ฮาเรื่องไร้สาระบ้าง ฮาเรื่องมีสาระบ้าง กับนักการเมืองและบุคคลสาธารณะ / ใหม่เมืองเอก (akecity)
วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558
ถามหาความรับผิดชอบด้านจริยธรรมจาก ก่อศักดิ์ ประธานซีพีออลล์ 7-11
เป็นข่าวไม่ดังนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา กรณี กลต. ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหารซ๊พีออลล์ จากกรณีรู้ข้อมูลภายใน แล้วไปซื้อหุ้นสยามแมคโครเป็นการส่วนตัวในช่วงที่ บ.ซีพีออลล์ กำลังเจรจาซื้อหุ้นแมคโคร จากบริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี
ตามรายละเอียดข่าวดังนี้
วันที่ 2 ธันวาคม 2558
กรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบ (1) นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ (2) นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล (3) นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล และ (4) นายอธึก อัศวานันท์ กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) เป็นเงินรวม 33,339,500 บาท และเปรียบเทียบ (5) นายสมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล และ (6) นางสาวอารียา อัศวานันท์ ซึ่งให้การช่วยเหลือสนับสนุน เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า บุคคลตาม (1) – (4) ได้ซื้อหุ้น MAKRO โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น MAKRO ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน
โดยพบการซื้อหุ้นในบัญชีบุคคลดังกล่าวหรือผู้สนับสนุนระหว่างวันที่ 10 – 22 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เจรจาตกลงจะซื้อหุ้น MAKRO ที่บริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) ถืออยู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 154,429,500 หุ้น หรือเท่ากับ 64.35% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MAKRO ที่ราคาหุ้นละ 787 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดในขณะนั้นอย่างมีนัยสำคัญ และเป็นเหตุให้ CPALL ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้น MAKRO ส่วนที่เหลือทั้งหมดเป็นการทั่วไป (Tender Offer) ที่ราคาเดียวกัน
โดยบุคคลทั้งสี่อาศัยข้อมูลภายใน ซึ่งบางรายล่วงรู้จากการร่วมในคณะผู้บริหารของ CPALL ที่เข้าร่วมเจรจากับผู้ขายในธุรกรรมดังกล่าว และบางรายล่วงรู้เนื่องจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของ CPALL
โดยพบการซื้อหุ้น MAKRO ในบัญชีของนายก่อศักดิ์ จำนวน 118,300 หุ้น และบัญชีของนายปิยะวัฒน์ จำนวน 5,000 หุ้น ส่วนกรณีนายพิทยา พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายสมศักดิ์ซึ่งเป็นน้องชาย จำนวน 7,500 หุ้น และกรณีนายอธึก พบการซื้อผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางสาวอารียาซึ่งเป็นบุตรสาว จำนวน 6,000 หุ้น
ขณะที่การกระทำของนายก่อศักดิ์ นายพิทยา นายปิยะวัฒน์ และนายอธึก ซึ่งเป็นบุคคลวงในเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
สำหรับการกระทำของนายสมศักดิ์ และนางสาวอารียา เข้าข่ายเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิดของนายพิทยาและนายอธึก เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 6 ราย ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายก่อศักดิ์ เป็นเงิน 30,228,000 บาท นายปิยะวัฒน์ เป็นเงิน 725,000 บาท นายพิทยา เป็นเงิน 979,500 บาท นายอธึก เป็นเงิน 1,407,000 บาท และเปรียบเทียบปรับนายสมศักดิ์ และนางสาวอารียา เป็นเงินรายละ 333,333.33 บาท
ข่าวประชาชาติธุรกิจ
----------------
ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ เคยรับรางวัล CEO ECONMASS AWARD 2013
http://imgur.com/hJSInkJ
หลักเกณฑ์ในการมอบรางวัล CEO ECONMASS AWARD 2013 จากสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมกับ ม.หอการค้า โดยจะพิจารณาจากผลประกอบการของบริษัท รวมทั้งหลักจรรยาบรรณการมีธรรมาภิบาล ในการบริหารจัดการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผลต่อชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อ่านข่าวได้ที่ http://goo.gl/a4goUP
------------------
จบกัน เขียนหนังสือสอนคนอื่น แต่กลับลืมสอนตัวเอง
http://imgur.com/8kRBNH4
คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ได้เขียนหนังสือออกมาขายหลายเล่ม เกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจ ซึ่งทุกเล่มก็แฝงไว้ด้วยคุณธรรมและความซื่อสัตย์ในการทำธุรกิจทั้งสิ้น จนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ผู้คนจำนวนมาก ซึ่งได้ถือว่าเขาเป็นไอดอลเป็นแบบอย่างที่ดีในวงการธุรกิจเลยทีเดียว
แต่การที่คุณก่อศักดิ์ ถูก กลต. ปรับเงินจากการใช้ข้อมูลภายในองค์กรไปซื้อหุ้นแมคโครล่วงหน้า ซึ่งถือว่า เป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ และเอาเปรียบคู่แข่งด้วย นับว่า เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักธรรมภิบาลในการดำเนืนธุรกิจที่ดี
ไม่ทราบว่า คุณก่อศักดิ์ เคยอ่านหน้านโยบายองค์กรของบริษัทซีพีออลล์ในเว็บของบริษัทตัวเองหรือไม่
ในหน้านโยบายองค์กรของบริษัทซีพีออล์ มีปรัชญาองค์กร อย่างเช่น
http://imgur.com/6evDZYM
แล้วถ้าไปอ่านบทความเรื่อง จิตวิญญาณของชนชั้นสูง ที่คุณก่อศักดิ์ เคยเขียน ชนชั้นสูงต้องมี ดังนี้
(โดยย่อ)
1. “ความมั่งคั่ง” กับ “ความสูงส่ง” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ตอลสตอย นักประพันธ์เลื่องชื่อชาวรัสเซีย เขาเกิดในตระกูลชนชั้นสูงของรัสเซีย ในวัยเรียนได้รับอิทธิพลทางความคิดของรุสโซและมองเตสกิเออ จึงลาออกทั้งที่ยังไม่จบการศึกษา เพื่อกลับสู่ภูมิลำเนาและทดลองยกเลิกระบบทาส คืนเสรีภาพแก่แรงงานทาสที่ทำงานให้กับตน
ระหว่างปี คศ1855 ตอลสตอยใช้ชีวิตในกองทัพและได้เข้าร่วมสงครามระหว่างรัสเซียกับพันธมิตร ยุโรป ชีวิตชนชั้นสูงและการเป็นนายทหารทำให้เขาเห็นความอัปลักษณ์ของสังคม งานเขียนของเขาส่วนใหญ่จึงสะท้อนสังคมที่กดขี่ไม่เสมอภาค เขาเลือกใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะ ทั้งๆ ที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก
วันที่ 28 ตุลาคม คศ1910 ตอลสตอยในวัย 83 เข้าใกล้วาระสุดท้ายของชีวิตเขานำสมบัติทั้งหมดแบ่งให้แก่คนยากจน จากนั้นได้ออกจากบ้านและที่ดินที่เคยเป็นของตน ใช้ชีวิตพเนจรโดยไม่มีใครรู้ข่าวคราวอีกเลย ลมหายใจสุดท้ายของเขาหมดลง ณ มุมหนึ่งของสถานีรถไฟร้างแห่งหนึ่ง
2. รักศักดิ์ศรีและมีคุณธรรมคือสัญลักษณ์ของชนชั้นสูง
ชาวตะวันตกมีกฎระเบียบในการเดินเรืออยู่ข้อ หนึ่งคือ หากเรือประสบอุบัติเหตุใกล้อับปาง ผู้บังคับการเรือจะเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากเรือ และผู้บังคับการเรือบางคนก็เลือกที่จะจมดิ่งลงไปพร้อมกับเรือที่เขาควบคุมมา ตลอดทางมากกว่าที่จะขอมีชีวิตรอดแม้ว่าโอกาสจะเอื้ออำนวยก็ตาม สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบที่มีเต็มเปี่ยมในสายเลือดของ ชาวตะวันตก
ผู้บังคับการเรือที่มีจิตวิญญาณของการเป็น กัปตันเรือได้อย่างน่ายกย่อง และยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนในปัจจุบันก็คือ กัปตันเอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ ผู้บังคับการเรือไททานิค
จากที่เรือใกล้จะจมในภาพยนตร์เรื่อง "ไททานิค” กัปตันสมิธขอให้วงดนตรีมาบรรเลงเพลงบนดาดฟ้าเรือเพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ ผู้โดยสาร จากนั้นเขาก็เดินเข้าห้องบัญชาการเพื่อทำหน้าที่กัปตันจนถึงวาระสุดท้ายของ เรือลำนี้ และพร้อมจะจมดิ่งไปกับเรือด้วยจิตใจที่นิ่งสงบ
เมื่อวงดนตรีบรรเลงจบ หัวหน้านักดนตรีโค้งคำนับและเดินจากไปเช่นเดียวกับเพื่อนนักดนตรีคนอื่นๆ แต่เมื่อเห็นความวุ่นวายโกลาหลที่อยู่ตรงหน้า เขาก็เดินกลับมายังจุดเดิมและเริ่มบรรเลงไวโอลินในบทเพลงใหม่ เพื่อนนักดนตรีที่เดินไปไกลแล้ว เมื่อได้ยินเสียงไวโอลินต่างก็พากันกลับมาร่วมวงบรรเลงอีกครั้งกระทั่งถึง ช่วงที่เรือจะจม ทุกคนจับมือกันอย่างแนบแน่นแทนถ้อยคำอำลาในนาทีสุดท้ายของชีวิต
นี่เป็นการ สะท้อนถึงจิตวิญญาณของชนชั้นสูง ซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่า ความตายในบางครั้งยิ่งใหญ่กว่าการมีชีวิตอยู่อย่างไร้ ความหมายมากมายนัก
3. คุณลักษณะที่แท้จริงของ “ชนชั้นสูง”
อเล็กซิส เดอ ทอคเกอร์วิลล์ นักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า เนื้อแท้ของชนชั้นสูงคือความมีเกียรติ
โจฮัน ฮุยซิงก์ นักประวัติศาสตร์ชาวดัชต์ กล่าวว่า เมื่อมีระเบิดและปืนกล บทบาทอัศวินก็ลดลง แต่จิตวิญญาณของความเป็นอัศวินที่เห็นได้ในยุคกลางและกลายเป็นอุดมคตินั้น ยังคงตกทอดอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตก
จิตวิญญาณของอัศวิน เช่น ไม่เห็นแก่เงินทอง ซื่อตรง กล้าหาญ เสียสละ รักเกียรติยศและศักดิ์ศรีนั้น เป็นส่วนหนึ่งของคุณลักษณะของ ชนชั้นสูง ที่หล่อหลอมเป็นบุคลิกของชาวตะวันตก
ในสังคมตะวันตก ชนชั้นสูงมีบทบาทสำคัญในสังคมมาตลอดจนถึงศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันประเทศอังกฤษยังคงรักษาระดับฐานันดรศักดิ์นี้ไว้และเป็นที่ยอมรับ ของประชาชน เพราะชนชั้นสูง คือ แบบอย่างของเกียรติศักดิ์ศรีและการปฏิบัติตนอยู่ในครรลองที่ถูกต้อง
จากเนื้อความข้างต้น กล่าวได้ว่า ชนชั้นสูง ไม่ใช่ผู้ที่มั่งมีเงินทองหรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรํ่ารวยทางวัตถุอย่างที่เราเข้าใจกัน
แต่อยู่ที่เมื่อผู้นั้นถึงพร้อมด้วย คุณสมบัติของ ชนชั้นสูง เขาก็เป็น ชนชั้นสูง ได้ ดังนั้น หากปรารถนาที่จะเป็น ชนชั้นสูง จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว
ทุกคนเป็น ชนชั้นสูง เราก็เป็น ชนชั้นสูงได้ ดังนั้น หากปรารถนาที่จะเป็น ชนชั้นสูง จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว
ทุกคนเป็น ชนชั้นสูง ได้ถ้ามีเสรีภาพทางจิตใจ ไม่ถูกครอบงำด้วยอำนาจ เงินทอง หรือกระแสนิยมตามยุคสมัย ปฏิบัติตนอย่างสง่างาม กล้าหาญ เสียสละ อ่อนน้อมและรักศักดิ์ศรีของตนเอง
กล่าวโดยสรุป ชนชั้นสูงคือผู้ที่ยึดมั่นในคุณธรรมและความมีเกียรติเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
คนไทยทั้งประเทศทุกคนจึงสามารถจะเป็น “ชนชั้นสูง” ได้ทันที ขอเพียงแต่มีจิตวิญญาณของชนชั้นสูงสถิตอย่างมั่นคงอยู่ในหัวใจ!
เขียนโดย ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ที่มา http://www.dba.or.th/46/
----------------
เป็นไงครับ ตัวอย่างงานเขียนบทความสั้น ๆ ของคุณก่อศักดิ์
โดยสรุปของบทความจิตวิญญาณของชนชั้นสูงคือ ความกล้าหาญ กล้าเสียสละ ยึดมั่นคุณธรรม และต้องอยู่อย่างมีเกียรติ
แล้วถามว่า การที่คุณก่อศักดิ์ ถูก กลต. ปรับเงิน 30 ล้านบาท จากกรณีอินไซเดออร์เทรดดิ้งหุ้นแมคโคร คุณก่อศักดิ์ กล้าแสดงความรับผิดชอบในความผิดครั้งนี้ไหมครับ ??
มีหลายคนถามว่า คุณก่อศักดิ์ จะลาออกจากประธานบริหารซีพีออลล์ไหมครับ ??
การรักษาเกียรติ รักษาคุณธรรม สำคัญกว่าการรักษาตำแหน่งหรือไม่ ?
แต่แล้ว ก็เป็นดั่งที่หลายคนคาดไว้ว่า ยากนักที่จะหาสปิริตจากผู้บริหารระดับสูงของไทยในทุก ๆ องค์กรไม่ว่าจะ องค์กรรัฐ หรือ องค์กรเอกชน
เพราะว่า คุณก่อศักดิ์ ได้ให้คำตอบมาแล้วจะไม่ลาออกเด็ดขาด ตามข่าวนี้
"ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" ยอมรับผิด ระบุไม่ได้ตั้งใจ พร้อมยืนยันไม่ลาออกจากบอร์ด CPALL - MAKRO หลังชำระค่าปรับฐานอินไซด์แล้ว
วันที่ 3 ธันวาคม 2558 นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) กล่าวว่า ยอมรับคำตัดสินของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ที่สั่งเปรียบเทียบปรับกว่า 30 ล้านบาท กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) แต่ยืนยันว่าไม่คิดลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารและกรรมการบริษัท เนื่องจากคณะกรรมการของ CPALL และ MAKRO ยังให้ทำงานต่อไป และไม่ได้ตั้งใจทำผิดธรรมาภิบาล
"เครือซีพีไม่ว่า เพราะเป็นไปตามกฎของ ก.ล.ต.เมื่อผิดก็รับ และเมื่อปรับก็หมดเรื่อง ตอนนี้ถือว่าจบเรื่องแล้ว แค่มีการออกข่าวเจ็บ ๆ แสบ ๆ" นายก่อศักดิ์ กล่าว
นายก่อศักดิ์ ชี้แจงว่า การเข้าซื้อหุ้น MAKRO ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก่อนที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จะซื้อกิจการของ MAKRO และซื้อด้วยบัญชีที่เปิดเผย เพราะคิดว่าหากซื้อโดยที่ไม่รู้ราคาที่เครือซีพีเข้าไปไปซื้อจะไม่ถือเป็นการใช้ข้อมูลภายใน เนื่องจากเครือซีพีเป็นผู้เข้าไปเจรจาซื้อ ไม่ใช่ CPALL แต่เมื่อสรุปท้ายที่สุดเครือซีพีก็ได้มอบหมายให้ CPALL เป็นผู้ทำรายการและกู้เงินมาซื้อหุ้น MAKRO
"ขณะที่ซื้อไม่รู้ว่าดีลนี้จะสำเร็จหรือไม่ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ MAKRO เปิดให้ผู้สนใจทั้งในและนอกประเทศจำนวนมากเข้าไปเสนอเงื่อนไข เมื่อ ก.ล.ต.ตัดสินว่าผมผิด ผมก็ยอมรับคำตัดสินของ ก.ล.ต. ผมไม่รู้ว่าการตัดสินของ ก.ล.ต.เป็นแบบนี้ ถ้ารู้ก็ไม่ซื้อ
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า CPALL ยังมีธรรมาภิบาลที่ดี ตัวผมอาจผิดโดยไม่รู้จัก และไม่ได้เจตนาที่จะทำแบบนี้ ผมยืนยันที่จะอยู่ CPALL ต่อไป และเป็นบอร์ดของทั้ง CPALL และ MAKRO ซึ่งบอร์ดได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วก็เฉยๆ แค่รับทราบ" นายก่อศักดิ์ กล่าว
ข่าว กรุงเทพธุรกิจ
---------------------------------
แถสไตล์เซียนโกะ
http://imgur.com/mp6doW2
"ผมก็ยอมรับคำตัดสินของ ก.ล.ต. ผมไม่รู้ว่าการตัดสินของ ก.ล.ต.เป็นแบบนี้ ถ้ารู้ก็ไม่ซื้อ" นายก๋อศักดิ์ได้กล่าวไว้
(อ้าวถ้าตอบแบบนี้ก็มีเจตนาโกงชัดเจน เหมือนตอบว่า ถ้ารู้ว่าจะถูกจับโกงได้ ก็จะไม่โกง และกรณีคล้ายกรณีที่ใครคนนึงที่รู้ข้อมูลภายในว่า รัฐบาลชวลิตจะลอยตัวค่าเงินบาท ก็รีบไปซื้อเงินดอลล่าห์มาตุนไว้ก่อน)
"ตัวผมอาจผิดโดยไม่รู้จัก และไม่ได้เจตนาที่จะทำแบบนี้" นายก่อศักดิ์ได้กล่าวไว้
เอ่อ... ผมว่า ตรรกะนี้ที่คุณก่อศักดิ์ใช้แถ มันคุ้น ๆ เหมือนใครหว่า ที่บอกว่า "ผมบกพร่องโดยสุจริต"
คุณก่อศักดิ์ครับ คุณแก้ตัวได้น้ำขุ่น ๆ มากเลยนะครับ
คุณแถจนไม่สมกับเป็นเซียนโกะและประธานสมาคมหมากล้อมจีนโลก เลยนะครับ
ลองย้อนอ่านปรัชญาหมากล้อม ที่คุณก่อศักดิ์เคยกล่าวไว้เองนะครับ
"หมากล้อมเป็นเกมหมากเกมเดียวที่มีชนิดเม็ดหมากน้อยที่สุด การที่มีหมากแค่สองสี คือหมากขาว และหมากดำ ทำให้การวางหมากนั้นพลิกแพลงได้หลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักหยินหยางที่ลึกซึ้งที่สุด เมื่อเราได้ฝึกเล่นหมากล้อมมากขึ้นก็จะค้นพบว่าวิธีการเดินเกมของหมากล้อมไม่ได้มีกฏกำหนดไว้ตายตัว กลับกันวิธีการเดินเกมของหมากล้อมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันที่เราต้องอาศัยชั้นเชิงในการพลิกแพลง เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตของคนเรา ที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเข้าใจถึงหลักหมากล้อมที่ต้องรู้จักพลิกแพลง ก็จะทำให้เราสามารถตั้งรับกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของเราได้ นอกจากนี้แล้ว หมากล้อมยังสะท้อนให้เราได้รู้ว่าในบางครั้งการเสียสละบางส่วนเพื่อผลประโยชน์ส่วนใหญ่ การโอนอ่อนผ่อนตามเป็นสิ่งดีที่พึงมีในทุกคน การคิดเอาชนะกันด้วยวิธีต่าง ๆ นั้นกลับเป็นสิ่งไม่ดีที่จะนำความพ่ายแพ้มาให้แก่บุคคลนั้น ๆ"
โดย ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ที่มา กลยุทธฺบริหารธุรกิจด้วยปรัชญาหมากล้อม สมาคมหมากล้อมแห่งประเทศไทย
---------------
คนเราถ้าคิดจะแถเพื่อเอาตัวรอด ต่อให้เอาช้างมาฉุดให้ลาออก ก็คงยาก เพราะมันขึ้นอยู่กับคุณธรรมและจิตสำนึกของบุคคลนั้น ๆ เอง
-------------
มติกรรมการซีพีออลล์ ยอมอุ้มคนผิด เพื่อผลประโยชน์บริษัทต่อไป
ต่อมาทางซีพีออล์ ได้มีการประชุมกรรมการเพื่อพิจารณากับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จนได้ผลสรุปว่า ให้นายก่อศักดิ์และพรรคพวกที่โดน กลต.ปรับ ได้ทำงานต่อไปตามเดิม โดยให้ผลการประชุมได้แถลงเหตุผลว้ว่า
"ที่ประชุมรับทราบว่านายก่อศักดิ์ นายพิทยา และนายปิยะวัฒน์ ได้ยอมรับในคำตัดสินของสำนักงานก.ล.ต.โดยได้รับการเปรียบเทียบปรับแล้ว และได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆอย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงการลงโทษของสำนักงานก.ล.ต.ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดจนพฤติกรรมและผลงานในอดีต รวมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์อันโดดเด่นของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหาทดแทนได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับผลกระทบและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ และเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระจึงลงความเห็นว่า ยังสมควรที่จะให้บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้"
ส่วนนายก่อศักดิ์ ต่อมาก็เลยประกาศลงโทษตัวเองแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอดอย่างไม่จริงใจ แค่เพียงประกาศไม่ขอรับเงินเดือน 1 ปี เหตุผลเพื่อรักษาภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เหอะ ๆ
เหตุการณ์การกระทำของนายก่อศักดิ์ หากเกิดขึ้นในเกาหลีใต้นะ ป่านนี้นายก่อศักดิ์ได้นอนในคุกไปแล้วครับ ขอบอก!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ขยันหาข้อมูลมากเลยอะ
ตอบลบจังวิเคราะห์เปรียบเทียบจังเลย
ตอบลบขยันหาข้อมูลมากเลยอะ
ตอบลบ