วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บก.ลายจุด โชว์โง่อีกแล้ว กรณีดำเนินคดีจำนำข้าวกับยิ่งลักษณ์






บก.ลายจุด นักสร้างวาทกรรมเท็จสั้น ๆ เพื่อหลอกสาวกให้หลงเชื่อ

ตรรกะของบก.ลายจุด อ่านแวบ ๆ ดูเหมือนฉลาด แต่กลับเป็นความฉลาดในหมู่คนโง่ อย่างเช่นโพสล่าสุด กรณีจำนำข้าว



"โครงการจำนำข้าวทำระบบประกันความเสียหายกับเจ้าของโกดัง
เมื่อพบว่าข้าวในโกดังบางแห่งมีปัญหาไม่ว่าจะเน่าหรือหายแทนที่จะไปจัดการกับคนที่รับจ้างเก็บข้าวในโกดัง ดันไปเอาผิดกับคนที่ฝากข้าว แล้วจะทำประกันไปทำไม" บก.ลายจุด

----------------------

ถ้าคุณเป็นคนเสื้อแดง ย่อมหลงเชื่อวาทกรรมโง่ ๆ แบบนี้ได้โดยง่าย

ซึ่งผมจะอธิบายว่า วาทกรรมนี้โชว์โง่อย่างไร

1. การดำเนินคดีในโครงการจำนำข้าวกับยิ่งลักษณ์ เป็นการดำเนินคดีตาม ปอ. มาตรา 157 โทษฐานเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

หมายถึง โครงการจำนำข้าวได้สร้างความเสียหายแก่รัฐจำนวนมากเกินไป แต่ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานคณะกรรมการข้าวโดยตำแหน่ง กลับไม่สั่งให้หยุดการดำเนินนโยบายนี้ จนปล่อยให้เกิดความเสียหายแก่รัฐเกินกว่าวงเงินที่รัฐบาลกำหนดไว้

นี่เป็นการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจนสร้างความเสียหายมากมายให้กับประเทศชาติ


2. การเก็บข้าวที่ถูกวิธีเพื่อไม่ให้ข้าวเสื่อมสภาพโดยง่าย หากต้องเก็บในระยะเวลานาน หรือในระยะเวลาที่ไม่แน่นอน จะต้องเก็บเป็นข้าวเปลือก แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับสั่งให้สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารจนหมด ทำให้ข้าวเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงเท่ากับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด


3. การวางระบบประกันความเสียหายกับเจ้าของโกดัง ก็ไม่ใช่จะได้เงินทันที เพราะโกดังเก็บข้าวเองมีนับร้อยนับพันโกดัง แถมโกดังจะวางหนังสือค้ำประกันธนาคารร้อยละ 20 ของมูลค่าข้าวเปลือกที่รับจำนำเท่านั้น แล้วพอเกิดความเสียหาย รัฐบาลก็ยังไม่ได้เงินค่าเสียหายจากโกดังทั้งหมด ก็ต้องดำเนินคดีต่อไปแน่นอน ซึ่งกว่าจะไล่เบี้ยฟ้องร้องจนได้เงินครบ ก็ต้องอีกหลายปี ซึ่งนี่คือความเสียหายของรัฐอีกนาน

แล้วไม่ใช่จะมาดำเนินคดีกับยิ่งลักษณ์คนเดียวเท่านั้น  นี่คือ วาทกรรมเท็จของ บก.ลายจุด โดยแท้



4. และถึงแม้จะได้เงินค่าเสียหายจากโกดัง แต่เพราะข้าวสารมันต้องขายก่อนเสื่อมสภาพ ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่สามารถขายข้าวได้ทันท่วงที ต่อให้โกดังเก็บข้าวสารไว้อย่างดีขนาดไหน ข้าวสารมันก็ต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งจะมาโทษโกดังเก็บข้าวฝ่ายเดียวคงไม่ได้ 

แล้วข้าวสารที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา บริษัทประกันภัยก็จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนนี้ แล้วเงินค่าประกันที่รัฐบาล โดย อคส. และ อตก. จ่ายไปแล้วก็ต้องสูญไปเปล่า ๆ ใครล่ะที่จะรับผิดชอบเงินส่วนนี้ ?

ที่สำคัญ ตั้งแต่เริ่มโครงการจำนำข้าว ก็มีการนำโกดังเก็บข้าวที่ไม่ได้มาตรฐานมาเข้าร่วมโครงการด้วย นี่ก็คือ การทุจริตอย่างหนึ่งเช่นกัน


5. ในเมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าวได้ไม่ทันเวลา รัฐก็ต้องสูญเสียเงินค่าเช่าโกดังเก็บข้าวสารในระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น ในขณะที่ข้าวสารกลับมีมูลค่าลดลง เพราะเสื่อมสภาพ

นี่คือ ค่าโสหุ้ยที่รัฐต้องเสียเรื่อย ๆ จนบานปลาย นี่จึงเป็นความผิดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่เป็นเจ้าของนโยบายจำนำข้าวนี้

*ค่าเช่าโกดังเก็บข้าวสาร รัฐบาลต้องจ่ายค่าเช่าเก็บข้าวสารในราคากระสอบละ 2 บาทต่อเดือน หรือ 2 พันล้านบาทต่อเดือน


6. ถ้าโกดังเก็บข้าวมีการประกันความเสียหาย ก็ยังได้เงินจากบริษัทประกันคืนมาบ้าง

แต่เงินของรัฐบาลที่จ่ายไปกับโครงการจำนำข้าวมากถึง 1 ล้านล้านบาท แล้วต้องขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เพราะหมดไปกับค่าโสหุ้ยที่บานปลายจนไม่คุ้มค่ากับมูลค่าข้าวที่ยังเหลือค้างอยู่ จะมีใครเป็นคนค้ำประกันความสูญเสียนี้ของรัฐ ??

คำตอบคือ ภาษีของคนไทยทั้งประเทศค้ำประกันไว้

รัฐบาลกู้เงินจาก ธกส. มาจ่ายชาวนาเกินวงเงินที่รัฐกำหนดไว้หลายแสนล้าน และยังค้างจ่ายเงินแก่ ธกส. อีกจำนวนมาก ก็เท่ากับรัฐต้องมีภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่โตวันโตคืน ซึ่งเท่ากับหนี้ก้อนนี้ต้องเป็นภาระของประเทศชาติต่อไปอีกหลายปี

ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการดำเนินคดีกับยิ่งลักษณ์ ที่เป็นต้นเหตุให้รัฐเกิดความสูญเสียมหาศาล

คลิกอ่าน คดีจำนำข้าว สถานการณ์แหลของยิ่งลักษณ์ไม่เปลี่ยนแปลง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น