วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เฮ้ย !! พระพยอมโฆษณาขายอุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน






จากกรณีเณรคำขายเครื่องฟอกอากาศ ถามว่า ถ้าเป็นพระไปโปรโมทสินค้าแบบนั้นเหมาะสมหรือไม่ ?

ผมตอบว่า ผมก็ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า เณรคำมันสามารถทำได้ เพราะมันไม่ใช่พระมานานแล้ว 555!

ทีนี้ผมดันไปเจอคลิปพระพยอมช่วยโฆษณาสินค้า คือ อุปกรณ์ช่วยรถประหยัดน้ำมัน

เอ่อ.. อันนี้ ผมก็ไม่ทราบว่า พระสามารถทำได้หรือไม่ ?

แต่ที่แน่ ๆ ท่านพยอมท่านทำไปแล้ว ลองดูคลิปตั้งแต่นาทีที่ 9.20 เป็นต้นไปนะครับ



โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมนะครับ ^^

-----------------------------

เตือนผู้บริโภคโดนแหกตา อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันทดสอบแล้วใช้ไม่ได้ผล

ปตท.ออกโรงเตือนผู้บริโภคโดนแหกตา อุปกรณ์เสริมและสารเคมีที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ไม่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง ผลพิสูจน์แล้ว ไม่มีรายใดผ่านมาตรฐานสากล เพียงแค่ผู้ผลิตอ้างสรรพคุณให้หลงเชื้อเท่านั้น ชี้หากพัฒนาได้จริง อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์ต้องถูกนำมาติดตั้งในรถยนต์แล้ว เพื่อเป็นตัวเสริมช่วยชิงส่วนแบ่งการตลาด

ดร.ธานินทร์ อุทวนิช ผู้จัดการฝ่ายวิจัยวิศวกรรมและเครื่องยนต์ สถาบันวิจัยและเทคโนโลยี บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในช่วงที่เกิดภาวะราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเวลานี้ ได้ส่งผลให้มีผู้ประกอบการหลายรายได้ออกมาเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันของยายนต์ในตลาดมากขึ้น

โดยจะอ้างคุณสมบัติในการช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้หลาย 10 % และเมื่อราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ในภาวะปกติ สินค้าเหล่านี้จะค่อยๆ ลดกิจกรรมด้านการตลาดลง ซึ่งจากประสบการณ์ในรอบ 20 ปีที่ทำงานด้านนี้มา พบว่ามีสินค้าที่อ้างว่าช่วยประหยัดน้ำมันได้จะมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่

กลุ่มแรก ได้แก่เป็นอุปกรณ์เสริมติดตั้งในรถยนต์ กลุ่มที่ 2 เป็นประเภทสารเคมีสำหรับเติมลงในน้ำมันเชื้อเพลิงหรือน้ำมันหล่อลื่นโดยอุปกรณ์เสริมติดตั้งในรถยนต์นั้นจะมีหลายชนิด ได้แก่

แม่เหล็กแรกสูง เป็นแท่งเหล็กนำไปรัดติดกับท่อน้ำมันก่อนเข้าสู่เครื่องยนต์ ใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ซึ่งมีการอ้าง ช่วยประหยัดน้ำมน 20-30 % ซึ่งระยะแรกราคาอยู่ที่ 7,000-8,000 บาท แต่ระยะหลังราคาลงมาอยู่ที่ 800 บาทท่อเพิ่มพลังงาน สร้างด้วยโลหะผสมพิเศษ มีตั้งแต่ 5-9 ชนิด โดยทำเป็นท่อกลมหรือท่อสามเหลี่ยม ติดตั้งโดยการตัดท่อเข้ากับท่อส่งน้ำมัน โลหะเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้โมเลกุลของน้ำมันเกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ขึ้น มีผลให้ประหยัดน้ำมัน

โดยท่อสามเหลี่ยมผสมโลหะ 9 ชนิด เคยมีขายในราคาอันละ 4,500 บาท ท่อช่วยรีดดูดไอเสีย เป็นท่อขนาดใหญ่ ประกอบด้วยครีบโลหะภายใน ติดตั้งที่ปลายท่อไอเสีย โดยอ้างว่าท่อนี้จะช่วยดูดไอเสียออกมาได้มากและเร็วกว่าปกติ ทำให้เครื่องยนต์มีการเผาไหม้ที่ดีขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมันและลดควันดำ ราคาที่เสนอขาย 20,000 บาท

เครื่องเพิ่มออกซิเจน อ้างเป็นอุปกรณ์คอยล์ไฟฟ้าอิเล็กตรอน เพื่อแยกสารประกอบออกไซด์ในอากาศ ทำให้เพิ่มปริมาณออกซิเจนเข้าไปในเครื่องยนต์มากขึ้น ทำให้เพิ่มกำลังแรงม้าและอัตราเร่งของเครื่องยนต์ และช่วยประหยัดน้ำมันในบางกรณีได้ถึง 60 % ราคาที่เสนอขายเครื่องละ 3,500 บาท

นอกจากนี้ในกลุ่มของสารเคมี ในท้องตลาดจะเรียกว่าหัวเชื้อ มีการทำออกจำหน่ายหลายสิบยี่ห้อ มีตั้งแต่สารหัวเชื้อประเภทพื้นฐาน โดยอ้างสรรพคุณใช้ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์ ใช้เพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่อง ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ ลดการกินน้ำมันและยืดอายุการใช้งาน ซึ่งบางชนิดอาจพอมีประโยชน์บ้าง แต่สำหรับรถยนต์ที่ได้รักบารบำรุงรักษาอย่างดี ใช้น้ำมันและน้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูงเป็นประจำ ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้สินค้าเหล่านี้

ดร.ธานินทร์ กล่าวอีกว่า จึงอยากขอเตือนว่าผู้บริโภคที่ใช้อุปกรณ์เสริมและสารเคมีที่ช่วยประหยัดน้ำมันนี้ ไม่สามารถประหยัดน้ำมันได้ตามที่มีการอ้างสรรพคุณ เนื่องจากผู้ที่อ้างตัวเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นส่วนใหญ่ เป็นผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือวิศวกรรมอย่างเป็นทางการ และไม่สามารถหาข้อมูลของแหล่งผลิตที่อยู่ในรูปบริษัทที่เป็นตัวตนได้ ประกอบกับคำบรรยายสรรพคุณของสินค้า ไม่มีหลักทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน แหล่งต้นตอของสินค้าประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะมาจากทางไต้หวันและญี่ปุ่น และคนไทยได้ทำเลียนแบบหรือดัดแปลงขึ้น

อีกทั้งการทดสอบการประหยัดน้ำมันตามที่อวดอ้าง จะเป็นวิธีการของผู้ทำหรือผู้ขายเอง ไม่ใช่วิธีการที่เป็นมาตรฐานสากลที่ทางอุตสาหกรรมยานยนต์ยอมรับกันอยู่ในปัจจุบัน

ซึ่งวิธีการทดสอบการประหยัดน้ำมันที่ใช้เป็นมาตรฐานในประเทศไทยจะใช้คือ มอก.1870-2542 เทียบเท่ากับมาตรฐาน ยูโร 2 และ มอก.2160-2546 เทียบเท่ามาตรฐาน ยูโร 3 ซึ่งในช่วงระยะหลายปีที่ผ่านมา ได้มีผู้นำสินค้าเหล่านี้หลายรายมาว่าจ้างให้ทางสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท.ทำการทดสอบการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ไม่เคยมีรายใดสามารถแสดงผลการประหยัดน้ำมันได้อย่างมีนัยสำคัญ ตามมาตรฐานที่กำหนดได้

ดังนั้นในสภาพที่เป็นจริง การแข่งขันทางธุรกิจ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้จำหน่ายปิโตรเลียมทั่วโลกทุกวันนี้ใช้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์และงบประมาณเป็นจำนวนมาก เพื่อทำการศึกษาวิจัยเพื่อให้ได้ยานยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงและปล่อยมลพิษน้อยที่สุด

ดังนั้นผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า หากมีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆในการช่วยประหยัดน้ำมัน สิ่งเหล่านี้จะถูกนำมาอยู่ในผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพื่อเป็นการดึงดูดให้ประชาชนมาซื้อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดยที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อหาซื้อสิ่งพิเศษมาใช้ นอกจากจะไม่คุ้มค่าเงินแล้ว ยังอาจจะต้องเสี่ยงกับผลร้ายข้างเคียงที่จะเกิดกับรถยนต์ด้วย


ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

---------------------

จงเลือกเอาเถิด จะเชื่อพระพยอม หรือจะเชื่อนักวิชาการ ปตท. ?


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น