วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์นายกฯ ประยุทธ์ หลุดคำหยาบ ไอ้ห่า ไอ้บ้า ขี้ข้า ทำไมวะ






คือผมอยากให้คุณผู้อ่าน ฟังและดูคลิปให้ละเอียด แล้วอย่าเพิ่งมองเรื่องคำหยาบของนายกฯ อย่าเพิ่งเอาอคติหรือความไม่ชอบและความชอบส่วนตัวในการดูคลิป

แต่ให้มองในประเด็นแรกก่อนว่า ทั้งคลิปนี้ นายกฯกำลังพูดถึงอะไร กำลังตอบคำถามอะไรกับนักข่าว




โอเค หลังจากดูคลิปโดยละเอียดแล้ว ลองดูและฟังคลิปอีกรอบว่า ทำไมนายกฯ ถึงหลุดคำหยาบ ๆ เหล่านั้นออกมา

คือ ผมได้เห็นคนที่แสดงความเห็นในเว็บ ในเพจ ในยูทูป ในเว็บข่าวหลายแห่ง ผมขอบอกว่า คนที่ชอบและคนที่ด่านายกฯ เกี่ยวกับการหลุดคำพูดหยาบ ๆ เหล่านี้ มีจำนวนพอ ๆ กัน

ผมเข้าใจนะสำหรับคนที่เกลียดรัฐประหาร ก็จะเกลียดนายกฯ คนนี้ มองเห็นอะไรที่ผิดพลาด หรือการแสดงอารมณ์แบบนี้ เขาก็จะมีข้อติ ข้อด่ามากมาย

ส่วนคนที่ไม่ได้เกลียดรัฐประหาร ก็จะมองในอีกมุมนึง

คือผมว่า ทุก ๆ คนที่แสดงความเห็นส่วนใหญ่ล้วนถูกต้องหมดครับ เพราะมองจากจุดยืนกันคนละมุม

เหมือนยุคนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ท่านก็ชอบเถียงกับนักข่าวแบบนี้เหมือนกัน ถ้าคนชอบก็ว่าดี แต่ถ้าคนเกลียดก็มีเหตุให้ติเตียน

แต่ถ้าถามความเห็นผมเกี่ยวกับคลิปนี้ ผมว่า สันดานของนายกฯ คนนี้ ก็เหมาะสมกับสันดานของนักข่าวไทย !!




ดังนั้น ผมว่า แม้ตอนนี้จะเป็นยุคเผด็จการ ยุครัฐประหาร แต่การแสดงความเห็นของประชาชนทั่วไปจะด่านายกฯ จะล้อเลียนนายกฯ คนนี้ ก็ยังทำได้โดยเสรี

จะยกเว้นแต่พวกระดับแกนนำทางการเมืองเท่านั้น ที่ยังต้องถูกจำกัดการแสดงความเห็นอยู่ เพราะถ้าปล่อยให้แสดงความเห็นกันมาก ๆ สุดท้ายเดี๋ยวต่างฝ่ายต่างก็ออกมาทะเลาะกันอีก บ้านเมืองก็วุ่นวายเปล่า ๆ

ย้ำว่า ในระดับประชาชนทั่วไป ผมเห็นด่านายกฯ ประยุทธ์ได้อย่างเสรีพอควร

เมื่อนายกฯ ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เผด็จการ ผมก็ว่า ท่านเป็นเผด็จการที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบันนี้แล้วล่ะ

แต่ผมว่า มีบางคนที่ยกตรรกะมาด่าแบบโง่ไปหน่อยคือ โดยด่าว่า นี่คือยุคที่ไทยเหมือนเกาหลีเหนือ 

ถามจริงเหอะ ใครที่บอกไทยเหมือนเกาหลีเหนือ แสดงว่า คุณโง่นะครับ  แสดงว่า คุณไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ยกมาอ้างแบบมั่ว ๆ

ประเทศไทย คนไทยยังเดินทางเข้าประเทศ ออกนอกประเทศโดยเสรี ยังเล่นเน็ตยังอยากจะด่านายกฯ ผ่านอินเตอร์เน็ตได้ตามสบาย

ใครที่เปรียบไทยเป็นดั่งเกาหลีเหนือ ผมบอกได้คำเดียว มึงแม่งควายแดง ว่ะ

ถ้าไทยเหมือนเกาหลีเหนือจริง ๆ นักข่าวที่ถามคำถามโง่ ๆ คำถามเสี้ยม ๆ ให้นายกฯ โมโห เพื่อหวังขายข่าว คงโดนจับไปยิงเป้าหมดแล้ว

และไอ้พวกด่านายกฯ ทางเน็ตน่ะ ไม่มีโอกาสได้ทำหรอก เพราะเกาหลีเหนือเขาไม่ได้ให้ประชาชนเล่นอินเตอร์เน็ตได้อย่างเสรีเหมือนประเทศไทย

ฉะนั้น จะด่านายกฯ น่ะด่าได้ แต่หัดด่าให้ฉลาดหน่อย ไม่งั้นที่บอกว่า รักประชาธิปไตย มันก็เป็นแค่ประชาธิปไตยของคนโง่เท่านั้น

ผมจะบอกให้นะ เกาหลีเหนือในตอนนี้ จริง ๆ แล้ว เขาปกครองด้วยระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราช เพียงแต่ไม่ได้เรียกผู้นำประเทศว่า พระราชา เท่านั้นเอง แต่เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชแบบคอมมิวนิสต์กึ่งเผด็จการ

อธิบายแบบนี้พอเข้าใจไหมครับ ?

และที่สำคัญ ที่ด่า ๆ เกาหลีเหนือกันน่ะ ประเทศเกาหลีเหนือเขามีเทคโนโลยีของเขาเองเหนือกว่าไทยหลายขุมครับ แถมด้านกีฬาของเกาหลีเหนือ ค่าเฉลี่ยเขาก็เหนือกว่าไทยเราหลายขุมครับ หรือจะแปลง่าย ๆ ก็คือ ค่าเฉลี่ยคุณภาพประชากรของเกาหลีเหนือเขายังเหนือกว่าคนไทยครับ

ลองประเทศไทยเป็นดินแดนที่แห้งแล้งกันดารเหมือนเกาหลีเหนือ ไม่ได้มีชัยภูมิที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ แต่คนไทยยังมีนิสัยสันดานแบบทุกวันนี้ รับรอง ประเทศไทยจะอดอยากยากจนยิ่งกว่าเกาหลีเหนือแน่นอน

ถ้าใครเคยดูซีรีย์เกาหลีใต้หลาย ๆ เรื่อง ถ้ารู้จักอาณาจักรโคกูรยอ คุณจะรู้ว่า ดินแดนเกาหลีเหนือแห้งแล้งกันดารมาก ต่างกับดินแดนทางใต้อย่างเกาหลีใต้ที่อุดมสมบูรณ์กว่ามาก

ดังนั้น เราอย่าไปดูถูกเกาหลีเหนือเลยครับ ถ้าเราไม่ได้เจ๋งกว่าเขาจริง ๆ


คลิกอ่าน เปลี่ยนฉากหลังให้ท่านผู้นำ คสช.

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ควันหลงจากหลานปู หลังยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน






นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของโลกที่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับสามี ผู้ซึ่งไม่รู้จักแม้กระทั่งหาดใหญ่เป็นแค่อำเภอไม่ใช่จังหวัด ซิดนีย์เป็นแค่เมืองไม่ใช่ประเทศ

จนถึงเวลานี้ยิ่งลักษณ์เธอก็ยังไม่รู้ว่า โครงการรับจำนำข้าวของเธอมันขาดทุนชิบหายวายป่วงอย่างไร ด้วยการอ้าง 2 ข้อคือ
1. เพื่อช่วยชาวนา (โดยการทุ่มเงินนับ 1.1ล้านล้านบาทในเวลา 2 ปีครึ่ง)
2. โครงการนี้ยังไม่ขาดทุน ถ้าตราบใดข้าวในโกดังรัฐยังขายไม่หมด

สิ่งที่ยิ่งลักษณ์แถลงไข หากไม่ใช่พวกอคติคลั่งประชาธิปควายจนโง่ ย่อมรู้ดีว่า โครงการรับจำนำข้าวของเพื่อไทยห่วยแตกอย่างไร

ความเสียหายของประเทศชาติมหาศาล ยิ่งลักษณ์จะมาแถว่า ประชาธิปไตยไทยได้ตายไปแล้ว ซึ่งมันคนละเรื่องเลย !!

แน่จริงเอาเงินตระกูลชินวัตรมาชดใช้ให้ประเทศชาติสิ ถ้าคิดว่า โครงการจำนำข้าวไม่ใช่หายนะ จะได้รู้ว่า ที่ประชาธิปไตยถูกทำลายก็เพราะพวกมึงนั่นแหละคือตัวการที่แท้จริง

ยิ่งถ้าใครเป็นนักธุรกิจ ทำมาค้าขาย คงคิดได้ว่า 2ปี ได้ซื้อข้าวมา 1.1ล้านล้านบาท แต่เพิ่งได้เงินจากการขายข้าวมาแค่ 3.5 แสนล้านบาท ยังไม่รวมค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ยังไม่รวมค่าเช่าโกดังเดือนละ 2 พันล้านที่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  ยังไม่รวมค่าเสื่อมราคา ค่าเสื่อมสภาพของข้าวที่ยังขายไม่ออก ต้องรู้แน่นอนว่า โครงการจำนำข้าวมันเจ๊ง ทำความเสียหายให้ประเทศชาติมหาศาล

ผมเขียนบทความไปแล้วว่า ทำไมสมศักดิ์ นิคม ถึงรอด ทำไมยิ่งลักษณ์ไม่รอด

แต่ที่ผมสนใจประเด็นหลังที่ยิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน ก็คือ บรรดาหลานปูหลานมหาเศรษฐีที่ไม่เคยตกยากลำบาก กินข้าวคลุกพริกเกลือแบบชาวนาไทยผู้รอคอยเงินค่าข่าวนานกว่า 4 เดือนกิน

มาดูว่าพวกหลานปูพวกนี้จะออกอาการอย่างไร เมื่ออายิ่งลักษณ์ถูกถอดถอน

เริ่มจากหลานชายคนโต โอ๊ค พานทองแท้


http://imgur.com/PzzHTBg,iCZDdJF,YnhtGG0,8zprbfV,ZTgA62T,sVLzoXz#0

กรณีโอ๊คโพสอินสตาแกรม คงต้องให้อาจารย์หงอกเจียม สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล วิจารณ์แล้วกัน



สงสัยหงอกเจียมเงินอาจขาดมือ ขอแซวโอ๊คสักนิด เดี๋ยวชายเหลี่ยมดูไบจะรีบส่งเงินไปให้ใช้


ต่อมา เอม พิณทองทา ลูกสาวคนรองของทักษิณ โพสอินสตาแกรม





และ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ลูกสาวคนเล็กทักษิณ ที่หน้าเหลี่ยมเหมือนพ่อมัน แต่พยายามไปศัลยกรรมหน้าให้เรียว เพราะกลัวจะเหมือนพ่อ


ไม่ใช่ครั้งแรกแน่นอน ถ้าพวกมึงยังไม่เลิกเลว

รวยมหาศาล ทำเป็นบอกว่าเจ็บจนชิน...

ที่พวกชินวัตรเจ็บน่ะ ยังไม่เท่ากับที่ชาวนาฆ่าตัวตาย ไม่เท่ากับหนี้สินชาวนาที่เพิ่มขึ้นในช่วงรอเงินจำนำข้าว

และไม่เจ็บใจเท่าคนไทยที่รู้ทันชินวัตรทั้งประเทศ ที่ต้องเสียเงินประเทศชาติไปอีกหลายแสนล้าน เพียงเพราะพวกนักการเมืองเลว ๆ เอาภาษีชาติมาซื้ออำนาจทางการเมืองให้ตระกูลชินวัตร

ไอ้พวกเสื้อแดง ควายแดงทั้งหลายที่ยังไม่เลิกโง่นั้น เพราะมันไม่คิดว่า เงินที่ต้องขาดทุนเพราะโครงการจำนำข้าวเป็นเงินของมัน

ผมล่ะอยากให้ไอ้พวกควาย 15 ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยครั้งล่าสุด มันต้องโดนใช้หนี้ร่วมในความเสียหายจากโครงการจำนำข้าวเสียจริง ๆ เลย

เช่นความเสียหายขั้นต่ำที่ 5.1 แสนล้านบาทในโครงการจำนำข้าว ถ้าเอาสักครึ่งหนึ่งก็พอคือ 2.55 แสนล้านบาท ให้ไอ้พวกควาย 15 ล้านเสียงต้องร่วมชดใช้ ก็จะต้องจ่ายหนี้คนละ 17,000 บาท

ถ้าไอ้พวกที่เลือกพรรคเพื่อไทยมันต้องร่วมจ่ายค่าเสียหายคนละหมื่นเจ็ดพันบาท มันคงเข้าใจขึ้นนะว่า โครงการจำนำข้าวของยิ่งลักษณ์มันเลวเพียงใด

ส่วนหนี้ที่เหลือที่ยังไม่รู้ว่าจะจบที่ตัวเลขเท่าไหร่แน่ ก็ไปไล่เบี้ยกับยิ่งลักษณ์ให้หมด






--------------

การช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลย่อมขาดทุนอยู่แล้วในระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่ขาดทุนจนสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ

โครงการจำนำข้าวของเพื่อไทย แค่ปีแรกก็ขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท หากหยุดโครงการนี้ตั้งแต่ปีแรกที่ขาดทุน ก็คงไม่โดนถอดถอนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรอก

โพสของอิ๊ง ต่อจากโพสเจ็บจนชิน ก็ยังระรื่นเหมือนเดิม


คลิกอ่าน ก่อนจะคลั่ง เสื้อแดงควรฟังสมศักดิ์เจียม วีระธีรภัทร ก่อน

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2558

ควันหลง กรณีช่อง 3 ทำโลโก้ทับไมค์ช่อง 8 ของเฮียฮ้อ







จากกรณีที่ช่อง 8 ของเฮียฮ้อ  ไปสัมภาษณ์ดาราช่อง 3

แล้วก็เกิดกรณีรายการสีสันบันเทิงของช่อง 3 ทำโลโก้ช่อง 3 ทับโลโก้ไมค์ช่อง 8 จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมมากมายตามมา


ซ้าย รายงานของช่อง 8 , ขวา สีสันบันเทิงทำโลโก้ช่อง 3 ทับช่อง 8

จนอดีตลูกหม้อเก่าของช่อง 3 อย่าง คุณพรหมพร ยูกะเวส ที่แจ้งเกิดจากการเป็นผู้ประกาศข่าวช่อง 3 แล้วก็ไปจัดรายการระเบียงบันเทิงด้วยลีลาการนำเสนอเลื้อยไปเลื้อยมาบนโซฟาอันโด่งดังนั้น

ซึ่งตอนนี้คุณพรหมพร ได้ผันตัวมาจัดรายการช่อง 8 ดิจิตอลแล้ว ก็ได้วิจาณ์กรณีรายการสีสันบันเทิงช่อง 3 ทำโลโก้ช่อง 3 ทับโลโก้ช่อง 8 ตามนี้




ส่วน เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐ์โชติศักดิ์ (herehorrs) บิ๊กบอสของอาร์เอส ก็ออกอาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านทวิตเตอร์เช่นกัน ตามนี้

เรียงลำดับโพสจากล่างขึ้นบน

http://imgur.com/87GdWKX,KMyoJ7V#0

ต่อมาช่อง 3 ก็ได้ขอโทษผ่านตัวหนังสือวิ่งในรายการสีสันบันเทิงวันต่อมา พร้อมกับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ของสรยุทธ ก็ได้อ่านคำขอโทษของช่อง 3 ที่มีต่อช่อง 8 ด้วย ตามนี้



"สถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวีช่อง 3 ขออภัยมายัง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 (ดิจิตอลทีวี) ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่ผิดพลาดในสายการผลิตของรายการสีสันบันเทิง และจะใช้ความระมัดระวัง ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก"


เมื่อช่อง 3 ขอโทษช่อง 8 แล้ว เฮียฮ้อก็ได้โพสทวิสเตอร์ปิดคดีตามนี้



ผปก. ย่อจาก ผู้ประกอบการ

---------------------

ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเมื่อเรามองจากหลายแง่มุม

แต่ก่อนอื่นผมขอนำความเห็นดี ๆ จากคนอ่านใน astv ออนไลน์ มาให้อ่านก่อน เพื่อปูทางตวามคิดแก่คุณผู้อ่าน



สำหรับผม ชอบความเห็นที่ 22 มากเลย ที่ถามกลับว่า ช่อง 3 เขากลัวละเมิดลิขสิทธิ์โลโก้ช่อง 8 ของเฮียหรือเปล่า ??

แถมเจ้าของคห. 22 ยังใช้นามแฝงว่า "คนพิเศษกว่าคนทั่วไป" แอบเหน็บเฮียฮ้อไว้ด้วยสิ ฮ่า ๆๆ

นั่นสินะ คงเพราะ เฮียฮ้อ สร้างชื่อเสียเรื่องจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ไว้เยอะนี่นา ช่อง 3 เขาเลยกลัวจะเจอเฮียฮ้อตามมาเก็บค่าลิขสิทธิ์จากรายการสีสันบันเทิงที่เอาโลโก้ช่อง 8 ของเฮียมาเผยแพร่ในรายการรึเปล่า

อย่างล่าสุดก็เรื่อง อาร์เอสจะฟ้องเจ้าภาพงานแต่งที่ให้ฟอร์ด สบชัยไปร้องเพลงในงานแล้วเพลงเป็นลิขสิทธิ์ของอาร์เอส ก็เลยมีคนถามเฮียฮ้อ ตามนี้



ผมขำนามแฝง "เขี้ยวเจองาซะงานนี้" ของเจ้าของความเห็นที่ 28 นี้จริง ๆ ฮ่าๆ



แต่มีความเห็นนึงที่ผมว่า เขาว่าไว้ได้ถูกต้องมาก ก็คือโลโก้ช่อง 8 มันใหญ่เกินไปหรือเปล่า ?

คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!


โลโก้ช่อง 8 ใหญ่มาก

http://imgur.com/98dNBvN

คุณผู้อ่านก็ดูสิครับ โลโก้ไมค์ของช่อง 8 มันเกือบจะใหญ่กว่าหน้าคุณหน่อง อรุโณชา เจ้าของบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น แล้วเห็นไหม

เมื่อรายการสีสันบันเทิงช่อง 3 เอาคลิปนี้ไปออก แต่ดันมีโลโก้ช่อง 8 ใหญ่โตมโหฬารกว่าช่อง 3 เองเสียอีก สงสัยคนตัดต่อและทำกราฟฟิคคลิปรายการคงกลัวหลายอย่างปน ๆ กันนั่นแหละ เลยตัดสินใจทำโลโก้ช่อง 3 ทับโลโก้ช่อง 8 มันซะเลย

-------------------

บทสรุปเรื่องนี้สำหรับความเห็นผม

คือยังไง ๆ งานนี้ทางรายการสีสันบันเทิงและช่อง 3 ก็ทำผิดจริง ๆ นั่นแหละ ถึงต้องออกมาขออภัย (ไม่ได้ใช้คำว่าขอโทษ) ต่อช่อง 8

คือ ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่มันผิดมารยาท !!

แต่ความเห็นผมนะ ระดับเฮียฮ้อไม่น่าลงมาวิจารณ์เรื่องนี้เอง ควรปล่อยให้ระดับเด็ก ๆ เขาเล่นกันไปเองจะเหมาะสมกว่า

ส่วนความเห็นที่ผมคัดมาลงนั้น ยังไงก็ฝากผู้บริหารช่อง 8 น่าเอาไปคิดนะว่า โลโก้ช่อง 8 ที่ติดไมโครโฟนมันก็ใหญ่เกินไปรึเปล่า ??

ก็คิดดูแล้วกัน

ทีวีดิจิตอลในวันนี้แข่งขันกันรุนแรงมาก เพราะคนไทยไม่ได้เพิ่มจำนวนประชาการแบบก้าวกระโดดเท่าไหร่ แต่ฟรีทีวีกลับเพิ่มทีเดียวหลายสิบช่อง การแข่งขันย่อมรุนแรงเป็นธรรมดา เพื่อความอยู่รอดของช่อง

(ส่วนผมยังไม่ได้เอาคูปอง 690 บาทของ กสทช. ไปแลกซื้อกล่องทีวีดิจิตอลเลย เห็นวันก่อนมีโฆษณากล่องทีวีดิจิตอลยี่ห้อนึงทางช่อง 5 โฆษณาว่า ใช้คูปองได้โดยไม่ต้องเพิ่มเงิน แล้วถ้ารีโมทเสีย ก็ยังกดปุ่มที่กล่องใช้งานได้ แต่ผมดันจำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร)

อย่างอาร์เอสกับช่อง 3 ก็มีความสัมพันธ์อันดีกันมาตลอด เคยจัดฟุตบอลดาราเตะฉลองวันเกิดช่อง 3 ทุกปี จำได้ไหม

ในยุคที่อาร์เอสยังไม่มีทีวีช่องของตัวเอง ก็อาศัยช่อง 3 มาตลอด เปรียบประดุจเสือพึ่งป่า

แต่พอวันนี้เสือมีป่าเองแล้ว กลับต้องกลายมาเป็นคู่แข่งกันเต็มตัว น้ำใจที่เคยมีต่อกันมันเลยดูเหมือนลดน้อยลงไป ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ผมว่านะ

===========

ล่าสุด astv ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า บิ๊กบอสช่อง 8 ดร.โด่ง องอาจ สิงห์ลำพอง ได้ให้สัมภาษณ์ขอบคุณช่อง 3 ด้วยซ้ำ ตามนี้

“ส่วนที่เขาวงเล็บว่าเป็นทีวีดิจิตอลก็ต้องขอบคุณจริงๆ เราก็แคปไว้ (ยิ้ม) เราบอกทุกคนแล้วส่งในไลน์ให้ผู้บริหารในทีมว่า เฮ้ย… ต้องขอบคุณนะที่เขาอุตส่าห์วงเล็บว่าทีวีดิจิตอลให้ เพราะคนส่วนหนึ่งยังคิดว่าช่อง 8 ยังอยู่ในแซทเทิลไลท์ ผมรู้สึกว่า คุณพระ! ในที่สุดเราก็เป็นทีวีดิจิตอลในสายตาคนทั้งประเทศ อันนั้นคือสิ่งที่ดีมากๆ ถ้าสังเกตดูช่อง 8 เอง เรายังเขียนเลยว่าทีวีดิจิตอล คือเราต้องการจะสื่อสารว่าเราเป็นดิจิตอลทีวี ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย"


http://imgur.com/XMI1uIN


ตัววิ่งของช่อง 3 เขียนว่า ช่อง 8 (ดิจิตอลทีวี)

http://imgur.com/7ST042U

คลิกอ่าน ดูความงกของบริษัทอาร์เอส กรณีฟอร์ด สบชัยร้องเพลงงานแต่ง

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ความคืบหน้าทุจริตจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กราคา 9.8 แสนบาทจากยุคยิ่งลักษณ์







จำที่นายกฯ ประยุทธ์ เคยพูดว่า "...อุโมงค์เครื่องเล่นเด็กที่ครูหยุยพูดราคา 9 แสน โรงเรียนไหนไปฆ่าทิ้งเสีย.."

จำกันได้ไหมครับ

เรื่องนี้มันเริ่มจาก สตง.ได้ทำหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ เพื่อรายงานถึงการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐที่ลงไปซ้ำซ้อน เช่น ในส่วนของ สถานศึกษาสังกัดสพฐ. มีการใช้งบสร้างสนามเด็กเล่น ขณะที่อบจ.ก็ตั้งงบเหมือนกัน โดยลงไปในพื้นที่เดียวกัน แถมบางแห่งมีเด็กมาร่วมกิจกรรมไม่กี่ราย

ต่อมาพลเอกประยูทธ์ได้ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า

"...อุโมงค์เครื่องเล่นเด็กที่ครูหยุยพูดราคา 9 แสน โรงเรียนไหนไปฆ่าทิ้งเสีย ผมก็พึ่งเคยเห็น เป็นไปได้อย่างไร ไปไล่ดูสิ ปล่อยมาได้ไง..."

นี่ครับคลิปที่ครูหยุย สมาชิก สนช. ได้อภิปรายเรื่องอุโมงค์เครื่องเล่นเด็กราคา 9 แสนบาทที่ได้จากงบประมาณปี 2556 ซึ่งอยู่ในยุครัฐบาลของใครนะ ??




ล่าสุดความคืบหน้าของเรื่องนี้ ได้มี  4 หน่วยงานที่สืบสวน ทั้ง ป.ป.ท. ดีเอสไอ ปปง. และ สตง. ได้ตามไปตรวจสอบอุปกรณ์อุโมงค์เครื่องเล่นเด็กราคา 9 แสนบาทดังกล่าวถึงโรงเรียนบ้านบางเลน จ.นครปฐม ที่มีอุปกรณ์เครื่องเล่นนี้ตั้งอยู่

แถมยังตรวจพบอีกว่า มีโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆ กัน ชื่อโรงเรียนวัดบึงลาดสวาย ก็มีเครื่องเล่นเด็กชนิดเดียวกันนี้ตั้งอยู่ แต่กลับซื้อในราคาเพียง 8 หมื่น 5 พันบาทเท่านั้น

ถามว่า ทำไมราคาเครื่องเล่นเด็กชนิดเดียวกัน ผลิตจากบริษัทเดียวกัน แต่ราคากลับแตกต่างกันร่วม 10 เท่า ??

ตามข่าวนี้

-------------------------

พบพิรุธจัดซื้อเครื่องเล่นเด็ก กรมพลศึกษา 

14 ม.ค. – วันนี้ 4 หน่วยงาน ทั้ง ป.ป.ท. ดีเอสไอ ปปง. และ สตง. ภายใต้การทำงานของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกรมพลศึกษา พบมีการตั้งราคาสูงเกินจริง และมีข้อพิรุธหลายประการ

ชุดเครื่องเล่นป้อมปืนใหญ่สไลเดอร์ ที่ติดตั้งอยู่ที่โรงเรียนบ้านบางเลน จ.นครปฐม เป็น 1 ใน 6 เครื่อง ที่พบว่ามีการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง ตามสัญญาจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการออกกำลังกายเลขที่ ช 37/56 ของกรมพลศึกษา ราคาตามสัญญา 980,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบไปยังบริษัทผู้ผลิตในประเทศจีน พบว่าราคาส่งออกอยู่ที่ 158,100 บาท ข้อพิรุธทำให้หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบ นอกจากราคาที่สูงผิดปกติ ทำให้ยังพบอีกว่าเป็นการจัดซื้อจากส่วนกลาง โดยไม่มีการร้องขอจากทางโรงเรียน

เลขาธิการ ป.ป.ท. ยังระบุอีกว่าโครงการนี้ใช้งบแปรญัตติของกรรมาธิการงบประมาณ ลักษณะคล้ายกับการทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน และมีการจัดซื้อลักษณะเดียวกัน 29 สัญญา เป็นของกรมพลศึกษา 17 สัญญา และกรมการท่องเที่ยว 12 สัญญา

ขณะที่ดีเอสไอมองว่าราคาที่สูงเกินจริง เกิดได้จากทั้งการสมยอม หรือมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ส่วนจะมีผู้มีอิทธพลอยู่เบื้องหลังด้วยหรือไม่ต้องตรวจสอบต่อไป

ห่างออกไปจากโรงเรียนบ้านบางเลนไปไม่ถึง 10 กิโลเมตร ที่โรงเรียนวัดบึงลาดสวาย พบว่ามีการติดตั้งเครื่องเล่นป้อมปืนใหญ่สไลเดอร์ชนิดเดียวกัร แต่โรงเรียนได้จัดซื้อเองในราคาที่แตกต่างกันมาก

เมื่อตรวจสอบต่อไปพบว่า โรงเรียนวัดบึงลาดสวายได้งบจัดซื้อมาจาก สพฐ. ตั้งแต่ปี 55 ในราคาเครื่องละ 85,000 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาถูกกว่าเครื่องเล่นชนิดเดียวกันในโรงเรียนบางเลนถึง 10 เท่า

คณะทำงานสวบสวนได้สืบพบว่า ย้อนไปเมื่อปี 56 กรมพลศึกษาได้ตั้งงบจัดซื้อจากส่วนกลางส่งเครื่องเล่นชนิดนี้มาให้โรงเรียนวัดบึงลาดสวายแล้ว แต่ทางโรงเรียนวัดบึงสวายไม่ขอรับ เพราะเห็นว่ามีเครื่องเล่นแบบนี้อยู่แล้ว กรมพลศึกษาจึงนำเครื่องเล่นดังกล่าวไปตั้งไว้ที่โรงเรียนบ้านบางเลนแทน

เห็นได้ชัดว่ามีการจัดซื้อซ้ำซ้อน ทำให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตเตรียมตรวจสอบเชิงลึกในทุกสัญญาว่ามีการดำเนินการถูกต้องและคุ้มค่าหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

เครื่องเล่นราคา 9.8 แสนบาท ในโรงเรียนบ้านบางเลน



เครื่องเล่นชนิดเดียวกัน ราคา 8.5 หมื่นบาท ในโรงเรียนวัดบึงสวาย


สำนักข่าวไทยรายงาน


จากทุจริตจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กนี้ เราได้ข้อคิดอะไร ??

ก็ได้ข้อคิดว่า ประเทศไทยน่ะ มันโกงมโหฬารบานเบอะแบบนี้มานานแล้ว และทำสำเร็จไปแล้วด้วย ถ้าไม่ใช่ยุค คสช. ไม่รู้จะมีใครตามเอาผิดแบบนี้ไหม

ถ้าประเทศไทยไม่มีคอร์รัปชัน คนไทยจะสุขสบายกว่านี้ ไม่ใช่ยอมปล่อยให้มันโกงแล้วมันแบ่งให้แบบกรณีเครื่องเล่นเด็กนี้

เช่น พวกข้าราชการหรือนักการเมืองมันโกงค่าจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กแบบนี้ไปแล้ว 9 แสนบาท แล้วแบ่งให้คนไทยที่ยอมรับการโกงแต่แบ่งให้ได้ในราคา 8 หมื่นบาทไงล่ะ

เงิน 9 แสนบาทกลับเข้ากระเป๋าคนโกง แทนที่จะนำมาทำประโยชน์ให้คนไทย

สมน้ำหน้าไหม ไอ้พวกคนไทยที่ยอมรับการโกงแล้วแบ่งให้

------

ล่าสุด ข่าววันที่ 20 ม.ค. 59 ทีมงานสำนักข่าวไทยได้ตามไปดูบริษัทที่จัดซื้อเครื่องเล่นเด็กชนิดนี้ ปรากฎว่า มันปิดบริษัทหนีไปแล้ว

คลิกอ่าน รวมคลิปข่าวทุจริตสนามฟุตซอล

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558

ความห่วยของไอเดียสติ๊กเกอร์ไลน์ ค่านิยม 12 ประการ







จากที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมไทย ถึงสติ๊กเกอร์ไลน์ ค่านิยม 12 ประการ มูลค่า 7.1 ล้านบาทนั้น ผมไม่มีความเห็นในเรื่องมีโกง หรือมีฮั้วราคาสูงเกินจริงหรือไม่

แต่ผมคิดว่า ผลงานการ์ตูนเคลื่อนไหวสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดนี้จัดว่าไอเดียห่วยครับ

ถ้ารัฐบาล คสช. จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา นักเรียน ได้มีส่วนร่วมส่งผลงานสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดนี้มาเข้าประกวดแข่งขันชิงรางวัลชนะเลิศ ที่ 1 2 3 รางวัลชมเชย ผมว่าน่าจะประหยัดค่าจ้างวาดได้มากกว่า

อีกทั้งการจัดการประกวดย่อมมีผลงานจากคนมีฝีมือทั่วประเทศ มีไอเดียหลากหลายให้ได้เลือกใช้สอย ซึ่งอาจใช้รูปจากผู้ส่งเข้าประกวดหลายคนก็ได้ หรือเลือกรูปที่ดีที่สุดที่เหมาะสมกับค่านิยมในข้อต่าง ๆ มาใช้ให้ตรง รูปสติ๊กเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการนั้น อาจมาจากนักวาดรูประกอบ 12 คน 12 รูปก็ได้

ซึ่งน่าจะดีกว่าจ้างคน ๆ เดียววาด ซึ่งเท่าที่รู้ เขาไปจ้างเจ้าของเพจ My Comicbook วาดเพียงคนเดียว

จากที่ผมดูรูปจากสติ๊กเกอร์ไลน์ ที่เปิดให้โหลดแล้ว บอกตรง สอบตกเรื่องการตีความหมายของค่านิยม 12 ประการอย่างมาก

1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์



การตีความเรื่องความรักชาติศาสนา ด้วยรูปนี้ ถือว่า สอบตก เพราะแค่กอดรูปหัวใจแล้วสื่อความหมายว่ารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นั้น คือไม่ได้ให้สาระอะไรเลย

นี่แหละคือการให้คน ๆ เดียววาด เลยไม่มีโอกาสได้เลือกสรรรูปที่ดีที่เหมาะสมที่สุดมาใช้

เพราะความหมายของคำว่า รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ ไม่ใช่แค่มากอดหมอนรูปหัวใจสีแดง สีขาว สีน้ำเงิน อะไรทำนองนี้ แต่ควรจะวาดรูปอะไรที่ให้ความหมายลึกซึ้งกว่านี้ได้ เพราะข้อ  1 คือค่านิยมที่สำคัญที่สุด

เช่น ถ้าวาดรูปนักเรียน ทหารและประชาชนสาขาอาชีพต่าง ๆ  มาร่วมใจกันยืนตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ ชักธงขึ้นสู่ยอดเสา เหมือนที่เคยมีการร้องเพลงชาติสัญจรไปตามจังหวัดต่าง ๆ ที่มีคนทุกเพศทุกวัย ทุกศาสนา มาร่วมกันเคารพธงชาติ ยังสื่อความหมายของค่านิยมข้อที่ 1 ได้ดีกว่ารูปนี้เสียอีก



๒. ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทด มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม



รูปค่านิยมข้อที่ 2 นี้ยิ่งห่วยหนักกว่ารูปแรก เพราะไม่ได้สื่อความหมายอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย แค่เดินแล้วพูดว่า "สู้ สู้" นั้น ไม่ได้สื่อถึงความซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน อะไรเลย

สมมุติถ้าวาดนักเรียนลุกขึ้นยืนเสียสละให้คนแก่นั่งบนรถเมล์ หรือรถไฟฟ้า จะสื่อความหมายชัดเจนและดูมีสาระมากกว่าเยอะ



๓. กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์



ยิ่งดูรูปก็ยิ่งรู้สึกว่า ไอเดียคนวาดห่วยจริง ๆ เพราะในเรื่องความกตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ นั้น แล้วดันวาดรูปเหมือนคนกำลังโดดร่มลงมาเกาะกันกับพ่อแม่ ซึ่งไม่ได้สื่อเรื่องความกตัญญูเลย

ถ้าข้อ 3 นี้วาดเป็น นักเรียนก้มกราบเท้าพ่อแม่แล้วมอบพวงมาลัยให้ จะดูชัดเจนและน่ารักกว่าเยอะ แต่ดันเอาการกราบไปไว้ในข้อที่ 10 เรื่องความพอเพียงแทน



4. ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม



สำหรับรูปไลน์ในข้อนี้ยังพอทน แต่ถ้าเปิดโอกาสให้คนส่งเข้าประกวดทั่วประเทศ ผมเชื่อว่า ต้องมีคนที่มีไอเดียดีกว่ารูปนี้แน่นอน

เช่น วาดรูปแบบง่าย ๆ แค่รูปเด็กกำลังตั้งใจนั่งอ่านหนังสือ แค่นี้ก็ดูสวยงามแล้ว แต่ดันวาดอะไรก็ไม่รู้ โบกไม้โบกมือ แล้วบอก "รอแป๊บ" (แป๊บพ่อง..สิ)



5. รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม



รูปนี้ดูผ่าน ๆ เหมือนจะดีนะ แต่กลับไม่ได้แสดงถึงวัฒนธรรมประเพณีไทยที่ชัดเจนนัก แม้การไหว้จะเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของไทยก็ตาม

ดังนั้นถ้าจะเน้นประเพณีวัฒนธรรมไทยนะ ผมมองว่า ถ้าวาดเป็นรูปเด็กกำลังรดน้ำดำหัวปู่ย่าตายายในเทศกาลสงกรานต์ จะดูหลากหลาย งดงามและดูน่าสนใจกว่า แค่รูปเด็กยกมือไหว้ผู้ใหญ่ ที่ดูง่ายเกินไป



6. มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน



รูปข้อที่ 6 นี้จัดว่าห่วยมากอีกรูป เพราะการไม่พูดปด ดันวาดเหมือน "ไม่กินเผ็ดจ้ะไม่กินเผ็ด " ท่ามุขตลกของจาตุรงค์ มกจ๊กเลย

เช่น ถ้าวาดเป็น เด็กเก็บกระเป๋าเงินได้ แล้วเดินไปคืนเจ้าของที่กำลังเดินเลยไปแล้ว ผมว่า จะดูดีกว่ารูปนี้เยอะ



7. เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย (อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง)


รูปนี้ถือว่า แค่พอใช้ได้ คือ ประชาธิปไตยในบ้าน (แต่ถ้าใหัคนส่งผลงานเข้าประกวด ก็อาจได้รูปที่เหมาะสมกว่านี้)




8. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย (ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่)


รูปนี้ก็ถือว่า พอใช้ได้ (แต่ถ้าใหัคนส่งผลงานเข้าประกวด ก็อาจได้รูปที่เหมาะสมกว่านี้ ตรงกว่านี้)



9. มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ (รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)


รูปนี้ก็ไม่ได้เรื่องอีกนั่นแหละ แค่นั่งส่ายหัวแล้วพูดว่า มีสติหน่อย บอกตรง ไอเดียกระจอกเกินไป คือ มุขซ้ำกับรูปที่ 2 ที่เดิน ๆ แล้วบอก สู้สู้ นั่นแหละ ไม่ได้สื่ออะไรที่คุ้มเงินค่าจ้างราคาแพงเลย

ถ้าเป็นผม ผมจะวาดลอกเลียนท่านั่งสมาธิของอิคคิวซัง แล้วปิ๊ง เกิดได้ไอเดียดี ๆ ขึ้นมา ยังดูดีกว่า



10. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


รูปที่ 10 นี้ห่วยแตกจริง ๆ ก้มกราบแล้วพูดว่า พอเพียง ไม่ได้สื่ออะไรเกี่ยวกับความพอเพียงเลย แถมใช้มุขซ้ำเหมือนรูปข้อ 2 และข้อ 9 ที่ไม่ได้การกระทำสื่ออะไรตรงความหมายเลย แค่ใช้คำพูดมาประกอบให้ตรงความหมายเท่านั้น

รูปนี้ แค่วาดเด็กหยอดเงินใส่กระปุกออมสิน ยังดูดีกว่า ตรงความหมายกว่าเยอะ




11. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา


รูปนี้จัดว่าพอใช้้ แต่ถ้าให้ตรงชัดเจนกว่า ควรวาดรูปชุดข้าราชการให้เหมือนกว่านี้ หรือที่โต๊ะทำงานควรติดคำว่า ข้าราชการ ให้ตรง ๆ ชัด ๆ ไปเลย เพราะคนดูมีหลายระดับ การตีความย่อมได้ผลแตกต่างกัน ควรสื่อให้ชัดเจนตรง ๆ จะดีกว่า



12. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง


รูปนี้จัดว่า สื่อความหมายห่วยอีกแล้ว
เพราะการคิดถึงส่วนรวมมากกว่าตนเอง ไม่ใช่แค่การบอกว่า คิดถึงทุกคนเลย

ถ้าเป็นผมวาดนะ ผมจะวาดรูป คนขับรถยินดีหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย


----------------------

บทสรุปบทความนี้

ต้องบอกคุณผู้อ่านก่อนว่า ผมเป็นคนนึงที่ในวันนี้ยังไม่ได้เล่นไลน์ ผมจึงไม่มีส่วนในการโหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดนี้

แต่พอผมมาเห็นรูปวาดสติ๊กเกอร์ไลน์แล้ว ผมรู้สึกว่า มันไม่คุ้มกับค่าเงินที่เสียไปเลยครับ

เพราะมีนักวาดการ์ตูนเก่ง ๆ ไอเดียเจ๋ง ๆ ในประเทศนี้อีกมากมาย แทนที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมคิดสร้างสรรค์ เพราะจะยิ่งทำให้ค่านิยม 12 ประการนี้แพร่หลายไปสู่คนที่คิดส่งผลงานเข้าประกวดด้วย แต่กลับปิดกั้นโดยไปจ้างบริษัทของเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล มาทำเรื่องนี้แต่ผู้เดียว

ผมว่า ผมเสียดายไอเดียดี ๆ จากผู้คนมากฝีมือทั่วประเทศที่ไม่มีโอกาสเสนอผลงานเรื่องนี้ครับ

อ้อ ผมไม่ได้เป็นนักวาดการ์ตูนนะครับ เพราะถึงมีประกวดผมก็ไม่แข่งขันหรอก การที่ผมยกตัวอย่างไอเดียตัวเอง ก็แค่ประกอบบทความเพื่อให้มองเป็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นเท่านั้น

ส่วนนักเขียนการ์ตูนสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดนี้ เขาได้โพสรูปถึงความรู้สึกของการวาดรูปสติ๊กเกอร์ไลน์ชุดนี้ของเขาไว้ว่า




วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

โอ๊ค ตัวปลอม ตั้งฉายาแห่งปี 57 แข่งกับ โอ๊ค ควายทองแท้






เมื่อนายโอ๊ค ควายทองแท้ เสร่อตั้งรางวัลบุคคลแห่งปี 2557 ที่ผ่านมา ตามข่าวนี้ คลิกอ่านข่าว

ผม akecity เลยขอแปลงเป็น โอ๊ค ตัวปลอม  เพื่อประกาศผลบุคคลแห่งปี 2557 บ้าง ซึ่งชื่อรางวัลบุคคลแห่งปีในสาขาต่าง ๆ นั้นเหมือนกับที่โอ๊ค ควายทองแท้ตั้งไว้ทุกอย่าง

เพียงแต่ผู้ได้รับรางวัลกลับไม่เหมือนที่โอ๊ค ควายทองแท้ มอบให้เลยสักคน

ตามนี้

1. ผิวหน้าแข็งแกร่งแห่งปี ได้แก่ ยิ่งลักษณฺ ชินวัตร เพราะทำชาติเสียหายหลายแสนล้านบาทจากการบริหารจัดการน้ำไม่เป็นในปี 2554 จนน้ำท่วมสนามบินดอนเมืองได้ เป็นมหาอุทกภัยที่รุนแรงที่สุด เหตุเพราะเข้ามาเป็นรัฐบาลหลายเดือน กลับมัวแต่ไปจัดการแต่โครงการประชานิยม โดยไม่สนการบริหารน้ำเลย จนน้ำท่วมมาจ่อกรุง เธอเพิ่งจะตื่นมาเอาอยู่

แถมพ่วงทำประเทศชาติเจ๊งเพราะโครงการจำนำข้าวเจ๋งอีกอย่างต่ำ 5 แสนล้านบาท ก็ยังหน้าแข็งแกร่งขนาดแรดยังยอมแพ้ เพราะเธอยังกล้าบอกว่าตัวเองไม่เคยทำผิด แถมตะลอนเที่ยวไปทั่วแบบไม่ละอายใจ

ไมค์ทองคำปูไม่สน เพราะปูชอบไมค์ใหญ่ยาว




2.พระดีแห่งปี ได้แก่ เณรคำ เพราะเลียนแบบทักษิณได้เหมือนหลายอย่าง เหตุผลอธิบายไปแล้ว ตามลิงค์นี้ คลิก




3. วัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งปี ได้แก่ กระเป๋าแบรนด์เนมของทักษิณ
ถ้าทักษิณซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้นักร้องคนไหน แสดงว่า นักร้องคนนั้นต้องไปบริการทักษิณถึง....





4. คนหายแห่งปี ได้แก่ สารวัตรหนุ่ย เพราะมันหายไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ งานราชการไม่ทำ เพราะไปคอยรับใช้อดีตนายกรัฐมนตรี on 11รด Tour





5. ผู้ทรงคุณเหี้ยแห่งปี ได้แก่ ทักษิณ เหตุผลไม่ต้องอธิบาย เพราะรู้กันอยู่แล้ว







6. เหยียดมนุษยชนยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ โอ๊ค ควายทองแท้ ก็ล่าสุดอวดฉลาด ออกมาตั้งฉายาให้ฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณ แต่ดันไม่ตั้งฉายาให้พ่อมันเอง




7. พระเอกลิเกแห่งปี ไอ้นี่ได้มาหลายปีแล้ว ก็ไอ้พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ไง


8. สองมาตรฐานแห่งปี ได้แก่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เจ้าของประโยค "เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง"

เสื้อแดงที่เผาสถานที่ราชการก็ติดคุกไปแล้ว แต่ไอ้เต้น ณัฐวุฒิ ยังลอยนวล

ทีเรื่องเผาบ้านเผาเมืองล่ะเก่งนัก ทีเรื่องจำนำข้าว แม่งใบ้แดก





9. งานก๊อปเกรดเอแห่งปี ได้แก่ โอ๊ค พานทองแท้ อีกรางวัล เพราะมันก๊อปความเลวของพ่อมันได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนชักจะเลวใกล้เคียงพ่อมันได้แล้ว





10. คนขยันแห่งปี ได้แก่ โอ๊ค พานทองแท้ อีกรางวัล เพราะขยันอวดฉลาด โชว์โง่โพสเฟสบุ๊คมาตลอดปี





11 . เจ็บปวดแห่งปี ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ทักษิณนั่นแหละ แสร้งมีความสุข แต่ความจริงมันเจ็บปวดที่สุดกว่าใคร




12. วิสัยทัศน์ยอดเยี่ยมแห่งปี ได้แก่ พลเอกประยุทธ์ ที่ได้ทำรัฐประหารรัฐบาลรักษาการของอีโง่ได้ สะใจจริง ๆ




แถมพิเศษ

13. เค็มที่สุดแห่งปี ได้แก่ เสี่ยตัน หิมะเค็ม ผู้เนรมิตเมืองหิมะเค็ม ด้วยเกลือ 40 ตันที่เชียงใหม่ รวยอันดับ 34 ของประเทศไทยด้วยการขายหวยผ่านฝาชาเขียว




คลิกอ่าน ส.ค.ส. รูปทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เพื่อเสื้อแดง