วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557

ฟังพลเอกประยุทธ์พูดถึงคดีนักท่องเที่ยวอังกฤษกับชุดบิกินี่ชัด ๆ ทั้ง 3 วัน






จากประเด็นที่สื่ออังกฤษบางสื่อนำคำพูดของพลเอกประยุทธ์ไปแบบ ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด คือ ลอกความหมายจากการแปลของสื่อสิงคโปร์เพียงแค่สั้น ๆ เกี่ยวกับคำพูดของพลเอกประยุทธ์ ในวันที่ 17 ก.ย. ที่ท่านนายกฯ พูดถึงกรณีนักท่องเที่ยวใส่บิกินี่

สื่ออังกฤษลอกข่าวจากสื่อสิงคโปร์ไปลงอีกทอด โดยไม่ได้แปลความทุกถ้อยคำของพลเอกประยุทธ์  จึงทำให้ความหมายของคำพูดผิดไปจากเดิมมากมาย ประกอบกับความคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของ 2 ชาติก็ยิ่งทำให้สื่ออังกฤษตีความหมายผิดไปจากเจตนาของพลเอกประยุทธืไปอย่างมาก

เพราะสื่ออังกฤษ Mirror ได้มีการอ้างรายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์แชนแนลนิวส์เอเชีย ของสิงคโปร์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวว่า

“They think our country is beautiful and is safe so they can do whatever they want, they can wear bikinis and walk everywhere.” และ He then added: “....can they be safe in bikinis... unless they are not beautiful?”. 

แปล "พวกเขาคิดว่าประเทศของเราสวยงามและปลอดภัยที่จะทำให้พวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ, พวกเขาสามารถแต่งกายชุดบิกินีและเดินไปไหนก็ได้ พวกเขาจะปลอดภัยในชุดบิกีนีหรือ หากไม่เป็นพวกหน้าตาขี้เหร่"

ซึ่งความจริงพลเอกประยุทธ์ไม่ได้พูดแบบนั้น และไม่พูดในความหมายแบบนั้น

ก่อนอื่น เรามาฟังพลเอกประยุทธ์ พูดเรื่องคดีนักท่องเที่ยวอังกฤษ ในวันที่ 16 ก.ย. 57 ก่อน



พล.อ ประยุทธ พูดไว้ดังนี้

"ไม่รู้หรอก ...คนต่างชาติ เขาเหมือนบ้านเขาไง ไปไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ... เขาคิดว่าเขาปลอดภัย .... แต่บ้านเราเนี่ย ยังมีปัญหาอยู่ เพราะมีคนหลายระดับด้วยกัน เพราะฉะนั้น ช่วยระวังเตือนเขาหน่อยนะ แล้วก็สอบสวนอีก แล้ววันนี้คนในประเทศก็รับไม่ได้ ..... คนที่ในพื้นที่เขาก็แต่งชุดดำ ต่อต้านกันเลยนะ ..... แล้วตอนนี้ก็สั่งตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ไล่ล่า ปิดเกาะ ..."


--------------------------

ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ คำพูดของพลเอกประยุทธ์ ในวันที่ 17 ก.ย. 57



“การจัดระเบียบสังคม อาวุธสงคราม ยังมีอยู่ ไม่ต้องกังวล เรายังคงเดินหน้าจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาวุธสงคราม ทั้งค้ามนุษย์ แรงงานผิดกฎหมาย ความปลอดภัย นักท่องเที่ยว มีปัญหามาตลอด ต้องเห็นใจเขาว่าเขาเข้าใจว่าบ้านเมืองเราเนี่ยสวยงาม ปลอดภัย ทำยังไงก็ได้ แต่งบิกินีไปไหนก็ได้

ผมถาม แต่งบิกินีประเทศไทยเนี่ยจะรอดไหม เว้นแต่ไม่สวยล่ะนะ (ผู้เข้าประชุมหัวเราะ) สวยทุกคน ในนี้สวยทุกคน แต่งได้หมดแหละ นะ อันตราย ต้องบอกเขา ต้องทำทั้งสองอย่างคือ กฎหมาย เฝ้าระวัง ให้นักท่องเที่ยวเขาระวัง ว่าหลังจาก 18 ไปแล้วห้ามไปตรงนี้ มียามเยิม ไปเดินดู เพราะมันเสียการท่องเที่ยวของตรงนั้นไปเลยเนี่ย เกาะอะไรเนี่ย เกาะช้างใช่ไหม เกาะอะไรนะ (ผู้เข้าประชุมตอบว่า “เกาะเต่า”) เกาะเต่า เต่าก็หงอยแล้ว นักท่องเที่ยวไม่ต้องกลัว ก็กำลังสืบสวนสอบสวน ก็มีความก้าวหน้าตามลำดับนะครับ” พลเอกประยุทธ์กล่าว

---------

ถามว่า พลเอกประยุทธ์ไปว่า นักท่องเที่ยงอังกฤษตรงไหน ?

ท่านนายกฯ แค่เตือนว่า การแต่งบิกินีตามความเข้าใจของนักท่องเที่ยว คือสามารถเดินไปไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ แต่ความจริง มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเมืองไทยเราถ้าคิดจะแต่งบิกินี่ไปไหน ๆ ก็ได้นั้น ยามดึกดื่นมืดค่ำแล้วยังใส่บิกินี่เดินไปไหนได้ มันอาจไม่ปลอดภัย!!

นี่คือ คำเตือนของท่านประยุทธ์ ชัด ๆ แต่สื่อสิงคโปร์ดันตีความผิด จนสื่ออังกฤษก็ลอกไปแบบผิด ๆ แล้ว สว.อังกฤษ ก็เอาไปพูดแบบผิด ๆ อีก

ส่วนประเด็น สวย หรือ ไม่สวย ??

ถ้าเราดูบริบทการพูด นี่คือการพูดต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมาก ไม่ใช่การให้สัมภาษณ์ตามปกติ ดังนั้น ท่านนายกฯ จึงพูดเล่นกับผู้ฟัง

ประเด็นสวย หรือไม่สวย คือการคุยเล่นกับผู้ฟัง เพื่อสร้างบรรยากาศในการฟังไม่ให้น่าเบื่อ ซึ่งแน่นอน อาจทำให้เกิดการตีความจนเกิดความเข้าใจผิดได้ และบริบทนี้ก็ไม่ได้หมายถึง นักท่องเที่ยวที่เป็นคดีแต่อย่างใด

ซึ่งท่านก็ออกมาขอโทษแล้ว แต่ประเด็นเจตนาของท่าน ไม่ได้เป็นการด่าหรือดูหมิ่นใคร ?

---------------

ทีนี้ลองดูรูปที่คุณเตชะทับทอง ได้ทำขึ้นมา เพื่ออธิบายความหมายคำพูดของพลเอกประยุทธ์ ว่าท่านมีเจตนาอย่างไร



--------------------

พลเอกประยุทธ์ กล่าวขอโทษ ที่ทำให้เข้าใจผิด



วันนี้ (18 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ต้องขอโทษไปด้วย ถ้ามันพูดไปแล้วมันทำให้ไม่สบายใจ ตนไม่ได้หมายความดูถูกหรือว่าใคร เพียงแต่เตือนบางครั้งต้องระมัดระวังเหมือนกันในแต่ละสถานที่หรือบางเวลา ตนจะไปดูถูกได้ไง ว่าเขาได้ไง วันนี้ก็ยังรับรองอยู่ว่าปลอดภัย เว้นเพียงแต่ว่ามันมีคนไม่ดีอยู่นะ ซึ่งก็เหมือนกันทุกที่ในโลกนี้ มันก็มีอยู่ ฉะนั้น ต้องระมัดระวังเหมือนกัน เพราะบ้านเมืองเรากับบ้านเมืองเขาบางทีก็มีความปลอดภัยไม่เท่าเทียมกันนะ จึงเป็นห่วง

เวลานี้ได้สั่งให้กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปดูมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งเขาทำอยู่แล้วเพียงแต่ต้องเข้มขึ้นมากกว่าเดิม เพราะชาวต่างชาติเขาไม่รู้หรอกนะ เขาก็คิดว่าปลอดภัยเขาจึงอยากมาเที่ยวไง เราก็ต้องช่วยกันดูแลอย่าให้คนร้ายคนไม่ดีปะปนอยู่ คนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานอะไรต่างๆ มาทำงานนี่ไม่ได้ มันอันตรายและเป็นผลเสีย"

“บางครั้งผมพูดแรงไปเพราะผมกดดัน และเกิดจากความเสียใจที่มีคนตายคนเจ็บ จะเป็นคนไทยคนต่างชาติเสียใจทั้งนั้น ไม่อยากให้มีการสูญเสียอีก เพราะเราก็วัวหายล้อมคอกทุกครั้ง นี่ก็สั่งการไปแล้วทั้งรัฐมนตรีมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคงให้ไปหามาตรการเพิ่มเติมว่าจะทำอย่างไร ข้อสำคัญต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากๆ เพราะทำให้เสียการท่องเที่ยวในพื้นที่เขา รายได้ก็สูญหายไปด้วย ดังนั้นต้องช่วยกัน จะรอเจ้าหน้าที่อย่างเดียวไม่ได้” นายกฯ กล่าว


-------------

ล่าสุดท่านนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงต่างประเทศชี้แจงคำพูดและความหมายที่ถูกต้องให้แก่สถานทูตอังกฤษแล้ว

ผมขอชื่นชมท่านนายกฯ ประยุทธ์ ที่ตนเองกล้าที่จะขอโทษ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้พูดผิดอะไร เพียงแต่คำพูดอาจทำให้คนตีความผิดไป เข้าใจผิดไป ท่านก็พร้อมที่จะขอโทษ

นี่แหละ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่


ไม่เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีบางคน ไม่เคยรู้ตัวว่าตนเองพูดผิด จนใคร ๆ ก็ยกให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่โง่ที่สุดในโลก

แถมอดีตนายกฯ คนนั้นทำประเทศชาติเสียหายหลายแสนล้าน ก็ยังหน้าด้านหน้าทน ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบใด ๆ แต่ก็นั่นแหลนะ ก็ยังมีคนที่โง่กว่ามันหลงใหลมันอยู่นั่นแหละ 





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น