วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จับโกหกโอ๊ค พานทองแท้ ใครเผาเซ็นทรัลเวิร์ล







เกริ่น

วันครบรอบ 3ปี ชุมนุมฟายแดงเผาเมือง ซึ่งไม่ได้เผาเฉพาะห้างเซ็นทรัลเวิร์ลเท่านั้น ยังมีเผาโรงหนังสยาม ห้างเซ็นเตอร์วัน เผาธนาคารกรุงเทพบางสาขา ซึ่งสถานที่เหล่านี้ฝ่ายเสื้อแดงหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงว่า ใครเผา ?

แต่พ่อค้าย่านนั้นต่างรู้ดีว่า ใครเผา ?

และโอ๊ค พานทองแท้ ก็ถือโอกาสโพสใส่ร้ายทหาร โดยชี้นำทำนองว่า ทหารเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลเพื่อใส่ร้ายเสื้อแดง โดยการโพสคราวนี้ หากใครไม่ตามข้อมูลมามากพอ อาจหลงเชื่อโอ๊ค ได้โดยง่าย

ผมจึงต้องนำเสนอการจับโกหกโอ๊ค เพื่อไม่ให้เสื้อแดงได้ใจ ในการใส่ร้ายทหารไทยครับ


-----------------


จากที่โอ๊ค พานทองแท้ โพส facebook กล่าวว่ามีการใส่ร้ายเสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิร์ล เนื้อหาตามนี้





จากเนื้อหาโอ๊ค พยายามจะบอกว่า เสื้อแดงโดนใส่ร้าย ทหารคือคนเผาเพื่อใส่ร้ายเสื้อแดง จริงเท็จอย่างไร ดูแค่โพสมันก็รู้แล้วว่ามีพิรุธ !!

------------------------

จับโกหกโอ๊ค พานทองแท้ กรณีทหารใส่ร้ายเสื้อแดงเผาห้าง

ประเด็นแรก ที่โอ๊คโกหก คือ

"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม และรถหุ้มเกราะ เข้าสลายการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณแยกราชประสงค์ จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิตจนถึงปัจจุบันนี้ร่วม “100” ศพ นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น"

akecity ขอตอบว่า ความเป็นจริง ผู้ที่เสียชีวิตร่วม 100 ศพนั้น ไม่ได้ตายบริเวณราชประสงค์ไปทั้งหมด มีการตายในสถานที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง และมีคนที่ตายที่ไม่ได้เกิดจากการเข้าสลายการชุมนุมของทหารตามที่โอ๊ค พยายามตอแหล

เพราะมีคนตายจาก M79 บนถนนสีลม เป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นประชาชนที่ใช้รถไฟฟ้า ที่โดนระเบิดที่ยิงมาจากฝั่งเสื้อแดงที่ชุมนุมแถวสวนลุมพินี ก็มี

ยังมีทหารที่ตายจากโดนกลุ่มชุดดำยิงถล่มที่สี่แยกคอกวัวก็มี แต่โอ๊คพยายามเขียนทำนองว่า ร่วม 100 ศพนั้นเกิดจากการเข้าสลายการชุมนุมของทหารที่ราชประสงค์ทั้งสิ้น นี่คือโกหกตอแหลของโอ๊คเหมือนยิ่งลักษณ์อ่านปาฐกถาที่มองโกเลีย

--------------------------

ประเด็นที่ 2 ที่โอ๊คตอแหล (ไม่ถึงกับโกหก) คือ

"ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง จำเลยในคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ทุกกรณี โดยชี้ว่าหลักฐานอ่อนเกินไป"

akecity ขอตอบว่า กรณีนี้ศาลยกฟ้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ เมื่อหลักฐานไม่เพียงพอก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยไป แต่ไม่ได้แปลว่า เสื้อแดงทั้งสองไม่ได้กระทำความผิด อาจผิดหรือไม่ผิดก็ได้ เพียงแต่หลักฐานเอาผิดมันไม่พอต่างหาก ลองดูคำพิพากษาศาล

ศาลเห็นว่าแม้โจทก์มีพยานเป็นรปภ. ซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพจำเลยที่ 1 ได้ในที่เกิดเหตุ แต่ก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 30 เมตร และเห็นเพียงว่าจำเลยที่ 1 ถือถังดับเพลิง ไม่ใช่อุปกรณ์ใช้วางเพลิง แม้จะอนุมานไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 จะเข้าไปช่วยดับเพลิงหรือไม่ ประกอบกับพยานโจทก์ไม่สามารถตอบคำถามทนายจำเลยได้ว่าเห็นจำเลยที่ 1 เป็นผู้วางเพลิงหรือไม่ และยังไม่มีพยานชี้ชัดถึงพฤติการณ์ในการวางเพลิง หรือสนับสนุนการวางเพลิง พยานโจทก์จึงยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมทำผิดในคดีนี้หรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย

ส่วนจำเลยที่ 2 โจทก์มีพนักงานห้างเบิกความว่า ขณะเกิดเหตุเห็นคนร้าย 40-50 คน มีชาย 4-5 คน เดินนำหน้าใช้หนังสติ๊กยิงใส่เป็นระยะ และเห็นชายชุดดำลายพรางสวมหมวกปีกใช้ระเบิดโยนใส่มีคนเจ็บ 9 คน ต่อมาตำรวจจับกุมคนร้ายภายในห้างได้ 9 คน มีจำเลยที่ 2 รวมอยู่ด้วย พยานโจทก์กลุ่มนี้สามารถจดจำรูปพรรณสัณฐานจำเลยที่ 2 ได้ตรงกันหมด ยกเว้นสีเสื้อไม่ตรงกับภาพที่ปรากฏ ระหว่างนั้นพยานต้องคอยหลบลูกหินที่ถูกยิงเข้าใส่ อีกทั้งอยู่ห่างไปกว่า 30 เมตรนั้น น่าส่งสัยว่าจะจำคนร้ายได้จริงหรือไม่ และโจทก์ยังไม่นำเจ้าหน้าที่ ซึ่งจับกุมจำเลยที่ 2 มาเบิกความ พยานโจทก์ที่นำสืบยังมีเหตุสงสัยว่าจำเลยที่ 2 จะกระทำผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 2 ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์โรงเรือนที่เก็บสินค้า เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย


ซึ่งคดีนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด อัยการยังสามารถอุทธรณ์ได้

การที่โอ๊คจะมาสรุปว่า เสื้อแดงทั้งหมดไม่ได้เผา ด้วยแค่คำพิพากษายกฟ้องในคดีเสื้อแดง 2 คนนี้นี้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะระบบยุติธรรมไทยยังยึดถือหลักการที่ว่า ปล่อยคนชั่ว10 คนดีกว่าจับคนไม่ผิดมาติดคุกเพียงคนเดียว!! 

---------------------

ประเด็นที่ 3 ที่โอ๊คตอแหล คือ

"ศาลแพ่งพิพากษาให้เทเวศประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เซ็นทรัล เพราะเหตุเพลิงไหม้ ไม่ใช่กรณีก่อการร้าย และเกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำ นปช.ประกาศสลายการชุมนุม (สลายการชุมนุมเวลา 13:20 ไฟไหม้ห้างเวลา 17:00 ห่างกันเกือบ 4 ชั่วโมง)"

akecity ขอตอบว่า ศาลตัดสินถูกต้องแล้ว เพราะการเผาห้างไม่ใช่การก่อการร้าย แต่มันคือการเผาด้วยอารมณ์พาไป ไม่ได้สลับซับซ้อนเหมือนการก่อการร้าย ก็เหมือนกับกรณีเสื้อแดงเผาศาลากลางตามภาคอีสานนั่นแหละ และการที่ศาลตัดสินว่าไม่ใช่การก่อการร้ายนั้น ก็ไม่ได้แปลว่า เสื้อแดงไม่ได้เผา

มันเป็นแค่คำวินิฉัยไปตามเนื้อผ้า ว่าเป็นการวางเพลิงหรือการก่อการร้าย ? เพื่อให้บริษัทประกันชดใช้ค่าเสียหายแก่ห้างเท่านั้น

ซึ่งแค่ข้อหาวางเพลิงโรงมหรศพ โรงเก็บสินค้า ก็มีโทษสูงสุดถึงขึ้นประหารชีวิตเช่นกัน รายละเอียดเรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้คลิกอ่านได้ที่นี่


คำพิพากษาศาลแพ่ง ย้ำ ศาลแพ่ง !! เพื่อวินิจฉัยประเด็นจ่ายสินไหมทดแทนของ บ.ประกัน

ศาลมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับเป็นข้อยกเว้นตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏชัดว่าเป็น การกระทำของผู้เข้าร่วมชุมนุมคนใด หรือสั่งการจากแกนนำ ส่วนที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปราศรัยมีเนื้อหาส่งเสริมความรุนแรงนั้น ถ้ามีการทำร้ายคนเสื้อแดงก็จะเกิดความรุนแรงขึ้น แต่ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมเมื่อใด การปราศรัยจึงเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการสลายการชุมนุม ส่วนเรื่องที่รัฐบาลประกาศให้ยุติการชุมนุมแต่ผู้ชุมนุมไม่ได้ยุติและก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น จะมีความผิดเกี่ยวกับกฎหมายใดย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง 
และจะเห็นว่ากลุ่มคนร้ายที่บุกรุกและเผาทรัพย์ในห้างสรรสินค้าเซนมีจำนวนไม่มาก ใช้วิธีการไม่สลับซับซ้อน ไม่ได้ใช้ทักษะพิเศษใด ๆ ที่เป็นความชำนาญ สำหรับถังแก๊ส น้ำมัน ยางรถยนต์ ก็หยิบฉวยได้ในบริเวณใกล้เคียง ความเสียหายที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ ที่สำคัญขณะมีการเผาห้างเซน แกนนำก็ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว คนร้ายที่เผาห้างสรรพสินค้าเซน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็มิได้ต้องการให้ข่มขู่รัฐบาลยุบสภาหรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เป็นการประทำที่หวังผลการทางเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟังไม่ได้ว่าเป็นการก่อการร้าย


(ส่วนคดีอาญา อาจจะเป็นคนละเรื่องกับคำวินิจฉัยศาลแพ่งก็ได้ โดยเฉพาะประเด็นใครสั่งเผา ?)

--------------------------

ประเด็นที่ 4 ซึ่งสำคัญมาก!! ที่โอ๊คโกหกคือ

พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยกลุ่มบริษัทเซ็นทรัลพัฒนามากว่า 20 ปี ได้ให้ปากคำเอาไว้ว่า

“ทีมงานเราอยู่ภายใน ถ้าไม่ไล่เราออกไป มันเรื่องเล็กสำหรับไฟขนาดนั้น ในอาคารมีอุปกรณ์พร้อม น้ำในห้างก็มีจำนวนมหาศาลทั้ง 3 อาคารเชื่อมต่อกัน ระบบแรงดันน้ำภายในห้างก็ใช้ได้ ถ้าไม่ไล่เราออกไม่มีทางจะไหม้ ส่วนคนที่ไล่เราออกไปนั้นคือกลุ่มคนที่มีอาวุธ” 

ซึ่งข้ออ้างในการไล่ทีมของเซ็นทรัลออกไปก็คือ มีผู้ก่อการร้ายอยู่ในอาคาร (ซึ่งมีกำลังทหารนับพันนายอยู่รายรอบอาคาร) หลังจากนั้นร่วมชั่วโมง จึงมีไฟไหม้เกิดขึ้น จนถึงบัดนี้ยังไม่มีใครได้ข้อมูล หรือจับตัวผู้ก่อการร้ายในอาคารตามอ้างได้ แม้แต่คนเดียว


akecity ขอตอบว่า ประเด็นนี้ โอ๊คกำลังบิดเบือนเนื้อหาคำให้การของ พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร เพราะถ้าได้ตามอ่านคำให้การทั้งหมด จะรู้เลยว่า คนละเรื่องกับที่โอ๊คโพสเพื่อก่อให้เกิดความกำกวมจนคนอ่านที่ไม่ได้อ่านเนื้อหาทั้งหมด ย่อมเข้าใจผิดไปว่า คนที่ไล่ทีมงานของพ.ต.ท.ชุมพล คือทหาร

ซึ่งความจริงไม่ใช่ !! แต่เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายติดอาวุธ ที่มาไล่ต่างหาก โดยเฉพาะคำสัมภาษณ์ช่วงที่โอ๊คตัดมานั้น โอ๊คตัดมาไม่หมด เพราะคำสัมภาษณ์จริง ๆเต็ม ๆ คือ

"ทีมงานเราอยู่ภายในถ้าไม่ไล่เราออกไป มันเรื่องเล็กสำหรับไฟขนาดนั้น ในอาคารมีอุปกรณ์พร้อม น้ำในห้างก็มีจำนวนมหาศาลทั้ง 3 อาคารเชื่อมต่อกัน ระบบแรงดันน้ำภายในห้างก็ใช้ได้ ถ้าไม่ไล่เราออกไม่มีทางจะไหม้ ส่วนคนที่ไล่เราออกไปนั้นคือกลุ่มคนที่มีอาวุธ มีการโยนระเบิด ขนาดตำรวจยังต้องหนี" พ.ต.ท.ชุมพล กล่าว

ซึ่งพ.ต.ท.ชุมพล ได้ให้การโดยละเอียดในประเด็นกลุ่มคนที่มีอาวุธที่ไล่ทีมงานของเขาออกไป ดังนี้

"ในห้างมีสปริงเกอร์ทุกๆ 3 เมตร แต่เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในวันที่ 19 พ.ค.53 นั้นอยู่นอกเหนือจากความสามารถของพนักงานดับเพลิง เพราะไม่สามารถดับเพลิงได้ พนักงานดับเพลิงปฏิบัติหน้าที่ได้เฉพาะในตอนต้นที่มีคนกลุ่มแรกเข้ามา รปภ.ที่มีกว่า180 คนก็สามารถผลักดันออกไปได้ แต่เมื่อมีคนกลุ่มที่ 2 เข้ามาอีก รปภ. ได้แจ้งว่ามีการปาระเบิดเข้าใส่พนักงานจนทำให้มีคนบาดเจ็บ จึงได้มีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามา เมื่อตำรวจเข้ามาในห้างประมาณ 25 คน ได้มีการจับกุมคนที่เข้ามาหลบซ่อนตัวในห้าง ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปเมื่อพบผู้บุกรุกชุดที่สองซึ่งมีอาวุธอยู่ด้านหน้าของห้าง

ชุดแรกที่เข้ามานั้นมีประมาณ14คน เข้ามาจาก 2 ด้านคือด้านถนนพระราม 1 และถนนราชดำริ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าเซน (ZEN) ในเวลาประมาณเกือบ 14.00 น. โดยทุบกระจกเข้ามาในห้าง แต่ รปภ.ที่มีจำนวนถึง 180 คนก็ได้ไล่คนเหล่านั้นออกไป ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. จากการตรวจสอบกล้อง CCTV เห็นว่ามีกลุ่มคนชุดที่สอง ประมาณ 7-8 คน แต่งกายคล้ายทหารและมีอาวุธด้วยเข้ามาทางด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์รปภ. พยายามต้านทานไม่ให้คนกลุ่มนี้เข้ามาแต่กลับถูกปาระเบิดใส่ ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาช่วยก็ยังต้องถอนกำลังออกไป

หลังจากที่ตำรวจทั้ง 25 คน ถอนกำลังออกจากห้างไปทำให้ รปภ.และพนักงานดับเพลิงเสียขวัญกำลังใจ จึงได้ไปรวมตัวที่จุดรวมพลตรงลานจอดรถใกล้โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เพื่อให้ฝ่ายบริหารห้างตัดสินใจ เนื่องจากพนักงานเหล่านั้นไม่มีหลักประกันความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน สุดท้ายจึงได้ตัดสินใจออกจากห้างทั้งหมดในเวลาประมาณ 16.40 น."



คุณผู้อ่านพอจะมองเห็นอะไรไหมครับ สิ่งที่โอ๊คเขียนมันจูงใจให้คนเข้าใจผิดไปว่า ทหารคือคนไล่ทีมงามดับเพลิง แต่ความจริงจากคำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูรที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลพัฒนา นั้นคนละเรื่องกันเลย เพราะความจริงคนที่ไล่ทีมงานเขาออกไป แถมขนาดตำรวจยังต้องหนี คือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ติดอาวุธนั่นเอง ซึ่งกองกำลังไม่ทราบฝ่ายติดอาวุธนั้น ก็จะแต่งกายให้ดูคล้ายทหาร แต่ไม่ใช่ทหาร !!

ซึ่งกองกำลังไม่ทราบฝ่ายนี้ นี่แหละน่าจะเป็นคนวางเพลิงภายในตัวห้างตัวจริง

และที่โอ๊คเขียนว่า ข้ออ้างที่ไล่ออกทีมของเซ็นทรัลออกไป เพราะมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอยู่ในห้าง นี่คือการโกหกชัดเจนของโอ๊ค เพราะในคำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล ไม่มีเรื่องนี้อยู่เลย เพราะกลุ่มคนที่ไล่เขาออกไปไม่ใช่ทหาร แต่เป็นกลุ่มติดอาวุธที่ปาระเบิดใส่ตำรวจด้วย

และที่โอ๊คโกหกอีกอย่างคือ มีทหารอยู่รอบอาคารนั้นก็เป็นการบิดเบือนเช่นกัน เพราะหากมีทหารอยู่รอบอาคารจริง ๆในช่วงเวลาดังกล่าว พ.ต.ท.ชุมพล ต้องเอ่ยถึงแล้ว ว่าทหารปล่อยให้กองกำลังติดอาวุธที่ปาระเบิดเข้ามาในห้างช่วงเวลานั้นได้อย่างไร ?

คุณผู้อ่านลองอ่านประเด็นต่อไปจะเห็นคำโกหกของโอ๊คชัดเจนขึ้น

และจริง ๆ แล้วประเด็นนี้ ถ้ามีกองกำลังติดอาวุธมาเผาห้างในตัวห้างจริงจนเกิดไฟไหม้ใหญ่ ไม่ใช่แค่รูปผู้คนทุบกระจกเผาแค่หน้าห้าง กรณีนี้ผมมองว่า น่าจะเข้าข่ายก่อการร้าย แต่เมื่อศาลวินิจฉัยไปแล้วว่าไม่ใช่ก่อการร้าย ก็ไม่เป็นไร  ส่วนตัวผมยอมรับคำตัดสินนี้ได้


กลุ่มชายชุดดำ และชายแต่งชุดคล้ายทหาร ทำการบวงสรวงก่อนปฏิบัติการณ์




-------------------------------

ประเด็นที่ 5 ที่โอ๊คโกหกมากที่สุด

ผม(โอ๊ค) ขอลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นจริงในห้วงเวลาต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพดังนี้

14 พ.ค. 53
เริ่มต้นยุทธศาสตร์กระชับวงล้อม พื้นที่ราชประสงค์ ประกาศเขตกระสุนจริง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน รวมถึง ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ อายุ 14 ปี เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุด

19 พ.ค. 53
13.20 น. นปช.ประกาศยุติการชุมนุม
14.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษก ศอฉ.แถลงว่า ในขณะนี้ ศอฉ.ควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้แล้ว
16.40 น. ทหารเข้ายึดพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ และไล่ตำรวจ รปภ.และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยอ้างว่ามีผู้ก่อการร้ายอยู่ภายใน (ล้อมห้างอยู่เป็นพัน จับผู้ก่อการร้ายไม่ได้แม้แต่คนเดียว)
17.40 น. เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ในเซ็นทรัลเวิลด์


akecity ขอตอบว่า โอ๊คโกหกได้หน้าด้าน ๆ มาก เช่น 14.00น. พ.อ.สรรเสริญ แถลงว่า ขณะนี้ ศอฉ.ควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้แล้ว

นี่คือการยกความจริงมาไม่หมด เพราะที่พ.อ.สรรเสริญ แถลงนั้น แม้จะบอกว่า ควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมได้ หมายถึง ทหารเข้าถึงเวทีการชุมนุม แกนนำมอบตัว เสื้อแดงทยอยกลับบ้าน

และที่สำคัญคือ ทหารตำรวจหยุดรุกคืบหน้า และหยุดปฏิบัติการณ์ในภาพรวมแล้ว นั่นเพราะทางทหารคงไม่คิดว่าจะมีการก่อการร้ายเผาห้างตามมาอีก





ซึ่งในเวลา 22.35 น.ของวันเดียวกัน ทางพ.อ.สรรเสริญ ยังได้ออกมาแถลงอีก โดยสาระสำคัญที่เกี่ยวกับการเผาห้างมีดังนี้

"...หลังจากนั้น ศอฉ.ได้หยุดเคลื่อนกำลังเข้ากดดันบริเวณพื้นที่แยกราชประสงค์เพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียด และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้หลงผิดที่จะกลับภูมิลำเนาได้เดินทางออก ขณะเดียวกันก็ดำเนินการควบคุมตัวแกนนำไปยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้หยุดการเคลื่อนกำลัง ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ก็ได้ก่อความวุ่นวาย โดยเข้าทุบทำลายห้างร้าน วางเพลิงอาคารสถานที่สำคัญต่างๆ กว่า 20 แห่ง อย่างไรก็ดีขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมเพลิงได้เกือบหมดแล้ว คงเหลือแต่เพียง CTWที่ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ทั้งหมด ด้วยมีผู้ก่อการร้ายซุ่มยิงอยู่บนอาคารสูง ลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายามคลี่คลายสถานการณ์อยู่.."


คลิกที่รูปเพื่อไปอ่านลำดับเหตุการณ์วันเผาห้างทั้งหมด!!


เห็นไหมครับ ศอฉ. ได้แถลงว่า ทหารได้หยุดเคลื่อนกำลัง หมายถึงเริ่มถอนออกจากพื้นที่ราชประสงค์เพื่อลดบรรยากาศตึงเครียด และเพื่อไปควบคุมแกนนำแดงไปส่งสถานที่ที่เตรียมไว้ และทหารบางส่วนก็อำนวยความสะดวกดูแลเสื้อแดงกลับบ้าน ช่วงนั้นเองก็ได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายแทรกเข้ามาทำลายห้าง


และในช่วงเวลา 16.40 น. ที่โอ๊คโพสว่า ทหารเข้ายึดพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ และไล่ตำรวจ และรปภ. และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงออกจากห้างเซ็นทรัลเวิร์ล โดยอ้างว่า มีการก่อการร้ายอยู่ภายในนั้น 

ซึ่งที่โอ๊คโพสนั้น เป็นสิ่งที่โอ๊คนำมาจากฟอร์เวิร์ดส่งต่อ ๆ กันไปในหมู่เสื้อแดงในกะลา และเว็บพันทิพ ที่บิดเบือนข้อมูลขึ้นมา โดยอาศัยรูปประกอบทีไม่มีการระบุเวลาในรูปเลยสักรูป แต่มั่วเวลาเอาเอง

แถมรูปที่ทหารตรึงกำลังรอบห้างนับพันตามที่โอ๊คว่า ก็ดูหรอมแหรม !! และไม่รู้เป็นวันไหนเวลาไหนที่แท้จริง ซึ่งเมื่อเราดูในกระทู้พันทิพทุกรูปแล้ว จะเห็นชัดเจนว่า ขัดกับคำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล ที่ปรึกษาฝ่ายอัคคีภัยเซ็นทรัลพัฒนา ทุกรูป

เพราะที่จริงแล้วรูปคนโดนยิง หรือรปภ.เดินออกจากห้าง นั้น น่าจะเป็นเพราะถูกกองกำลังติดอาวุธโยนระเบิดเข้าใส่จนสะเก็ดระเบิดกระเด็นโดนขามากกว่า

ส่วนรูปทหารยืนข้างนอกซึ่งก็ไม่รู้ว่ายืนที่ไหนแน่ เสื้อแดงก็นำมาตัดต่อให้เป็นเสมือนเหตุการณ์เดียวกัน แต่ความเป็นจริงช่วงนั้นไม่มีทหารในบริเวณเซ็นทรัลเวิร์ลเลย เพราะศอฉ.สั่งหยุดปฏิบัติภารกิจหมดแล้ว จึงเปิดโอกาสให้กองกำลังไม่ทราบฝ่ายติดอาวุธได้ปฏิบัติการณ์ยึดเซ็นทรัลเวิร์ลได้

ตัวอย่างรูปในกระทู้พันทิพ


นี่หรือทหารล้อมห้างไว้หมดแล้ว นับพันคน ถุย หรอมแหรม !! และล้อมที่ไหนก็ไม่ชัดเจน เวลาก็ไม่ชัดเจน เพราะไม่มีเวลาระบุในรูป นี่คือการบิดเบือนของเสื้อแดง



จากรูปบนนี้ ทหารไม่ได้ล้อมห้างเลย เพราะหน้าประตูนั้น ไม่ใช่หน้าประตูห้างแน่นอน ส่วนรปภ.ที่เดินออกจากห้าง ก็ให้ดูที่คำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล ว่า ออกมากันเองเพราะไม่รู้สึกว่าปลอดภัยจากกองกำลังติดอาวุธที่ปาระเบิดใส่ตำรวจ

และให้สังเกตว่า ในรูปที่ รปภ.เดินออกหน้าห้าง ก็ไม่เห็นมีทหารล้อมห้างสักนาย !!







มีหลายคนต้้งข้อสังเกตว่า ในกระทู้พันทิปมีบางรูปอาจเป็นทหารกำลังรักษาความปลอดภัยรอบวังสระปทุม ติดสยามพารากอน แต่ถูกนำมาตัดต่อให้คิดว่าบริเวณเซ็นทรัลเวิร์ล

ไปดูกระทู้พันทิพบิดเบือนด้วยรูปถ่ายใส่ร้ายทหารได้ที่นี่ คลิก !!


ผมแนะนำให้คุณผู้อ่าน อ่านคำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล ที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งได้ให้การว่า การที่รปภ.ต้องออกจากห้างเพราะกองกำลังติดอาวุธปาระเบิดใส่ จนตำรวจต้องหนี รปภ.เลยหนีออกมาบ้าง ซึ่งไม่ได้หนีออกมาเพราะทหารไล่ตามที่โอ็คและเสื้อแดงพันทิพบิดเบือนแต่อย่างใด

ส่วนคำให้การโดยละเอียดของพ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร ไปอ่านได้ที่นี่ คลิก !!

---------------------

ย้ำ !!

(ผมย้ำ! ว่า ต้องตามไปอ่านคำให้การของพ.ต.ท.ชุมพล ตามลิงค์ที่ผมให้ไว้โดยละเอียด เพราะข้อมูลดีมากครับ เช่นในวันที่ห้างโดนเผา ช่วงก่อนการชุมนุมจะเลิก การ์ดนปช.หายไปหมด แต่มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายมาปฏิบัติหน้าที่แทนการ์ดนปช.!!)

-------------------------

สรุป การบิดเบือนข้อมูล การนำความจริงมาปะติดปะต่อเพียงครึ่งเดียวของโอ๊ค ชั่งสันดานเหมือนทักษิณและปาฐกถายิ่งลักษณ์จริง ๆ

ประเด็นเสื้อแดงไม่ได้เผาห้าง แล้วมีการนำรูปที่ไม่ระบุเวลาและสถานที่ ๆ ชัดเจนมามาตัดต่อ และการตัดคำพูดของที่ปรึกษาด้านอัคคีภัยเซ็นทรัลพัฒนามาแบบไม่หมดมาอ้าง ทั้งหมดเพื่อหวังใส่ร้ายทหารเผาห้าง เพื่อใส่ร้ายเสื้อแดงให้ดูน่าเชือถือ

ซึ่งพวกฟายแดงโง่ ๆ ก็เฮฮาและเชื่อกันไปหมดจริง ๆ ว่า นี่ไงหลักฐานทหารไล่รปภ. ทหารล้อมห้าง ทหารตัดโซ่ร้านค้าในห้างทั้งหมดนั้น ทหารทำเพื่อจัดฉากใส่ร้ายเสื้อแดงเผาห้างทั้งสิ้น

ซึ่งในความจริงแล้ว การเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลนั้น ทหารไม่ได้อยูใกล้เคียงในช่วงเผาห้างแน่นอน ทหารน่าจะถอนกำลังออกมาจากห้างแล้ว แต่รปภ.ในห้างยังอยู่ ตามที่พ.ต.ท.ชุมพล ให้การว่า รปภ.และทีมของเขาออกจากห้างเมื่อเวลา 16.40 น. และหลังจากนั้นสักชั่วโมงกว่า ๆ ห้างถึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้น

-----------------

ผมสรุปให้ง่ายต่อความเข้าใจก็คือ ทหารได้ถอนกำลังออกจากราชประสงค์ ตามคำสั่ง ศอฉ. จึงทำให้เกิดช่องโหว่ที่พวกชายแต่งกายคล้ายทหารเข้ามาเผาห้าง 

และพอห้างโดนเผาไปได้สักพักนึงแล้ว ทหารถึงได้กลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง

ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านได้ดูตามคลิปต่างๆ ในช่วงห้างโดนเผาใหม่ เราจะเห็นมีฝูงชนเสื้อแดงที่ถอดเสื้อแดงออกแล้ว เฮฮาที่ห้างโดนเผา แต่ไม่มีทหารอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเลย การเผาห้างเกิดไปแล้ว ทหารจึงเข้ามาในพื้นที่หลังพวกเสื้อแดงทั้งสิ้น


คลิปกลุ่มฟายแดงดีใจ ห้างโดนเผา



หมายเหตุ เสื้อแดงได้ถอดเสื้อแดงออก ตามคำสั่งแกนนำก่อนหน้าการเข้ากระชับพื้นที่ของทหารได้ไม่กี่วัน

สุดท้ายฝากโอ๊คว่า ถ้าทหารเผาห้าง แน่จริงก็อย่ามีกฎหมายนิรโทษกรรมสิ เอาคนผิดมาลงโทษให้หมด มันตลกมาก ถ้าทหารเผา แต่เสื้อแดงอยากนิรโทษกรรมให้คนเผา !!

-----------------

ความเห็นผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงท่านหนึ่ง




-------------------

ก่อนจบ ผมอยากจะตัดลำดับเหตุการณ์จากมติชน วันที่ 19 พ.ค.53 ในตอนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ชายชุดดำที่ทำการเผาและทุบกระจก เป็นพวกเดียวกับกลุ่มนปช. ดังนี้

เมื่อเวลา 07:39 น. เจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน คลองเตย แจ้งว่า มีกลุ่มชายชุดดำพยายามเผาโดยทุบกระจก และใช้น้ำมันเทเข้าไป ประชาชนได้เข้าไปห้าม แม้มีผู้สื่อข่าวสังเกตการณ์อยู่ และยกกล้องขึ้นบันทึกภาพ ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. เข้ามาสกัดไม่ให้ถ่ายภาพ และให้หลีกออกไปจากพื้นที่

คลิกอ่านข่าวมติชนลำดับเหตุการณ์วันที่ 19 พ.ค. ที่นี่

คลิกอ่าน ตอบโอ๊ค ใครสั่งฆ่า 98ศพ

คลิกอ่าน ยกฟ้องคนเผา แต่คนสั่งเผาชัดเจนยังลอยนวล

คลิกอาน ทำไมต้องฆ่าเสธแดง

2 ความคิดเห็น:

  1. เพราะความหน้าด้านของคนเดียว ทำให้ประเทศเกือบจะหาความจริงไม่ได้เลย มีแต่ความโกหกตอแหล่เข้าหากัน
    ทำสิ่งทีผิดให้เป็นถูก ทำสิ่งที่ถูกให้เป็นผิดได้เพราะน้ำเงินตัวเดียวที่ทำให้พวกมันหน้าด้าหน้าทน หวังจะชนะเพียงอย่างเดียว ประเทศชาติล่มจมชั่งมัน เงินซ์้อคนมาเป็นควายก็ได้กินบ้านกินเมืองทุกวันนี้ ควายกินเครื่องเทศกันแล้วจ้ะปัจจุบันนี้

    ตอบลบ
  2. อ่านไม่รู้เรื่องเลย ข้อความดีๆแบบนี้ช่วยเอาลายพื้นออกหน่อยค่ะ เสียอารมณ์มาก

    ตอบลบ