาทปฏิบัติคล้ายกับเรา ถ้าใครเคยดูซีรีย์จาก 2 ประเทศนี้ประจำจะเข้าใจ

อย่างเช่น เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะและสมเด็จพระราชินีมิชิโกะ เสด็จเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยสึนามิ พอทั้งสองพระองค์ประทับลง ผู้ตามเสด็จก็ต้องนั่งลงตามทันที



---------------------

ส่วนในการเข้าเฝ้าในหลวง ข้าราชการจะเข้าไปถวายรายงาน  ถ้าในหลวงประทับบนเก้าอี้ ผู้เข้าเฝ้าก็นั่งบนเก้าอี้ด้วยเช่นกัน จริงไหม



แต่ก็มีบางครั้งที่ในหลวงประทับบนเก้าอี้ แต่ผู้เข้าเฝ้านั่งกับพื้น ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมโดยทั่วไปของคนไทยที่ปฏิบัติต่อผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ซึ่งคนไทยเรามองว่าเป็นเรื่องมีมารยาทดี น่ารัก ผู้กระทำได้รับการอบรมมาดี



เพียงแต่ว่า เวลาใครที่โชคดีมากได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิดจริง ๆ เกิดอยากจะกราบพระบาทในหลวงด้วยใจจงรักภักดี ก็ไม่ได้มีใครห้ามแต่อย่างใด มันเป็นสิทธิของเขาที่อยากจะกระทำ

ถามว่า จะมีใครสักกี่คนที่โชคดีได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดจนได้มีโอกาสได้กราบแทบพระบาทในหลวง ??

ถ้าใครเขาอยากกราบในหลวงด้วยความเต็มใจ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่คนไทยจะกราบผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีพระคุณนั่นแหละ

นี่เป็นเรื่องของวัฒนธรรมไทย ที่คนไทยเรามองว่า งดงาม สวยงาม จึงได้มีการอนุรักษ์ไว้ ไม่ใช่เกิดจากการบังคับแต่อย่างใด



คงมีแต่พวกใจหยาบ รังเกียจรากเหง้าของตนเองอย่างอีปวินเท่านั้น ที่ดูถูกดูหมิ่นประเพณีการแสดงความเคารพอย่างสูงในแบบไทย ซึ่งแม้แต่ฝรั่งที่เข้ามาทำงานในเมืองไทยหลายคน ที่เขารักเมืองไทย ที่เขามีจิตใจสูง เขายังชอบวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ที่งดงามเช่นนี้เลยครับ

อย่างเช่น มีนักศึกษาอเมริกันสาว 2 คนได้มาฝึกงานเป็นครูในโรงเรียนชนบทของไทย ได้เป็นข่าวเล็ก ๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง พวกเธอบอกว่า รู้สึกประทับใจในนักเรียนไทยอย่างมาก เพราะนักเรียนไทยให้ความเคารพแก่ครูมากจนเธอประทับใจ เช่น ทุกครั้งที่ครูเข้าสอน นักเรียนก็กราบบนโต๊ะ หรือครูให้สิ่งของ นักเรียนก็ยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ เป็นต้น

หรือวัฒนธรรมไทยหลายอย่างเช่น เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ที่กำลังยืนอยู่ เด็กหรือผู้น้อยก็จะเดินก้มหัวผ่านไป นี่ก็คือความงดงาม


หรืออย่างอาจารย์อดัม ครูฝรั่งสอนภาษาอังกฤษชื่อดังในไทย เคยยกตัวอย่างในเรื่องที่อาจารย์ประทับใจในวัฒนธรรมไทยว่า "พวกฝรั่งเขาสามารถเดินข้ามหนังสือที่วางบนพื้นได้โดยไม่สนใจอะไร ในขณะที่คนไทยจะไม่เดินข้ามหนังสือ เพราะให้ความเคารพหนังสือเป็นเสมือนครู และหากคนไทยเกิดเผลอเดินข้ามหรือเหยียบหนังสือ คนไทยจะกราบขอโทษหนังสือ" นี่คือความงดงามของวัฒนธรรมไทย

ซึ่งเรื่องงดงามแบบนี้พวกใจบาปหยาบช้าอย่างอีปวิณมันคงไม่เข้าใจหรอก


ส่วนเรื่องการกราบ ใครไม่อยากกราบ ไม่อยากหมอบคลาน คุณเลือกได้ครับ ก็ไม่ต้องพาตัวให้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ สถานการณ์นั้น ๆ ซะ 

ไอ้พวกล้มเจ้ามันพูดอย่างกับว่า การได้เข้าเฝ้านี่มีโอกาสเกิดขึ้นง่าย ๆ อย่างนั้นแหละนะ

อีตุ๊ดปวิน ตุ๊ดใจบาปจิตป่าเถื่อน ถ้ามึงไม่อยากกราบก็เรื่องของมึง ส่วนคนที่เขาอยากกราบ มันก็สิทธิของเขา มึงเข้าใจเรื่องสิทธิไหมอีปวิณ

ส่วนจากรูปการกราบที่อีปวิณมันโพสนั้น ตามปกติการถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนใหญ่ก็แค่ก้มหัวทำความเคารพทั่วไปนั่นแหละครับ



แต่ถ้าใครอยากจะกราบพระบรมฉายาลักษณ์ ก็ไม่ได้ผิดอะไร มันขึ้นอยู่กับความพอใจของบุคคลนั้น ๆ


คุณลุงสะอิ้ง เดินเท้าหลายร้อยกิโลเมตร เพื่อมาถวายพระพรในหลวงที่โรงพยาบาลศิริราช ท่ามกลางความชื่นชมของคนไทยทั่วประเทศ (ยกเว้นพวกล้มเจ้าหนักแผ่นดินไม่กี่ตัว)


------------

ตัวอย่าง ฝรั่งที่เป็นไทยยิ่งกว่าไทย

หลายวันก่อน ผมเคยอ่านข้อเขียนของพี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค ในเฟสบุ๊ค ซึ่งพี่ดี้ได้เล่าว่า ได้ไปกินข้าวเย็นบ้านคุณบัณฑิต อึ้งรังษี วาทยากรระดับโลก

ขณะที่พี่ดี้นั่งคุยกับคุณบัณฑิต ในห้องรับแขก ภรรยาของคุณบัณฑิต ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน ที่พูดไทยได้ชัดมาก ก็คุกเข่าเข้ามาเสริฟน้ำให้พี่ดี้ ตามแบบอย่างมารยาทไทย

ซึ่งพี่ดี้ถึงกับบอกว่า ภรรยาของคุณบัณฑิตมีความเป็นไทยยิ่งกว่าคนไทยอีก

--------------

ฝรั่งที่เป็นผู้เจริญ ย่อมให้เกียรติและเคารพในวัฒนธรรมเอเซีย

เขยฝรั่งทำความเคารพอย่างสูงสุดด้วยการคำนับจรดศรีษะแนบพื้นต่อพ่อแม่ของเจ้าสาวชาวเกาหลี




ที่จริงเรื่องการที่ผู้น้อยคุกเข่าลงกับพื้น แล้วก้มหัวคำนับต่อผู้ใหญ่กว่าที่ยืนอยู่หรือนั่งบนเก้าอี้ เช่นการทำเพื่อการขอร้อง หรือเพื่อการขอโทษ ผมยังเห็นบ่อย ๆ ในซีรีย์ญี่ปุ่นและเกาหลีสมัยใหม่ จนนำมาเล่าในเฟสบุ๊คบ่อย ๆ อย่างเช่น

ซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง "ภารกิจพิชิตฝัน" ก็มีฉากนางเอกซึ่งเป็นนักข่าวของสถานีโทรทัศน์ นั่งคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อก้มหัวขอร้องผู้กำกับรายการที่ยืนอยู่ ขอร้องให้เขาช่วยเหลือในเรื่องสำคัญมาก

คลิกอ่าน การก้มหัวของอารางิกิ ยูอิ ในภารกิจพิชิตฝัน

หรือ เรื่อง "ดร.อูเมโกะ" นางเอกและเพื่อน ๆ นักศึกษาแพทย์ ร่วมกันนั่งลงคุกเข่าก้มหัวขอร้องอาจารย์หมอชาวฝรั่งเศสที่ยืนคุมสอบอยู่ ให้อนุญาตให้นางเอกได้สอบซ่อมอีกครั้ง เมื่ออาจารย์อนุญาต ทุกคนก็ก้มหัวขอบคุณ จนศรีษะเกือบจะแนบพื้น เป็นต้น

-------------------

ทิ้งท้าย ประชาธิปไตยคืออะไร ?



แถม รูปนี้คือใครกำลังกราบใครรู้ไหม ปวิน ??



คำตอบก็คือ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ กำลังกราบ อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ไง กราบเกือบจะแบมือกราบด้วยซ้ำ

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เป็นอาจารย์ที่ ปวิน ให้การนับถือมากอีกคนไง ? 555


ปวิน กับ ชาญวิทย์ เดินสายต่างประเทศพูดเรื่อง รัฐประหารกับ สถาบันกษัตริย์


แล้ววัฒนธรรมแบบไหนที่ปวิน เขานิยมชมชอบ ? ก็คงแบบในรูปนี้มังครับ



ตามสบายเถอะครับ ปวิน เพราะ การจูบ ถือเป็นการทักทายอย่างหนึ่งตามมารยาทสากล

คลิกอ่าน เหตุผลที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงจูบเท้าผู้อพยพมุสลิม

คลิกอ่าน ขำ ปวิน โชว์โง่เรื่อง แต่งชุดไทยแต่กินเบอร์เกอร์

คลิกอ่าน ความโง่ของอีปวิน กรณีนายกฯประยุทธ์ยกมือไหว้ ปธน.จีน

คลิกอ่าน ความโง่ของพวกล้มเจ้าขอเป็นขี้ข้าทักษิณทุกชาติไป



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น