วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

โชคทวี พรหมรัตน์ หลงอีโก้ เพราะไม่เข้าใจหน้าที่ที่ถูกต้อง






กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง โค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน (หรือผู้ช่วยโค้ช) โชคทวี พรหมรัตน์ นั้น

ผมไม่ขอเท้าความมากว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เพราะผมก็ไม่ใช่คนวงใน

แต่ในฐานะแฟนบอล และคนวงนอก ผมขอมองและวิเคราะห์แบบคนวงนอกนี่แหละว่า ผู้ช่วยโค้ชโชคทวี กำลังหลงในอีโก้ของตัวเอง จนลืมไปว่า หน้าที่ของตัวเองคือ ผู้ช่วยของโค้ชซิโก้

สาเหตุที่ ผู้ช่วยโค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ เกิดหลงอีโก้ตัวเองขึ้นมานั้น ก็เพราะได้มีโอกาสนำทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ไปคว้าเหรียญทองได้อย่างน่าประทับใจกลับมา  ซึ่งผู้เล่นส่วนใหญ่ในชุดซีเกมส์ก็คือ ชุดได้ที่ 4 เอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ภายใต้การคุมทีมของโค้ชซิโก้ นั่นแหละ

และสาเหตุที่ผู้ช่วยโค้ช โชคทวี ได้มีโอกาสทำทีมชุดซีเกมส์เต็มตัวแบบเฉพาะกิจนั้น ก็เพราะโค้ชซิโก้ ติดภารกิจต้องพาทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปเตะรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ไต้หวัน

นั่นแหละ คือสาเหตุที่ โค้ชซิโก้ ต้องมอบภาระหน้าที่ในการคุมทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ให้ผู้ช่วยโค้ช โชคทวี รับหน้าที่อย่างเต็มตัวเป็นการเฉพาะกิจ

และเมื่อทีมชาติไทยชุดเล็กได้เหรียญทองซีเกมส์มาแล้ว ผู้ช่วยโค้ชโชคทวี ก็เริ่มมีอีโก้ว่า ข้าก็เก่ง ข้าก็แน่เหมือนกันว่ะ ที่ทำทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ได้เหรียญทองด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมขนาดนี้
(ทั้ง ๆ ที่การเตรียมทีมชุดซีเกมส์ทั้งหมด โค้ชซิโก้ปูแนวทางและรูปแบบการเล่นไว้ให้ก่อนทั้งสิ้น แม้โชคทวีอาจคลุกคลีฝึกสอนฝึกซ้อทให้ทีมชุดนี้มากกว่าก็ตาม)

จนเมื่อผู้ช่วยโค้ช โชคทวี เกิดหลงในอีโก้ตัวเอง ก็เลยจะขอทีมชุดคัดเลือกโอลิมปิกอายุไม่เกิน 23 ปี มาคุมเอง ขอเป็นเฮดโค้ชเอง โดยจะให้โค้ชซิโก้เป็นเพียงที่ปรึกษาทีมเท่านั้น

แต่เป้าหมายและแผนงานของโค้ชซิโก้ไม่ใช่แบบนั้น เลยทำให้โค้ชซิโก้โมโห จนหลุดปากพูดออกไปว่า "ทีมชุดซีเกมส์ นั้นเก็บตัวกันมากว่า 2 ปี ใครไปเป็นโค้ชก็เป็นแชมป์"

ด้วยคำพูดนี้ของโค้ชซิโก้ ก็เลยทำให้ผู้ช่วยโค้ช โชคทวี เกิดอาการน้อยใจขึ้นมา

นี่แหละครับ ต้นตอของปัญหาความแตกแยก


รูปจาก คมชัดลึก

ตำแหน่งอย่างเป็นทางการ  โค้ขซิโก้  คือ หัวหน้าทีมผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย

โค้ชโชคทวี คือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน (หรือแปลว่า เป็นผู้ช่วยของโค้ชซิโก้นั่นเอง)

คลิกอ่านข่าว สภากรรมการสมาคมฟุตบอลทีมชาติไทย มีมติให้เกียรศักดิ์ เสนาเมือง คุมทีมชาติไทยทุกชุด

-----------------

ที่จริงผู้ช่วยโค้ช โชคทวี จะต้องไม่ลืมว่า การที่ทีมชาติไทยเกิดการปฏิรูปทั้งรูปแบบการเล่น ทั้งรูปแบบแนวคิดหรือทีมสปิริตต่างไปจากทีมชาติไทยในอดีตได้นั้น นั่นเพราะฝีมือของโค้ชซิโก้แท้ ๆ

และที่สำคัญคือ โค้ชซิโก้ มีเป้าหมายที่จะรับคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่และชุดซีเกมส์ รวมถึงชุดคัดโอลิมปิกด้วยตนเอง หากไม่ติดภารกิจซ้ำซ้อนในการคาบเกี่ยวเรื่องช่วงเวลาแข่งขันของแต่ละชุด

ผู้ช่วยโค้ช โชคทวี เป็นเพียงผู้ช่วยของโค้ชซิโก้เท่านั้น  และการได้รับหน้าที่คุมทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ สาเหตุเพราะ ทีมชาติชุดใหญ่ และทีมชาติชุดซีเกมส์มีแมทช์การแข่งขันที่คาบเกี่ยวเวลากัน

สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือ ผู้ช่วยโค้ชโชคทวี คิดจะยึดการคุมทีมชาติไทยชุดคัดเลือกโอลิมปิกมาดูแลเองคนเดียว ซึ่งมันผิดหลักการที่โค้ชซิโก้ตั้งใจไว้แต่แรก

เพราะโค้ชซิโก้ มีเป้าหมายจะคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่และทีมชาติไทยชุดเล็กเองทั้งหมด โดยมีผู้ช่วยโค้ช โชคทวี เป็นผู้ช่วยในการทำทีม

จำไว้นะครับ ทั้งชุดฟุตบอลโลก และชุดคัดเลือกโอลิมปิก รวมถึงชุดซีเกมส์ ชุดเอเชียนเกมส์ นั้น เป็นหน้าที่หลักในการคุมทีมของโค้ชซิโก้ทั้งสิ้น เพราะทุกชุดโค้ชซิโก้จะเป็นคนเลือกนักเตะทุกคนด้วยตนเอง

และนักเตะทุกคนในทีมชุดเล็ก ต้องสามารถปรับเปลี่ยนขึ้นมาเล่นในทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ทุกคน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่โค้ชซิโก้ ต้องลงไปควบคุมในทีมชาติไทยทุกชุดด้วยตนเอง เว้นแต่จะติดภารกิจอื่น ๆ ก็จะมอบหมายให้ผู้ช่วยโค้ชรับหน้าที่แทนเท่านั้น

ส่วน โชคทวี พรหมรัตน์ คุณเป็นเพียงผู้ช่วยผู้ฝึกสอน หรือเป็นแค่ผู้ช่วยของโค้ชซิโก้เท่านั้น

เป้าหมายหลักของทีมชาติไทยตอนนี้คือ ต้องการให้ทีมชาติไทยทุกชุดมีรูปการเล่นแบบเดียวกัน มีทีมสปิริตแบบเดียวกัน  ภายใต้การนำของเฮดโค้ชซิโก้

หากแต่ละคนคิดจะแยกไปคุมทีมชุดโน้นชุดนี้ เพราะอยากดังเดี่ยว เพราะเริ่มหลงอีโก้ตัวเอง ก็อาจทำให้ฟุตบอลไทยไม่เป็นไปตามแผนงานที่โค้ชซิโก้วางแผนระยะยาวเอาไว้

สุดท้ายทีมชาติไทยก็จะสะเปะสะปะเหมือนเดิม

ผมขอแนะนำว่า ผู้ช่วยโค้ชโชคทวี จงยอมรับว่า คุณเป็นแค่ผู้ช่วยของโค้ชซิโก้ อย่าหลงอีโก้ จนทำให้เกิดความแตกแยกกันในหมู่ผู้ฝึกสอน เพราะหน้าที่ของคุณคือ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนอันดับ1 จะเป็นรองก็แค่โค้ชซิโก้ เท่านั้น (ซึ่งน่าภูมิใจ)

เปรียบเสมือน โชคทวี ก็เป็น โยฮัน เลิฟ ส่วนโค้ชซิโก้ ก็คือ เจอร์เก้น คลินส์มันน์

เพราะการปูพื้นฐาน และรูปแบบการเล่นแนวใหม่ของทีมชาติไทย เกิดจากการนำทีมของโค้ชซิโก้ เขาคือ ผู้นำการปฏิรูปทีมชาติไทยครั้งใหญ่ เหมือนที่เจอร์เก้น คลินส์มันน์ นำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่ทีมชาติเยอรมัน โดยมีผู้ช่วยของเขา โยฮัน เลิฟ คอยเกื้อหนุน แบบไม่คิดอยากเอาหน้า ชิงดีชิงเด่นกับเฮดโค้ช เสียเอง

หน้าที่สำคัญของโค้ชซิโก้ในวันนี้ คือ ปฏิรูปการทำทีมและวางรากฐานแนวคิดของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยใหม่ เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ซึ่งบางทีความสำเร็จที่สุดยอดของทีมชาติไทย อาจเกิดขึ้นในยุคที่โชคทวี ขึ้นเป็นเฮดโค้ชใหญ่แล้วก็ได้


งรู้จักหน้าที่ เพื่อความสำเร็จของส่วนรวม ดีกว่า หลงอีโก้ ตั้งแต่ยังไม่ทันจะประสบผลสำเร็จในระดับคัดฟุตบอลโลก หรือคัดโอลิมปิกเลย

และอยากบอกผู้ช่วยโค้ชในทีมของโค้ชซิโก้ทุกคนว่า จงทำตามหน้าที่ตามแต่ที่เฮดโค้ชซิโก้จะสั่งการมา ว่าอยากจะให้คุณไปคุมทีมชุดไหนแทนเป็นการเฉพาะกิจ ไม่ใช่ จู่ ๆ เกิดหลงอีโก้เหมือนโชคทวี ที่คิดกระด้างกระเดื่องในวันนี้ซะแล้ว

ก็ไม่รู้สินะ แต่ผมว่า ตอนนี้แก้วมันร้าวแล้วล่ะ ในทีมสต้าฟโค้ชทั้งหมดของโค้ชซิโก้

เว้นแต่ โชคทวี จะเข้าใจคำว่า หน้าที่ และ ทำเพื่อชาติต้องมาก่อน ได้อย่างถ่องแท้แล้วนั่นแหละ ทุกอย่างก็จะกลับมาหลอมรวมใหม่เป็นหนึ่งเดียวกันได้อีกครั้ง




คลิกอ่าน แนวคิดผิดก่อนแข่ง เหตุฟุตบอลหญิงไทยตกรอบปรีโอลิมปิก

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณ สำหรับแง่คิดที่มีประโยชน์ ที่จะใช้ในการดำเนินชีวิต อีกแง่คิดหนึ่ง ครับ

    ตอบลบ