วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

akecity แจงเหตุผลที่ว่า ทำไมกินเนื้อสัตว์ไม่บาป !!






บทความนี้ ต่อจากบทความเอามันส์ ลัทธิไม่กินเจ ลัทธิใหม่เมืองเอก 555

เหตุผลที่กินเนื้อสัตว์แล้วไม่บาป ตัวอย่างเช่น

1. ถ้ามีวัวถูกฟ้าผ่าตายกลางทุ่งนา ชาวบ้านจะเอาวัวไปฝังก็เสียของ จึงได้เอาวัวนั้นไปทำอาหารกิน

ถามว่า ชาวบ้านบาปหรือไม่? ที่เอาเนื้อวัวที่โดนฟ้าผ่าตาย มากิน ??

2. ถ้าชาวเรือเดินเรือแล้วเจอพายุพัดจนเรือเสียหาย ไม่สามารถเดินเรือต่อไปได้ ต้องซ่อมเรือ แต่ระหว่างนั้นอาหารเกิดหมด แต่บังเอิญมีปลาที่ถูกพายุพัดขึ้นมาบนเรือ ตายบนเรือจำนวนมาก

ถามว่า ชาวเรือนำปลาพวกนั้นมากินเพื่อประทังชีวิตต่อไป ชาวเรือนั้นบาปหรือไม่?

3. ผมเคยถามครูของผมที่นับถืออิสลาม ผมถามว่า ถ้าเกิดในภาวะน้ำท่วม อุทกภัยอย่างหนัก ครูต้องติดอยู่ในบ้าน ขาดการติดต่อจากภายนอก เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร แต่บังเอิญเจอหมูตายเพราะน้ำท่วม ถามว่า เอาหมูนั้นมากินได้มั้ย?

ครูมุสลิมคนนี้ตอบว่า เพื่อประทังชีวิตก็กินได้ เมื่อคราวจำเป็นเท่านั้น

4. พระพุทธเจ้า สมัยยังเป็นพระโพธิสัตว์เคยเสวยพระชาติเป็น นกกระสา ซึ่งตามปกตินกกระสาต้องกินปลาตัวเล็กๆ แต่พระโพธิสัตว์ จะไม่กินปลาที่มีชีวิต จะคอยเลือกกินแต่ปลาที่ตายแล้วเท่านั้น

เทวดาจึงลองใจ แปลงร่างมาเป็นปลาตาย พอนกกระสาพระโพธิสัตว์ มาเจอปลาที่ตายแล้ว จึงได้กลืนลงคอ แต่แล้วจู่ ๆ  ปลาเทวดาก็เกิดดิ้นขึ้นมาอีก นกกระสาตกใจมาก ถึงกับพยายามขย่อนปลาตัวนั้นออกมาทันที

จากนิทานชาดกเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า กินเนื้อสัตว์ไม่บาป

ทั้งหมดที่ผมอธิบายนี้ ประเด็นสำคัญของเรื่องก็คือ สัตว์ต่าง ๆ ที่ตายแล้ว ก็เป็นเพียงธาตุต่าง ๆ ที่ต้องคืนแก่แผ่นดินต่อไป จะสัตว์หรือพืช เมื่อตายแล้วก็ไม่ต่างกัน สุดท้ายก็จะสูญสลายไปกับดิน

การที่นำซากสัตว์ที่ตายแล้วนั้น มาประทังชีวิตอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องบาปอย่างไร

เพราะบาปจากการเบียดเบียนชีวิต ก็คือ การเจตนาฆ่าสัตว์ ตามศีลข้อที่1 นั่นเอง

ศาสนาในโลกใหญ่ ๆ ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ก็ไม่มีคำสอนที่บอกว่า กินเนื้อสัตว์แล้วบาป เพียงแต่ห้ามในสัตว์บางชนิด

ส่วนพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่อยู่ได้เพราะการขออาหารจากพุทธบริษัท  ท่านก็มองแค่ว่าอาหารมันคืออาหาร ท่านไม่ได้มองว่า อาหารนั้นคือสัตว์หรือผัก

แม้แต่พระในมหานิกาย หรือ หลวงจีน ที่กินอาหารเจ ก็ไม่เคยสอนว่า กินเนื้อสัตว์แล้วบาป เพราะหลวงจีนจะสอนเพียงแค่ว่า การงดกินเนื้อสัตว์ แล้วมีเจตนาเพื่อลดการฆ่าสัตว์ลง นั้นถือเป็นกุศล 

"กินเนื้อสัตว์นั้นไม่บาป แต่ถ้าลดละการเลิกการกินเนื้อสัตว์ได้โดยจิตคิดว่าลดการเบียดเบียนชีวิต ก็ถือเป็นกุศลจิต"

แต่กุศลที่ได้นั้น ไม่ได้จากเกิดการการไม่กินเนื้อสัตว์ แต่กุศลที่ได้นั้น เกิดจากจิตมีเจตนาลดละการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นนั่นเอง

แต่จิตที่คิดเองว่า ลดการฆ่านั้น เป็นเพียงจิตที่มโนขึ้นมา แต่ไม่ได้ไปช่วยชีวิตสัตว์จริง ๆ จิตที่มโนเองแบบนี้อาจมีกุศลบ้างเล็กน้อยเพราะจิตเจตนาดี แต่เสี่ยงมีความหลงผิดอยู่มาก นั่นคือ ความเชื่อที่ว่า กินเจแล้วได้บุญเป็นความหลงผิด และถ้ายิ่งเชื่อว่า กินเนื้อสัตว์เป็นบาป นี่คือความเชื่อของลัทธิเทวทัตเลย

ฉะนั้น จงอย่าเชื่ออะไรที่ติงต๊องว่า กินเนื้อสัตว์แล้วบาปเด็ดขาดนะครับ ขอบอก

------------------

ถามเล่น ๆ ถ้าพระเจ้าลงโทษคุณ ให้ไปเกิดเป็นวัว 500 ชาติ

ถาม ถ้าคุณมีบาปต้องชดใช้ แล้วให้คุณเลือกไปเกิดเป็นวัวที่ทำงานหนักจนแก่ตาย 500 ชาติ กับ ให้เลือกไปเกิดเป็นวัวที่ต้องถูกฆ่าเป็นอาหารแค่ 50 ชาติ

คุณจะเลือกไปเกิดแบบไหนดี ??


การที่สัตว์เกิดมาเป็นอาหาร เขาได้ใช้กรรมเร็วขึ้น

เช่น ถ้าต้องเกิดเป็นวัว 500 ชาติ แต่ต้องเป็นวัวทำงานหนักในท้องนา จนแก่ตาย กว่าจะเกิดเป็นวันครบ 500 ชาติ ต้องเสียเวลานานมาก

แต่การเกิดเป็นวัวที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ เช่น โคขุน ก็จะได้กินดีอยู่ตลอดชีวิต แต่อายุสั้น เพราะต้องฆ่ามาเป็นอาหาร แต่ถ้าเกิดเป็นวัวแบบนี้  การเกิดเป็นวัว 500 ชาติ ก็จะใช้แป๊บเดียวก็หมดกรรม

แต่แน่นอนสัตว์ทุกชนิดย่อมรักชีวิตเป็นพื้นฐาน ฉะนั้นเราควรละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตตามศีลข้อ 1 กำหนด

--------------

พระธุดงค์พลีร่างกาย

พระธุดงค์ เจอเสือที่กำลังหิวโซในป่า พระสิ้นทางหนี เสือกำลังจะเข้ามาฆ่าพระธุดงค์นั้น

พระธุดงค์นั้น ทำใจว่า คงไม่รอดเป็นเหยื่ออันโอชะ แก่เสือนั้นแน่นอนแล้ว

พระธุดงค์ จึงแผ่เมตตาว่า หากเราเคยมีกรรมเวรต่อกันแต่อดีต ก็ขอให้ท่านเสือ จงมารับร่างกายที่ผุพังของข้าพเจ้าไปเป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตของท่านเถิด เราจะไม่ถือโทษโกรธท่านเลย

ขอจงอโหสิกรรมซึ่งกันและกันเถิด

เสือก็ได้เข้ามาขย้ำพระธุดงค์เป็นอาหาร พระท่านยอมเสียสละร่างกายเพื่อเป็นอาหารแก่เสือ ด้วยดวงจิตเบิกบาน

พระธุดงค์รูปนั้นได้ตรัสรู้ฉับพลันก่อนสิ้นใจ ได้เป็นอรหันต์ในทันที!!

-------------------------

ไม่กินเนื้อสัตว์ได้ก็ดี แต่

ถ้าใครกินมังสวิรัติและเจได้ผมยินดีและชื่นชมครับ เพราะกินเนื้อสัตว์แล้วร่างกายหนัก กินผักธัญพืชร่างกายเบาสบาย ใครเคยกินติดต่อกันสัก 2 วันก็เห็นผล

แต่ที่ผมต่อต้านมีเรื่องเดียวคือ อย่ามาบอกว่ากินมังสวิรัติหรือกินเจได้บุญ หรือบอกว่าใครกินเนื้อสัตว์เป็นบาป เพราะไม่งั้นช้างม้าวัวควายก็เป็นเทวดาไปแล้ว 

ส่วนพระเทวทัตตั้งใจมากินมังสวิรัติเพื่อจะบอกว่า กินเนื้อสัตว์เป็นบาป เจตนาเพื่อให้ร้ายพระพุทธองค์

เพราะพวกสติปัญญาตื้นเขินจากการศึกษาพระธรรมแบบผิวเผิน หรือพวกที่ไม่เคยศึกษาพระธรรมเลย จึงมักหลงเชื่อตรรกะกินเนื้อสัตว์เป็นบาปนี้ได้โดยง่าย พระเทวทัตรู้ดี จึงยกตรรกะนี้มาใช้เพื่อทำลายพระพุทธเจ้าครับ

ศาสนาพุทธเน้นเรื่องเจตนา และใจ เป็นหลัก

หากกินเจแต่ปรุงแต่งให้เชื่อให้ดูเหมือนเนื้อสัตว์ มันก็นึกคิดปรุงแต่งว่า กำลังกินเนื้อสัตว์ นั่นแหละ


ใครบอกว่ากินเนื้อสัตว์แล้วบาป คือพวกลัทธิเทวทัต !!

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ใจไม่ปรุงแต่งอาหารไปว่านั่นคือสัตว์ หรือนั่นคือผัก แต่ให้มองว่ามันคืออาหารที่มาเลี้ยงดูชีวิตให้ดำรงอยู่เท่านั้น

ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารแล้วปรุงแต่งไปว่า ฉันกินผักฉันดีกว่าประเสริฐกว่าคนกินเนื้อสัตว์ เพราะฉันได้บุญเพราะกินผักกินเจ

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ไม่สำคัญมั่นหมาย ว่าอะไรเป็นอะไร ให้ถือว่าเป็นธาตุ เป็นธาตุตามธรรมชาติ เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ตามธรรมดา

-------------------

เหตุผลสำคัญที่พุทธศาสนา กำหนดให้การกินเนื้อสัตว์ไม่บาป

เหตุเพราะภิกษุ คือ ผู้อยู่ได้ด้วยการขอ เช่น ขออาหาร ขอเครื่องนุ่งห่ม

ดังนั้น เมื่อเวลาภิกษุเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ก็จะมีชีวิตอยู่ได้จากการให้อาหารจากผู้คนทั่วไป

เช่น ถ้าภิกษุเดินทางไปเผยแพร่พุทธศาศาสนา แล้วไปเจอหมู่บ้านนายพราน ถ้าพวกนายพรานเขาจะบริจาคอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ให้ภิกษุ ภิกษุก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะภิกษุเป็นผู้ดำรงชีวิตด้วยการขอ และต้องอยู่ง่าย กินง่าย

หากภิกษุปฏิเสธในสิ่งที่นายพรานเขาจะบริจาคให้เสียตั้งแต่แรก ก็จะกลายเป็นการปิดหนทางที่จะสั่งสอนในสิ่งที่ถูกต้องให้กับพวกเขา และปิดโอกาสการเผยแพร่ศาสนาให้กับพวกเขาได้


หลักปาณาติบาตนั้น จะสำเร็จเป็นกรรมบถได้ ต้องประกอบด้วยองค์ 5 คือ

1. สัตว์มีชีวิต

2. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต

3. มีจิตคิดจะฆ่า

4. พยายามเพื่อจะฆ่า

5. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง 5 ประการนี้แล้ว ก็เป็นอันก้าวล่วงกรรมบถ แต่ถ้าไม่ครบองค์ 5 ประการนี้แล้ว ก็ไม่ชื่อว่า สำเร็จกรรมบถ

--------------

ประเด็นซื้อเนื้อสัตว์มาทำอาหาร เป็นการส่งเสริมการฆ่าสัตว์หรือไม่ ?

มีคนบอกว่า คนที่ซื้อเนื้อสัตว์มากิน ก็เท่ากับไปสนับสนุนให้มีคนฆ่าสัตว์นั้น 

ถือว่า ถูกต้องตามหลักอุปสงค์อุปทาน ทางหลักเศรษฐศาสตร์ครับ แต่ไม่ถูกต้องตามหลักของศีลปาณาติบาต

เพราะคนที่ฆ่าสัตว์มาขาย เขาคิดเองนึกเองไปก่อน ว่า ถ้าเขาฆ่าสัตว์แล้วนำเนื้อมาขาย ก็จะต้องมีคนมาซื้อ เขาถึงได้ฆ่า แล้วจึงนำมาวางขาย บาปจากการฆ่าจึงสำเร็จสมบูรณ์ด้วยตัวผู้ฆ่าเอง 

เพราะเหตุมันเกิดจากคนฆ่าคิดนึกเอาเอง จึงกระทำบาปด้วยการฆ่า ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อย่าฆ่าสัตว์เท่านั้น ครับ

หากเชื่อพระพุทธเจ้าตั้งแต่แรก ก็จะไม่มีการฆ่าสัตว์เกิดขึ้นตั้งแต่แรก แต่คนฆ่าสัตว์กระทำชั่วเอง อยากได้เงินจากการฆ่าเพื่อเอาเนื้อมาขาย แต่กลับโยนความผิดให้คนซื้อเนื้อแทนตน

ฉะนั้น การฆ่าสัตว์แล้วเอามาวางขาย จึงจะมาโทษคนซื้อเนื้อสัตว์ไม่ได้ เพราะเหตุที่คนอื่นซื้อเนื้อสัตว์ก็เพื่อทำอาหารเท่านั้น แต่ไม่ใช่เหตุไปสั่งให้ใครฆ่าสัตว์มาขาย

----------------

ที่ประเทศภูฏาน พืชผักที่เขาเพาะปลูกไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงเลย เพราะคนภูฏานเชื่อว่า การใช้ยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูกคือการทำบาปเช่นกัน

ถามว่า คนไทยที่กินผักน่ะ ผักที่กินยังใช้ยาฆ่าแมลงอยู่หรือไม่ ?

ถ้าผักที่ใช้กินเจยังปลูกด้วยการใช้ยาฆ่าแมลง มันก็บาปอยู่ดีล่ะวะ


ใหม่เมืองเอก..




คลิกอ่าน ลัทธิไม่กินเจ ลัทธิใหม่เมืองเอก

คลิกอ่าน นับถือเจ้าแม่กวนอิม ก็ไม่ต้องเลิกกินเนื้อวัว !!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น