วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อาลัยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชในความทรงจำ







เรื่องแรก

ผมเคยมีโอกาสได้เห็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์จริงครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต เมื่อตอนผมไปงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่หลุยส์ จันทสาโร ที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน เมื่อ พ.ศ. 2532

ระหว่างที่กำลังรอ ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินมาร่วมพิธี ผมได้เห็นสมเด็จญาณสังวร พระสังฆราช ฯ ได้เสด็จมาถึงวัดพระศรีก่อน ด้วยรถเบนซ์พระที่นั่งสีเหลือง

เมื่อรถยนต์พระที่นั่งจอดท่ามกลางแดดยามบ่าย 4 โมงเย็น สมเด็จพระญาณสังวร ฯ เสด็จลงจากรถเบนซ์พระที่นั่งสีเหลือง แล้วเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระบาทเปล่า ๆ โดยไม่ทรงใส่รองพระบาทเลย

สมเด็จพระสังฆราชเสด็จพระราชดำเนินอย่างสำรวม แต่ยังดูแข็งแรง แลดูพระองค์มีความสงบสำรวมอยู่ตลอดเวลา

----------------------

เรื่อง 2

พ่อของผม เคารพนับถือและศรัทธาสมเด็จพระญาณสังวร ฯ มาก ๆ ตั้งแต่พระองค์ยังไม่ได้ทรงขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ฯ พระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ครั้งหนึ่ง พ่อของผมได้ไปวัดบวรนิเวศวิหาร ในงานพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลอย่างหนึ่ง ผมจำไม่ได้ว่า วัตถุมงคลนั้นคืออะไร

พ่อผมเล่าว่า ตอนแรกพ่อนั่งอยู่ด้านข้างโบสถ์ทางด้านซ้าย มองผ่านหน้าต่างพระอุโบสถเข้าไปเห็นสมเด็จพระญาณสังวร ทรงเป็นองค์ประธานสงฆ์ในการปลุกเสก  ประทับหันพระพักตร์ออกมาทางหน้าต่างพระอุโบสถ

แต่เมื่อพ่อผมลุกไปห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งอีกด้านหนึ่งของพระอุโบสถ พ่อผมก็เห็นสมเด็จพระญาณสังวร ฯ ประทับหันพระพักตร์มาทางด้านหน้าต่างด้านที่พ่อผมนั่งอีกเหมือนกัน

อีกสักพัก พ่อผมเปลี่ยนที่นั่งใหม่ ย้ายไปนั่งทางด้านหน้าประตูพระอุโบสถ พ่อผมก็เห็นว่า สมเด็จพระญาณสังวร ฯ ประทับหันพระพักตร์ออกมาทางด้านหน้าประตูพระอุโบสถอีกเช่นกัน

พอพ่อผมเห็นแบบนั้น พ่อผมขนลุกด้วยความปลื้มและศรัทธา จนเมื่อพ่อผมกลับมาถึงบ้านก็รีบมาเล่าให้ผมฟังว่า

สมเด็จพระญาณสังวร ฯ เหมือนพระวรกายของพระองค์ทรงหมุนไปรอบพระอุโบสถอย่างอัศจรรย์ ซึ่งพ่อผมเองก็ไม่แน่ใจว่า ได้เห็นปรากฏการณ์แปลกนี้เพียงคนเดียวหรือไม่

พ่อผมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังมานานกว่า 25 ปีแล้ว ผมยังจำเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำ

------------------------

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงละสังขารอันไม่เที่ยงลงแล้ว เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา ก่อนที่ผมจะเขียนบทความนี้

ผมขออาลัย แต่จะไม่ขอเสียใจ เพราะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือความอนิจจัง
(แต่ในใจผมพยายามจะไม่ร้องไห้น่ะ)

ผมขอมุทิตาจิตแก่พระองค์ ในความเชื่อส่วนตัว ผมเชื่อว่า พระองค์ทรงเสด็จสู่พระนิพพานแล้ว

หลวงตามหาบัว เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช




แต่พอผมดูรายงานข่าวของช่อง 9 อสมท. ได้เอ่ยว่า ขอส่งดวงพระวิญญาณสมเด็จพระสังฆราชสู่สวรรคาลัย

ผมฟังแล้ว อยากจะบอกว่า ไม่ควรกล่าวเช่นนี้เลย เพราะสวรรคาลัย ยังเป็นแค่สวรรค์ เป็นสถานที่ ๆ ยังต่ำไปสำหรับอริยะสงฆ์ และเป็นสถานที่ ๆ ยังมีกิเลสที่นั่นอยู่มาก

ส่วนใหญ่ผู้ที่ไปจุติไปสถิตบนสวรรค์ยังเป็นผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่มาก

เมื่อฟังรายงานข่าวของช่อง 9 แล้ว ผมรู้สึกว่า ช่อง 9 ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย

--------------------------



แม้แต่พระอานนท์ ทรงเป็นอริยะบุคคลแล้ว แม้ยังไม่สำเร็จพระอรหันต์ก็ตาม

เมื่อพระอานนท์ได้รับรู้ว่า พระพุทธเจ้าทรงปลงสังขารจะนิพพานในอีกไม่นาน

พระอานนท์ยังแอบไปร้องไห้เสียใจเลย แล้วพวกเราเป็นเพียงปถุชนธรรมดา จะไม่ให้ใจหายเลย ก็คงทำไม่ได้เช่นกัน

---------------------

คำถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวรที่ถูกต้อง

ข้าพเจ้าขอร่วมอนุโมทนา และร่วมมุทิตาจิต แด่สมเด็จพระญาณสังวร ฯ ที่ทรงละสังขารอันเสื่อมโทรมนี้แล้ว เพื่อเสด็จสู่พระนิพพาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น