ฮาเรื่องไร้สาระบ้าง ฮาเรื่องมีสาระบ้าง กับนักการเมืองและบุคคลสาธารณะ / ใหม่เมืองเอก (akecity)
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558
พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้า กับเหตุผลที่ชาวนาไม่มีน้ำทำนาปี 58
คงเป็นที่ทราบกันแล้วว่า พ.ศ.2558 ชาวนาถูกรัฐบาลขอร้องว่าให้ชะลอการทำนาปีออกไปก่อน เพราะตอนนี้เกิดปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก น้ำในเขื่อนใหญ่เขื่อนหลักของประเทศไทย เหลือเพียง 7 % เท่านั้นที่สามารถนำมาใช้ได้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้
ก่อนที่จะอธิบายเรื่องปัญหาภัยแล้งนั้น ผมขอยกส่วนหนึ่งจากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2550 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2550 ดังนี้
"....และอีกอย่างที่ข้าพเจ้าอยากจะขอร้องพวกท่าน เพราะข้าพเจ้าเป็นพระราชินี ตั้งแต่อายุ 17 กว่าๆ ก่อน 18 ไม่กี่เดือน จนถึง 75 ยังขอร้องอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ไม่มีผลอะไรเลย เรื่องต้นไม้ก็ไม่มีผลสำเร็จ ทางการก็ไม่มีกฎหมายอะไร หรือมาตรการที่จะดูแลรักษาป่า เพื่อเก็บน้ำจืดไว้
แล้วก็ภรรยาท่านประธานาธิบดีแห่งลาว เมื่อตอนมาเยือนประเทศไทย ก็พูดกับข้าพเจ้าบอกว่า เอ๊ะคนไทยทำไมชอบตัดป่านัก ตัดป่าของตนเองเหี้ยนเตียนหมด อีกหน่อยเถอะ ระวังจะไม่มีน้ำกิน ยังก้าวร้าวเข้าไปตัดป่าในเมืองลาวอีก ลาวไม่ยอมเด็ดขาดไล่เปิดไปหมด การฟังประมุขของประเทศเขาว่าให้อย่างนี้ ข้าพเจ้าก็บอก ถูกของท่าน การตัดป่าไม้ของเราเอง โดยเราไม่มีแหล่งน้ำที่ดี เป็นการที่โง่เขลามาก...."
จากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงตรัสว่า
"ข้าพเจ้าเป็นพระราชินี ตั้งแต่อายุ 17 กว่าๆ ก่อน 18 ไม่กี่เดือน จนถึง 75 ยังขอร้องอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ไม่มีผลอะไรเลย เรื่องต้นไม้ก็ไม่มีผลสำเร็จ ทางการก็ไม่มีกฎหมายอะไร หรือมาตรการที่จะดูแลรักษาป่า เพื่อเก็บน้ำจืดไว้"
เป็นพระราชดำรัสที่ทำให้ผมเศร้าใจมากจริง ๆ คุณผู้อ่านรู้สึกเศร้าเหมือนผมไหม ?
---------------------
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2558 รายการเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งเป็นรายการที่มีประโยชน์มาก ๆ ได้พูดถึงเรื่อง การทวงคืนผืนป่าจากอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นป่าต้นไม้ที่ส่งน้ำไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ป่าสักโมเดล)
แต่ป่าต้นน้ำของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว กลับถูกนายทุนและชาวบ้านบุกรุกถางป่าเพื่อนำไปปลูกพืชเชิงเดี่ยว นั่นก็คือ ต้นยางพารา
โดยพลเอกดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
"ผลิตภัณฑ์ยางพาราในประเทศไทย ประมาณ 20 % มาจากต้นยางพาราเถื่อนที่บุกรุกป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาราคายางราคาตกต่ำด้วย
และที่กล่าวหาว่า ทหารเลือกปฏิบัติไม่ไปจับต้นยางพาราที่รุกป่าสงวนทางภาคใต้ ขอบอกว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างมาก เพราะปีที่ผ่านมาทหารบุกทวงคืนผืนป่าจากเขตป่าสงวนในภาคใต้มากที่สุดกว่า 2 แสนไร่ ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกภาค"
"ผลกระทบจากการที่ป่าน้ำหนาวถูกบุกรุก ก็ทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไม่มีน้ำ จนเหลือน้ำแค่ 12 % หรือในปี 2554 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมหนัก ทั้งหมดก็เพราะป่าต้นน้ำถูกบุกรุกเพื่อปลูกยางพาราทั้งสิ้น" พลเอกดาวพงษ์กล่าว
ต่อมาทางพิธีกรรายการได้ไปสัมภาษณ์นายทหารหัวหน้าชุดปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า
ซึ่งนายทหารท่านนี้พูดได้น่าสนใจมาก เพราะท่านได้พูดประโยคนึงว่า
"...มาเอาพื้นที่ ๆ เป็นป่าต้นน้ำแล้วนำไปทำเป็นพืชเชิงเดี่ยว ยังไงมันก็ไม่เห็นด้วย ช่วงแล้งก็แล้ง ตอนเนี้ย คนก็ตกงาน ทำนาไม่ได้หลายล้านคนนะครับ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ที่บอกทำไมเศรษฐกิจไม่ดี มันจะไม่ดีได้ยังไง ในเมื่อเกือบ 10 ล้านคนไม่ได้ทำนา เพราะว่าป่าต้นน้ำมันไม่ได้ป้อนน้ำไปที่เขื่อน อันนี้มันก็ชัดเจนอยู่"
คลิปรายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน ทวงคืนผืนป่าน้ำหนาว หรือป่าสักโมเดล
ซึ่งการบุกรุกป่าสงวนเพื่อปลูกยางพารานั่นมีอยู่ในทุกภาคของไทย ขนาดป่าในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ล่าสุดทหารก็เพิ่งจะไปบุกทวงคืนผืนป่าจากการลักลอบปลูกยางพาราเช่นกัน
------------------
สาเหตุปัญหาภัยแล้งในความเห็นของนายกรัฐมนตรี
ลองมาฟัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้พูดถึงสาเหตุปัญหาภัยแล้ง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา
"เรากำลังมีมาตรการดูแลซึ่งมีการบอกไว้นานแล้วว่าฝนจะแล้ง และจะมีการหารือว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการช่วยเหลือเกษตรกร
แต่เกษตรกรนั้นมี 2 อย่าง คือ คนที่เข้าใจกับไม่เข้าใจ หรือพยายามไม่เข้าใจ ทั้งนี้ตนเห็นใจเพราะเกษตรกรเป็นหนี้สิน จึงต้องสร้างความรับรู้ให้ถูกต้อง ในเมื่อฝนไม่ตกน้ำในเขื่อนก็เห็นว่ามันแห้ง แต่หลายคนก็จะทำนาให้ได้ปีละ 2 ครั้งให้ได้ แล้วจะให้ตนไปหาน้ำจากที่ใด ก็ต้องเตรียมมาตรการว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ทั้งเตรียมการปลูกพืชหรือหาอาชีพให้มีรายได้ คิดจนหัวจะผุอยู่
สื่ออย่าเขียนให้เลวร้ายไปกว่าเดิม เพราะมันอยู่ที่ฝน สื่อต้องเขียนว่าทำไมฝนถึงไม่ตก เพราะไม่มีป่า ป่าถูกทำลายไปกว่า 26 ล้านไร่ เคยเห็นภูเขาหัวโล้นที่ภาคเหนือหรือไม่ สื่อต้องเขียนข่าวแบบนี้หรือคนสนใจ เพราะเจ้าหน้าที่เองก็ทำอย่างเต็มที่ แต่จะให้ป่าฟื้นป่าได้ทันในปีนี้คงไม่ทัน มันก็จะแห้งแล้งอย่างในวันนี้ และวันหน้าอาจจะไม่มีฝนเลยก็ได้"
"ตนบังคับฝนไม่ได้ ทำฝนเทียมก็ไม่ตก เพราะไม่มีเมฆไม่มีความชื่น เพราะไม่มีป่า เราต้องสอนคนให้เข้าใจ ไม่ใช่ว่าจะมากำหนดว่าต้องทำนาให้ได้ จะให้ทำอย่างไร ก็ต้องหามาตรการ แต่จะให้ขายได้ตามปกติคงยาก เพราะมีเกษตรกรอยู่ในวงจรกว่า 20 ล้านคน จะให้ชดเชยพื้นที่การเกษตรทั้งหมดทุกไร่ ตัวเลขกว่าแสนล้านจะเอาเงินที่ไหน เพราะภาษีก็ยังไม่ได้เพิ่ม" พลเอกประยุทธ์ กล่าว
-----------------
ภัยแล้งหนักปี 2558 จากความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำในปี 2555 ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
อธิบดีกรมชลประทานคนปัจจุบัน ได้พูดในรายการตอบโจทย์ว่า "ระบบน้ำในลุ่มเจ้าพระยาใหญ่ โอกาสที่จะทำน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ดี ต้องใช้เวลาหลายปี จริง ๆ โอกาสที่มีน้ำจะเต็มเขื่อนภูมิพลนี้แทบจะไม่มีเลย (โอกาสน้อยมาก) เมื่อสิ้นปี 2554 ถึงแม้น้ำจะท่วมก็ตาม แต่ถ้าทิ้งไว้น้ำ มันก็จะเต็มเขื่อน จริง ๆ มันจะเป็นโอกาสดีที่จะเก็บ แต่เราก็ไประบายทิ้งซะ เพราะไม่งั้นน้ำก็จะมั่นคงไปหลายปี"
พิธีกร "ถ้าไม่ระบายน้ำทิ้งไปเมื่อปี 2555 สถานการณ์น้ำตอนนี้ก็จะไม่วิกฤติเท่าที่เป็นอยู่ ผมสรุปแบบนี้ถูกหรือผิดครับ"
เชิญดูรายละเอียดในคลิปตั้งแต่นาทีที่ 18.10 เป็นต้นไปครับ
นอกจากปัญหาบริหารจัดการน้ำในเชื่อนที่ผิดพลาดแล้ว
อธิบดีกรมชลประทานยังพูดถึงการทำนานอกฤดูกาลอีกว่า การที่ชาวนาทำนามากขึ้น มีพื้นที่ปลูกข้าวมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งทำนาปีและนาปรัง ซึ่งโดยปกตินาปรัง หรือนานอกฤดูกาล กรมชลประทานจะประกาศก่อนว่า จะมีน้ำทำนาได้พื้นที่เท่าไหร่ แต่ชาวนาก็ไม่ค่อยยอมเชื่อ ก็จะทำนาปรังให้ได้ ทั้ง ๆ ปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยลงมาก ก็เป็นเหตุให้เกิดปัญหาวิกฤติชาวนาไม่มีน้ำทำนา แต่ก็เข้าใจนะว่า ถ้าไม่ให้ชาวนาทำนา แล้วจะให้เขาทำอะไรกิน ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเข้าไปช่วย
ทีนี้เรามาย้อนดูเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุมการติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า
"การแก้ไขปัญหาพื้นที่น้ำท่วมในพื้นที่ต้นน้ำ ในช่วงระยะเวลาเร่งด่วนสำหรับเขื่อนสำคัญ 2 แห่งทางภาคเหนือ ทั้งเขื่อนภูมิพล (จ.ตาก) และเขื่อนสิริกิติ์ (จ.อุตรดิตถ์) จะให้เร่งระบายน้ำจากที่มีอยู่ 65% เหลือเพียง 45% ภายใน 3 เดือน
โดยเขื่อนภูมิพลที่เคยมีน้ำถึง 100% หรือปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งหมด 13,500 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จะระบายให้เหลือเพียง 6,000 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ ที่มีปริมาณน้ำในเขื่อน 9,500 ล้าน ลบ.ม. จะระบายน้ำให้เหลือ 4,200 ล้าน ลบ.ม. เมื่อรวมขีดความสามารถของเขื่อนทั้ง 2 แห่ง จะมีพื้นที่รองรับน้ำรวมกัน 12,800 ล้าน ลบ.ม."
จากคำพูดของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเห็นได้ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้ระบายน้ำในเขื่อนใหญ่ทั้งสองแห่งรวมกันทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์มากถึง 12,800 ล้านลบ.ม. ในปี 2555
แล้วหลังจากนั้นในปี 2556 จนถึง 2558 ก็มีน้ำไหลลงเขื่อนทั้งสองแห่งน้อยลงมาก จนกลายเป็นปัญหาวิกฤติภัยแล้งมากจนวันนี้
ทั้งที่จริงแล้ว เขื่อนมีประโยชน์หลัก ๆ คือ เก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง เขื่อนไม่ได้มีหน้าที่หลักไว้เพื่อป้องกันน้ำท่วม เพราะการป้องกันน้ำท่วมเป็นเพียงผลพลอยได้ของการสร้างเขื่อนเท่านั้น
แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่เข้าใจหน้าที่หลักของเขื่อน จึงทำให้การบริหารจัดการน้ำเกิดความผิดพลาดจนเป็นผลกระทบมาจนวันนี้ เพราะคิดให้เขื่อนพร้อมรับน้ำจำนวนมากหากมีพายุเข้าเหนือเขื่อนเหมือนปี 2554 รัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงปล่อยน้ำในเขื่อนใหญ่ทั้งสองแห่งทิ้งไปจำนวนมหาศาล แต่แล้วก็ไม่มีพายุเข้าเหนือเขื่อนมา 4 ปีติดต่อกัน ก็เลยแห้งแล้งกันดารมาจนปี 2558
ท่องไว้นะทุกรัฐบาล เขื่อนมีไว้กักเก็บน้ำในหน้าฝนเอาไว้ใช้ในหน้าแล้ง การป้องกันน้ำท่วมเป็นแค่ผลพลอยได้ก็การสร้างเขื่อนเท่านั้น
------------------
คนไทยกินป่าเป็นอาหาร
รายการสามัญชนคนไทย ของคุณมาโนช พุฒตาล ได้นำเสนอการบุกรุกทำลายป่าสงวน ป่าต้นน้ำในจังหวัดน่านของชาวบ้าน เพื่อขึ้นไปปลูกข้าวโพด
ทั้ง ๆ ที่ จังหวัดน่านเพิ่งจะบูมเรื่องการท่องเที่ยวเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามและอากาศดี แต่แล้วป่าเหนือเมืองน่านดอกไม้เริ่มไม่บาน เพราะมีทุ่งข้าวโพดบนป่าต้นน้ำไปงอกงามเบ่งบานแทน
ทำไมชาวบ้านที่อยู่พื้นราบถึงขึ้นไปตัดไม้ทำลายป่าเพื่อไร่ปลูกข้าวโพดได้
แล้วคุณผู้อ่านเชื่อไหมว่า เพราะนโยบายของรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา เองก็มีส่วนทำให้ชาวบ้านบุกไปทำลายป่าเพื่อปลูกข้าวโพดมากขึ้น
เพราะทั้งนโยบายประกันราคา นโยบายจำนำผลผลิต ทั้งกองทุนหมู่บ้าน ของรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาที่เอาใจชาวไร่ข้าวโพดมากเกินไป ก็มีส่วนทำให้ป่าต้นน้ำถูกทำลาย !! (กรณีนี้ให้ดูคลิปตั้งแต่นาทีที่ 33.30)
แถมที่แย่ที่สุดคือ ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของไร่ข้าวโพดเอง กลับยิ่งทำก็ยิ่งยากจน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ??
เชิญดูคลิป คนไทยกินป่าเป็นอาหาร ทั้งหมดเองเถิดครับว่า มันน่าเศร้าใจจริง ๆ
ทำไมรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา ทุกรัฐบาลถึงปกป้องป่าไม้ไม่ได้เลย ??
จากจุดเริ่มต้นของพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เราคงจะมองเห็นแล้วว่า ทำไมประเทศไทยถึงได้แห้งแล้งมากขึ้น ๆ มาถึงวันนี้
คุณผู้อ่านคิดว่า เราควรให้รัฐบาล คสช. อยู่ปฏิรูปการทวงคืนผืนป่าให้ชาติ ไปอีกสัก 2 ปี ก่อนมีการเลือกตั้งดีหรือไม่ ?
ผมขอฝากให้คิดครับ
คลิกอ่าน คนไทยชอบเป็นลูกที่ดื้อของในหลวง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เมื่อข้าราชการกังฉินมาพบกับนักการเมืองชั่วชาติผนวกกับทุนนิยมสามานย์ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือความฉิบหายของสังคมและประเทศชาติอย่างที่พบเห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ตอบลบ