วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

เหตุผลและทำไมต้องต่อต้านวิธีการเลือกตั้งรูปแบบเดิม







(ยอดไลค์เดิม 511 ไลค์ แต่ระบบไลค์เดิมหายไป)

เกริ่น

ตอนเด็ก ๆ ผมเคยคิดว่า ระบอบประชาธิปไตยคือระบอบที่ดีที่สุดในโลก แต่พอได้ศึกษาและสะสมประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น ๆ ผมถึงได้พบคำตอบว่า ระบอบประชาธิปไตยก็แค่เป็นระบอบที่เลวน้อยที่สุดในโลก แต่ระบอบคอมมิวนิสต์ต่างหากที่คือระบอบที่ดีที่สุดในโลก แต่ !!

แต่ระบอบคอมมิวนิสต์ จะเป็นระบอบที่ดีที่สุดเฉพาะในโลกยุคพระศรีอาริยเมตไตรยเท่านั้น เพราะแนวคิดคอมมิวนิสต์ที่บริสุทธิ์จริง ๆ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริงในโลกที่มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนเห็นแก่ตัว

ใครไม่เข้าใจที่ผมอธิบาย ก็ไม่ต้องคิดมาก อ่านไว้แค่ประดับความรู้ก็พอ

----------------------

ถามว่า เห็นด้วยกับการขัดขวางการเลือกตั้ง ของ กปปส. หรือไม่ ?

ผมขอตอบว่า ความจริงผมไม่ค่อยเห็นด้วยที่แนวร่วม กปปส. บางกลุ่ม ไปขัดขวางผู้ที่กระสันอยากจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมา เพราะมันจะทำให้พวกที่ด้อยปัญญายึดติดในกรอบเดิมจะตีความไปว่า กปปส. ไปละเมิดสิทธิของพวกเขาได้

ก็เพราะคนพวกนี้ล้วนยึดติดกับคำว่า การเลือกตั้ง ก็คือ ประชาธิปไตย ซึ่งความจริงมันถูกแค่เพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น

ตรงเรื่องนี้ อยากให้ไปอ่านที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้อธิบายคำว่า การเลือกตั้ง คืออะไร ? ตามลิงค์ข้างล่างนี้

คลิกอ่าน ประโยคเด็ดของศาลรัฐธรรมนูญ

แม้ผมจะไม่เห็นด้วยการไปขัดขวางการเลือกตั้งล่วงหน้า หรือขัดขวางการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ของ กปปส.

แต่ผมก็เข้าใจเหตุผลของ กปปส. ว่า ทำไมพวกเขาถึงต้องทำอย่างนั้น

สาเหตุเพราะ การเลือกตั้งมันไม่สามารถจัดให้เกิดขึ้นในวันเดียวได้ เพราะรับสมัคร สส. ยังไม่ครบทุกเขตทั่วประเทศ โดยเฉพาะในหลายเขตทางภาคใต้

การคัดค้านและขัดขวางการเลือกตั้งของ กปปส. จึงเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งที่ต้องเป็นโมฆะ จัดเลือกตั้งไปก็เสียเงินค่าเลือกตั้งไปเปล่า ๆ 

เมื่อขัดขวางการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ กปปส.ขัดขวางการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ จึงเสมือนไม่ได้ขัดขวางการเลือกตั้ง

และแนะนำให้อ่าน ปรัชญาประชาธิปไตย เมื่อประชาธิปไตยไม่เท่ากับ การเลือกตั้ง

--------------------------

เพราะทักษิณ ทำให้ผมเข้าใจคำว่า การเลือกตั้งไทย คือ อะไร ?

เมื่อปี 2549 กลุ่มพธม.ออกมาไล่ทักษิณให้ลาออก จากกรณีขายหุ้นชินคอร์ป แล้วเลี่ยงภาษี

แต่ทักษิณกลับเลือกยุบสภาแทน เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ สาเหตุเพราะ ทักษิณรู้ว่า การเลือกตั้งไทยมันอยู่บนพื้นฐานของคนไทยที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าเห็นแก่ประเทศชาติ

ทักษิณรู้ดีว่า คนไทยเป็นประเภท อย่ามาถามว่าเราจะทำอะไรตอบแทนคุณชาติ แต่ควรถามว่า ชาติต่างหากที่จะให้อะไรฟรี ๆ แก่เราได้กอบโกยตักตวงบ้าง

ในช่วงที่ทักษิณยุบสภาไปแล้ว ทักษิณเคยปราศัยแก่ประชาชนที่สนับสนุนเขาว่า

"ถ้าพี่น้องคิดว่าที่ผ่านมาผมทำผิด เลือกตั้งคราวนี้พี่น้องก็ไม่ต้องเลือกผม"

นั่นเพราะ ทักษิณมีเจตนาใช้การเลือกตั้งเพื่อฟอกความผิดตัวเอง เขาไม่สนใจกระบวนการตรวจสอบในสภาของฝ่ายค้าน ที่อยากจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจในกรณีขายหุ้นชิน แต่เพราะรัฐธรรมนูญในตอนนั้น กำหนดให้ฝ่ายค้านต้องมีเสียง 2 ใน 5 ของสภาถึงจะยื่นขออภิปรายไว้วางใจได้ แต่ตอนนั้นฝ่ายค้านมีเสียงไม่พอ ก็เลยทำได้เพียง ยื่นซักถามกรณีขายหุ้นชิน เท่านั้น

แต่ทักษิณก็ไม่ยอมให้สภาได้ซักถามและตรวจสอบเรื่องนี้ ทักษิณเลือกยุบสภาหนีการซักถาม เพราะรู้อยูแล้วว่า ถ้าให้ฝ่ายค้านซักถาม ทักษิณต้องจนมุมในเรื่องข้อกฎหมายแน่ ๆ

ถามว่า จะมีคนไทยในตอนนั้นสักกี่คน รู้เรื่องหุ้น รู้เรื่องกฎเกณฑ์ขายหุ้น และรู้ว่าทักษิณมันเลี่ยงภาษีหุ้นอย่างไร ?

แน่นอนคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีทางรู้ทันความชั่วเรื่องนี้ของทักษิณแน่ ๆ และถ้ามีการเลือกตั้ง ทักษิณมันย่อมชนะการเลือกตั้งแน่นอน และมันก็จะอ้างว่า "นี่ไงผมไม่ผิด เพราะประชาชนเชื่อใจผมว่าผมไม่ได้ทำผิด"

การเลือกตั้งของทักษิณ ก็คือ การฟอกตัวเองด้วยอาศัยเสียงของประชาชนที่ไม่รู้เท่าทัน ช่วยฟอกทักษิณให้กลับมาชอบธรรมอีกครั้ง

ส่วนถ้าใครสนใจเรื่องนี้ ผมแนะนำให้อ่านเรื่อง การโกงระดับพื้นฐานของทักษิณ กรณีหุ้นชิน คลิก !!

(ผมเองเลือกไทยรักไทยของทักษิณ 2 ครั้ง และเปลี่ยนมาต่อต้านทักษิณก็เพราะเรื่องหุ้นชิน นี่แหละครับ)

-----------------------

เหตุผลและทำไม กปปส. ถึงต้องขัดขวางการเลือกตั้ง

พวกที่อยากไปเลือกตั้ง ก็จะโกรธ กปปส. ว่า ไม่เคารพสิทธิของพวกเขา แต่ความจริงแล้ว กปปส. ไม่ใช่ไม่เคารพสิทธิของประชาชนที่อยากจะไปเลือกตั้ง

แต่ กปปส. ไม่เคารพสิทธิที่ไร้ความชอบธรรมของรักษาการนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ต่างหากครับ

งงล่ะสิ พวกกระสันอยากเลือกตั้ง เอ้า จะเฉลยให้หายโง่นะ

พระราชกฤษฎีกายุบสภา 2556 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.57 ในมาตรา 5 ได้กำหนดว่า ให้นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

นั่นแปลว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ในอำนาจการจัดการของนายกรัฐมนตรีและประธานกกต.

แต่ กปปส. เขาถือว่า ยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมที่จะอยู่รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปแล้ว

จากสาเหตุที่พรรคเพื่อไทย ได้ออกกฏหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งเพื่อช่วยทักษิณ เพื่อหวังจะคืนเงินให้ทักษิณ

อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา สว. ที่มีการกระทำขัดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน เป็นต้น

แถมต่อมาสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ออกมาแถลงไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล รธน. ก็เท่ากับ รัฐบาลเพื่อไทยได้เป็นกบฏรัฐธรรมนูญไปแล้ว

แต่ที่น่าเกลียดก็คือ ยิ่งลักษณ์ทูลเกล้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดรัฐธรรมนูญให้ในหลวง ถือเป็นการกระทำระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

และเรื่องสำคัญเรื่องสุดท้ายคือ การแก้ไขมาตรา 190 ลดทอนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อเพิ่มอำนาจบริหารให้รัฐบาล และลดอำนาจและการรับรู้ของประชาชนลง

รายละเอียดเรื่องนี้แนะนำ คลิกอ่าน เหตุผลที่ยิ่งลักษณ์ยุบสภาก็ยังไม่พอกับความผิด


ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้ยิ่งลักษณ์และ ครม.รักษาการ หมดความชอบธรรมแล้ว กลายเป็นรัฐบาลกบฏรัฐธรรมนูญไปแล้ว

เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณฺ์เป็นรัฐบาลกบฏ ก็ไม่สมควรมีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน

ฉะนั้น การเลือกตั้งที่อยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของรัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์ จึงต้องหมดความชอบธรรมไปด้วย

ผมจึงอยากจะบอก ผู้ที่อยากไปเลือกตั้งว่า กปปส.เขาต่อต้านทุกเรื่องที่รัฐบาลกบฏบริหารจัดการ กปปส. ถึงต้องไปขัดขวางการเลือกตั้งภายใต้การปกครองของรัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์

กปปส. ไม่ได้มีเจตนาจะไม่เคารพสิทธิของพวกท่าน แต่พวกเขากำลังกระทำการปฏิวัติรัฐประหารด้วยมวลมหาประชาชนต่อรัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์ครับ ก็ด้วยการอารยะขัดขืนทุกเรื่องที่รัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์ได้สั่งการ หรือต้องการให้เกิดขึ้นทุกเรื่อง

ฉะนั้น พวกที่ไม่ชอบ กปปส. จงอย่ามาอ้างเรื่องกฎหมาย อย่ามาอ้างเรื่องความชอบธรรมกับ กปปส. ในยุคที่ยังมีรัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์ยังมีอำนาจปกครองประเทศนี้อยู่ครับ

เพราะความต้องการล้มรัฐบาลชั่วกบฏยิ่งลักษณของ กปปส. นั้น ทำให้ กปปส. จึงต้องฝ่าฝืนกฎหมายทุกอย่างที่รัฐบาลกบฏชั่วยิ่งลักษณ์ได้ประกาศใช้ หรืออ้างมาบังคับใช้ครับ

บริบทของ กปปส. ไม่ใช่มาเถียงกับพวกที่อยากเลือกตั้งว่า อยากเลือกตั้งหรือไม่อยากเลือกตั้ง

แต่บริบทหรือจุดยืนของ กปปส. คือ ยิ่งลักษณ์ต้องลาออก !!

เพราะทุกสิ่งที่ยิ่งลักษณ์จัดการทั้งหมด คือความไม่ชอบธรรม

----------------------------------

เพราะการเลือกตั้งทั่วไทยไม่สามารถลงโทษพรรคการเมืองได้เหมือนการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ

หากคุณสังเกตการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ จะเห็นเลยว่า คนกรุงเทพฯ จะไม่ยึดติดพรรคการเมืองใด ๆ ไปตลอด

เมื่อใดที่พรรคการเมืองนั้น ๆ บริหารผิดพลาด หรือไปทำเรื่องที่ไม่ชอบธรรม คนกรุงเทพฯ ก็พร้อมจะสั่งสอนพรรคการเมืองนั้น ๆ ด้วยการเลือกตั้ง 

ตัวอย่างเช่น พรรคประชากรไทยของนายสมัคร สุนทรเวช แทบสูญพันธุ์ เพราะนายสมัคร เข้าข้างพลเอกสุจินดา คราประยูร

หรือตอนที่พรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาเรื่อง สปก.4-01  คนกรุงเทพก็เคยสั่งสอนพรรคประชาธิปัตย์ด้วยการไปเลือกพรรคไทยรักไทยแทน

และเมื่อทักษิณมีปัญหาเรื่องคอรัปชั่น คนกรุงเทพก็สั่งสอนพรรคของทักษิณด้วยการไม่เลือกพรรคของทักษิณ เป็นต้น

แต่การเลือกตั้งในต่างจังหวัดนั้น ไม่อาจตอบโจทย์ในการสั่งสอนนักการเมืองไทยได้ (จริงหรือไม่?)

นั่นเพราะระบบอุปถัมภ์ ระบบผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ยังมีบทบาทควบคุมการลงคะแนนเสียงของคนต่างจังหวัดได้ (จริงหรือไม่?)

ต่อมาทักษิณก็ใช้ประชานิยมมาทำให้คนต่างจังหวัดหลงใหล หรือตัวอย่างล่าสุดเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของเพื่อไทย หรือเรื่องค่าแรง 300 บาท ที่คนที่รู้ทันระบอบทักษิณ จะอ่านขาดว่า นี่คือนโยบายทำลายเศรษฐกิจประเทศไทย

แต่คนต่างจังหวัดพวกเขาอาจไม่รู้ หรือรู้แต่ก็ไม่สน นั่นเพราะพวกเขาสนแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่นักการเมืองโกงแต่แบ่งให้เท่านั้น (จริงหรือไม่?)

ดังนั้นการเลือกตั้งส่วนใหญ่ในประเทศไทย จึงไม่อาจตอบโจทย์ในการสั่งสอนนักการเมืองที่บริหารนโยบายผิดพลาดได้ (จริงไหมครับ?)


(แนะนำอ่านที่ผมด่าแบบสะใจ เรื่อง แค่หนี้ชาวนายังไม่มีปัญญาจ่าย แต่สะเออะจะทำรถไฟความเร็วสูง คลิก)


------------------------

เพราะคะแนนโหวตโนยังไม่สามารถสกัดหรือหยุดนักการเมืองชั่วได้จริง

มีคนบอกว่า ถ้าไม่อยากเลือกตั้ง หรือไม่ชอบพรรคการเมืองไหน ก็ให้ไปโหวตโนก็ได้นี่

คนที่บอกแบบนี้ แสดงว่า เขาไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายเลือกตั้งดีพอว่า คะแนนโหวตโน ในกฎหมายปัจจุบันนี้ ไม่อาจสกัดนักการเมืองชั่วได้จริง

เช่น ถ้าเขตเลือกตั้งนั้น ๆ มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครตั้งแต่ 2 พรรคขึ้นไป แม้คะแนนโหวตโนจะชนะก็ตาม แต่ก็จะไม่มีผลในการสกัดผู้สมัครในเขตนั้น ๆ เลย

สุดท้าย ผู้สมัครที่แพ้คะแนนโหวตโนก็ยังได้เป็น สส. อยู่ดีครับ

เช่น ถ้าพรรคเพื่อไทยส่งลูกชายเฉลิม อยู่บำรุง ลงเลือกตั้งในเขตบางบอน แต่ในเขตนี้ก็มีพรรคอื่น ๆ ส่งผู้สมัครลงด้วย

สมมุติ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตบางบอนส่วนใหญ่ไม่ชอบลูกของเฉลิม ก็เลยแห่ไปโหวตโนจนชนะคะแนนของลูกเฉลิม ส่วนลูกเฉลิมได้คะแนนมาเป็นที่ 2  แต่สุดท้ายลูกของเฉลิมก็ยังได้เป็น สส. อยู่ดีครับ

นี่แหละครับ เราถึงต้องมาปฏิรูปการเลือกตั้งใหม่ ให้คะแนนโหวตโนของประชาชนมีอำนาจมากพอ มีผลมากพอในการสกัดนักการเมืองที่ประชาชนไม่ยอมรับ ครับ

เช่น ถ้าผู้สมัครในเขตใดก็ตามแพ้คะแนนโหวตโน พรรคการเมืองทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครลงในเขตนั้น ๆ ต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัครใหม่ทันที ในการเลือกตั้งใหม่อีกรอบ

และถ้าคะแนนโหวตโนยังชนะคะแนนของผู้สมัครทุกคนในเขตนั้น ๆ อีก ก็ต้องห้ามพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครในเขตนั้น ๆ ส่งผู้สมัครลงในการเลือกตั้งเขตนั้นอีก ในการเลือกตั้งใหม่อีกรอบ

แล้วอนุญาตให้ผู้ที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ๆ เลย มีสิทธิสมัครลงเลือกตั้ง สส. ในเขตนั้น ๆ ได้ เป็นต้น

(ที่จริงผมอยากอนุญาตให้มี สส.ที่ไม่สังกัดพรรคด้วย แต่ประเด็นนี้ยังต้องพูดอีกยาว)

----------------------

บทความนี้แม้จะยาวสักหน่อย แต่ผมเชื่อว่า ถ้าคุณได้อ่าน หรือส่งต่อให้ใครก็ตามที่ได้อ่าน ทุกคนที่ได้อ่านก็จะเข้าใจมากขึ้นว่า

ทำไมการเลือกตั้งไทยในวันนี้ ยังไม่สามารถตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาคอรัปชั่นของประเทศไทยได้ครับ

-------------------

คำถามที่ว่า มวลมหาประชาชนคือเสียงส่วนใหญ่ใช่หรือไม่ ?

ขอตอบว่า แล้วคณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ใช่เสียงส่วนใหญ่หรือไม่ ?

แน่นอนครับ กปปส. คงไม่อาจอ้างได้ว่า การกระทำของพวกเขาคือเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ก็เหมือนกับตอนที่ประชาชนฟิลิปปินส์ในกรุงมนิลาต้องการล้มประธานาธิบดีเฟอร์ดินัน มากอส ลง พวกเขาก็ไม่อาจอ้างว่า พวกเขาคือเสียงส่วนใหญ่ เช่นกัน

เหตุเพราะปธน.มากอส เขามีเสียงของคนชนบทสนับสนุนเขามาก แต่สุดท้ายวันนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การที่ประชาชนฟิลิปปินส์ในกรุงมนิลาได้ล้มมากอสลงนั้น ได้ทำให้ประเทศฟิลิปปินส์มีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยมา

ยุค 14 ตุลา มีนักศึกษาเป็นมวลชนผู้นำสังคมไทยในการล้มเผด็จการทหาร มีเผาสถานที่ราชการหลายแห่ง แต่ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น "วีรชน 14 ตุลา"

ยุคพฤษภาทมิฬ หรือที่เรียกว่า ม็อบมือถือ เพราะยุคนั้นผู้ชุมนุมเริ่มมีมือถือใช้ และต้องเป็นคนที่มีฐานะดีพอควร เพราะมือถือยุคนั้นแพงมาก เป็นกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไปในกรุงเทพ ร่วมชี้นำสังคมไทย แต่ก็มีการเผาสถานที่ราชการหลายแห่งเช่นกัน และก็ได้รับการยกย่องว่าเป็น "วีรชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ"

แต่ในวันนี้ กปปส. กระทำอารยะขัดขืนต่อรัฐบาลกบฏยิ่งลักษณ์ และไม่ต้องการเผาสถานที่ราชการ หรือสถานที่ของเอกชนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะเอาชนะนักการเมืองชั่ว ด้วยพลังของมวลมหาประชาชนครับ


คลิกอ่าน ประชานิยมทักษิณ กับ แชร์ลูกโซ่

คลิกอ่าน ทำไมต้องกำจัดระบอบทักษิณ ก่อนการเลือกตั้ง

คลิกอ่าน ทักษิณ กับ ปตท. สันดานเดียวกัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น