ในบทความตอนที่แล้ว ผมเขียนเบื้องหลังแบนละครเหนือเมฆ แบบฮาๆ เข้าใจง่ายๆ แต่เค้าเรื่องจริงไปแล้ว ก็นึกว่าจะพอแค่นั้น
แต่ดันเห็นตรรกะควายๆ ของพวกฟายแดง ที่พยายามหาเหตุผลเห่ยๆ มาแก้ตัวแทนรัฐบาล ว่าทำไมต้องแบนละครเหนือเมฆ
------------------------
ตรรกะแรก ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ไม่เคยดูละคร เหนือเมฆ
ข่าวสดพาดหัวข่าวโดยใช้ตรรกะที่ว่า เพราะทักษิณกับยิ่งลักษณ์ไม่เคยดูละครเหนือเมฆ ทั้งสองคนจึงไม่เกี่ยวกับการสั่งแบนละครเรื่องนี้ ซึ่งพวกฟายแดงเลยเอาพาดหัวนี้ไปใช้กันใหญ่
และนี่คือวิธีคิดที่ตื้นเขินบรมโง่ของพวกฟายแดงโดยแท้
การที่แม้วกับปู ไม่เคยดูละคร ก็ไม่ได้แปลว่า จะสั่งแบนละครไม่ได้ เพราะอาจเป็นขี้ข้า หรือเป็นลูกสาวแม้ว หรือเมียน้อยของแม้ว ที่อาจดูละครนี้แล้วไปฟ้องแม้ว ให้สั่งจัดการแบนละครเรื่องนี้ ย่อมทำได้อยู่แล้ว เหมือนที่ผมเขียนในบทความ แฉเบื้องหลังแม้วสั่งปูแบนละครเหนือเมฆ 2
นั่นเพราะเนื้อหาละครได้ด่านักการเมืองเลวๆ ด่านายทุนการเมือง ที่ใครๆ ต่างก็ลงความเห็นว่า ใกล้เคียงกับกรณีทักษิณมากที่สุด
ซึ่งอาจทำให้ไอ้คนที่โดนด่าทนไม่ได้
----------------------------------
ตรรกะที่ 2 ช่อง 3 กลัวมาตรา 37 ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
มาตรา 37 ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ระบุว่า ห้ามออกอากาศเนื้อหารายการที่มีลักษณะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจารหรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง
นี่ก็เป็นอีกตรรกะนึงที่พวกฟายแดงยกมาอ้างว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย แต่เป็นช่อง3 ที่แบนเอง
ผมจึงตั้งขอสังเกตว่า ถ้าฟายแดงคิดว่าการแบนละครไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หรืออำนาจมืดของใครบางคนมาสั่งแบนจริง ๆ
ทำไมฟายแดงไม่ออกมาเรียกร้องให้ช่อง 3 นำละครเรื่องนี้กลับมาฉาย เพราะมันทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ทำลายภาพลักษณ์ความล้าหลังในเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนไทย
ผมกลับเห็นแต่ พวกฟายแดงด่าละครเรื่องเหนือเมฆกันใหญ่ ว่าเป็นละครไม่ดี แถมฟายแดงก็มีท่าทีเห็นด้วยที่แบนละครเรื่องนี้ นั่นเพราะ มันไปกระทบไอ้เลวจรจัดที่ฟายแดงมันบูชาเป็นนายใหญ่นั่นเอง !! 555
v
v
จากกรณี พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา ให้สัมภาษณ์ว่า
"ส่วนตัวได้คุยกับผู้บริหารระดับสูงของช่อง 3 ซึ่งบอกว่าเนื้อหาของละครขัดมาตรา 37 จึงต้องงดออกอากาศ แต่ไม่ได้บอกว่าเนื้อหาตรงส่วนไหนขัด การที่ช่อง 3 งดออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 คิดว่าช่อง 3 คงพิจารณาดีแล้วว่าตัวเนื้อหาละครไม่เหมาะสม"
ซึ่งประเด็นนี้ คนในรัฐบาลคือนายวราเทพ รมต.สำนักนายกฯ รวมทั้งรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาพูดเองว่า เนื้อหาละครไม่กระทบรัฐบาล รัฐบาลไม่แบนละครเรื่องนี้แน่นอน (แม่งตอแหล)
แต่สุดท้ายแทนที่ช่อง 3 จะให้ละครออกอากาศต่อจนจบ แต่กลายเป็นว่าช่อง 3 ถอดออกกลางอากาศเลย กลายเป็นละครที่ไม่มีตอนจบ !!
ประเด็นที่สำคัญที่ผมจะชี้ก็คือ ละครทุกเรื่องช่อง 3 ได้มีการตรวจสอบละครก่อนออกอากาศตอนแรกอยู่แล้ว ว่าเนื้อหาเป็นเช่นไร เรียกว่าช่องเซนเซอร์เอง
หากตรวจพบว่า ละครมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ช่อง 3 ก็ต้องไม่ให้ละครเรื่องนี้ออกฉายเลยตั้งแต่แรก คือแบนไม่ให้แจ้งเกิดเลย ต้องแบนก่อนออกอากาศ ไม่ใช่แบนกลางอากาศ
เพราะละครเรื่องนี้ไม่ใช่ถ่ายไปออกอากาศไป แต่เป็นละครที่ถ่ายทำเสร็จแล้วก่อนออกอากาศ แต่นี่ ช่อง 3 ได้ปล่อยละครเหนือเมฆออกอากาศจนจะจบอยู่แล้ว แต่อยู่ๆ มาแบนทิ้ง
นี่จึงชี้ให้เห็นว่า ต้องมีอำนาจมืดเข้ามาแทรกที่มาสั่งแบนต่างหาก ต้องไม่ใช่ช่อง 3 แบนเองอย่างแน่นอน เพราะช่อง 3 ไม่เคยแบนละครตัวเองระหว่างการออกอากาศมาก่อน
อีกทั้งผู้จัด และนักแสดง ต่างแสดงความเห็นชี้นำไปในทางว่า มีอำนาจทางการเมืองมาสั่งแบนละครเรื่องนี้
เพราะทั้งผู้จัดและนักแสดง รวมทั้งคนเขียนบทบางท่านที่เขียนบทให้ละครช่้อง 3 กลับไม่ได้โจมตีช่อง 3 เลย แต่กลับชี้นำไปที่อำนาจทางการเมืองแท้ๆ ที่ทำให้ละครเรื่องนี้ต้องถูกแบน
ข้ออ้างลอยๆ ที่ว่า ละครเรื่องนี้ขัดมาตรา 37 จึงเป็นข้ออ้างที่ไกลความจริง เพราะไม่มีเนื้อหาใดๆ ในละครเรื่องนี้ที่ขัดกับมาตรา 37 เลย
เพราะเหนือเมฆ 2 สอนให้คนรู้จักเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของนักการเมืองในละคร ต่อต้านคอรัปชั่น แถมส่งเสริมคุณธรรมด้วยซ้ำ
ไหนว่า นายกยิ่งลักษณ์รณรงค์นี้ต่อต้านคอรัปชั่นไง ? รึว่า ใครกินปูนร้อนท้องกันแน่ 555
ฉากนักการเมืองที่รับใช้ทุนการเมือง
อีกทั้งกรรมการกสทช. เช่น คุณสุภิญญา กลางรงค์ ก็ออกมาบอกเองว่า การอ้างมาตรา37 เป็นการอ้างที่พร่ำเพรื่อไม่สมเหตุสมผล
“ส่วนตัวดิฉันคิดว่า ช่อง 3 สั่งแบนตัวเองเพราะความกลัว มือที่มองไม่เห็น นัยหนึ่งคืออิทธิพลทางการเมืองที่ผูกพันกับสัญญาสัมปทานฯ ช่อง 3 กลัวสิ่งนั้นมากกว่า กสทช. เพราะอยู่ภายใต้ระบบสัญญาสัมปทานที่ควบคุมโดยสำนักนายกฯ ผ่านรัฐวิสาหกิจ คือ อสมท ทำให้คนไทยยังได้ดูแต่ละครเนื้อหาตบตีแย่งชิง ข่มขืน ตลกติงต๊อง เพราะไม่มีใครอยากสร้างละครแนวอื่น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง” น.ส.สุภิญญา กล่าว
ฉะนั้นการอ้างมาตรา 37 จึงฟังไม่ขึ้น แต่เป็นการอ้างเพื่อกลบเกลือนอำนาจมืดบางอย่างที่มาสั่งช่อง3 ให้แบนละครตัวเองมากกว่า ซึ่งอำนาจมืดนั้น มันอยู่จรจัดนอกประเทศ !!
เพราะผู้เสียหายไม่ใช่ผู้จัดละคร แต่เป็นช่อง 3 เอง เพราะช่อง 3 ได้จ่ายค่าละครให้แก่ผู้จัดไปแล้ว
การแบนละครเรื่องเหนือเมฆ ของช่อง 3 กลับกลายเป็นการทำลายภาพลักษณ์องค์กรช่อง 3 เอง ภาพพจน์กว่า 40 ปีของช่อง3 ถูกทำลายลงได้ในเวลาชั่วพริบตา ซึ่งมันไม่คุ้มเลยที่จะทำแบบนั้น เพราะโดนประชาชนด่าทั้งประเทศ
ยิ่งชี้ชัดได้เลยว่า มันต้องมีอำนาจที่น่ากลัวจริงๆ ที่ทำให้ช่อง 3 กล้าแบนละคร จนกล้าทำลายภาพลักษณ์ตัวเองเช่นนี้
เพราะขนาด "ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ที่ดูแลทางด้านละครและเป็นผู้จัดละครได้โพสต์ข้อความผ่าน instagram "เห็นใจกันหน่อย"
นี่่ยิ่งชี้ชัดว่า ต้องมีอำนาจมืดมาสั่งให้ช่อง 3 แบนละครเรื่องนี้แน่นอน จนขนาดผู้บริหารช่อง 3 ก็ยังไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
และอยากรู้ไหม ว่าลูกสาวประชา มาลีนนท์ ลำบากใจเพราะใคร คลิกที่นี่ !!
---------------------------------
พาดหัวเดลินิวส์
--------------------------------
ตรรกะที่ 3 ช่อง 3 แบนละครเพื่อให้คนด่ารัฐบาล ส่งสัญญาณไม่ให้DSI ตรวจสอบสัมปทาน
ตรรกะนี้ เว็บบล็อคของเสื้อแดงชื่อ go6tv ได้เปิดประเด็นนี้ขึ้น ตามลิงค์นี้ http://www.go6tv.com/2013/01/3.html
ซึ่งผมเองได้ไปแสดงความเห็นอย่างสุภาพว่า
"เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าช่อง 3 ทำแบบนี้ ก็เท่ากับเป็นศัตรูกับฝ่ายรัฐบาล เพราะ DSI โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ตอนนี้รับใช่รัฐบาลเล่นงานฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ก็จะต้องยิ่งเล่นงานช่อง 3 มากขึ้น ถ้าเว็บนี้คิดว่า ช่อง 3 แบนละครเพื่อให้ประชาชนด่ารัฐบาลจะทำให้ DSI เลิกตรวจสอบช่อง 3 ล่ะก็ เป็นไปไม่ได้ ตรรกะนี้อ่อนมาก ๆ "
ผมไปแสดงความเห็นแบบนี้ ก็โดนบล็อคฟายแดงนี้ลบความเห็นทิ้งไปทันที
ที่จริงถ้าจะให้ตรรกะนี้น่าเชื่อถือ ต้องเป็นแบบนี้ครับ
"ช่อง 3 ยอมแบนละครเหนือเมฆ 2 ตามคำสั่งผู้มีอำนาจนอกประเทศ เพื่อแลกกับการไม่ให้ดีเอสไอตรวจสอบ !!"
----------------------------------------
ตรรกะที่ 4 ละครเหนือเมฆ ทำผิดมาตรา 112 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ตรรกะนี้ยิ่งควายที่สุด เพราะอ้างว่า ในฉากที่สินจัยอธิษฐาน มีรูปด้านหลังนพพลที่หมื่นเหม่ผิดมาตรา 112
ซึ่งตรรกะนี้ดันมาจาก บก.เนชั่นแชลแนล ชื่อ สมภพ นามสกุลอะไรไม่รู้ เพราะผมไม่รู้จัก อาจจะนามสกุลฟายแดงก็ได้
นายสมภพ บก.เนชั้่นแชลแนล ดันคิดมาได้ว่า ภาพฉากหนึงในละครหมิ่นมาตรา112 แล้วคนที่สังแบนละคร ไม่ใช่นักการเมือง ??
แม่งควายจริงๆ เป็นบก.เนชั่นแชลแนลได้ไงวะ ปัญญาควายขนาดนี้
ซึ่งก็คือ ภาพฉากที่ออกอากาศตามคลิปนี้
คลิปนี้คือตอนที่ 6 ได้ออกอากาศไปแล้ว
รูปที่อ้างว่าเป็นปัญหาหมิ่นมาตรา112
ซึ่งหากช่อง 3 เห็นว่าภาพฉากในคลิปนี้ อาจหมิ่นมาตรา 112 จริง ก็ต้องแบนก่อนออกอากาศ ไม่ใช่ปล่อยให้ออกอากาศไปแล้วถึงได้มาแบน
เพราะถ้าผิดจริงก็เท่ากับความผิดเกิดขึ้นแล้ว ถึงแบนไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะหลังจากออกอากาศไป ก็จะมีคนที่อัพโหลดคลิปย้อนหลัง อัพโหลดตอนนี้เพื่อเผยแพร่มากมาย
เมื่อคลิปนี้ รูปที่อ้างนี้ เผยแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีใครมาฟ้องว่าหมิ่นมาตรา 112 แต่อย่างใด
ตรรกะของบก.เนชั่นแชลแนลที่ชื่อ สมภพ จึงเป็นตรรกะที่ควายที่สุด ทำให้พวกฟายแดงและไอ้หงอกสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังโง่เอาตรรกะนี้ไปใช้ด้วย
------------------------------------
ตรรกะที่ 5 ตรรกะควายๆ ของไอ้หงอกสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
หลังจากช่อง 3 แบนละครเหนือเมฆ ไอ้สมศักดิ์เจียม ก็โพสเฟซบุ๊คตามนี้
ไอ้สมศักดิ์ สถุลไม่เจียม มันไม่เชื่อว่า คนในรัฐบาลสั่งแบนละครเหนือเมฆจริง มันขอหลักฐาน ???
ไอ้หงอกล้มเจ้า นี่สมแล้วที่เป็นนักวิชาการควายแดง เพราะตรรกะมันควายจริง ๆ ตรรกะมันเหมือนพวกนักการเมืองคอรัปชั่น ถามว่า ไหนล่ะหลักฐานใบเสร็จรับเงินสินบนของผม
โธ่ ไอ้ควายสมศักดิ์เอ๊ย !!
หากใช้ตรรกะว่าต้องขอหลักฐานความชั่วของนักการเมืองตามที่สมศักดิ์อ้าง ก็แปลว่า นักการเมืองไทยส่วนใหญ่ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่เคยโกง ไม่เคยแทรกแซงสื่อเลยน่ะสิ
เพราะยังไม่เคยเห็นหลักฐานจะจะสักทีว่า นักการเมืองไทยมันโกง มันแทรกแซงสื่อ
และโพสต่อๆ มา ไอ้หงอกสมศักดิ์ เจียม มันก็ไม่ยอมเลิกโง่ ยังจะใช้ตรรกะขอหลักฐานเหมือนเดิม
แถมมันยังเชื่อว่า ช่อง 3 แบนละครเหนือเมฆ เพราะกลัวมาตรา 112 อีกด้วย สมแล้วที่มันเป็นนักวิชาการฟายแดงล้มเจ้า คือมันโง่จริงๆ
ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับ รูปและตอนที่สมศักดิ์อ้างว่าช่อง 3 ถอดละครเหนือเมฆออก เพราะกลัวมาตรา 112 ก็คือฉากที่มีคุณนพพลและคุณสินจัยอธิษฐานนั่นแหละ
ซึ่งตอนนี้มันได้ออกอากาศไปแล้ว ถ้าผิดตามมาตรา112 จริง ถึงจะถอดละครออก ก็ไม่สามารถจะพ้นความผิดไปได้ เพราะความผิดได้เกิดขึ้นแล้ว
ฉะนั้น ตรรกะนี้จึงเห่ย และควายสิ้นดีครับ
------------------------------------------
ณัฐวุฒิ โชว์ตลกโง่ๆ ปล่อยมุขควาย แบนละครเหนือเมฆ
ณัฐวุฒิ นั่งอยู่กับนายวราเทพ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีควบคุมสื่อของรัฐ และอสมท.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า
"ขณะนี้ เรื่องที่ใหญ่กว่า รัฐธรรมนูญ คือ เรื่องละคร “เหนือเมฆ2” เพราะ แม้แต่กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ถอดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่เกิดแรงสะเทือนเท่ากรณีช่อง 3 ถอดละคร “เหนือเมฆ2” เราจึงจำเป็นต้องคุยกันว่า ทำไมต้องแก้ รัฐธรรมนูญ"
ถอดยศอภิสิทธิ์ คนที่เดือดร้อนคืออภิสิทธิ์ แต่ถอดละคร มันคือการปิดกั้นสื่อ และริดรอยสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน ละเมิดสิทธิผู้บริโภค
เพราะละครได้ออกอากาศไปแล้วหลายตอน มีคนดูติดตามจำนวนมาก เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ณัฐวุฒิมันยังโชว์โง่ด้วยมุขที่ฮาเฉพาะพวกสมองตะกวดปัญญาเหี้ยเท่านั้นแหละ
ไอ้ฟายแดงเอ๊ย !!
-------------------------------
แนวหน้ากุข่าวนี้หรือไม่
จากข่าวแนวหน้าได้แฉเบื้องหลังแบนละครเหนือเมฆ ตามรูปข้างล่าง ซึ่งหากแนวหน้ากุข่าว ตามที่พวกฟายแดงอ้าง รัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีประจำสำนักนายก คือนายวราเทพ รัตนากร ก็ควรฟ้องร้องแนวหน้าหมิ่นประมาทไปซะ ถ้าแน่จริง
-----------------------
สรุป
หากช่อง 3 แบนละครเอง ไม่มีใครสั่งหรือบังคับให้แบน ช่อง 3 ก็ต้องกล้าที่จะออกมาอธิบายสาเหตุที่แบนอย่างละเอียด ไม่ใช่เงียบหายไป เหมือนน้ำท่วมปาก!!
สมมุติว่า ช่อง 3 ได้ออกมาอธิบายเหตุผลอย่างละเอียด ว่าแบนละครเพราะอะไรแล้ว
หากสังคมบอกว่า คิดมากไป ไม่สมเหตุผลที่แบนละครเหนือเมฆ
ช่อง 3 ก็ต้องกล้านำละครเรื่องนี้กลับมาฉายใหม่อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องรอให้ศาลสั่ง (เพราะกำลังจะมีการฟ้องร้องเรื่องนี้ต่อศาลปกครอง)
แต่หากผิดไปจากนี้ แสดงว่า มีอำนาจทางการเมืองแน่ๆ ที่บังคับช่อง 3
ก่อนจบ ผมฝากความเห็นของสว.รสนา เกี่ยวกับการแบนละครเหนือเมฆ 2 ตามนี้ครับ
จากเฟซบุ๊คเพจสาธารณะ สว.รสนา
"รัฐบาลอยากแก้รัฐธรรมนูญอ้างว่าจะได้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน จะมีประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ตอนนี้ประชาชนต้องการ"สิทธิ" ดูละครเรื่องจอมขมังเวทย์จนจบ แค่นี้ถ้าให้ประชาชนไม่ได้ เรื่องสิทธิเสรีภาพทางการเมืองที่ไกลตัวออกไป ประชาชนคงไม่เชื่อว่าจะได้จริง การแก้รัฐธรรมนูญคงมีแต่จะเพิ่มอำนาจให้นักการเมืองมากขึ้น โดยใช้ประชาชนเป็นข้ออ้างหรือเปล่าคะ?"
----------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น