วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ร่วมใจปกป้องในหลวง เป็นพลังสามัคคี คือพลังแผ่นดิน








ณะที่ผมเขียนบทความนี้ คณะแพทย์ได้ถวายคำแนะนำให้ในหลวงทรงงดเสด็จออกมหาสมาคม 5 ธ.ค. เพราะพระวรกายยังไม่พร้อม

ก็คงทำให้ประชาชนชาวไทยต้องผิดหวังที่จะได้เข้าเฝ้าและเฝ้ารอชมการถ่ายทอดสดทางทีวีไม่น้อย แต่ก็เราต้องยอมรับว่า ช่วงนี้ในหลวงทรงยังไม่แข็งแรงพอ

แต่ไม่เป็นไร ความจงรักภักดีของพวกเราสามารถส่งไปถึงในหลวงได้อยู่แล้ว


เมื่อพูดถึงพระราชกรณียกิจของในหลวง  2 วันก่อนผมดูสารคดีเรื่องการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรเมือง 40-50 ปีที่แล้ว

ในถิ่นทุรกันดารสมัยก่อน ถนนก็คือลูกรังบ้าง ถนนทางเกวียนบ้าง เดินทางยากลำบากมาก ๆ

แล้วขอให้คุณผู้อ่านลองนึกภาพตามนะครับ สมัยก่อนถนนหนทางไม่ดีเลย แถมรถพระที่นั่งเมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว ไม่มีเครื่องปรับอากาศ เวลาเสด็จก็ต้องเปิดหน้าต่างกระจกรถตลอดเวลา

ถ้าบางทีไปเจอถนนที่ฝุ่นมาก ๆ ก็ต้องปิดกระจกรถลง เพราะไม่งั้นฝุ่นก็เข้ามาฟุ้งในรถ

พอปิดกระจก อากาศภายในรถก็ต้องร้อนมากขึ้นเท่าตัว ดังนั้นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนถิ่นทุรกันดารในสมัยก่อน ช่างลำบากเหลือเกิน

อย่าง สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ก็ทรงแต่งฉลองพระองค์ที่สวยงาม ก็เพื่อจะให้ราษฎรได้ชื่นชม ได้เห็นพระองค์ พระองค์ก็ทรงต้องอดทนร้อนเพื่อไม่ให้ฉลองพระองค์ต้องสกปรก เพราะราษฎรที่อยากจะเข้าเฝ้า ก็อยากเห็นพระสิริโฉมที่สวยงามของสมเด็จฯพระราชินีนาถ พระองค์ทรงไม่อยากให้ราษฎรต้องผิดหวัง

นี่คือความยากลำบากของการเดินทางในอดีตเมื่อร่วม ๆ 50 ปีที่แล้ว

ถ้าเป็นพวกเราในยุคนี้ ขนาดเดินทางบนถนนอย่างดี มีแอร์คอนดิชันในรถอย่างดี การเดินทางไกล ๆ เรายังเหนื่อยล้าเลยใช่ไหมครับ

แล้วทั้งสองพระองค์ล่ะ ทรงลำบากเดินทางไปเยี่ยมราษฏรในถิ่นทุรกันดารนั้น พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์เหลือเกิน

แค่เพียงในหลวง พระราชินีนาถ เสด็จไปให้ราษฎรเห็นก็ทำให้ราษฎรในสมัยนั้นชื่นใจเป็นที่สุด ที่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินอุตส่าห์ลำบากตรากตรำพระวรกายเดินทางเข้าไปถึงหมู่บ้านของพวกเขาจนได้ แต่ทั้งสองพระองค์ไม่เคยทรงบ่น หรือทรงท้อเลยแม้แต่น้อย 

ราษฎรในสมัยนั้นต่างซาบซึ้ง ดีใจเป็นที่สุดในพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ ที่เสด็จไปเยี่ยมราษฎร ทั้ง ๆ ที่ในยุคที่ภัยคอมมิวนิสต์ยังครุกรุ่นอยู่ ทั้งสองพระองค์ก็ยังไม่ทรงกลัวภยันอันตราย ก็ยังเสด็จไปเยี่ยมราษฎรแบบไม่ห่วงความปลอดภัยของพระองค์เองเลย









แล้วเรื่องห้องน้ำห้องท่า อาหารการกินเวลาไปอยู่ในถิ่นทุรกันดารอีกล่ะ แค่พวกเราคิดเรายังแทบไม่อยากไปลำบากแบบนั้นกันเลย แต่ในหลวงทรงเสด็จไปมาแล้วทั่วประเทศนี้

ยิ่งตอนที่ในหลวงเสด็จไปเยี่ยมบางหมู่บ้านทางอีสาน ที่คนเกือบทั้งหมู่บ้านเป็นโรคเรื้อน ถามว่า ถ้าเป็นพวกเราในสมัยนั้นแค่ได้ยินว่าโรคเรื้อน คุณจะกล้าไปย่างกรายแถวนั้นหรือไม่ ?


แต่ ศจ.รพี สาคริต ได้เคยเล่าว่า "ในหลวงทรงดื่มน้ำที่มาจากแหล่งเดียวกับที่ชาวบ้านที่เป็นโรคเรื้อนดื่ม โดยไม่ทรงนึกหวาดกลัวอะไร"

ซึ่งต่อมาในหลวงจึงทรงตั้งมลนิธิราชประชาสมาสัย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน และยังทรงสร้างโรงเรียนราชประชาสมาสัย สำหรับบุตรหลานของผู้ป่วยโรคเรื้อน เพราะในสมัยนั้นผู้คนต่างรังเกียจลูกหลานของผู้ป่วยโรคเรื้อน ไม่ยอมให้ลูกหลานของผู้ป่วยไปเรียนในโรงเรียนเดียวกับลูกหลานของพวกเขา

และพระราชดำรัสในพิธีทรงเปิดโรงเรียนราชประชาสมาสัย เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ มีความตามลำดับ ดังนี้

"…เด็กเหล่านี้มีสิทธิที่จะเล่าเรียนเช่นเด็กอื่น เพราะขณะนั้นกระทรวงสาธารณสุขไม่ส่งเด็กที่ยังมิได้ป่วยให้เข้าเรียนในโรงเรียนในนิคม หรือในโรงพยาบาลโรคเรื้อน เนื่องจากเกรงว่าจะติดโรค และกระทรวงศึกษาธิอการก็ยังไม่ยอมรับบุตรผู้ป่วยโรคเรื้อนเข้าเรียนในโรงเรียนกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากเกรงว่าจะไปแพร่เชื้อโรคเรื้อนแก่เด็กผู้อื่น ขณะนี้กรมประชาสงเคราะห์ของกระทรวงมหาดไทยมีโรงเรียนสำหรับเด็กที่ไม่มีผู้อุปการะแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรับเด็กเหล่านี้ได้เพราะเป็นเด็กผู้มีบิดามารดา…"

"…การที่ดำริสร้างสถานศึกษานี้ขึ้น ก็เพื่อจะได้ช่วยเหลือเด็กผู้พลอยประสบเคราะห์กรรมให้มีสถานที่เล่าเรียน ซึ่งโดยธรรมชาติควรมี่สิทธิที่จะกระทำสิ่งใดได้เช่นผู้อื่น การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่โชคชะตาบันดาลให้ต้องเกิดมาในภาวะเช่นนี้ย่อมเป็นกุศลและเป็นการช่วยเหลือประเทศชาติ เพราะเด็กเช่นว่านี้เมื่อได้รับการศึกษา อบรมด้วยดีเติบโตขึ้นก็จะเป็นพลเมืองที่ดีเป็นประโยชน์แก่ตนเองและชาติบ้านเมืองในอนาคต…"




คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!



--------------

พอดีผมเห็นรูปที่มีคนโพสบนเฟสบุ๊คดี ๆ หลายรูป ในช่วงนี้ เลยขอนำมาให้คุณผู้อ่านได้ดูด้วยกันครับ















คุณผุ้อ่านครับ ถ้าคนไทยเราแตกแยก แตกความสามัคคีกันแล้ว ใครได้ประโยชน์ที่สุด ?

ทำไมคนไทยชั่ว ๆ บางคน ที่ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้ชาติบ้านเมือง วัน ๆ พวกชั่วมันก็เอาแต่กุเรื่องเพื่อให้คนไทยแตกความสามัคคี เพราะพวกนี้มันหวังเปลี่ยนระบอบประเทศให้เป็นสาธารณรัฐ แต่ก็ยังมีคนโง่ ๆ หลงเชื่อพวกกุเรื่องเหล่านี้

คุณผู้อ่านคิดเอาเถิดครับว่าจะมีใครรักคนไทย รักประชาชนไทยจริง และเสียสละเพื่อคนไทยเท่ากับในหลวงของเรานั้น ไม่มีอีกแล้ว

ถ้าเราลองศึกษางานที่ในหลวงทรงค้นคว้า หรือทรงสนับสนุนให้หน่วยงานของพระองค์ทรงค้นคว้าทดลองวิจัยแล้ว เราจะรู้ว่า ในหลวงทรงทำเพื่อคนไทยทุกคนอย่างจริงใจ

ฉะนั้น ขอให้คนไทยรักในหลวง รู้รักสามัคคี ประเทศไทยจะเจริญมากกว่านี้แน่นอน


คลิกอ่าน ทำไมในหลวงต้องทรงเหนื่อยมานาน

คลิกอ่าน คนไทยอย่าเป็นลูกที่ดื้อของในหลวง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น