วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

ทำใจหากไม่ได้ดูฟุตบอลโลกฟรีครบทุกแมทช์ เพราะไอ้เหลี่ยม ?






อธิบายแบบง่าย ๆ นะ คือ อาร์เอส ของเฮียฮ้อแกซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกที่บราซิลมาตั้งแต่ปี 2548 แล้วล่ะ

ตามสันดานพ่อค้า ซื้อของมาก็ต้องเอามาทำกำไร

แต่อาร์เอสก็จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้คนไทยได้ดูฟรีบ้างแบบบริจาคตามอัตภาพ ผ่านช่องฟรีทีวีสัก 22 แมทช์ (จากทั้งหมด 64 แมทช์)

ส่วนที่เหลืออีก 42 แมทซ์ ใครอยากดูก็ต้องไปซื้อกล่องลิขสิทธิ์ของอาร์เอสเอาเอง

---------------

แต่ต่อมา กสทช. ได้ประกาศห้ามอาร์เอสกระทำอย่างนั้น โดยสั่งให้อาร์เอสต้องถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2014 ผ่านฟรีทีวีให้คนไทยได้ดูครบทุกแมทช์ โดยใช้กฎหมายมาบังคับพร้อมด้วยเหตุผลเรื่อง กีฬาของมวลมนุษยชาติสำคัญระดับโลกเช่น ฟุตบอลโลก โอลิมปิค เอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ ต้องให้คนไทยได้ดูฟรีเท่านั้น

แต่อาร์เอสร้องต่อศาลว่า เขาได้ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก2014 มาตั้งแต่ปี 2548 แต่ กสทช. กลับใช้กฎหมายที่เพิ่งออกเมื่อปี 2553 กับปี 2555 มาบังคับใช้กับ RS นั้น ถือว่าไม่ชอบธรรม เพราะเป็นการบังคับใช้กฎหมายย้อนหลัง

ซึ่งปรากฏว่า มีแนวโน้มว่าอาร์เอสจะชนะคดีนี้ครับ ซึ่งศาลจะนัดฟังคำตัดสินในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

---------------------

ใครผิด ?

ถ้าคนไทยที่เคยตามดูฟุตบอลโลกครบทุกแมทช์ หรือ เกือบครบทุกแมทช์ผ่านฟรีทีวี ในฟุตบอลโลกครั้งก่อน ๆ ก็คงเสียความรู้สึกไปบ้าง

แต่ทำไงได้ล่ะ ก็อาร์เอสเขาซื้อลิขสิทธิ์มา เขาก็ต้องหวังทำกำไร เพราะอาร์เอสเชาไม่ใช่องค์กรการกุศลนี่นา

ผมเองถ้าอยากจะโทษ ก็ต้องโทษโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจและรัฐบาลไทยในช่วงปี 2547-2548  เพราะ กสทช. กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ ก็เมื่อไม่นานนี่เอง เลยมาไม่ทันการ

คือถ้ารัฐบาลไทยผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ช่วยกันซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาเสียตั้งแต่แรก โดยขอความร่วมมือกับบริษัทเอกชนในเวลานั้นว่า กรุณาอย่ามาประมูลซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกแข่งกับโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพื่อช่วยคนไทยให้ได้ดูฟุตบอลโลกฟรีครบทุกแมทช์เหมือนเดิม

ผมมั่นใจวา ถ้ารัฐบาลไทยในตอนนั้นร้องขอไปดังกล่าว บริษัทเอกชนเช่นอาร์เอสหรือจะบริษัทอื่น ๆ ก็คงให้ความร่วมมือด้วยดี

แต่เผอิญรัฐบาลไทยในช่วงปี 2547-2548 มันสันดานพ่อค้านายทุนเหมือนกัน มันย่อมเห็นแก่ผลประโยชน์ทับซ้อนในภายภาคหน้าเรื่องลิขสิทธิ์กีฬามาทำกำไรกับคนไทย มันเลยละเลยไม่อยากสนใจในเรื่องนี้ (เช่น CTH เจ้าของลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกแพงที่สุดในโลก เขาว่าคือ มีหุ้นส่วนนอมินีของไอ้หน้าเหลี่ยม)

เราคงจะโทษอาร์เอสว่าหน้าเงินไปทั้งหมดก็คงไม่ได้ แม้ตอนที่แกรมมี่ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรฟรีครบทุกแมทช์ผ่านฟรีทีวีเสาหนวดกุ้ง แต่จะจอดำกับจานดาวเทียมที่ไม่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ จนอาร์เอสออกมาเอาหน้าร่วมผสมโรงโจมตีแกรมมี่ก็ตาม

คงต้องทำใจครับ ต้องทำใจ

โลกแห่งทุนนิยมเสรี มันก็แบบนี้แหละ ที่ไหน ๆ ในโลก เขาก็ไม่ได้ดูฟุตบอลโลกฟรีครบทุกแมทช์สักกี่ประเทศหรอก คนส่วนใหญ่ในประเทศอื่น ๆ ก็ต้องเสียเงินซื้อดูทั้งนั้น

แฟนฟุตบอลโลกแบบฟรีทุกแมทช์อย่างคนไทยจน ๆ เช่นผม  คงได้แต่ทำใจยอมรับว่า มันต้องอดดูบ้างถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อ

-----------------------

ทางออกล่ะ มีไหม ?

ผมว่ามีครับ ถ้ารัฐบาลจะช่วยคนไทยผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ แล้วไปร่วมมือกับบริษัทช้าง (สมมุตินะ) ร่วมกันขอซื้อลิขสิทธิ์ 42 แมทช์ที่ว่าจะไม่ได้ถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีจากอาร์เอสมา ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ดูซิ ที CTH เจ้าของลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษที่แพงที่สุดในโลก ยังใช้เส้นสายภายในทางการเมืองบีบให้ อสมท. ต้องซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกแมทช์ละ 2 ล้านบาท มาถ่ายทอดสดผ่านช่อง 9 ในบางนัดได้เลย

สมมุตินะสมมุติ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกน่าจะถูกกว่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ ถ้าอาร์เอสใจดียอมขายลิขสิทธิ์ 42 แมทช์ให้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจในราคาแมทช์ละ 2 ล้านบาทเท่ากัน (หรือถูกกว่านี้) ก็เป็นเงินทั้งหมดไม่เกิน 84 ล้านบาท เพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีแบบไม่มีโฆษณาคั่นได้เหมือนเดิม ก็คงดี

หรือไงเฮียฮ้อ ?? ดีไหม ??

---------

เฮียฮ้อฮ้อ "อั๊วจะขายกล่องดูฟุตบอลโลกอีกต่างหาก เรื่องไรจะมาให้คนไทยดูฟรี ๆ ง่าย ๆ ขายกล่องรวยกว่าเยอะ ฮ่าๆๆๆ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น