วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2556

MOU43 ต้นตอเขมรรุกรานไทยโดยสะดวก







เมื่อทหารเขมรเริ่มรุกรานชายแดนไทย จนเกิดปะทะกันหลายครั้ง ในสมัยรัฐบาลชวน จึงไปชวนเขมรมาทำ MOU43 บันทึกความเข้าใจเรื่องปกปักปันเขตแดน

ซึ่งใน MOU43 ข้อที่ไปยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนคือ ข้อ1 ค.

ข้อ 1

จะร่วมกันดำเนินการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชาให้เป็นไปตามเอกสารต่อไปนี้

(ก) อนุสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสแก้ไขเพื่มเติมข้อบทแห่งสนธิสัญญา ฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม รัตนโกสินทรศก 112 (ปี ค.ศ. 1893) ว่าด้วยดินแดนกับข้อตกลงอื่นๆ ฉบับลงนาม ณ. กรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ รัตนโกสินทรศก 122 (ปี ค.ศ. 1904)

(ข) สนธิสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ฉบับลงนาม ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 มีนาคม รัตนโกสินทรศก 125 (ปี ค.ศ. 1907) กับพิธีสารว่าด้วยการปักปันเขตแดนแนบท้ายสนธิสัญญาฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม รัตนโกสินทรศก 125 (ปี ค.ศ. 1907) และ

(ค) แผนที่ที่จัดทำขึ้นตามผลงานการปักปันเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระห่างสยามกับอินโดจีนซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1907 กับเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้อนุสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1907 ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส

------------------

ในข้อ 1 ค.  ก็คือ แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งฝรั่งเศสจัดทำฝ่ายเดียว ซึ่งทำเสร็จสิ้นในค.ศ. 1908 โดยทางสยามไม่เคยเซ็นยอมรับแผนที่ฉบับนี้ และไม่เคยมีรัฐบาลไทยสมัยไหนยอมรับแผนที่นี้

และนี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลไทยได้ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ  2 แสนเข้ามาร่วมเจรจาใน MOU43 เฉยเลย

-------------

เมื่อทำ MOU43 แล้ว ใน MOU43 ข้อตกลงข้อที่ 5 ได้กำหนดว่า

ข้อ 5
เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างประสิทธิผลหน่วยงานของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้นจะงดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมเพื่อประโยชน์ในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน

นี่จึงเป็นเหตุที่ ทหารไทยต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่ทับซ้อนกันในแผนที่ที่ทั้งสองฝ่ายเสนอ จึงทำให้ ทหารไทยต้องถอนกำลังออกจากเขาพระวิหารด้วย รวมทั้งคนไทยที่เคยทำมาหากินก็ต้องออกจากพื้นที่นั้นด้วย

แต่กลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ทหารเขมรรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่แทน แถมพาประชาชนเขมรเข้ามาตั้งรกรากในพื้นที่เขาพระวิหารได้

เพราะทหารเขมรไม่ทำตามข้อตกลงใน MOU43 ข้อ 5

ส่วนฝ่ายไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้แต่ทำการประท้วงไป เพราะไม่สามารถใช้กองกำลังทหารขับไล่ผู้รุกรานได้ เพราะติดข้อตกลงในMOU43 ข้อ 8 คือ

ข้อ 8
ให้ระงับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดจากการตีความหรือบังคับใช้ความเข้าใจฉบับนี้โดยสันติวิธีด้วยการปรึกษาและการเจรจา

---------------------

มันตลกไหมครับคุณผู้อ่าน ไทยเรามั่นใจมาตลอดว่า พื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหารเป็นแผ่นดินของไทย แต่แล้วจู่ๆ ดันไปชวนกัมพูชามาทำ MOU43 ทำให้แผ่นดินที่เป็นของไทย 100% กลายเป็นพื้นที่ ๆ ที่ยังไม่รู้เป็นของใครกันแน่ เพราะต้องมาปักปันเขตแดนกันใหม่

ส่วนกัมพูชามันรีบทึกทักทันทีว่า นั่นคือแผ่นดินของกัมพูชาไปแล้ว ตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน เพราะกัมพูชาเชื่อว่า ศาลโลกได้ตัดสินไปแล้วว่า ไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนตามหลักกฎหมายปิดปาก

แถมกัมพูชายังร้องเรียนไทยต่อนานาชาติ กล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายรุกราน ละเมิดเงื่อนไขMOU43 นี้ตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน โดยที่ฝ่ายไทยไม่ได้โต้แย้งหลายครั้ง




แล้วฝ่ายรัฐบาลไทยกับกองทัพไทยโง่ไหมครับ ที่พยายามรักษาข้อตกลงไม่ยอมละเมิดข้อตกลง MOU43 แต่เขมรกลับละเมิดได้ จนเป็นปัญหาบานปลายในตอนนี้

โดยเฉพาะในศาลโลก เดือนเมษายน ล่าสุดเขมรเอ่ยหลายครั้งว่า คนเขมรตั้งชุมชนในพื้นที่รอบปราสาท ทำไมทางไทยไม่เคยคัดค้าน ?

ความจริงกระทรวงการต่างประเทศไทยได้ทำหนังสือคัดค้านไปหลายครั้ง  สงสัยเขมรมันคงแกล้งทำเป็นไม่ได้รับหนังสือคัดค้านของไทย

ทีมทนายเขมรมันถึงได้กล้าอ้างแบบนี้หลายครั้งในศาลโลกอย่างหน้าด้าน ๆ

และที่สำคัญที่สุด ที่รัฐบาลนายชวนพลาดคือ ดันไปยอมรับแผนที่ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญเขมร เพราะแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ขัดกับรัฐธรรมนูญกัมพูชา มาตรา 2 ที่กำหนดว่าราชอาณาจักรกัมพูชากำหนดอาณาเขตโดย แผนที่ 1 ต่อ 1 แสน

แต่นั่นเป็นเรื่องกฎหมายภายในประเทศของเขา ซึ่งต่อมาเขมรก็ไปออกพระราชกฤษฎีกาเฉพาะกิจประกอบการทำ MOU43 ว่า บริเวณเขาพระวิหาร อนุญาตให้ใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสนเป็นการเฉพาะได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

เป็นไงล่ะ ?

และที่เด็ดสุดคือ เขมรมันแถลงในศาลโลกว่า ศาลโลกได้ตัดสินไปแล้วว่า ไทยได้ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ  2 แสน ซึ่งมีความสำคัญเทียบเท่าสนธิสัญญา และขอให้ไทยทำตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนนี้ใน MOU43 ด้วย



--------------------------

หากไม่มี MOU43 ทหารไทยก็ไม่ต้องถอนกำลังออกจากแผ่นดินไทย และก็คงไม่มีพวกเขมรกล้าเข้ามาสร้างชุมชนจนยึดพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารไว้ได้

แผ่นดินของไทยแท้ ๆ คนไทยเคยทำมาหากินในพื้นที่ได้ ก็ทำมาหากินต่อไม่ได้ ก็เพราะ MOU43 นี่แหละ




MOU43 มันจะมีประโยชน์กับมิตรประเทศที่ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน แต่มันใช้ไม่ได้กับประเทศที่พร้อมจะแทงข้างหลังไทย ลอบกัดไทยเสมอ อย่างลูกหลานพระยาละแวก เช่นกัมพูชา !!

ตามหลักการที่ถูกต้อง ในเมื่อเขมรละเมิดข้อตกลงใน MOU43 มันก็สมควรเป็นโมฆะ !! เพื่อที่ทหารไทยจะได้มีสิทธิทำหน้าที่ในการผลักดันผู้รุกรานออกไป

แต่นี่กลับปล่อยเขมรละเมิด ส่วนไทยก็กอดMOU43 ไว้อย่างเหนียวแน่น แล้วปล่อยให้เขมรมันอ้างMOU43 ว่าไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนแล้ว

นายฮอร์นัมฮง เคยแถลงในคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธุ์ 2554 ซึ่งส่วนหนึ่งในคำแถลงของฮอร์นัมฮง คือ

"ในเดือนมิถุนายน ๒๐๐๐ กัมพูชาและประเทศไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลของราชอาณาจักรกัมพูชาและรัฐบาลของราชอาณาจักรไทยในการสำรวจและจัดทำหลักเขตทางบก ซึ่งได้ยอมรับ “แผนที่ดงรัก” ซึ่งอ้างถึงโดยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศสำหรับคำตัดสินในปี ๑๙๖๒ ว่าแผนที่ “ผนวก ๑” พร้อมด้วยเอกสารที่ชอบด้วยกฎหมายอื่น เป็นฐานทางกฎหมายสำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย"


------------------

ก่อนจบขอฝากว่า

เมื่อรั้วบ้านเราพัง เราก็ต้องซ่อมรั้วของเราเองได้ แต่นี่เราดันออกจากบ้านเราเอง แล้วรอให้คนอื่นมาช่วยกำหนดว่า บริเวณรั้วบ้านเราควรอยู่ตรงไหน?!


คลิกอ่าน แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ขัดรัฐธรรมนูญกัมพูชา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น