วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

จากสี่แยกวังหินถึงนั่งท้ายรถกระบะ ดัชนี้ชี้วัดวินัยคนไทย






การที่ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน มีปัญหาน้อย มันต้องเริ่มที่ประชาชนต้องรู้จักเคารพระเบียบวินัยและกติกาสังคมให้ได้ก่อน

ประเทศไทยเรามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์มากที่สุดในโลก ทั้ง ๆ ที่เวียดนามมีมอเตอร์ไซต์มากกว่าไทย 3 เท่า แต่เขากลับมีอุบัติเหตุน้อยกว่าบ้านเรา

ประเทศไทยมีผู้ตายเพราะเมาแล้วขับมากที่สุดในโลก นี่คือ สิ่งที่ชี้ชัดว่า บ้านเรามีความหละหลวมในเรื่องการรักษาวินัยจราจรเป็นอย่างมาก

วินัยจราจร ถือเป็นวินัยขั้นพื้นฐานสำคัญที่สุดที่ทุกคนในสังคมต้องใช้ร่วมกันทุกวัน ตั้งแต่ย่างเท้าก้าวออกจากบ้านแล้ว

ซึ่งวินัยจราจร เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพของคนในประเทศนั้น ๆ ได้เลยว่า มีคุณภาพต่ำหรือสูงอย่างไร 

แล้วคนไทยก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น ใครบีบแตรรถใส่ ถือว่า เป็นการด่า ซึ่งอาจมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งไปจนถึงยิงกันตายก็เป็นได้ ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ เขาไม่ถือสาเรื่องการบีบแตรรถเพื่อเตือนกันเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ

ผมเองก็เช่นกัน ขับรถมาหลายปี ปี ๆ นึงแทบนึกไม่ออกว่าเคยบีบแตรรถบ้างไหม จำไม่ได้จริง ๆ

------------------

คุณรู้จักสี่แยกไฟแเดงแยกวังหินกันไหม ?

ถ้าไม่รู้จักไม่เป็นไร ผมจะอธิบายสั้น ๆ ว่า คือสี่แยกเล็ก ๆ ในซอยเสนานิคมตัดกับถนนลาดปลาเค้าและถนนวังหิน

แม้สี่แยกวังหินจะเป็นสี่แยกเล็ก ๆ แต่ผู้คนก็มาก จราจรก็ติดขัดพอควร

แม้จะเป็นแค่สี่แยกเล็ก ๆ แต่มีป้อมตำรวจตรงสี่แยกพอดี


ขอบคุณรูปจากคุณปังคุง รีวิวอาหาร

แม้สี่แยกวังหินจะเป็นสี่แยกเล็ก ๆ แต่ก็มีสะพานลอยแบบจตุรทิศ หมายถึง คุณขึ้นสะพานลอยตรงฝั่งไหนก็สามารถไปลงได้ทุกฝั่งถนน

แต่ !! ถึงจะมีสะพานลอยเจ๋งขนาดนี้ แถมมีป้อมตำรวจติดแอร์ตรงใต้สะพานลอยด้วย แต่ผู้คนแถวนี้ส่วนใหญ่แม่งไม่ข้ามสะพานลอยกันหรอก แม่งข้ามตัดหน้ารถกันตรงใต้สะพานลอยกันถ้วนหน้านั่นแหละ

ผมผ่านแยกวังหินบ่อยมาก ก็เห็นคาตาบ่อย ๆ ว่า ตำรวจก็นั่งมองคนข้ามถนนใต้สะพานลอยกันอย่างสบายใจไทยแลนด์

แม้แต่เด็กนักเรียนที่ขาแข้งดี เหนื่อยก็น้อยกว่าผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่แม่งก็ไม่ข้ามสะพานลอยเช่นกัน

ประเทศไทยไม่มีวันเจริญจริง ๆ ได้หรอก คงเจริญได้แต่เปลือก แล้วอย่าสะเออะอยากจะเจริญแบบญี่ปุ่นล่ะ ถ้าพวกมึงรวมทั้งกูไม่เคารพวินัยจราจรให้ได้เท่าคนญี่ปุ่น (ที่นั่นถ้าไม่มีที่สำหรับจอดรถส่วนตัวก็ห้ามซื้อรถ)

เพราะคนญี่ปุ่นน่ะ เขาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ของตัวเองเสมอ ในขณะที่คนไทยจำนวนมากต่างกันโดยสิ้นเชิง

--------------------

เราคนไทยเน้นเอาสะดวกสบายมากกว่าเน้นความปลอดภัยในทุก ๆ เรื่อง  อย่างที่เป็นปัญหาดราม่าในตอนนี้ก็เพราะเอาสะดวก เอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก โดยที่คนอื่นจะมาเดือดร้อนด้วยหรือไม่ กูไม่สน

เช่น ปัญหานั่งท้ายรถกระบะที่ไม่มีหลังคา คือ มันค่อนข้างอันตรายมาก หากเกิดอุบัติเหตุแล้วมีคนนั่งท้ายกระบะ มีโอกาสเทกระจาดบาดเจ็บล้มตายค่อนข้างสูง

แต่คนไทยก็จะอ้างจน อ้างเพื่อความสะดวก อ้างโน่นอ้างนี่ ทั้งหมดก็เพื่อจะไม่ทำตามกฎหมายทั้งสิ้น

ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ แล้ว กฎหมายไม่ได้ห้ามคนนั่งท้ายรถกระบะ เพียงแต่ถ้าจะใช้รถกระบะขนคนเป็นประจำก็ควรต้องไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย คือ ไปติดตั้งหลังคาและที่นั่งถาวร แล้วไปจดทะเบียนเป็นรถบรรทุกโดยสารเกิน 7 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นป้ายทะเบียนสีขาวตัวหนังสือสีฟ้า ซึ่งภาษีจะถูกกว่าภาษีรถโดยสารส่วนบุคคล

อย่างที่ผมเห็นเป็นประจำ รถขนคนงานก่อสร้าง ซึ่งต้องขนคนงานทุกวันทั้งเช้าทั้งเย็น แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมไปติดหลังคาและติดที่นั่งเพื่อความปลอดภัยให้คนงานกัน

อย่างผมเห็นรถกระบะ 4 ประตูเท่ ๆ หลายคันที่ใช้ขนคนงานทุกวัน ทั้งเช้าทั้งเย็น แต่ก็ไม่ยอมไปติดหลังคากับที่นั่งให้คนงาน ปล่อยให้คนงานต้องนั่งตากแดดตากฝนตลอดการเดินทาง เหตุเพราะถ้าเจ้าของรถไปติดหลังคาแล้วรถมันไม่สวย รถมันไม่เท่เวลาไม่ขนคน แต่กลับยอมจ่ายภาษีรถยนต์ส่วนบุคคลในราคาแพงกว่ารถโดยสารเกิน 7 ที่นั่งเสียอีก

ล่าสุด เห็นมีครูคนนึงอ้างใช้รถกระบะไปส่งเด็กนักเรียนไปแข่งกีฬา คือก็อ้างเอาแต่ประโยชน์อย่างเดียว แล้วหากเกิดอุบัติเหตุเทกระจาดขึ้นมา เด็กต้องมาบาดเจ็บล้มตายหนักกว่าที่ควรจะเป็น ครูไม่คิดบ้างเหรอ ?




พอกฎหมายเขาห้ามคนนั่งรถกระบะ ก็อ้างจน ไม่มีเงินซื้อรถตู้ อ้างไปโน่น ทั้ง ๆ ที่ ถ้าจะขนคนเป็นประจำก็แค่ไปติดหลังคาและที่นั่งเพิ่ม แบบรถสองแถวน่ะ แต่ไม่ยอมทำกัน

แน่นอน มันไม่มีอะไรปลอดภัย 100 % หรอก แต่กฎหมายเขามีเพื่อหวังลดความรุนแรงของอุบัติเหตุจากหนักให้กลายเป็นเบา

ที่จริงกฎหมายเรื่องการขนส่งของบ้านเรามันอีหลักอีเหลื่อมานานแล้ว อย่างรถตุ๊ก ๆ ก็ไม่มีเข็มขัดนิรภัย ต่อไปต้องติดเข็มชัดนิรภัยไหมหรือรถสองแถวจริง ๆ มันก็ไม่ปลอดภัยนัก แต่มันก็ปลอดภัยกว่ารถกระบะที่ไม่มีหลังคาเลย เพราะนั่นมันเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุแบบเทกระจาดได้มาก ซึ่งอันตรายมาก ๆ

ส่วนรถกระบะที่เน้นการใช้งานบรรทุกของเป็นประจำ ที่ไม่ได้ติดตั้งหลังคาและที่นั่ง แต่หากมีความจำเป็นต้องบรรทุกคนบ้างเป็นครั้งคราว ก็สามารถไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการชั่วคราวในการขนส่งได้เป็นครั้ง ๆ ไป มันสามารถทำได้ครับ ตามมาตรา 19 พ.ร.บ. จราจรทางบก มาตรา 2522



มาตรา 19 ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องบรรทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของนอกเหนือไปจากหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อเจ้าของรถร้องขอเจ้าพนักงานจราจรจะผ่อนผันโดยอนุญาตเป็นหนังสือเป็นการชั่วคราวเฉพาะรายก็ได้


แล้วที่ชอบอ้างกันนักคือ "ฉันจน" ไม่สามารถซื้อรถได้หลายคัน เพื่อใช้งานถูกต้องตามวัตถุประสงค์ทุกอย่างได้

เอ่อ.. คือ คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้เขาก็ไม่มีเงินซื้อรถใช้ได้ทุกวัตถุประสงค์กันหรอกครับ คนขับรถเก๋งเขาก็ไม่มีรถไปใช้ขนของแบบรถกระบะ หากเขาจะต้องขนของบ้างเป็นครั้งคราวเขาก็ต้องจ้างรถกระบะมาขนครับ

กฎหมายเขามีไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันทุกคน จะให้มาถูกใจคนทุกคนไม่ได้หรอกครับ รถก็ต้องใช้งานให้ถูกประเภท

แค่ทำตามกฎหมายก็จบ ถ้าไม่มีรถเหมาะสมแก่การใช้งานอะไร ก็ต้องจ้างรถคันอื่นไปใช้งานแทนเป็นการชั่วคราวครับ

คนที่ชอบอ้างว่าจน แต่ยังมีรถกระบะส่วนตัวใช้ ผมว่า คนที่เขาไม่มีรถส่วนตัวใช้เลยล่ะ ? เขาจะเดินทาง เขาจะขนของ เขามิน่าสงสารกว่าเหรอครับ

หยุดวาทกรรมอ้างยากจนบนความเห็นแก่ตัวเพื่อละเมิดกฎหมายสักทีเถอะ

แต่เชื่อว่า รัฐบาล คสช. คงต้องกลับมาทบทวนปัญหาเรื่องรถกระบะอีกหลายเรื่องเลย ที่มันมีข้อกฎหมายอิหลักอิเหลื่อหลายเรื่อง และมีหลายข้อดูมันขัดแย้งและไม่ทันเหตุการณ์ปัจจุบัน

-------------------

สรุป 

ตราบใดที่คนไทยยังตายเพราะอุบัติเหตุมากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ตายเพราะเมาแล้วขับมากที่สุดในโลก ตราบนั้นมันกระทบไปถึงระบบการรักษาพยาบาลของคนทั้งประเทศด้วย เชื่อไหม ?

เมื่อมีคนประสบอุบัติเหตุมาก งบประมาณของรัฐก็ต้องสูญเสียในเรื่องนี้มากจนเกินไป จนทำให้การบริการด้านสาธารณสุขเพื่อคนที่เขาเจ็บป่วยจริง ๆ ต้องได้รับผลกระทบไปด้วยแน่นอน

หมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐวัน ๆ นึงต้องรับภาระดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเยอะมาก ๆ ทำให้งานของหมอก็ล้นมือ แต่รายได้หมอกลับน้อยกว่าโรงพยาบาลเอกชนมาก ก็เลยทำให้เกิดการสมองไหลในอาชีพหมอมากขึ้น ซึ่งมันเป็นผลกระทบต่อผู้ป่วยทุกคนในประเทศไทยไปหมด

ฉะนั้น คนที่ชอบอ้างว่า ชีวิตฉัน ฉันขอเสี่ยงเอง ฉันจะนั่งท้ายรถกระบะ อะไรทำนองนี้ มันไม่ได้เดือดร้อนแค่คุณคนเดียวหรอกครับ มันกระทบไปหมดทุกคนนั่นแหละ

ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด กว่าจะถึงคิวผ่าตัดต้องรอนานเป็นเดือน แต่พอมีอุบัติเหตุจากรถยนต์ต้องผ่าตัดฉุกเฉินเข้ามา ก็เลยทำให้ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัดอยู่ก่อน อาจโดนแพทย์สั่งเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน เพื่อเปิดทางให้พวกเคสฉุกเฉินจากอุบัติเหตุได้ผ่าตัดก่อน

ฉะนั้นแน่จริงต่อไป ถ้าใครกระทำผิดกฎหมายแล้วเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บขึ้นมา สิทธิประกันสังคม สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรคจะไม่รักษาให้เอาไหมล่ะ (ประชด??)

คือ รัฐบาลจะไปทำอย่างนั้นก็คงไม่ได้ แต่ที่รัฐบาลเขาทำได้คือ การบังคับใช้กฎหมายจราจรให้จริงจังเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุที่อาจเกิดได้กับทุกคน

"หัดเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อประเทศชาติกันบ้างเถอะครับ อย่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จนไม่ยอมเสียสละอะไรบ้างเลยด้วยชอบอ้างความยากจน อย่าคิดแต่ทำอะไรตามใจคือไทยแท้กันอีกเลยครับ"

อ้อ ถ้าขนคนบนกระบะท้ายแค่ในป่า ในไร่ ในสวน แบบนี้ไม่ผิดกฎหมายนะครับ

คลิกอ่าน ทำไมคนไทยยังไม่รวย ??


อ้าว ๆ คุณตำรวจไหงนั่งบนขอบกระบะแบบนั้นล่ะ อิอิ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น