เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยดูสารคดีของญี่ปุ่นรายการนึง
เป็นสารคดีเชิงแฟนตาซี คือ พิธีกรจะย้อนเวลาย้อนยุคกลับไปในอดีต เพื่อกลับไปดูต้นกำเนิดของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นว่า แรกเริ่มเดิมทีทำไมถึงเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นในญี่ปุ่น
มันมีตอนนึง เกี่ยวกับ #ทำไมคนญี่ปุ่นเก่งคณิตศาสตร์
สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือ หลายร้อยปีที่ผ่านมา แม้แต่ชาวนายากจนของญี่ปุ่นหลายคนก็คลั่งไคล้การคิดเลข ถึงขนาดเดิมพันตั้งโจทย์เลข แก้โจทย์เลขกัน
คนที่เก่งเลขที่สุด จะได้รับการยกย่องเป็นเสมือนจอมยุทธ์มือ 1 ของแผ่นดิน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วประเทศ
ในรายการนี้มันแบบ มีนักคณิตศาสตร์คนนึง ได้มาเขียนโจทย์เลขซับซ้อนทิ้งไว้ที่วัดในหมู่บ้านแห่งนึง เพื่อท้าคนในหมู่บ้านนี้มาแก้โจทย์เลขข้อนี้ภายใน 7 วันให้ได้
เหมือนเป็นการมาท้าประลองยุทธทำนองนั้น ถ้าไม่มีใครในหมู่บ้านแก้โจทย์เลขข้อนี้ได้ ก็เท่ากับชาวหมู่บ้านนี้โดนดูถูก มันเสียศักดิ์ศรี
ตอนดูสารคดีนี้ มันทำให้ผมรู้เลยว่า ทำไมญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เขาถึงมีความเจริญทางด้านเทคโนโลยีชั้นสูงอย่างมาก
คำตอบคือ #ความฝักใฝ่ความรู้ด้านวิชาการคำนวณ ชอบฝักใฝ่หาความรู้ด้านคณิตศาสตร์อยู่ในสายเลือดของคนในประเทศเหล่านี้นี่เอง
อย่างตอนผมเด็ก ๆ ก็เหมือนกัน ผมเคยถูกปลูกฝังในหัวว่า ถ้าอยากได้รับการยกย่องว่า เป็นเด็กฉลาด ก็ต้องเก่งเลข ต้องได้เกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น
อย่างเพื่อนผมหลายคน ถ้าได้เกรด 4 ทุกวิชา แต่ถ้าพลาดเกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์ เขาจะถือว่า เขายังเก่งไม่จริง
เพื่อนผมบางคนนะ มันสนใจเฉพาะวิชาเลขอย่างเดียวเลย ขอเกรด 4 เลขอย่างเดียว วิชาอื่น ๆ เอาแค่ผ่านก็พอ คือถ้าไม่ได้เลขเกรด 4 สังคมห้องทับ 1 จะถือว่า คุณไม่เก่งจริง ประมาณนั้น
เพื่อนผมคนนี้ มันบอกว่าเพราะวิชาอื่น ๆ ถ้ามันอยากเก่งเมื่อไหร่ก็เก่งได้ ก็แค่ขยันอ่านหนังสือมาก ๆ เท่านั้น
แต่วิชาคณิตศาสตร์มันต้องฝึกฝนและเก่งเป็นพื้นฐานมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาสมองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง เพราะพ่อมันสอนว่า คนเป็นแพทย์ เป็นวิศวะ ล้วนแต่เก่งเลขตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ทุกคน
#เพราะคณิตศาสตร์คือวิชาพื้นฐานทางด้านวิชาวิทยาศาสตร์ทุกชนิด
----------
สังคมไทย ถ้าอยากให้ประเทศเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คุณต้องยกย่องเด็กที่เก่งวิทยาศาสตร์ ให้โด่งดังมากยิ่งกว่าเด็กที่เป็นดารานักร้อง
เมื่อหลายปีก่อน กระทรวงศึกษา ฯ เกาหลีใต้ ต้องจัดการสัมมนาครูทั่วประเทศ เพื่อประชุมถกกันเรื่อง จะหาทางยับยั้งเด็กเกาหลีใต้ที่บ้าอยากเป็นดารานักร้องให้น้อยลงอย่างไรดี ?
เพาะถ้าเด็กฉลาด ๆ หัวดี คิดอยากไปฝึกฝนเป็นดารานักร้องกันหมด อาจส่งผลถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในอนาคตของประเทศถดถอยลงจนอาจแพ้ประเทศคู่แข่งได้
----------
สังเกตสิ ประเทศอย่างเกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มหาเศรษฐีที่รวยมหาศาลในประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่คือ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทที่ขายนวัตกรรมไฮเทคโนโลยีทั้งนั้น
ส่วนไทยน่ะเหรอ คนที่รวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของไทยส่วนใหญ่คือ #ขายเหล้า #ขายเบียร์ #ขายเครื่องดื่มชูกำลัง หรือไม่ก็รวยจาก #ฮุบสัมปทานรัฐ
มันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างจริง ๆ
จัดรายการประกวดร้องเพลงกันเข้าไปเยอะ ๆ สิ ประเทศจะได้เจริญฮวบ ๆ แทนที่จะจัดรายการแข่งคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ชิงเงินล้านออกทีวีเยอะ ๆ
ประเทศที่เจริญแล้วเขาจะส่งเสริมใน สิ่งที่ประเทศเขายังขาดแคลน
แต่ไทยน่ะเหรอ สังเกตดูข่าวทีวีก่อนและหลังวันที่ 16 กับวันที่ 1 สิ จะรู้เลยว่า ประเทศไทยไม่มีทางเจริญอย่างจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เพราะเหตุใด ?
เครดิตรูป #เฌอปรางBNK48 นักศึกษาสาขาวิชาเคมี ภาควิชาวิทยาศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
---------------------
ปัญหาและแนวทางแก้ไขเฉพาะหน้า
ในอดีตไทยเราจะมีรายการที่แข่งขันวิชาความรู้และสติปัญญาอยู่หลายรายการ อาทิเช่น รายการการบินไทยไขจักรวาล รายการไอคิว 180 ที่อยู่คู่สงคมไทยมาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบันก็เลิกรากันไปหมดแล้ว
หรือจะเป็นรายการเกมเศรษฐี ของคุณไตรภพ ลิมปพัทธ์ รายการอัจฉริยะข้ามคืน ของคุณปัญญา นิรันดร์กุล รายการพวกนี้เป็นรายการเสริมสร้างสติปัญญาแต่ก็กลับอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่
ปัญหาคือ ความนิยมคนดูของรายการประเภทนี้ หรือเรตติ้งของรายการไม่สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจอย่างยาวนานได้ ก็จำต้องเลิกรากันไป
สาเหตุเพราะระบบการศึกษาของไทยล้มเหลว ที่ไม่ส่งเสริมให้เด็กนักเรียน เยาวชน และประชาชนไทยส่วนใหญ่สนใจรายการสร้างสรรค์สติปัญญามากกว่ารายการบันเทิง
ทางแก้ไขเฉพาะหน้า คือ ภาครัฐ หน่วยงานของรัฐ ต้องสนับสนุนรายการส่งเสริมความรู้และแข่งขันเชิงสติปัญญาให้มาก ๆ โดยอาจจ้างเอกชนเก่ง ๆ ทำรายการประเภทนี้ต่อไป ด้วยงบประมาณของภาครัฐเอง ดีกว่าเอาเงินไปแจกทำประชานิยมห่วย ๆ
--------------------
บทเรียน เกาหลีใต้ จาก ลอกเลียน เป็น ลอกเรียน จนได้ดี
คลิกอ่าน ทำไมเด็กจีนถึงคิดเลขเก่ง