วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ลัทธิไม่กินเจ ลัทธิใหม่เมืองเอก 555







กินเจ เป็นเทศกาลที่หลอกตัวเอง ใครไม่ชอบความคิดนี้ จงอย่าอ่านต่อไป เพราะมันจะทำให้คุณไม่เจ 555

เพราะผมใหม่เมืองเอก ไม่กินเจ เพราะไม่เคยเชื่อเรื่องกินเจ ผมเชื่อว่า ไม่กินเจ อาจยิ่งได้บุญกว่ากินเจ ใครใคร่อยากได้บุญแบบไม่ต้องกินเจ จงมาเข้าลัทธิไม่กินเจ ของผม ณ. บัดนาว

ลัทธิใหม่เมืองเอก ลัทธิของคนไม่กินเจ ว่ะ (เขียนเอาฮา อย่าคิดมากกันนะ)

หลักกูของ ลัทธิใหม่เมืองเอก

1. ตัวอย่างเช่น ถ้าผมเกิดเป็นหมู ผมคิดว่า ถ้ามีคนเอาผมไปกิน ผมคงได้ไปเกิดใหม่เร็ว เช่น หากผมต้องเกิดเป็นหมู 500 ชาติ ถ้าคนไม่รีบเอาผมไปกินเร็ว ๆ ผมก็ต้องเป็นหมูแต่ละชาตินานมากเลยจริงมั้ย? แล้วเมื่อไหร่ผมจะหมดกรรมสักทีวะ 555

2. การกินเจ ทำให้สัตว์ต้องทนทุกข์เป็นสัตว์นานเกินไป เราต้องช่วยกินเขาเพื่อช่วยให้สัตว์นั้น ๆ ได้บุญจากการเสียสละชีวิตเพื่อเป็นอาหารของเราครับ 555

3. ต้องตรงกันข้ามกับลัทธิเทวทัต เพราะเทวทัต เคยทูลขอพระพุทธเจ้า ให้ศาสนาพุทธ และพระ เลิกกินเนื้อสัตว์ เนื่องจากลัทธิใหม่เมืองเอก ไม่ชอบเทวทัต เลยต้องกินเนื้อสัตว์ ไง 5555

4. การกินเจ มาพร้อมความเชื่อเรื่องการทรมานตัวเอง เช่นแทงปาก เข้าทรง ปีนบันไดมีด นี่มันพวกนอกรีตชัดๆ ผมไม่สนับสนุนความเชื่อติงต๊องเช่นนี้ จึงไม่กินเจ 5555

5. อาหารเจ แมร่งทำผักแพง แถมอาหารเจแมร่งแพงกว่าอาหารปกติ แถม ยังใส่ผงชูรสมากกว่าปกติ เพราะถ้าไม่ใส่มากๆ มันไม่อร่อย พวกชอบแฟชั่นกินเจ ก็ล้วนติดในความอร่อย แสวงหาความอร่อยที่ใกล้เคียงเนื้อสัตว์ นั่นเพราะใจยังยึดติดกับกินเนื้อสัตว์นั่นเอง

ท่านพุทธทาส เคยกล่าวว่า จงกินอาหารสักแต่ว่าคืออาหาร ไม่ได้กินเพราะนี่คือสัตว์หรือผัก เพราะนั่นคือผู้อยู่ยาก เพราะยังเลือกกิน

เช่น หลายคนเสาะแสวงหาร้านอาหารเจ ที่ปรุงรสชาติเหมือนได้กินเนื้อสัตว์ ยิ่งร้านเจร้านไหน ปรุงอาหารเจมีรสชาติใกล้เคียงเนื้อสัตว์มากที่สุด ผู้คนก็จะแห่ไปกินกันมาก

ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตำรวจจับโรงงานผลิตโปรตีนเจปลอมได้บ่อยครั้ง เพราะมีการนำเนื้อสัตว์แท้ ๆ มาปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โปรตีนเจ

เจ้าของโรงงานโปรตีนเจปลอม ให้การว่า การปลอมปนเนื้อสัตว์เข้าไปในโปรตีนเจด้วยทำให้ขายดีขึ้นมาก เพราะร้านอาหารเจ จำนวนมากนิยมซื้อไปปรุงหลายร้าน เพราะลูกค้าที่กินจะชมว่า ร้านอาหารเจร้านนี้เก่งจัง สามารถทำอาหารเจได้อร่อยได้ใกล้เคียงเนื้อสัตว์แท้ ๆ

แล้วจะกินเจไปทำไม ? ถ้าใจยังอยากกินเนื้อสัตว์อยู่ดี

ท่านพุทธทาสเคยกล่าวว่า "กินผักแต่ใจปรุงแต่งว่ายังกินเนื้อ มันก็ใจยึกษ์ ส่วนคนกินเนื้อกินผักแต่ใจพิจารณาว่ามันเป็นเพียงอาหารประทังชีวิตก็ใจพระ"


6. จงภูมิใจที่ได้ซื้ออาหารที่มีเนื้อสัตว์ ในช่วงเทศกาลกินเจ ยิ่งถือถุงไก่ย่าง ปลาเผา ฯลฯ เดินผ่านร้านขายอาหารเจ แม่งยิ่งโคตรภูมิใจเลยว่ะ 555

7. เพราะผมชอบกินขึ้นช่ายมาก ๆ ซื้อขึ้นช่ายติดบ้านตลอดเวลา เทศกาลเจ แม่งทำขี้นช่ายของผม แพงขึ้นกว่าเท่าตัว
ดังนั้น ผมเลยไม่ชอบเทศกาลกินเจ เพราะกินเจ มันทำให้ขึ้นช่ายของผม แพงโว้ย !! (ข้อนี้ส่วนตัวไปหน่อย 555)


สรุปว่า ใครใคร่อยากกินเจ ก็กินไป แต่อย่ามากล่าวหาคนกินเนื้อสัตว์เป็นบาป เพราะมันขัดหลักพุทธศาสนา ไว้ผมจะหาประวัติกินเจจริงๆ มา จำได้ว่า แรกเริ่มเดิมทีไม่เกี่ยวกับเรื่องได้บุญเลย แต่เพราะเมืองจีนสมัยก่อนมันอดอยากมาก เลยต้องกินผัก และจริงๆ แล้ว กินผักก็เพื่อสุขภาพ ไม่เกี่ยวกับได้บุญ

ถ้าใครอยากอ้างว่า กินเจได้บุญ ผมขอบอกว่า ใครอยากจะเชื่อก็เชื่อไป ผมไม่ขัดข้อง !!

แต่อย่ามาใส่ร้ายคนกินเนื้อสัตว์เป็นบาป !! 

เพื่อนๆ คงได้สาระหลักกู ของลัทธิใหม่เมืองเอก ไปครบถ้วนกันแล้วนะ

ในเรื่องการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในยุคแรก ๆ นั้น หากพระไปเจอนายพราน แล้วนายพรานเอาเนื้อมาถวายพระ ถ้าอยู่ ๆ พระไปบอกนายพรานว่า "อาตมาไม่กินเนื้อ เพราะกินเนื้อสัตว์บาป"

รับรองว่า นายพรานที่ยังไม่มีจิตเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เขาก็จะคิดว่า "มึงไม่กินก็อย่ากิน กูอุดส่าห์ แบ่งมาให้มึงกิน ยังเสือกเรื่องมาก"

เพราะ พระ ต้องพึ่งพาอาศัยชาวบ้านในการดำรงชีวิตอยู่ พระจะมาเลือกกินโน่นกินนี่ไม่ได้ เพราะ ภิกขุ แปลว่า ผู้ขอ

หลักพระพุทธศาสนาในศีลข้อแรก จึงสอนว่า ห้ามฆ่าสัตว์

หากหยุดการฆ่าสัตว์ได้ ก็ไม่มีการเบียดเบียนแล้วครับ ไม่ใช่สอนให้ไม่กินเนื้อสัตว์

เช่น เมื่อพระจะสอนนายพรานน้อมจิตรับศีล เมื่อรับศีลแล้ว พระก็ไม่ได้บังคับว่า นายพรานต้องเลิกอาชีพล่าสัตว์ แต่จะสอนว่า ถ้าละเว้นการฆ่าสัตว์ได้ ย่อมเป็นผู้ไม่เบียดเบียนชีวิต

รายละเอียด เรื่องนี้ จริงๆ มีเพียบ เป็นปุจฉา-วิสัชนา ของผมกับเพื่อนๆ  แต่ต้องหาอ่านในเฟซของผมเท่านั้น เพราะขี้เกียจลงครบครับ ^^

ทุกวันนี้ กินเจ มันกลายเป็นแนวการตลาดของธุรกิจไปแล้ว ลองไปอ่านที่มาประวัติกินเจ ดู แล้วจะรู้ว่า จริงๆ แล้ว ที่มาการกินเจส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับได้บุญตรงไหนเลยว่ะ คลิกอ่านประวัติกินเจ

ส่วนใครจะลอกไป ให้เครดิตด้วยนะโว้ย 555



การทำการเกษตรที่ประเทศภูฎาน จะไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลงใด ๆ เลย เพราะชาวภูฏานถือว่า การใช้ยาฆ่าแมลงในการเพาะปลูกพืช ก็ถือเป็นการทำบาปจากการฆ่า

ดังนั้นพืชผลผลิตการเกษตรของภูฏานจึงเป็นพืชผักออแกนิค 100 %

ในขณะที่พืชผักในประเทศไทยส่วนใหญ่มีการใช้ยาฆ่าแมลงมากติดอันดับต้น ๆ ของโลก

การกินผักของประเทศไทยเลยจึงเท่ากับช่วยทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสุขภาพ และฆ่าสัตว์หรือไม่ ?

เพราะสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงย่อมมีผลต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งย่อมมีผลต่อสัตว์ทุกชนิดที่ได้รับสารเคมีเช่นกัน


คลิกอ่าน akecity แจงเหตุผล ทำไมกินเนือสัตว์ไม่บาป !!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น