วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ชนะในสงคราม แต่พ่ายแพ้ในเกม







ในช่วงที่ผมยังเด็ก ประมาณ ป.5 ก็มีข่าวดังระดับโลก อังกฤษทำสงครามชิงเกาะฟอร์กแลนด์คืนจากอาร์เจนติน่า โดยในสมัยนั้นอังกฤษมีนางมากาเร็ต แธตเชอร์เป็นนายกรัฐมนตรี

ซึ่งในตอนเด็กๆ ผมก็หลงเชียร์อังกฤษ เพราะเราเสพข่าวด้านเดียวจากสื่อตะวันตก

เพราะสหรัฐอเมริกา ก็เป็นชาติพันธมิตรที่ดีของอังกฤษ ข่าวผ่านดาวเทียมจากฝั่งอเมริกา และยุโรป ก็เลยทำให้เรามองอังกฤษเป็นพระเอก ส่วนอาร์เจนตินาดูเป็นผู้ร้าย

ทั้งๆ ที่ หมู่เกาะฟอร์กแลนด์ มันอยู่ทางซีกโลกใต้ อยู่ใกล้กับอาร์เจนติน่ามากกว่าอังกฤษ โดยหมู่เกาะฟอร์กแลนด์อยู่ห่างจากอังกฤษถึง 12,800 กม. แต่อยู่ห่างจากอาร์เจนติน่าแค่ 500 กม. เท่านั้น



และในสงครามครั้งนั้น อังกฤษก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ กองทัพอาร์เจนติน่าต้องถอนทหารออกจากเกาะไป

ชัยชนะของสงครามเกาะฟอร์กแลนด์ครั้งนั้น ทำให้นางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ได้รับฉายาว่า The Iron lady หรือ หญิงเหล็ก ซึ่งทำให้คะแนนนิยมในตัวเธอจากที่กำลังดิ่งตกเหวจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราการว่างงานของอังกฤษต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี คะแนนดีดกลับมาดีอีกครั้งจนเธอได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ 2

นี่ขนาดเกาะฟอร์กแลนด์ เป็นเกาะที่ห่างจากอังกฤษ นับหมื่นกิโล แต่อังกฤษก็ไม่ยอมเสียไปง่ายๆ พร้อมทำสงครามทันที!! เพื่อปกป้องดินแดนในอาณานิคม

ซึ่งต่างจากพวกชิงหมาเกิดในไทยบางตัว ที่ชอบด่าคนอื่นว่าคลั่งชาติในการปกป้องแผ่นดิน แต่ตัวเองกลับปอดแหกและพร้อมยกแผ่นดินให้เขมร เพียงเพราะอ้างว่า กูไม่คลั่งชาติแต่กูคลั่งไอ้แม้ว 555


-----------

หมายเหตุ ล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งสหราชอาณาจักรยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บีบีซีในวันอาทิตย์(6)ว่ารัฐบาลอังกฤษพร้อมใช้กำลังทางทหารจัดการกับอาร์เจนตินา เพื่อปกป้องหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ หากมีความจำเป็น

ท่าทีล่าสุดของนายกรัฐมนตรีคาเมรอน มีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นางกริสตินา เฟร์นันเดซ เด เคิร์ชเนอร์ ประธานาธิบดีหญิงแห่งอาร์เจนตินาออกมากล่าวโจมตีอังกฤษ พร้อมเรียกร้องให้มีการส่งมอบหมู่เกาะฟอล์กแลนด์คืนให้กับอาร์เจนตินา เนื่องจากรัฐบาลบวยโนส ไอเรส (บูเอโนสไอเรส) ถือว่าหมู่เกาะแห่งนี้ซึ่งมีชื่อในภาษาสเปนว่า “อิสลาส มัลบินัส” นั้น เป็นเขตอธิปไตยของตนมาช้านาน



--------------------

อังกฤษชนะสงครามต่ออาร์เจนติน่า แต่กลับแพ้หมดรูปในเกมฟุตบอลโลก

อังกฤษมีชัยชนะในสงครามชิงเกาะฟอร์กแลนด์ใน ค.ศ.1985 แต่แล้วคนอังกฤษก็ถูกเสือเตี้ยดีเอโก้ มาราโดน่า ได้แก้แค้นอังกฤษแทนชาวอาร์เจนไตน์จนสำเร็จในศึกฟุตบอลโลก 1986 ที่เม็กซิโก ด้วยการยิงคนเดียว 2 ประตู

ลูกแรกคือพระหัตถ์แห่งพระเจ้าของมาราโดน่า และลูกที่2 คือการลากเลี้ยงเดี่ยวจากครึ่งสนามไปยิงอังกฤษของเจ้าเสือเตี้ย เอาชนะทีมชาติอังกฤษในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2:1

สร้างความขายขี้หน้าและอับอายให้แก่แฟนบอลชาวอังกฤษทั่วโลกอย่างย่อยยับ เพราะแต่ละลูกของมาราโดน่า ถือเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดั่งพระเจ้าประทาน จนทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษแห่งอาร์เจนติน่าก็ไม่ปานมาจนวันนี้

เพราะนอกจากแก้แค้นอังกฤษเจ้าตำรับการคิดค้นการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่แท้ๆ ด้วยเกมฟุตบอลสำเร็จแล้ว มาราโดน่ายังพาทีมอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์โลกในปีนั้นได้อีกด้วย (แต่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ของอาร์เจนติน่า)




วันหัตถ์แห่งพระเจ้า - วันได้ชูถ้วยบอลโลก


ดูชัดชัดจะจะ 2 ประตูของมาราโดน่าแก้แค้นอังกฤษให้ชาวอาร์เจนไตน์ทั้งประเทศ




การที่ทีมชาติอาร์เจนติน่าเอาชนะทีมชาติอังกฤษได้ ชาวอาร์เจนไตน์ทั้งประเทศถือว่า พวกเขาได้แก้แค้นอังกฤษสำเร็จ แทนการพ่ายแพ้ในสงครามเกาะฟอร์กแลนด์ เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่เป็นชีวิตจิตใจของชาวอาร์เจนไตน์ทั้งประเทศ แถมได้ชนะเหนือต้นตำรับฟุตบอลสมัยใหม่อย่างอังกฤษอีกด้วย

องค์ประกอบ 2 ประการที่ทำให้มาราโดน่า ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่านักฟุตบอลอาร์เจนติน่าคนใดก็คือ

1. แก้แค้นอังกฤษสำเร็จด้วยสงครามลูกหนัง ภายหลังอาร์เจนติน่าแพ้สงครามฟอร์กแลนด์เพียง 1 ปี

2. พาทีมชาติอาร์เจนติน่าคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ

3. มาราโดน่าพาทีมอาร์เจนติน่าเข้าชิงฟุตบอลโลกได้ 2 สมัยติดต่อกัน คือปี 1986 และ 1990

--------------------------


ส่วนนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ภายหลังจากที่เธอเสียชีวิตลง เธอก็ได้รับเกียรติสูงสุดจาก สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธ และพระสวามีในการจะเสด็จมาในงานพิธีศพของเธอ

เพราะปกติแล้ว สมเด็จพระราชินี ไม่เคยเสด็จไปร่วมงานศพของสามัญชนคนไหนเลย นี่จึงเป็นครั้งแรก


-------------------

ปิดท้ายด้วย

นายกหญิงคนแรกของอังกฤษ vs นายกหญิงคนแรกของไทย

The Iron Lady vs The Idiot Lady
นายกหญิงเหล็ก vs นายกหญิงหลุด !!




คำคมคนดัง โดย เมอรีล สตรีฟ ผู้รับบทนางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ ใน The Iron Lady

"แธตเชอร์ ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะเป็นมรดกที่เธอได้มาในฐานะลูกสาวของบุคคลยิ่งใหญ่ หรือภรรยาม่ายบุคคลสำคัญ แต่เกิดขึ้นด้วยความพยายามของเธอเอง"

(ซึ่งต่างกับนายกหญิงของประเทศที่กำลังล้าหลังบางประเทศ) /@akecity






คลิกอ่าน ก็..สายตายิ่งลักษณ์มันฟ้องน่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น