ผมเคยเขียนเรื่อง กรณีธุดงค์บนกลีบกุหลาบของวัดธรรมกาย คราวที่ เดินธุดงค์ปิดถนนในกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้วมาครั้งนึง ซึ่งเป็นบทความที่ถ้าใครได้อ่าน ต่อให้เป็นสาวกธรรมกาย ผมก็เชื่อว่า ย่อมเถียงไม่ออกแน่นอน เว้นแต่เป็นพวกงมงายและแถไม่เลือก
อย่าลืมกลับไปย้อนอ่านเรื่องนั้นกันอีกทีนะครับ
ก่อนอื่นเราต้องรู้กันก่อนว่า การทำบุญทำทานนั้น จุดประสงค์หลักที่สำคัญที่สุดคืออะไร ?
คำตอบคือ ลดละความโลภในใจเราครับ การที่เราเสียสละทรัพย์เพื่อช่วยเหลืออุดหนุน สร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น หลักๆ แล้วคือเป็นการช่วยให้เราละลดความโลภให้น้อยลง
แต่ธรรมกาย หรือวัดจานบิน กลับมุ่งเน้นสอนให้คนมาทำบุญแบบบำรุงกิเลส เสริมสร้างความโลภให้มากขึ้น ทำบุญเพื่อหวังร่ำรวยมากขึ้นๆ ไปทุกภพทุกชาติ
วันนี้ผมขอยกกรณีธุดงค์บนกลีบดอกไม้ ซึ่งในการธุดงค์บนกลีบดอกไม้ปี 2 เน้นให้ใช้กลีบ ดอกดาวเรือง โรยให้พระเดิน
ซึ่งวัดธรรมกาย กลับสอนให้สาวกเรียกดอกดาวเรือง เสียใหม่ว่า ดอกดาวรวย แทน เน้นเรื่องความร่ำรวย บำรุงกิเลสตั้งแต่ชื่อดอกไม้เลยนะครับ
แถมยังตั้งชื่อพันธุ์ โดยนำชื่อของมหาเศรษฐีสมัยพุทธกาลคือ ชฎิลเศรษฐี มาตั้งเป็นชื่อพันธุ์ดอกดาวรวย เสียด้วย
เพื่อจะสอนเน้นว่า ใครทำบุญโรยกลีบดอกดาวรวยให้พระเดิน(แบบมีอัตตา) จะยิ่งรวยๆๆๆๆๆๆมากขึ้นๆๆ
เราลองมาดูคำโฆษณาเชิญชวนที่วัดธรรมกายใช้มอมเมาชี้ชวนสาวกให้เกิดความโลภในการทำบุญก็อย่างเช่น
"ในการเดินธุดงค์ครั้งนี้ ต้องใช้ดอกดาวรวยทั้งหมด 70 ล้านดอก, โดยพื้นที่ 1 ไร่จะเก็บดอกได้ 7 หมื่นดอกต่อไร่,
ดังนั้นเมื่อคำนวนแล้ว ถ้าจะปลูกให้ได้ทั้งหมด 70 ล้านดอก ก็ต้องใช้พื้นที่ในการปลูก 1,000 ไร่
ดังนั้น ประกาศข่าวดีถึงผู้มีบุญที่อยากจะเอาบุญใหญ่ในการสร้างถนนที่ประหนึ่งปูลาดด้วยทองคำ อันจะทำให้ชีวิตนี้มีแต่คำว่า “รวย รวย รวย” ดั่งเช่นท่านชฎิลเศรษฐี
ขอเชิญมาเอาบุญใหญ่นี้ด้วยการร่วมปลูกดอกดาวรวยเป็นจำนวนตั้งแต่ 1 ไร่ขึ้นไป โดยสามารถติดต่อลงทะเบียนเพื่อนำดอกดาวรวยที่ปลูกได้มาส่งที่ส่วนกลางวัดพระธรรมกายได้ที่เบอร์ 083-298-0660"
ธุดงค์หน้าห้าง เท่จริงๆ
คราวก่อนโดนประชาชนบ่นกันทั้งเมืองที่ปิดถนนจนสร้างความเดือดร้อน ไม่เคยเข็ด
-----------------------
เห็นไหมครับ สอนให้คนโลภมากขึ้น หวังรวยด้วยการมาทำบุญสร้างถนนโรยกลีบดาวรวย ประหนึ่งสร้างถนนปูลาดด้วยทองคำ จะทำให้คนทำบุญได้รวยๆๆๆ เหมือนดังท่านชฎิลเศรษฐี
จริงๆ แล้ว ดอกดาวเรือง พันธุ์นี้มันไม่มีจริงหรอก แต่พอเปลี่ยนชื่อเป็นดอกดาวรวย ก็เลยตั้งชื่อพันธุ์เสียใหม่ ซึ่งเป็นเทคนิคการตลาดหลอกให้คนมาทำบุญมากๆ ที่วัดนี้เก่งนักแล
และทั้งหมดนั้นคือ การสอนให้คนเกิดความโลภมาก ทำบุญไปพร้อมกับบำรุงกิเลสความโลภไปในตัว สอนให้คนทำบุญหวังผล แถมเป็นผลตอบแทนที่ผิดๆ นั่นคือหวังรวยๆๆๆๆ
นี่คือการสอนที่ผิดหลักคำสอนที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาโดยแท้
เพราะแม้คนเราทำบุญ ก็มักจะอธิษฐานก็ตาม แต่คำอธิษฐานต้องเป็นไปด้วยสัมมาทิฏฐิ ที่ไม่มุ่งทำให้ตัวเองยิ่งมีกิเลสหนาขึ้น โลภมากขึ้น
---------------------
ลองดูตำอธิษฐานจิตเวลาปลูกดอกดาวรวย และรดน้ำต้นดาวรวยทุกวันสิครับ
ลัทธิธรรมกายสอนสาวกให้บำรุงกิเลส ให้โลภมาก ให้อยากรวยมากๆ นี่หรือคือคำสอนของพุทธศาสนา ? ไม่มีหรอกครับ ที่พระพุทธเจ้าจะมาสอนให้คนอธิษฐานจิตให้หวังรวยแบบนี้
คำอธิษฐานจิตปลูกดอกดาวรวย
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)
ด้วยบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ปลูกต้นกล้า ดาวรวย
เพื่อให้เจริญเติบโต เป็นดอกดาวรวย พันธุ์ทองชฎิลเศรษฐี
เพื่อน้อมถวายบูชา แด่มหาปูชนียาจารย์
เพื่อนำไปโปรยให้เป็น ดั่งถนนทองคำ
ต้อนรับพุทธบุตรผู้มีบุญ ที่เดินธุดงค์ธรรมชัย
ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
ด้วยการสั่งสมบุญครั้งยิ่งใหญนี้่
ขอให้เป็นผังรวย ตลอดกาล ร่ำรวยทุกชาติ
ร่ำรวยทุกโอกาส ที่เกิดมาสร้างบารมี
ขอบุญนี้ จงดลบันดาลให้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
มีชีวิตที่ร่ำรวย รุ่งเรือง ราบรื่น สดชื่นสว่างไสว
มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ดุจท่านชฎิลเศรษฐี
ผู้มีภูเขาทองคำ ให้ถึงพร้อมด้วยบารมี 10 ทัศ
ครบถ้วนบริบูรณ์ ให้เจริญก้าวหน้า
ด้วยมงคลชีวิต เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย สามารถสร้างบารมีได้
อย่างสะดวกสบาย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
มีกำลังใจที่เข้มแข็ง สามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล
ได้อย่างง่ายดาย ให้ถึงพร้อมด้วย ที่สุดแห่งรูปสมบัติ
ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ บริวารสมบัติ และนิพพานสมบัติ
ขอความปรารถนาทั้งปวง ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ เป็นอัศจรรย์ทันใด
และติดตามตัวไป ทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม เทอญ
นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
ใครอยากอ่านรายละเอียดมอมเมาคนด้วยบุญ ก็ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://goo.gl/DZfVG
พอระดมทุนบวชพระแสนรูปเสร็จ ก็ให้พระนวกะหรือพระบวชใหม่ออกมาธุดงค์บนกลีบดอกดาวรวยทันที
คุณผู้อ่านอยากรู้ไหมครับว่า
ทำไมพวกมหาเศรษฐี 100 อันดับแรกของโลกถึงไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ?
ทฤษฎีของผมก็คือ เพราะมหาเศรษฐีต่างชาติเหล่านั้น เขาทำบุญกันแบบไม่หวังผลมาแต่ชาติปางก่อนไงครับ แม้แต่ชาตินี้พวกฝรั่งที่เขาใจกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เขาก็ไม่ได้อธิษฐานเวลาเขาทำบุญกุศล แล้วอธิษฐานขอให้รวยเหมือนที่สาวกธรรมกายถูกสอนมา
"เพราะการทำบุญแบบไม่หวังผล ทำบุญแบบไม่ปนเปื้อนด้วยความโลภ ย่อมได้กุศลสูงกว่า พวกทำบุญหวังผล"
อย่างผมเอง เวลาทำบุญ ผมจะอธิษฐานง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า ขอบุญคุ้มครองลูกและครอบครัวตราบจนเข้าสู่พระนิพพานเทอญ สาธุ !!
-----------------------
บทความของผมที่เกี่ยวข้องกับวัดจานบิน
ธุดงค์กลีบกุหลาบของวัดธรรมกาย
พระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ชี้ชัด ธัมมชโย ปาราชิก
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเกิดขึ้นย่านคลองหลวง
เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไม่สมควรเป็นพระสังฆราช
สังเกตไหมครับว่า ช่วงวันพระใหญ่ จะเห็นคนไทยไปเวียนเทียนกันมากขึ้น ทำบุญกันมากขึ้น หรือวันปีใหม่ก็ไปทำบุญสะเดาะห์เคราะห์กันมากขึ้น
แต่ทำไมสังคมไทยกลับศีลธรรมเสื่อมลงเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่จำนวนคนทำบุญเดี๋ยวนี้มากกว่าแต่ก่อนเยอะ วัยรุ่นก็ไปเวียนเทียนกันเยอะ
คำตอบก็คือ ส่วนใหญ่มักไปทำบุญเพื่อเสริมกิเลส ไงครับ ไปทำบุญเพื่อหวังให้บุญมาเกื้อหนุนให้ตัวเองร่ำรวย ให้ตัวเองเฮง เฮง ในช่วงเทศกาลถึงขนาดแย่งกันทำบุญกันด้วยซ้ำ
เมื่อคนไปทำบุญเพื่อหวังผล แต่กลับไม่ค่อยปฏิบัติธรรมเพื่อลดละกิเลสกัน
ยุคนี้จึงถูกเรียกว่า แฟชั่นทำบุญเพื่อหวังร่ำรวย !!
ขอบคุณรูปจากเฟสบุ๊คของใครไม่รู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น