ผมขออนุญาตอธิบายความแบบเข้าใจง่าย ๆ นะครับ ก่อนที่คุณผู้อ่านจะไปชมคลิปรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่สรยุทธ พยายามจะอธิบายความเพื่อปกป้องช่อง 3 ออริจินอล
คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ ถ้าใครซื้อกล่อง Set top Box เพื่อดูทีวีดิจิตอล ก็จะไม่สามารถรับชมช่อง 3 ออริจินอลได้ นี่คือ ปัญหาของคนไทยที่ติดกล่องทีวีดิจิตอลกำลังประสบตอนนี้
ทำให้แฟนละครช่อง 3 รวมทั้งแฟนรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่ติดกล่องทีวีดิจิตอลแต่ที่บ้านไม่ได้ติดจานดาวเทียม หรือไม่ได้เป็นสมาชิกเคเบิลทีวีอยู่ จะต้องอดดูละครช่อง 3 และรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ไปโดยปริยาย
คือถ้าใครอยากจะดูช่อง 3 ออริจินอล ก็ต้องสลับสัญญาณระหว่างทีวีอนาล็อกเดิม กับ ทีวีดิจิตอล ซึ่งทำให้ยุ่งยาก
เพราะ ณ วันนี้ข่อง 3 เป็นฟรีทีวีอนาล็อกช่องเดียว ที่ไม่ยอมออกกาศช่องออริจินอลเดิมของตัวเองคู่ขนานกับช่องทีวีดิจิตอล เหมือนกับที่ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่อง 11 และไทยพีบีเอส ได้ออกอากาศคู่ขนานอยู่
ทั้ง ๆ ที่ ช่อง 3 ประมูลทีวีดิจิตอลได้มากถึง 3 ช่อง คือ ช่อง 3SD ช่อง 3HD และช่อง 3 Family
ถามว่า ทำไมช่อง 3 ออริจินอล ไม่ยอมเอาช่องเดิมของตัวเองไปลงทีวีดิจิตอล เหมือนกับฟรีทีวีช่องอื่น ๆ เขาทำ ??
ขนาดช่อง 7 ที่มีเรตติ้งในต่างจังหวัดมากกว่าช่อง 3 ด้วยซ้ำ แถมทีวีดิจิตอลก็ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งทำให้ช่อง 7 เสียเปรียบ แต่ช่อง 7 ก็ยังยอมที่จะนำช่องหลักของตัวเองไปลงในทีวีดิจิตอล
คำตอบก็คือ ช่อง 3 และสรยุทธ เห็นแก่ตัว ไงครับ ความเห็นแก่ตัวของพวกนายทุนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คือ ที่มาของปัญหา
ชมคลิปเรื่องเล่าเช้านี้ สรยุทธ ยืนอธิบายความถูกต้องชอบธรรมช่อง 3
คือ ประเด็นทั้งหมดที่ช่อง 3 ออริจินอล ไม่ยอมไปออกอากาศทีวีดิจตอล เพราะกฎระเบียบเรื่องช่วงเวลาโฆษณาที่จะต้องลดน้อยลงเมื่อเป็นทีวีดิจิตอลแล้ว ซึ่งจะทำให้ช่อง 3 ออริจินอลจะสูญเสียรายได้จากค่าโฆษณามหาศาล
เพราะทีวีระบบอนาล็อกเดิม จะโฆษณาได้เฉลี่ย 10- 12 นาทีต่อขั่วโมง
ทีวีดาวเทียม สามารถโฆษณาได้แค่ 6 นาทีต่อชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนทีวีดิจิตอล จะได้โฆษณา 12 นาทีต่อชั่วโมงเหมือนเดิม
แต่การถ้าช่อง 3 ยอมเข้าไปอยู่ในทีวีดิจิตอล ย่อมทำให้ส่วนแบ่งจากค่าโฆษณาลดลงโดยปริยาย เพราะจากเดิมโฆษณาในฟรีทีวี มีแย่งกันอยู่แค่ 3 5 7 9 และ 11 บ้างเท่านั้น
แต่ถ้าไปเป็นทีวีดิจตอลแล้วเท่ากับต้องแย่งค่าโฆษณากันเองมากกว่า 30 ช่อง
แล้วถ้าช่อง3 ออริจินอล ยังไปไม่ออกคู่ขนาน ก็เท่ากับช่อง 3 มีช่องที่แตกต่างกันถึง 4 ช่อง รับโฆษณาไปเต็ม ๆ 4 ช่อง
-------------
สรยุทธ อย่ามาอ้างปริมาณคนดูดาวเทียมเคเบิลทีวี 70 %
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ ถ้าห้ามทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี นำช่อง 3 ออริจินอลไปออก แล้วจะทำให้คนดู 70 % ในส่วนนี้จะต้องอดดูช่อง 3 ออริจินอล ตามที่สรยุทธพยายามจะอธิบาย
แต่เจตนา กสทช. ที่ถูกต้องก่อนจะมีประกาศ คสช.ฉบับที่ 27 ก็คือ ถ้าช่อง 3 ออริจินอล นำรายการในช่องนี้ไปออกอากาศคู่ขนานในช่องดิจิตอลที่ช่อง 3 ประมูลสัก 1 ช่องด้วย
ทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ก็สามารถไปดึงสัญญาณช่อง 3 ออริจินอลจากทีวีดิจิตอลไปออกอากาศในช่องของตัวเองได้เหมือนเดิม ซึ่งก็จะทำให้ประชาชนที่ใช้จานดาวเทียม หรือดูผ่านเคเบิลทีวี ก็จะได้ดูช่อง3 ออริจินอลได้ตามปกติ
แต่ที่สรยุทธ พยายามอธิบายนั่นคือ ฉวยโอกาสที่มีประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 เพื่อเอาเปรียบฟรีทีวีช่องอื่น ๆ
ใช่ครับ ๆ มันไม่ผิดกฎหมาย แต่มันแสดงถึง จริยธรรมในจิตใจของสรยุทธ และผู้บริหารช่อง 3 (เช่นนายประชา มาลีนนท์ หนีคุกเป็นต้น)
เขาเรียกการกระทำของสรยุทธ และช่อง 3 เป็นพวกศรีธนณชัย ที่พยายามหาช่องทางกฎหมายเพื่อความได้เปรียบ หรือเอาเปรียบ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โดยไม่มีคำว่า เสียสละเพื่อส่วนรวมในหัวใจของคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นสื่อสาธารณะ !!
ฉะนั้น สรยุทธ อย่ามาอ้างเรื่องคนดู 70% เพราะถ้าช่อง 3 ออริจินอลไปออกอากาศคู่ขนานบนทีวีดิจิตอลเหมือนที่ฟรีทีวีช่องอื่น ๆ เขาก็ทำกันไปแล้ว คนดูทีวีดาวเทียม และดูผ่านเคเบิลทีวี ก็จะได้ดูช่อง 3 ออริจินอลได้เหมือนเดิม
วิธีการพูดของสรยุทธ คือ การเบี่ยงประเด็นเอาจำนวนคนดู 70 % มาบังหน้า
และสรยุทธ กับ ช่อง 3 ก็ฉวยโอกาสอ้างประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 /2557 ในข้อ 1 ที่ประกาศหลังจากทีวีช่องช่องทางถูกยุติการออกอากาศ ให้กลับมาออกอากาศได้ตามปกติหลังมีการรัฐประหาร เพื่อยื้อผลประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียวไว้ให้นานที่สุด
ทั้ง ๆ ที่เจตนาของประกาศ คสช. ฉบับนี้ มีเจตนาให้รายการทีวีกลับไปออกอากาศได้ตามปกติ ไม่ใช่มีเจตนาแบบที่ช่อง 3 และสรยุทธนำไปแอบอ้างใช้
ประกาศ คสช. ฉบับที่ 27/2557
เรื่อง การถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบดิจิตอล และสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับอนุญาต สัญญา หรือสัมปทานจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ
เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงให้
ข้อ 1. ผู้ให้บริการโทรทัศน์ ดังต่อไปนี้ ออกอากาศได้ตามปกติ ผ่านทางระบบการใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิล
(1) ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบอะนาล็อก ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 23/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557
(2) ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบดิจิตอล ซึ่งได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ยกเว้นสถานีโทรทัศน์ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
คลิกที่นี่อ่าน ประกาศ คสช. ฉบับที่ 27/2557
----------------
ผมแนะนำให้ คสช. ต้องออกประกาศฉบับใหม่เพื่อยกเลิก ประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 ลงโดยเร็ว เพื่อไม่ให้สื่อเลว ๆ ที่ชอบทำตัวเป็นศรีธนญชัยได้อ้างประกาศของ คสช. อีก
เพราะถ้าไม่มีประกาศ คสช. ฉบับ27 นี้ ช่อง 3 ก็จะต้องหาทางนำช่อง 3 ออริจินอลไปออกทางทีวีดิจิตอลด้วยอย่างแน่นอน
ซึ่งต่อไปถ้าช่อง 3 ไม่รีบนำช่อง 3 ออริจินอลไปออกชองทีวีดิจิตอล ก็จะทำให้โฆษณามาลงที่ช่อง 3 ออริจินอลลดลงแน่นอน เพราะจะเหลือแค่กลุ่มคนดูที่ใช้ก้างปลาและหนวดกุ้งเท่านั้นที่สามารถดูไดเ
และผมขอประณาม คณะกรรมการ กสทช. และ กสท. ที่ปล่อยให้เรื่องมันเลยเวลากำหนด คือ 1 กันยายน แทนที่จะทำให้มันเสร็จสิ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว
จนปล่อยให้ สรยุทธ และช่อง 3 ออกมาอธิบายและแถลงการณ์เย้ย กสทช. ในวันนี้
การอ้างคนดู 70 % ที่เป็นคนส่วนใหญ่ที่สรยุทธอ้าง ก็คือ ตรรกะเดียวกับที่ยิ่งลักษณ์ชอบอ้าง คือ ดิชั้นมาจากเสียงส่วนใหญ่ 15 ล้านเสียงนะคะ !!!
--------------------
ข่าวไทยพีบีเอส กรณีช่อง 3 กับผลกระทบผู้บริโภค
นายวิศรุต ปิยะกุลวัฒน์ อุปนายกสมาคมสื่อดิจิตอลเพื่อผู้บริโภค ยันกรณีช่อง 3 ไม่ยอมออกอากาศในระบบอนาล็อกและดิจิตอลพร้อมกันทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ โดยเวลานี้ทุกฝ่ายควรนำความจริงมาคุยกัน และหยุดใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน
--------------
ล่าสุดทาง คสช. โดยพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. ได้พูดถึงประกาศ คสช. ฉบับที่ 27 ว่า เจตนารมย์ของประกาศฉบับที่ 27 ไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความถี่หรือทีวีดิจิตอลของ กสทช. เลย เรื่องนี้จึงเป็นอำนาจของ กสทช. โดยตรงที่จะจัดการเอง
"ผมว่า กสทช.ต้องเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูน่ะ ท่านต้องตัดสินใจบนพื้นฐานตรงนั้น ผมอ่านกี่ครั้งก็ไม่เข้าใจว่าทำไม กสท. ไม่เข้าใจเรื่องนี้ จะต้องมาถามผมทำไม ก็คุณก็รู้อยู่แล้วว่า อ่านออกนั้นชัดเจน เจตนารมย์น่ะ คุณไปอ่านหัวเจตนารมย์ 3 บรรทัดแรกของประกาศที่ 23,27 คุณจะรู้เจตนารมย์อะไร ต้องการความร่วมมือ 1 2 3 4 เป็นเรื่องเจตนารมย์ในการที่จะกระจายเสียง ส่งสัญญาณ หรือออกแพร่ภาพ แค่นั้นเองน่ะ ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับการจัดระบบทีวีของประเทศไทยเลย กสทช.ไม่จำเป็นต้องมาถามผม แล้วคุณก็รู้อยู่แล้ว ไม่ต้องโยนมาให้ผม คุณรู้ ทำไมคุณไม่แก้ไข" พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายากล่าวกับผู้สื่อข่าว
คลิกฟังพลเอกไพบูลย์ พูดเรื่องนี้
-----------
เมื่อผมฟังจากที่พลเอกไพบูลย์กล่าว แล้ว ผมว่า ช่อง 3 ก็ควรหยุดหน้าด้านอ้างประกาศ คสช. ได้แล้ว และ กสทช. ก็อย่าเอื้อประโยชน์ให้ช่อง 3 อีก
เพราะตอนนี้ผมมองว่า กสทช. กำลังช่วยถ่วงเวลาให้ช่อง 3 ในเรื่องนี้นานเกินไป ทั้ง ๆ ที่มีอำนาจจัดการตามกฎหมายเดิมของ กสทช. อยู่แล้ว
ล่าสุด นส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. ได้แสดงความเห็นดังนี้
บทสรุปที่ถูกต้องในเรื่องนี้คืออะไร ??
ช่อง 3 มีสิทธิที่จะไม่นำช่อง 3 เดิมขึ้นทีวีดิจิตอล เพราะสัญญาสัมปทานต่อเนื่องแต่เดิม คือ ระบบหนวดกุ้งที่มีมานานกว่า 40 ปีแล้ว และจะไปสิ้นสุดสัมปทานในปี 2563
แต่ช่อง 3 ก็ไม่มีสิทธิแอบอ้างคนดู 70 % ในส่วนทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีมาบังหน้า เหมือนอย่างที่สรยุทธพยายามจะแอบอ้างอีก
ก็เหมือนกับที่กิตติ สิงหาปัด ได้ทวิสเตอร์ไว้ คือ สัมปทานหนวดกุ้งของช่อง 3 หมดใน พ.ศ.2563 ถ้ารายการดีจริง คนเขาก็จะหาทางกดมาดูเอง (ไม่ต้องมาแอบอ้างคนดู 70%)
ส่วน กสทช. ก็ดำเนินตามระเบียบเดิม คือ โครงข่ายทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวีแบบบอกรับสมาชิก ไม่สามารถนำสัญญาณทีวีอนาล็อกช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ช่อง ไทยพีบีเอส ไปออกอากาศได้อีก จะออกอากาศได้เฉพาะ “ทีวีดิจิตอล ” 36 ช่องที่ได้ใบอนุญาตใหม่เท่านั้น
หากช่องอะนาล็อกต้องการมาออกอากาศในระบบดิจิตอล ก็จะต้องขอใบอนุญาตจาก กสท. ใหม่ในการออกอากาศทีวีดิจิตอลเพื่อการออกอากาศแบบคู่ขนานทั้ง 2 ระบบ
คลิกอ่าน ยุคทีวีดิจิตอล ช่อง3 กับช่อง7 ใครเห็นแก่(ตัว)ส่วนรวมมากกว่ากัน
คลิกอ่าน ผลประโยชน์ค่าโฆษณามหาศาล ที่ช่อง 3 ดื้อแพ่งทีวีดิจิตอล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น