วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไอ้อดีต พระเกษม มึงปาราชิกไปนานแล้ว






17 ก.ค. 2558

รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ได้เสนอข่าวว่า พระเกษม หรือไอ้เกษม ได้ยอมรับมีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ผู้ชายจริง แต่แถว่า ตัวเองยังไม่ปาราชิก เพราะไม่มีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ และไม่รู้ตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงขาดเจตนา

ไอ้เกษม อ้างว่า เมื่อมันขาดเจตนาจึงไม่ครบองค์ประกอบการทำปาราชิก

"เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้ต้องอาบัติปาราชิก เพราะช่วงที่ก่อเหตุตนเองไม่มีสติสัมปชัญญะ จึงไม่จำเป็นต้องสึกจากผ้าเหลือง และเสนอให้ลูกศิษย์ทำการตั้งศาลสงฆ์ ขึ้นตรวจสอบตนเองได้เลย เพราะพระธรรมวินัยระบุ ถ้าการกระทำไปโดยไม่รู้สึกตัว ถือว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย"

ถุย !!! ไม่รู้สึกตัว ถ้าของมึงยังไม่แข็ง มันก็ตุ๋ยลูกศิษย์ไม่ได้หรอกโว้ยไอ้เกษม ไอ้แถ !!

ทั้งนี้ไอ้เกษมย้งอ้างต่ออีกว่า "ซึ่งหากให้ตนสึกนั้น ตนจะอยู่อย่างไร กลับบ้านก็ไม่ได้ เพราะตัดขาดมานานแล้ว แล้วใครจะดูแล"

อ้าว ที่ไม่ยอมสึก กะเกาะผ้าเหลืองกินล่ะสิ ไอ้เห็บ !!

ในขณะที่ ลูกศิษย์ชายที่ถูกไอ้เกษมกระทำคนดังกล่าวบอกว่า โดนพระเกษมล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ทั้งที่วัดสามแยกและนอกสถานที่

คลิปเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ พระเกษมยันไม่ปาราชิก แม้จะได้ตุ๋ยผู้ชายจริง


คลิกที่รูปเพื่ออ่านข่าวไทยรัฐ


ส่วนด้านล่างคือบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2556 นานแล้วว่า ไอ้เกษม ปาราชิกไปแล้ว !!

-------------------------------------

เกริ่น

พระแท้ ๆ ถ้าสามารถไม่จับเงิน ไม่รับเงินได้ ก็ดี
พระแท้ ๆ ถ้าไม่สอนให้คนหลงในวัตถุ สอนให้คนยึดติดวัตถุบูชา เครื่องรางของขลังได้ก็ดี

แต่พระที่คิดว่าตัวเองเป็นอรหันต์ ชอบด่าพระอื่นที่รับเงิน แต่วัดตัวเองก็รวยเอา ๆ เพียงแต่ไม่ได้รับเงินเอง ให้เด็กในสังกัดรับแทน แต่ควบคุมเงินได้ แค่ตัวเองไม่แตะเงินเองเท่านั้น

แค่ตนเองไม่รับเงิน แต่ศีลข้ออื่นตนเองผิดมากมาย แต่ตนเองกลับมองไม่เห็น

พระที่คิดว่าตัวเองเป็นอรหันต์ ปากบอกว่า พระพุทธรูปเป็นอิฐ เป็นปูน อย่าไปนับถือ แล้วก็สั่งสาวกทุบพระพุทธรูปทิ้ง

ใครกันแน่ที่ยึดติด พระพุทธรูป ?
เพราะถ้ามองว่าพระพุทธรูปเป็นแค่อิฐ เป็นแค่ปูน ก็คงไม่บอกไม่ยุให้สาวกไปทุบพระพุทธรูปทิ้งหรอกจริงไหม ก็จะทุบทำไมให้เมื่อย ให้เสียแรง ก็นั่นเป็นแค่อิฐปูนเท่านั้นไม่ใช่เหรอ แล้วจะถ่ายรูปถ่ายคลิปไว้อวดอีกด้วยทำไม

แค่ทุบอิฐ ทุบปูน ต้องเอามาอวดด้วยเหรอ ?


ใครกันแน่ที่ยึดติด ??

akecity


--------------------

ก่อนอื่นขอเท้าความว่า ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับพระเกษมไว้ในเว็บสนุกไว้หลายกระทู้ ซึ่งหลังจากได้ตามข้อมูลและได้ตั้งกระทู้มาหลายกระทู้

ผมกล้าฟันธงว่า พระเกษม หรือ อดีตพระเกษม มันได้ปาราชิกไปแล้ว

ประเด็นสำคัญที่ว่า ปาราชิก ก็มาจากคลิปหนึ่งที่วัดสามแยก เป็นการอวดอุตริมนุสธรรม อ้างว่า ตัวพระเกษมได้พูดคุยกับเทวดา ซึ่งคลิปนั้นผมได้นำมาโพสลงในกระทู้สนุก แต่ต่อมาคลิปนั้นก็ถูกวัดสามแยกลบออกไป

ซึ่งคลิปนั้นมีชื่อว่า พระเกษมเปิด 3 โลก แถมในคลิปยังท้าทายว่า ถ้าพูดไม่จริงให้ฟ้าผ่ากระบาลให้แยกอยู่หลายครั้ง

อาจเพราะมันรู้ว่า คลิปนี้คือหลักฐานสำคัญว่ามันได้ปาราชิกข้อ4 ไปแล้วนั่นคือ

4. กล่าวอวดอุตตริมนุสสธัมม์ อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า
ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

พวกมันเลยรีบลบคลิปทิ้งไป

แต่ไม่เป็นไรเมื่อคลิปนั้นถูกลบไปแล้ว แต่ยังมีคลิปจากรายการข่าว 3 มิติ ที่อดีตพระเกษมยังอวดอ้างว่า จิตไปนิพพานแล้ว ในนาที่ 4.11

นักข่าวถาม "คือท่านนิพพานแล้วตอนนี้" (นักข่าวฉลาดมาก ที่แกล้งถามเพื่อทดสอบสติปัญญาของอดีตพระเกษม)

ไอ้อดีตพระเกษม "ถ้าพูดดวงใจของเราน่ะไปแล้ว เหลือแต่เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังทำงานอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าทำ"


คลิปจากรายงานข่าว3มิติ ที่วัดสามแยกของคนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม

ที่นี่ไม่มีการทำวัตร ไม่มีการสวดปาติโมกข์ ไม่มีการสวดมนต์ เขาบอกใช้ใจส่งตรงถึงพระพุทธเจ้า แถมมันยังอ้างว่า จิตตัวเองนิพพานแล้ว


นี่เท่ากับ อดีตพระเกษม มันอวดอ้างว่ามันเป็นอรหันต์ หากเป็นจริงก็ถือว่าไม่ปาราชิก แต่ถ้าไม่เป็นจริง ก็ถือว่าปาราชิก

แต่เพราะพระพุทธเจ้าทรงห้ามพระอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร และภูมิธรรม แม้พระรูปนั้นจะมีสิ่งเหล่านั้นอยู่จริงก็ตาม พระพุทธเจ้าก็ทรงห้ามไม่ให้อวดอ้าง

แต่ลักษณะไอ้นี่ มันน่ะปาราชิกแน่นอน เพราะเท่าที่ผมดูสติปัญญามันในหลายคลิป ขอบอก ไอ้นี่มันเพี้ยน !!

-----------------------

ใจไอ้อดีตพระเกษม มันก็แค่เหมือนไอ้พวกตาลีบัน

แม้ใครไม่อยากเคารพรูปสักการะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเสมือนรูปเคารพพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธรูป นั้น

แต่การที่ไม่เคารพในสิ่งที่ผู้อื่นเคารพ ก็ต้องเคารพในจิตใจของผู้อื่นด้วย ไม่ใช่แสดงความกักขฬะ ต่ำช้า ทุบทำลาย เผาพระพุทธรูปราวกับจงเกลียดจงชัง

ไอ้อดีตพระเกษม มันสอนให้ลูกศิษย์ไม่เคารพนับถือพระพุทธรูป นั่นก็ไม่ผิด แต่การสอนให้แสดงความจงเกลียดจงชัง ถึงขั้นทุบทำลาย แถมแสดงอากัปกิริยาลบหลู่พระพุทธรูป เช่นพระพุทธชินราชจำลอง นั่นไม่ใช่วิถีพุทธที่ถูกต้องแน่นอน

เพราะไอ้อดีตพระเกษมแม้จะอ้างว่า เห็นพระพุทธรูปเป็นแค่ปูน แค่อิฐ ไม่ได้เห็นเป็นรูปเสมือนพระพุทธเจ้าก็ตาม ซึ่งถ้าหากเห็นว่าเป็นอิฐ เป็นหิน เป็นปูนจริง มึงจะไปเผาทำไม มึงจะไปทุบทำลาย ถ่ายรูปเผยแพร่ประจานความเลวของพวกมึงลงเน็ตทำไม ?

นั่นเพราะพวกมึงนั่นแหละ ที่ยึดติดว่าเป็นพระพุทธรูป แต่พวกมึงเกลียดพวกมึงจะทุบทำลายเผาด้วยความคั่งแค้น สนุกสนานเฮฮา ที่ได้ทุบทำลายพระพุทธรูปเหล่านั้น

เพราะหากเห็นเป็นแค่ทองเหลือง หิน อิฐ ปูน จริง พวกมึงก็ต้องไม่ให้ความสำคัญ ไม่เผา ไม่ทุบ ไม่ทำลาย เพราะจะทุบไปทำไม ก็มันแค่อิฐก้อนเดียว จริงหรือไม่?

สรุปว่า พวกมึง ไอ้อดีตพระเกษม และลูกศิษย์หลงผิดของมึง พวกมึงมันสวะ จิตใจหยาบช้า ประหนึ่งพวกตาลีบันที่ยิงทำลายพระพุทธรูปยืน ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งชองโลกในอัฟกานิสถาน


หมายเหตุ คดีไอ้เกษมลบหลู่พระพุทธรูป ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งจำคุกไอ้เกษม 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ซึ่งคดีนี้ไอ้เกษมกำลังสู้ในชั้นฎีกาอยู่

-----------------------------

กราบหมาตัวนี้ ยังดีกว่ากราบไอ้อดีตพระเกษม

ถ้าจะให้ผม akecity กราบคนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม ผมว่าให้ผมไปกราบหมาตัวนี้เสียยังดีกว่า


เพราะผมไม่ยึดติดว่า ห่มเหลือง หรือหมา ถ้าไอ้ห่มเหลืองไม่น่าเคารพกราบไหว้ แต่หมายอดกตัญญู ให้ผมกราบหมาเสียยังดีกว่ากราบไอ้ห่มเหลืองเกษม

(หมายเหตุ ผมเขียนเชิงประชดว่า ถ้าต้องกราบไอ้เกษม ให้กราบหมากตัญญูเสียยังดีกว่า แต่ตามหลักคนเราไม่ควรกราบไหว้เดรัจฉานนะครับ)

แม้แต่เศษดิน ถ้ามีใครปั้นเป็นพระพทุธรูป หรือแม้แต่รูปที่เด็กประถมวาดรูปพระพุทธรูป ผมก็ไหว้ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการปลุกเสกด้วยซ้ำ

เปรียบเสมือนรูปพ่อ รูปแม่ ผมก็ไหว้ได้ โดยไม่ต้องมีปลุกเสกอะไรทั้งนั้น คนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม คงไม่เข้าที่ผมอธิบายล่ะสิ เพราะมันโง่ !!

อ้าว ไอ้อดีตพระเกษมอย่าๆ อย่าๆ งง??

ยกอีกตัวอย่างเช่น แค่เขียนคำว่า พระพุทธเจ้า หรือเขียนคำว่า พระพุทธรูป ลงบนกระดาษ ผมakecityก็กราบได้ทันทีอย่างสนิทใจ โดยไม่ต้องปลุกเสกใด ๆ

เพราะความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ขึ้นอยู่กับการปลุกเสก แต่ขึ้นอยู่ที่ ใจ ของผม

แม้แต่ผ้าถุงของแม่ผม ผมก็กราบได้ อธิบายแค่นี้ คนอย่างนายพระเกษม คงไม่เข้าใจอีกล่ะสิ

แต่ไอ้คนที่อ้างตัวเป็น พระ อย่างที่ชื่อพระเกษม เห็นพระพุทธรูป ซึ่งคือพระพุทธชินราชจำลอง ยังตบเศียรพระพุทธชินราชจำลองได้ อย่างไร้ความเคารพ

เมื่อมึงไม่เคารพพระพุทธรูป มันเรื่องของมึง แต่การกระทำหมิ่นพระพุทธรูปต่อหน้ากล้องเพื่อให้คนทั้งประเทศเห็น มันเป็นการหมิ่นน้ำใจคนไทยทั้งประเทศ


บอกตามตรง ผมว่า หมากตัญญูยังดีกว่าคนที่อ้างชื่อว่าไอ้พระเกษมครับ

ผิดไหมที่ผมรู้สึกเช่นนั้น ?

ถ้าใช้ตรรกะเดียวกับคนที่อ้างว่าชื่อพระเกษมใช้ คือ ผมว่าผมไม่ผิดครับ เพราะผมไม่ได้เคารพคนที่อ้างว่าเป็นพระที่ชื่อพระเกษม เหมือนที่คนที่อ้างชื่อว่าพระเกษมอ้างว่าไม่เคารพทองเหลืองที่เรียกว่าพระพุทธรูปนั่นแหล่ะ

ในเมื่อผมไม่เห็นคุณเป็นพระ ผมก็ย่อมมีสิทธิเห็นหมาตัวข้างบนดีกว่าคุณเช่นกัน


จึงขอสรุปว่า ไอ้อดีตพระเกษมนั่นแหล่ะที่ยึดติด!! เห็นคนเขากราบไหว้พระพุทธรูป แล้วตัวเองกลับทนไม่ได้ เมื่อทนไม่ได้เลยแสดงออกด้วยการเหยียดหยามพระพุทธรูป นั่นเพราะนายพระเกษม เป็นพระกำมะลอ แยกแยะไม่เป็น แถมหลงตัวเองอย่างหนัก!!


-------------------------------

ไอ้อดีตพระเกษม โกหกว่า ถือศีลได้ 9,000 ข้อ




ขำจริงๆ วินาทีที่ 37 ไอ้เกษมโกหกได้อย่างหน้าตาเฉย ว่าถือศีลมากกว่า9000ข้อ โดยไม่ผิดศีลสักข้อ

(ขออภัยคลิปล่ม เพราะพอเกิดเหตุเกษมตุ๋ยลูกศิษย์เพียง 2 วัน วัดสามแยกก็ลบคลิปนี้ออกไป)

แค่เรื่องหยาบคาย ส่อเสียด ก็ผิดศีลแล้ว

ต่อไปนี้ ผมจะยกศีลที่ไอ้อดีตพระเกษมได้กระทำผิด ซึ่งเท่าที่สติปัญญาผมพอจะนึกได้ ไอ้นี่ผิดศีลอาบัติมากถึง 33 ข้อเป็นอย่างน้อย ดังนี้

สังฆาทิเสส

3. พูดจาหยาบคาย
10. ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน
11. เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
12. เป็นผู้ว่ายากสอนยาก และต้องโดนเตือนถึง 3 ครั้ง
13. ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ ประจบคฤหัสถ์


ปาจิตตีย์

1. ห้ามพูดปด
2. ห้ามด่า
3. ห้ามพูดส่อเสียด

8. ห้ามบอกคุณวิเศษที่มีจริงแก่ผู้มิได้บวช

9. ห้ามบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุแก่ผู้มิได้บวช

10. ห้ามขุดดินหรือใช้ให้ขุด (ให้ลูกศิษย์ขุดบ่อน้ำในวัด)

11. ห้ามทำลายต้นไม้ (ให้ลูกศิษย์ตัดต้นไม้เพื่อสร้างศาลา, กุฏิสงฆ์ ฯลฯ)

12. ห้ามพูดเฉไฉเมื่อถูกสอบสวน

13. ห้ามติเตียนภิกษุผู้ทำการสงฆ์โดยชอบ (ติเตียนเจ้าคณะพระสังฆาธิการผู้ทำหน้าที่โดยชอบ) ตามพระธรรมวินัยและกฎ ระเบียบ คณะสงฆ์ (มีเจ้าคณะตำบล,อำเภอ,จังหวัด ตลอดถึงมหาเถรสมาคม เป็นต้น)

68.ห้ามกล่าวตู่พระธรรมวินัย (ภิกษุอื่นห้ามและสวดประกาศเกิน ๓ ครั้ง)

71. ห้ามพูดไถลเมื่อทำผิดแล้ว (ทำผิดไม่ยอมรับผิด อ้างว่าแสดงแกล้งทำ)

73. ห้ามพูดแก้ตัวว่า เพิ่งรู้ว่ามีในปาฏิโมกข์ (ยกแข้งยกขา ตะโกนโวยวาย ทำตัวถ่อย สถุล แล้วอ้างว่าเราไม่รู้ว่าผิด)

75. ห้ามเงื้อมือจะทำร้ายภิกษุ (ไม่เงื้อมือ แต่เอาเท้าพาดคอภิกษุอื่น)

76. ห้ามโจทภิกษุด้วยอาบัติสังฆาทิเสสที่ไม่มีมูล (โจทย์อาบัติว่าภิกษุรูปอื่นผิดหมด ตนถูกเพียงคนเดียว)

77. ห้ามก่อความรำคาญแก่ภิกษุอื่น (เสียงดัง รบกวนภิกษุอื่นกำลังพิจารณาภัตตาหาร)

79. ให้ฉันทะแล้วห้ามพูดติเตียน


เสขิยะ สารูป

5. สำรวมด้วยดีไปในบ้าน (ไม่มีความสำรวม)
9. ไม่เวิกผ้าไปในบ้าน
10. ไม่เวิกผ้านั่งในบ้าน
11. ไม่หัวเราะดังไปในบ้าน
12. ไม่หัวเราะดังนั่งในบ้าน
13. ไม่พูดเสียงดังไปในบ้าน
14. ไม่พูดเสียงดังนั่งในบ้าน
17. ไม่ไกวแขนไปในบ้าน

โภชนปฏิสังยุต คือหลักในการฉันอาหาร

หละกโภชนปฏิสังยุต มี 10 ข้อ ไอ้เกษมผิดอย่างน้อย 3 ข้อ คือ

ข้อ 1. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตโดยเคารพ คือ รับบิณฑบาตด้วย ความเต็มใจ ไม่แสดงอาการดูหมิ่นดูแคลน(เช่น การเอาเท้าเตะของบนโต๊ะขณะพระอื่นบิณฑบาตร)

ข้อ 2. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เมื่อรับบิณฑบาตเราจักดูแลแต่ในบาตร คือ ในขณะ ที่รับบิณฑบาต ห้ามมองดูหน้าทายก หรือมองไปทางอื่น ให้มองดูแต่ในบาตรเท่านั้น (แต่ไอ้เกษมโหวกเหวกพูดไป กินไป ด่าไป)

ขุ้อ 6 . ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เมื่อฉันบิณฑบาต เราจักแลดูแต่ในบาตร คือขณะฉัน ห้ามแลดูสิ่งอื่น เพราะการมองดูโน่นดูนี่ ขณะกำลังเคี้ยวอยู่ในปาก เป็นกิริยาที่ไม่งาม

ดูคลิปไอ้เกษม แดกข้าวไป บ่นไป ด่าไป นี่ก็อาบัติเช่นกัน มันอาบัติทุกวัน


แค่คลิปนี้ก็ชี้ให้เห็นชัดว่า ไอ้เกษม เพ่งโทษแต่คนอื่น แต่ความผิดตัวเองกลับมองไม่เห็น


ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์

14 อันภิกษุผู้ยืนอยู่ ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ยืนแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ต้องอาบัติทุกกฏ.(ไอ้เกษมยืน แต่แสดงธรรมแก่คนที่นั่ง)

15. อันภิกษุผู้เดินไปข้างหลัง ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปข้างหน้า ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อเดินไปข้างหลัง แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปข้างหน้า ต้องอาบัติ
ทุกกฏ


ซึ่งผมว่า ไอ้เกษมน่าจะมีความผิดอีกหลายข้อ แต่เอาเท่าที่ผมดูตามที่เห็นในคลิปเท่านั้น

ไอ้อดีตพระเกษม มันมัวแต่เพ่งผิดที่พระรูปอื่น แต่ความผิดของตัวเอง กลับมองไม่เห็น !!

ไอ้เกษม มันเห็นความผิดผู้อื่นใหญ่เท่าขุนเขา แต่ความผิดมากมายของมันเล็กเท่าจิ๋มมด 

ผมขอพูดเรื่อง การบิณฑบาตรหน่อย ตามหลักพระต้องรับการประเคนอาหารก่อน จึงจะฉันได้ เพราะพระวินัย บัญญัติว่า ห้ามพระสงฆ์หยิบสิ่งของมาขบฉันเองโดยไม่มีผู้ประเคน

แต่ถ้าดูในคลิปวัดสามแยก พระเดินตักอาหารแบบตักบุฟเฟ่ต์

ทำเพี้ยนหมดไอ้เกษมเอ๊ย !!

------------------------

ข่าวไทยรัฐ เจ้าคณะอุดรฯ ไม่ขัดข้องสึก "พระเกษม"

พระเทพวรลังการ์ เจ้าคณะอุดรฯไม่ขัดข้องมติในที่ประชุมสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดอุดรธานี ให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน นับตั้งแต่วันที่30 กันยายนที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี กรณีพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ที่สร้างพฤติกรรมแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อสมณสารูป พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพลงเว็บไซต์ยูทูป www.youtube.com จนมีหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าสร้างความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนานั้น

จนมีมติในที่ประชุมสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดอุดรธานี ให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่งส่งไปยังสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยกให้พระเกษมฯปฏิบัติตามหากยังขืนดื้อดึง ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นับตั้งแต่วันที่30 กันยายนที่ผ่านมา ทางคณะสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จะดำเนินการตามพระธรรมวินัยที่ "พระพุทธองค์" ทรงให้พระสงฆ์เป็นผู้เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ปฏิบัติกันมากว่า 2,500 ปี

เวลา 14.30 น. วันที่ 3ตุลาคม ซึ่งจะครบกำหนดเวลาที่ทางคณะสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุตส่งหนังสือคำสั่งให้พระเกษมฯลาสิกขาบทนั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้านมัสการขอพบ “พระเทพวรลังการ์หรือท่านเจ้าคุณ สิงห์” เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ภายในกุฏิเจ้าคณะจังหวัดวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ฝ่ายธรรมยุต เขตเทศบาลนครอุดรธานี และ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางคณะสงฆ์ ในจังหวัดอุดรธานีไม่ขัดข้องประการใด ที่ทางคณะสงฆ์ภาค 4 และคณะสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำหนังสือส่งให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน หลังจากมีมติในที่ประชุม

ซึ่งพระเกษมฯและสำนักสงฆ์ดังกล่าวอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด นั้นมีอำนาจดำเนินการกับพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยหรือเห็นสมควรจะ ดำเนินการอย่างไรกับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนมิชอบหรือทำผิดต่อพระธรรมวินัย ถึงแม้ว่าพระเกษมฯจะอุปสมบถ(บวช)ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีก็ตาม

ในความคิดส่วนตัวของอาตมา ไม่ขอวิจารณ์อะไรในตัวพระเกษม ให้เป็นไปตามกฎของพระธรรมวินัยที่ยึดปฎิบัติตั้งแต่สมัยพุทธกาล

“อาตมารู้เพียงว่า หลวงตาเหลิม ลูกศิษย์หลวงตาบัว ผู้ปฏิบัติชอบใน พระธรรมวินัยของสงฆ์ ยังอยู่ร่วมจำพรรษาในวัดดังกล่าวกับพระเกษมฯไม่ได้ซ้ำท่านยังหนีออกจาก สำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก ซึ่งท่านเป็นผู้ก่อตั้งวัดและจำพรรษามาก่อนตั้งแต่ในวัดมีศาลาเพียงหลังเดียว เพราะทนต่อพฤติกรรมของพระเกษมไม่ได้หลวงพ่ออินถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานีหนึ่งในศิษย์ของหลวงตาพระมหาบัว ท่านรู้เรื่องนี้ดี” เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานีกล่าวในที่สุด


ไอ้เกษมศิษย์ล้างครู

หลวงปู่เหลิม ธมมธโร อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าสามแยก กล่าวว่า การกระทำที่พระเกษมได้กระทำการนั้น รู้สึกมีความเสียใจเป็นครั้งสองแล้วก่อนอาตมาจะออกจากสำนักฆ์ป่าสามแยก ได้มอบงานและมอบหน้าที่ให้ดูแลสำนักสงฆ์และป่าอย่าไปก้าวร้าวและกระทำการใดๆ ในเบื้องต้นพระเกษมก็รับปาก

หลังจากมาทราบว่าได้ปฏิบัติการครั้งที่สองมีความเสียใจ เพราะในอดีตที่มาผ่านมานั้น อาตมาเองนี้แหละที่ยกโทษให้เพราะเห็นว่าพระเกษมนั้นเป็นศิษย์เดียวกัน เพราะหลวงตามหาบัว เป็นผู้แนะนำทางสอนเมื่อต้นปี 2537 เห็นพระเกษมจำพรรษาอย่ที่วัดยางทองแล้วเกิดความสงสารจึงได้อนุมัติ

เมื่อพระเกษมมาขออยู่ด้วยเพื่อช่วยกันดูแลผืนป่าที่ทางสำนักสงฆ์สามแยกได้ทำ การปลูกป่าที่ได้ มาจากฝ่ายสงฆ์วัดบ้านตาดและได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิชัยพัฒนาโดย พระเทพได้เสด็จมามอบเงินจำนวนสองล้านห้าแสนบาท เพื่อซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เพื่อป้องกันการรุกป่า

แต่ปีนั้นหลังจากพระเกษมมาจำพรรษาอยู่ได้ไม่นานได้มีการแผลงฤทธิ์และด่าทอหลวงตามหาบัว ทั้งที่เป็นอาจารย์ และทางคณะสงฆ์วัดบ้านตาดได้เรียกประชุมพระผู้ใหญ่ ผลมติให้พระเกษมออกจากวัดไป แต่อาตมาได้ขอร้องให้พระเกษมแก้ตัวและขอขมาต่อหลวงตามหาบัว

เพราะในช่วงนั้นสงสารหากขับออกก็อย่ในระหว่างกลางพรรษา และข้อสำคัญ พระเกษมก็มีโยมแม่ติดตามมาด้วยจึงอภัยให้ และเมื่อต้นปี 2548 อาตามเองก็ได้กลับคืนสู่สำนักสงฆ์ภูแปก อ.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ. เลย เพราะญาติโยมมานิมนต์กลับสำนักเดิมเพื่อไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ภูแปกและได้ มอบหมายให้พระเกษมเป็นผู้ดูแลสำนักป่าสามแยกแทน

และหลังจากนั้นก็ห่างเหินไม่ได้มาที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยกอีกและต่อมาทราบข่าวการกระทำของพระเกษม ก็มีความรู้สึกว่ามีความเสียใจเป็นอย่างมาก และจะบอกกล่าวพระเกษมนั้นคงยากจึงปล่อย

แต่ยอมรับว่าเสียใจที่พระเกษมทำอะไรลงไปและไม่สามารถที่จะบอกเตือนได้แล้ว หลวงปู่เหลิม กล่าว

----------------------

ไอ้อดีตพระเกษม มันเป็นบ้า เพี้ยน ด่ากระทั่งหลวงตามหาบัวได้ แถมพฤติกรมไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพตามมติสงฆ์ที่ให้มันสึก เข้าลักษณะขัดศีลธรรมอันดี พฤติกรรมหลายอย่างเข้าลักษณะทำสงฆ์แตกแยก ซึ่งมีความผิดในขั้นปาราชิกเช่นกัน

ไอ้อดีตพระเกษมนี่ ผมจึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่พระ มันเป็นแค่คนเพี้ยนอาศัยผ้าเหลืองบังหน้า แอบอ้างพระพุทธเจ้าหลอกคนเท่านั้น


พระเกษม ที่กำลังเป็นข่าวดัง ว่าประพฤติตนไม่สำรวม ท้าทายคณะสงฆ์ ท้าทายคุณสรยุทธ ในขณะนี้นั้น

มันเกิดจากตรรกะเดียวกันกับ จ๊ะ คันหู

เพราะจ๊ะ คันหู อ้างว่า ที่เธอทำเป็นแค่การแสดง เป็นอาชีพสุจริต ทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียน ส่งเสียพ่อแม่ เธอย่อมไม่ผิด

พระเกษม ก็เช่นเดียวกัน ลบหลู่พระพุทธรูป แสดงอากัปกิริยาสถุล ๆ

โดยอ้างว่าไม่ผิดพระวินัย เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไหว้พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามให้พระยกแข้งยกขา เตะเก้าอี้ล้ม

เอากับเขาสิ!!

ผมว่า มันคือตรรกะะเดียวกับจ๊ะ คันหู

ฉะนั้นเมื่อพระเกษมลบหลู่พระพุทธรูปได้ ผมก็สามารถเอารูป จ๊ะ คันหู ไว้เหนือรูปไอ้อดีตพระเกษมได้เช่นกัน

เพราะพระพุทธเจ้าทรงไม่เคยห้ามว่า ห้ามเอารูปผู้หญิงเกาหูอยู่เหนือหัวไอ้อดีตพระเกษม จริงมั้ย??




-------------------------

พระพยอม พูดถึงพระเกษม

กรณีทำลายพระพุทธรูป ดูหมิ่นพระพุทธรูป พระพยอมอธิบายได้อย่างเข้าใจง่ายมาก ลองฟังพระพยอมอธิบายครับ



ศาลอุทธรณืได้ตัดสินจำคุกไอ้เกษมแล้ว เป็นเวลา 2 ปี แต่ไอ้เกษมได้ประกันตัว ขอสู้ต่อในชั้นฎีกา

--------------------

ล่าสุด 25 พ.ย. 2557 ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ไอ้เกษมผิดจริง ๆ แต่ยกโทษจำคุกให้ เพราะมองว่า เจตนาสอนลูกศิษย์ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ แต่ให้คงโทษปรับ 2 พันบาท




บทความนี้ผมเขียนตั้งแต่ปี 2556 ว่าไอ้เกษม ปาราชิกแล้วเพราะอวดคุณวิเศษที่ไม่มีจริงในตัวเอง แล้วก็มีสาวกไอ้เกษม เข้ามาแปะลิงค์แก้ตัวของวัดสามแยกให้ไอ้เกษม หลายลิงค์ทางช่องแสดงความเห็นเฟสบุ๊คด้านล่างและทิ้งความเห็นไว้นานร่วม 2 ปี

แต่พอเกิดกรณีสมีเกษมตุ๋ยลูกศิษย์เกิดขึ้น ผมได้โพสถามสาวกไอ้เกษมคนนี้ตอนเช้าวันเสาร์ที่ 17 ม.ค. 58 ที่ผ่านมาว่า "รู้ข่าวไอ้เกษมตุ๋ยลูกศิษย์หรือยัง" 

สุดท้ายสาวกสมีเกษม ก็ได้ลบโพสที่แปะลิงค์ไว้นานเกือบ 2 ปีออกไป

คลิกอ่าน ที่แท้ไอ้เกษม มันเป็นบัณเฑาะก์ นี่หว่า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น