วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ใบเตย อาร์สยาม กับความห่วยของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม








ที่จริงผมเองก็เพิ่งรู้จักนักร้องที่ชื่อ ใบเตย อาร์สยาม ได้ไม่นานนี้เอง คงเพราะกระแสโปรโมทและกระแสข่าวของเธอมันมีเยอะ เลยมีโอกาสได้รู้ว่า อ๋อ..คนนี้เองหรือ

หากฟังเฉพาะเพลงที่ใบเตย อาร์สยามร้อง ผมก็ว่าเพลงของเธอฟังสนุกดี แต่พอดูหน้าตานักร้อง ขอบอกว่า นักร้องคนนี้หน้าตาไม่สวยเลย

และยิ่งเมื่อดูการแต่งตัวของเธอแล้ว ขอบอกว่า ไม่ได้เจริญหูเจริญตาเลย ทั้ง ๆ ที่ผมก็ชอบดูผู้หญิงนุ่งสั้น ๆ อยู่นะ

คงเพราะรูปร่างของใบเตย อาร์สยาม ต้องจัดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้sex appeal เอาเสียจริง ๆ เลย เพราะรูปร่างไม่ดีเอามาก ๆ

ผมดูใบเตย อาร์สยามแล้ว ก็ขอบอกว่า ไม่สามารถดึงดูกสายตาผมได้เลย ยิ่งตอนหลัง ๆ ถ้าเห็นเธอโผล่ในทีวี ผมรีบเปลี่ยนช่องหนีเลย เพราะพอรูปร่างไม่ดี แต่อยากโชว์ มันเลยดูน่าเกลียดมากกว่าน่ามอง

โอว... ใบเตย อาร์สยอง !!! อี๊ ๆๆๆ

เพราะความพยายามแต่งสั้นที่ไร้รสนิยมของเธอ ท่าทางการแสดงออกของเธอ หรือแม้แต่ไปออกงานต่างๆ ที่เป็นข่าว การแต่งกายของเธอจัดอยู่ในพวกโลวคลาส ไร้รสนิยม หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า แต่งกายยอดแย่ นั่นแหละ

--------------------------

ความห่วยของกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรมไทย

คือผมไม่รู้ว่า ไอ้กระทรวงนี้มันมีศักยภาพควบคุมอะไรได้บ้าง เพราะผมไม่เห็นมันควบคุมวัฒนธรรมอะไรได้เลย

ใครทำผิดวัฒนธรรม ใครที่ทำให้วัฒนธรรมเสื่อมลง กระทวงวัฒนธรรมและกรมส่งเสริมวัฒนธรรมก็ไร้น้ำยาจะเอาผิด

โดยเฉพาะพวกคนในวงการบันเทิงไทย ที่ทำให้วัฒนธรรมอันงดงามหลายอย่างของไทยต้องถูกลืมเลือน และแปรเปลี่ยนไปในทางเสื่อมลง หลายกรณี

อย่างกรณีใบเตย อาร์สยาม ผมคิดว่า ถ้ากระทรวงวัฒนธรรมและกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะแค่ออกมาเตือนใบเตย มันก็เท่านั้น บ่มิไก๊ ไร้น้ำยาเปล่า ๆ

คือจากข่าวล่าสุด ใบเตย เธอไม่แคร์ที่กรมส่งสริมวัฒนธรรมเตือนเธอเลย

เลยเป็นว่า กระทรวงและกรมส่งเสริมวัฒนธรรมกลายเป็นไอ้ตัวตลกไปเลย ยิ่งไปเตือน ก็เท่ากับไปช่วยโปรโมทเพลงให้ใบเตยเข้าไปอีกฉิบ

----------------------

กระทวงวัฒนธรรมไทย ต้องดูกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีเป็นตัวอย่าง

ในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ เขามีการแบนศิลปินเพลง ที่เข้าข่ายละเมิดศีลธรรมอันดีของชาติ เช่นแต่งโป๊เกินเหตุ ท่าเต้นยั่วยุทางเพศมากเกินไป

หรือขนาดศิลปินเด็ก ๆ แต่งตัวโป๊เกินไป ดูไม่สมวัย กระทรวงวัฒนธรรมเกาหลีใต้เขาก็สั่งแบนได้ทันที และแบนจริง ๆ ด้วย โดยไม่มีมาเตือนให้เสียเวลา เสียอารมณ์เปล่า ๆ

หมายถึง แบนไม่ให้MVเพลงนั้นออกสื่อทีวีและวิทยุของเกาหลีใต้ทุกชนิด (แต่ยังยกเว้นสื่อออนไลน์)

ถ้าใบเตยเล่น MV เพลงไหนที่มันล่อแหลมก็แบนไปเลย และการแต่งกายแบบไหนล่อแหลม และท่าเต้นไหนที่ล่อแหลม ก็แบนไปเลยเช่นกัน รับรองจ๋อยแน่

หรือจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเช่น ห้ามใบเตยออกสื่อทุกชนิดเป็นเวลากี่เดือนก็ว่าไปเลย

อย่างล่าสุด ไซ กังนัมสไตล์ ก็โดนเบนมาแล้ว จากมิวสิตเพลง Gentleman ไป ด้วยเหตุผลใน MV เป็นการสร้างความเข้าใจผิดของคำว่าสุภาพบุรุษ ให้ผิดเพี้ยน

เพราะใน MV Gentleman ของไซ กลับกลายเป็นว่า ผู้ชายเลว ๆ แกล้งผู้หญิง

ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมไทยน่ะเหรอ ไม่เห็นแม่งทำอะไรได้เลย

บอกตรง กระทรวงนี้มีไปเปลืองภาษีชาติมากครับ เพราะขนาดพ่อรัฐมนตรียังหนีคุก แถมตอนนี้ยังไม่ต้องติดคุกอีกต่างหาก ??!



คลิกอ่าน ไอ้เต้น โชว์สวย โชว์โง่


วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไอ้เต้น โชว์ห่วย โชว์โง่






ไอ้เต้น ดาวตลกสภาโจ๊กหารับประทานด้วยการหลอกฟายแดงไปวัน ๆ เพราะไม่ว่าไอ้เต้นจะพูดอะไร ๆ ฟายแดงก็เชื่อไปหมด

ไอ้เต้นบอกให้เผาเลยครับพี่น้อง ถ้าคุณยึดอำนาจพวกผม ฟายแดงก็เชื่อ !!

พอทหารเข้ายึดพื้นที่ราชประสงค์คืนปุ๊บ! พวกฟายแดงก็เลยตกใจ เพราะรอตกใจมานานแล้วตามที่ไอ้เต้นสั่งไว้ บุกเข้าไปขโมยของแบรนด์เนมในห้าง แล้วก็เผาห้างเพื่อทำลายหลักฐาน

แต่เอ.. ทำไมไม่ค่อยเห็นกล้องวงจรปิดถ่ายตอนพวกเสื้อแดงเผา และขโมยของในห้างเลย ?

นั่นมันเพราะ ก่อนเสื้อแดงจะถอดเสื้อแดงออก พวกเสื้อแดงมันปีนไปเอาถุงดำปิดกล้องวงจรปิดไว้จนเกือบหมด ส่วนกล้องในห้างก็โดนตัดไฟไปหลายจุดก่อนที่จะได้ถ่ายไอ้พวกชั่วไว้ได้

----------------

ต่อมาไอ้เต้น บุญพาวาสนาส่ง ได้มาเป็นอำมาตย์เต้น วัน ๆ ไม่ทำอะไร นอกจากคิดมุขตอบโต้ฝ่ายค้านไปวัน ๆ

ตอนไอ้เต้นเป็น รมช.เกษตร ดันไปเจือกยุ่งเรื่องแท๊กซี่


แล้วพอได้เป็นรมช.พาณิชย์ ไอ้เต้นได้คิดโครงการอภิมหาโปรเจค คือ เปลี่ยนโชว์ห่วยเป็นโชว์สวย ซึ่งวิธีที่สมองมันคิดนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการใช้นิ้วหัวแม่ตีนคิดเลย

เพราะนำวิธีคิดแบบคิดมุขหลอกฟายแดงบนเวที มาใช้แก้ปัญหาบ้านเมือง คือ มุขตลกเล่นคำ เปลี่ยนโชว์ห่วยเป็นโชว์สวย

เนี่ย ถ้าไอ้เต้นไม่ได้ผ่านสภาโจ๊กมาก่อน คงคิดไม่ได้นะนี่ มุขควายๆ เช่นนี้ 555

---------------

พอไอ้เต้น ได้รับเกียรติให้ไปตอบเรื่องตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว

จากไอ้เต้น โชว์ห่วยโชว์สวย ก็เปลี่ยนเป็น ไอ้เต้นโชว์โง่ ในบัดดล 5555555

แถมไอ้เต้นอยากจะตรวจค้นโกดังข้าว ไอ้เต้นก็ตีปี๊บอยู่เป็นอาทิตย์

เขาเรียกว่า กลยุทธแหวกหญ้าให้งูตื่นก่อนเข้าตรวจเช็คจริง นี่ถ้าไม่ใช่ไอ้เต้นคิดไม่ได้นะนี่ คิดจะจับโจรแต่เจือกตะโกนเตือนโจรก่อน 

และแล้ว ผลงานที่ระบือลือเลื่องที่ไอ้เต้นจะขอฝากทิ้งไว้บนแผ่นดิน

นั่นก็คือ แต่งเพลง โชว์ห่วย โชว์สวย แถมทำ MV ลงบนยูทูปให้ขจรขจายไปทั่วโลก

แต่แล้วปล่อย MV ไม่ทันไร ต้องรีบถอดออก ทีแรกนึกว่าเป็นเพราะโดนคนด่ามากกว่าคนชม

แต่ที่ไหนได้ ไอ้เต้นดันไปละเมิดลิขสิทธิ์ทำนองเพลง Black Superman เพลงดังประจำตัว โมฮัมหมัด อาลี ตำนานมวยโลกมาใช้

ไอ้เต้น โชว์โง่ซ้ำอีกครั้ง เพราะตัวเองเป็น รมช.พาณิชย์ คุมเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ตัวมันดันละเมิดลิขสิทธิ์เอาเสียเอง 555

คาดว่า ปรับครม. ยิ่งเละ 5 คราวนี้ ไอ้เต้นคงได้กลับไปคิดมุขหลอกฟายแดงบนเวทีฟายแดงอย่างเต็มตัวเสียทีล่ะคราวนี้ กร๊าก ๆๆ ๆ

แต่ถ้าไอ้เต้นได้ไปต่อเป็นรอบที่ 3 ในฐานะรัฐมนตรีอีกครั้ง

ก็คาดได้เลยว่า อีปูคงติดใจมุขไอ้เต้นบน... แน่ ๆ กร๊าก ๆๆๆ

เข้าตำรา ไอ้เต้นมุขไม่ขำ แต่ท่ายากเยอะ 55555


คลิกอ่าน ไอ้ อดีตพระเกษม มึงปาราชิกไปแล้ว


วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ไอ้อดีต พระเกษม มึงปาราชิกไปนานแล้ว






17 ก.ค. 2558

รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ได้เสนอข่าวว่า พระเกษม หรือไอ้เกษม ได้ยอมรับมีเพศสัมพันธ์กับลูกศิษย์ผู้ชายจริง แต่แถว่า ตัวเองยังไม่ปาราชิก เพราะไม่มีความสุขในการมีเพศสัมพันธ์ และไม่รู้ตัวขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงขาดเจตนา

ไอ้เกษม อ้างว่า เมื่อมันขาดเจตนาจึงไม่ครบองค์ประกอบการทำปาราชิก

"เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้ต้องอาบัติปาราชิก เพราะช่วงที่ก่อเหตุตนเองไม่มีสติสัมปชัญญะ จึงไม่จำเป็นต้องสึกจากผ้าเหลือง และเสนอให้ลูกศิษย์ทำการตั้งศาลสงฆ์ ขึ้นตรวจสอบตนเองได้เลย เพราะพระธรรมวินัยระบุ ถ้าการกระทำไปโดยไม่รู้สึกตัว ถือว่าไม่ผิดพระธรรมวินัย"

ถุย !!! ไม่รู้สึกตัว ถ้าของมึงยังไม่แข็ง มันก็ตุ๋ยลูกศิษย์ไม่ได้หรอกโว้ยไอ้เกษม ไอ้แถ !!

ทั้งนี้ไอ้เกษมย้งอ้างต่ออีกว่า "ซึ่งหากให้ตนสึกนั้น ตนจะอยู่อย่างไร กลับบ้านก็ไม่ได้ เพราะตัดขาดมานานแล้ว แล้วใครจะดูแล"

อ้าว ที่ไม่ยอมสึก กะเกาะผ้าเหลืองกินล่ะสิ ไอ้เห็บ !!

ในขณะที่ ลูกศิษย์ชายที่ถูกไอ้เกษมกระทำคนดังกล่าวบอกว่า โดนพระเกษมล่วงละเมิดทางเพศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง ทั้งที่วัดสามแยกและนอกสถานที่

คลิปเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ พระเกษมยันไม่ปาราชิก แม้จะได้ตุ๋ยผู้ชายจริง


คลิกที่รูปเพื่ออ่านข่าวไทยรัฐ


ส่วนด้านล่างคือบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2556 นานแล้วว่า ไอ้เกษม ปาราชิกไปแล้ว !!

-------------------------------------

เกริ่น

พระแท้ ๆ ถ้าสามารถไม่จับเงิน ไม่รับเงินได้ ก็ดี
พระแท้ ๆ ถ้าไม่สอนให้คนหลงในวัตถุ สอนให้คนยึดติดวัตถุบูชา เครื่องรางของขลังได้ก็ดี

แต่พระที่คิดว่าตัวเองเป็นอรหันต์ ชอบด่าพระอื่นที่รับเงิน แต่วัดตัวเองก็รวยเอา ๆ เพียงแต่ไม่ได้รับเงินเอง ให้เด็กในสังกัดรับแทน แต่ควบคุมเงินได้ แค่ตัวเองไม่แตะเงินเองเท่านั้น

แค่ตนเองไม่รับเงิน แต่ศีลข้ออื่นตนเองผิดมากมาย แต่ตนเองกลับมองไม่เห็น

พระที่คิดว่าตัวเองเป็นอรหันต์ ปากบอกว่า พระพุทธรูปเป็นอิฐ เป็นปูน อย่าไปนับถือ แล้วก็สั่งสาวกทุบพระพุทธรูปทิ้ง

ใครกันแน่ที่ยึดติด พระพุทธรูป ?
เพราะถ้ามองว่าพระพุทธรูปเป็นแค่อิฐ เป็นแค่ปูน ก็คงไม่บอกไม่ยุให้สาวกไปทุบพระพุทธรูปทิ้งหรอกจริงไหม ก็จะทุบทำไมให้เมื่อย ให้เสียแรง ก็นั่นเป็นแค่อิฐปูนเท่านั้นไม่ใช่เหรอ แล้วจะถ่ายรูปถ่ายคลิปไว้อวดอีกด้วยทำไม

แค่ทุบอิฐ ทุบปูน ต้องเอามาอวดด้วยเหรอ ?


ใครกันแน่ที่ยึดติด ??

akecity


--------------------

ก่อนอื่นขอเท้าความว่า ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับพระเกษมไว้ในเว็บสนุกไว้หลายกระทู้ ซึ่งหลังจากได้ตามข้อมูลและได้ตั้งกระทู้มาหลายกระทู้

ผมกล้าฟันธงว่า พระเกษม หรือ อดีตพระเกษม มันได้ปาราชิกไปแล้ว

ประเด็นสำคัญที่ว่า ปาราชิก ก็มาจากคลิปหนึ่งที่วัดสามแยก เป็นการอวดอุตริมนุสธรรม อ้างว่า ตัวพระเกษมได้พูดคุยกับเทวดา ซึ่งคลิปนั้นผมได้นำมาโพสลงในกระทู้สนุก แต่ต่อมาคลิปนั้นก็ถูกวัดสามแยกลบออกไป

ซึ่งคลิปนั้นมีชื่อว่า พระเกษมเปิด 3 โลก แถมในคลิปยังท้าทายว่า ถ้าพูดไม่จริงให้ฟ้าผ่ากระบาลให้แยกอยู่หลายครั้ง

อาจเพราะมันรู้ว่า คลิปนี้คือหลักฐานสำคัญว่ามันได้ปาราชิกข้อ4 ไปแล้วนั่นคือ

4. กล่าวอวดอุตตริมนุสสธัมม์ อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า
ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

พวกมันเลยรีบลบคลิปทิ้งไป

แต่ไม่เป็นไรเมื่อคลิปนั้นถูกลบไปแล้ว แต่ยังมีคลิปจากรายการข่าว 3 มิติ ที่อดีตพระเกษมยังอวดอ้างว่า จิตไปนิพพานแล้ว ในนาที่ 4.11

นักข่าวถาม "คือท่านนิพพานแล้วตอนนี้" (นักข่าวฉลาดมาก ที่แกล้งถามเพื่อทดสอบสติปัญญาของอดีตพระเกษม)

ไอ้อดีตพระเกษม "ถ้าพูดดวงใจของเราน่ะไปแล้ว เหลือแต่เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ยังทำงานอยู่ที่นี่ เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าทำ"


คลิปจากรายงานข่าว3มิติ ที่วัดสามแยกของคนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม

ที่นี่ไม่มีการทำวัตร ไม่มีการสวดปาติโมกข์ ไม่มีการสวดมนต์ เขาบอกใช้ใจส่งตรงถึงพระพุทธเจ้า แถมมันยังอ้างว่า จิตตัวเองนิพพานแล้ว


นี่เท่ากับ อดีตพระเกษม มันอวดอ้างว่ามันเป็นอรหันต์ หากเป็นจริงก็ถือว่าไม่ปาราชิก แต่ถ้าไม่เป็นจริง ก็ถือว่าปาราชิก

แต่เพราะพระพุทธเจ้าทรงห้ามพระอวดอ้างอิทธิฤทธิ์ อภินิหาร และภูมิธรรม แม้พระรูปนั้นจะมีสิ่งเหล่านั้นอยู่จริงก็ตาม พระพุทธเจ้าก็ทรงห้ามไม่ให้อวดอ้าง

แต่ลักษณะไอ้นี่ มันน่ะปาราชิกแน่นอน เพราะเท่าที่ผมดูสติปัญญามันในหลายคลิป ขอบอก ไอ้นี่มันเพี้ยน !!

-----------------------

ใจไอ้อดีตพระเกษม มันก็แค่เหมือนไอ้พวกตาลีบัน

แม้ใครไม่อยากเคารพรูปสักการะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเสมือนรูปเคารพพระพุทธเจ้า หรือ พระพุทธรูป นั้น

แต่การที่ไม่เคารพในสิ่งที่ผู้อื่นเคารพ ก็ต้องเคารพในจิตใจของผู้อื่นด้วย ไม่ใช่แสดงความกักขฬะ ต่ำช้า ทุบทำลาย เผาพระพุทธรูปราวกับจงเกลียดจงชัง

ไอ้อดีตพระเกษม มันสอนให้ลูกศิษย์ไม่เคารพนับถือพระพุทธรูป นั่นก็ไม่ผิด แต่การสอนให้แสดงความจงเกลียดจงชัง ถึงขั้นทุบทำลาย แถมแสดงอากัปกิริยาลบหลู่พระพุทธรูป เช่นพระพุทธชินราชจำลอง นั่นไม่ใช่วิถีพุทธที่ถูกต้องแน่นอน

เพราะไอ้อดีตพระเกษมแม้จะอ้างว่า เห็นพระพุทธรูปเป็นแค่ปูน แค่อิฐ ไม่ได้เห็นเป็นรูปเสมือนพระพุทธเจ้าก็ตาม ซึ่งถ้าหากเห็นว่าเป็นอิฐ เป็นหิน เป็นปูนจริง มึงจะไปเผาทำไม มึงจะไปทุบทำลาย ถ่ายรูปเผยแพร่ประจานความเลวของพวกมึงลงเน็ตทำไม ?

นั่นเพราะพวกมึงนั่นแหละ ที่ยึดติดว่าเป็นพระพุทธรูป แต่พวกมึงเกลียดพวกมึงจะทุบทำลายเผาด้วยความคั่งแค้น สนุกสนานเฮฮา ที่ได้ทุบทำลายพระพุทธรูปเหล่านั้น

เพราะหากเห็นเป็นแค่ทองเหลือง หิน อิฐ ปูน จริง พวกมึงก็ต้องไม่ให้ความสำคัญ ไม่เผา ไม่ทุบ ไม่ทำลาย เพราะจะทุบไปทำไม ก็มันแค่อิฐก้อนเดียว จริงหรือไม่?

สรุปว่า พวกมึง ไอ้อดีตพระเกษม และลูกศิษย์หลงผิดของมึง พวกมึงมันสวะ จิตใจหยาบช้า ประหนึ่งพวกตาลีบันที่ยิงทำลายพระพุทธรูปยืน ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งชองโลกในอัฟกานิสถาน


หมายเหตุ คดีไอ้เกษมลบหลู่พระพุทธรูป ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งจำคุกไอ้เกษม 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา ซึ่งคดีนี้ไอ้เกษมกำลังสู้ในชั้นฎีกาอยู่

-----------------------------

กราบหมาตัวนี้ ยังดีกว่ากราบไอ้อดีตพระเกษม

ถ้าจะให้ผม akecity กราบคนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม ผมว่าให้ผมไปกราบหมาตัวนี้เสียยังดีกว่า


เพราะผมไม่ยึดติดว่า ห่มเหลือง หรือหมา ถ้าไอ้ห่มเหลืองไม่น่าเคารพกราบไหว้ แต่หมายอดกตัญญู ให้ผมกราบหมาเสียยังดีกว่ากราบไอ้ห่มเหลืองเกษม

(หมายเหตุ ผมเขียนเชิงประชดว่า ถ้าต้องกราบไอ้เกษม ให้กราบหมากตัญญูเสียยังดีกว่า แต่ตามหลักคนเราไม่ควรกราบไหว้เดรัจฉานนะครับ)

แม้แต่เศษดิน ถ้ามีใครปั้นเป็นพระพทุธรูป หรือแม้แต่รูปที่เด็กประถมวาดรูปพระพุทธรูป ผมก็ไหว้ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการปลุกเสกด้วยซ้ำ

เปรียบเสมือนรูปพ่อ รูปแม่ ผมก็ไหว้ได้ โดยไม่ต้องมีปลุกเสกอะไรทั้งนั้น คนที่อ้างชื่อว่าพระเกษม คงไม่เข้าที่ผมอธิบายล่ะสิ เพราะมันโง่ !!

อ้าว ไอ้อดีตพระเกษมอย่าๆ อย่าๆ งง??

ยกอีกตัวอย่างเช่น แค่เขียนคำว่า พระพุทธเจ้า หรือเขียนคำว่า พระพุทธรูป ลงบนกระดาษ ผมakecityก็กราบได้ทันทีอย่างสนิทใจ โดยไม่ต้องปลุกเสกใด ๆ

เพราะความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ขึ้นอยู่กับการปลุกเสก แต่ขึ้นอยู่ที่ ใจ ของผม

แม้แต่ผ้าถุงของแม่ผม ผมก็กราบได้ อธิบายแค่นี้ คนอย่างนายพระเกษม คงไม่เข้าใจอีกล่ะสิ

แต่ไอ้คนที่อ้างตัวเป็น พระ อย่างที่ชื่อพระเกษม เห็นพระพุทธรูป ซึ่งคือพระพุทธชินราชจำลอง ยังตบเศียรพระพุทธชินราชจำลองได้ อย่างไร้ความเคารพ

เมื่อมึงไม่เคารพพระพุทธรูป มันเรื่องของมึง แต่การกระทำหมิ่นพระพุทธรูปต่อหน้ากล้องเพื่อให้คนทั้งประเทศเห็น มันเป็นการหมิ่นน้ำใจคนไทยทั้งประเทศ


บอกตามตรง ผมว่า หมากตัญญูยังดีกว่าคนที่อ้างชื่อว่าไอ้พระเกษมครับ

ผิดไหมที่ผมรู้สึกเช่นนั้น ?

ถ้าใช้ตรรกะเดียวกับคนที่อ้างว่าชื่อพระเกษมใช้ คือ ผมว่าผมไม่ผิดครับ เพราะผมไม่ได้เคารพคนที่อ้างว่าเป็นพระที่ชื่อพระเกษม เหมือนที่คนที่อ้างชื่อว่าพระเกษมอ้างว่าไม่เคารพทองเหลืองที่เรียกว่าพระพุทธรูปนั่นแหล่ะ

ในเมื่อผมไม่เห็นคุณเป็นพระ ผมก็ย่อมมีสิทธิเห็นหมาตัวข้างบนดีกว่าคุณเช่นกัน


จึงขอสรุปว่า ไอ้อดีตพระเกษมนั่นแหล่ะที่ยึดติด!! เห็นคนเขากราบไหว้พระพุทธรูป แล้วตัวเองกลับทนไม่ได้ เมื่อทนไม่ได้เลยแสดงออกด้วยการเหยียดหยามพระพุทธรูป นั่นเพราะนายพระเกษม เป็นพระกำมะลอ แยกแยะไม่เป็น แถมหลงตัวเองอย่างหนัก!!


-------------------------------

ไอ้อดีตพระเกษม โกหกว่า ถือศีลได้ 9,000 ข้อ




ขำจริงๆ วินาทีที่ 37 ไอ้เกษมโกหกได้อย่างหน้าตาเฉย ว่าถือศีลมากกว่า9000ข้อ โดยไม่ผิดศีลสักข้อ

(ขออภัยคลิปล่ม เพราะพอเกิดเหตุเกษมตุ๋ยลูกศิษย์เพียง 2 วัน วัดสามแยกก็ลบคลิปนี้ออกไป)

แค่เรื่องหยาบคาย ส่อเสียด ก็ผิดศีลแล้ว

ต่อไปนี้ ผมจะยกศีลที่ไอ้อดีตพระเกษมได้กระทำผิด ซึ่งเท่าที่สติปัญญาผมพอจะนึกได้ ไอ้นี่ผิดศีลอาบัติมากถึง 33 ข้อเป็นอย่างน้อย ดังนี้

สังฆาทิเสส

3. พูดจาหยาบคาย
10. ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน
11. เป็นพวกของผู้ที่ทำสงฆ์ให้แตกกัน
12. เป็นผู้ว่ายากสอนยาก และต้องโดนเตือนถึง 3 ครั้ง
13. ทำตัวเป็นเหมือนคนรับใช้ ประจบคฤหัสถ์


ปาจิตตีย์

1. ห้ามพูดปด
2. ห้ามด่า
3. ห้ามพูดส่อเสียด

8. ห้ามบอกคุณวิเศษที่มีจริงแก่ผู้มิได้บวช

9. ห้ามบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุแก่ผู้มิได้บวช

10. ห้ามขุดดินหรือใช้ให้ขุด (ให้ลูกศิษย์ขุดบ่อน้ำในวัด)

11. ห้ามทำลายต้นไม้ (ให้ลูกศิษย์ตัดต้นไม้เพื่อสร้างศาลา, กุฏิสงฆ์ ฯลฯ)

12. ห้ามพูดเฉไฉเมื่อถูกสอบสวน

13. ห้ามติเตียนภิกษุผู้ทำการสงฆ์โดยชอบ (ติเตียนเจ้าคณะพระสังฆาธิการผู้ทำหน้าที่โดยชอบ) ตามพระธรรมวินัยและกฎ ระเบียบ คณะสงฆ์ (มีเจ้าคณะตำบล,อำเภอ,จังหวัด ตลอดถึงมหาเถรสมาคม เป็นต้น)

68.ห้ามกล่าวตู่พระธรรมวินัย (ภิกษุอื่นห้ามและสวดประกาศเกิน ๓ ครั้ง)

71. ห้ามพูดไถลเมื่อทำผิดแล้ว (ทำผิดไม่ยอมรับผิด อ้างว่าแสดงแกล้งทำ)

73. ห้ามพูดแก้ตัวว่า เพิ่งรู้ว่ามีในปาฏิโมกข์ (ยกแข้งยกขา ตะโกนโวยวาย ทำตัวถ่อย สถุล แล้วอ้างว่าเราไม่รู้ว่าผิด)

75. ห้ามเงื้อมือจะทำร้ายภิกษุ (ไม่เงื้อมือ แต่เอาเท้าพาดคอภิกษุอื่น)

76. ห้ามโจทภิกษุด้วยอาบัติสังฆาทิเสสที่ไม่มีมูล (โจทย์อาบัติว่าภิกษุรูปอื่นผิดหมด ตนถูกเพียงคนเดียว)

77. ห้ามก่อความรำคาญแก่ภิกษุอื่น (เสียงดัง รบกวนภิกษุอื่นกำลังพิจารณาภัตตาหาร)

79. ให้ฉันทะแล้วห้ามพูดติเตียน


เสขิยะ สารูป

5. สำรวมด้วยดีไปในบ้าน (ไม่มีความสำรวม)
9. ไม่เวิกผ้าไปในบ้าน
10. ไม่เวิกผ้านั่งในบ้าน
11. ไม่หัวเราะดังไปในบ้าน
12. ไม่หัวเราะดังนั่งในบ้าน
13. ไม่พูดเสียงดังไปในบ้าน
14. ไม่พูดเสียงดังนั่งในบ้าน
17. ไม่ไกวแขนไปในบ้าน

โภชนปฏิสังยุต คือหลักในการฉันอาหาร

หละกโภชนปฏิสังยุต มี 10 ข้อ ไอ้เกษมผิดอย่างน้อย 3 ข้อ คือ

ข้อ 1. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักรับบิณฑบาตโดยเคารพ คือ รับบิณฑบาตด้วย ความเต็มใจ ไม่แสดงอาการดูหมิ่นดูแคลน(เช่น การเอาเท้าเตะของบนโต๊ะขณะพระอื่นบิณฑบาตร)

ข้อ 2. ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เมื่อรับบิณฑบาตเราจักดูแลแต่ในบาตร คือ ในขณะ ที่รับบิณฑบาต ห้ามมองดูหน้าทายก หรือมองไปทางอื่น ให้มองดูแต่ในบาตรเท่านั้น (แต่ไอ้เกษมโหวกเหวกพูดไป กินไป ด่าไป)

ขุ้อ 6 . ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เมื่อฉันบิณฑบาต เราจักแลดูแต่ในบาตร คือขณะฉัน ห้ามแลดูสิ่งอื่น เพราะการมองดูโน่นดูนี่ ขณะกำลังเคี้ยวอยู่ในปาก เป็นกิริยาที่ไม่งาม

ดูคลิปไอ้เกษม แดกข้าวไป บ่นไป ด่าไป นี่ก็อาบัติเช่นกัน มันอาบัติทุกวัน


แค่คลิปนี้ก็ชี้ให้เห็นชัดว่า ไอ้เกษม เพ่งโทษแต่คนอื่น แต่ความผิดตัวเองกลับมองไม่เห็น


ธัมมเทสนาปฏิสังยุตต์

14 อันภิกษุผู้ยืนอยู่ ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อ ยืนแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้นั่งอยู่ ต้องอาบัติทุกกฏ.(ไอ้เกษมยืน แต่แสดงธรรมแก่คนที่นั่ง)

15. อันภิกษุผู้เดินไปข้างหลัง ไม่พึงแสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปข้างหน้า ภิกษุใดอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อเดินไปข้างหลัง แสดงธรรมแก่คนไม่เป็นไข้ผู้เดินไปข้างหน้า ต้องอาบัติ
ทุกกฏ


ซึ่งผมว่า ไอ้เกษมน่าจะมีความผิดอีกหลายข้อ แต่เอาเท่าที่ผมดูตามที่เห็นในคลิปเท่านั้น

ไอ้อดีตพระเกษม มันมัวแต่เพ่งผิดที่พระรูปอื่น แต่ความผิดของตัวเอง กลับมองไม่เห็น !!

ไอ้เกษม มันเห็นความผิดผู้อื่นใหญ่เท่าขุนเขา แต่ความผิดมากมายของมันเล็กเท่าจิ๋มมด 

ผมขอพูดเรื่อง การบิณฑบาตรหน่อย ตามหลักพระต้องรับการประเคนอาหารก่อน จึงจะฉันได้ เพราะพระวินัย บัญญัติว่า ห้ามพระสงฆ์หยิบสิ่งของมาขบฉันเองโดยไม่มีผู้ประเคน

แต่ถ้าดูในคลิปวัดสามแยก พระเดินตักอาหารแบบตักบุฟเฟ่ต์

ทำเพี้ยนหมดไอ้เกษมเอ๊ย !!

------------------------

ข่าวไทยรัฐ เจ้าคณะอุดรฯ ไม่ขัดข้องสึก "พระเกษม"

พระเทพวรลังการ์ เจ้าคณะอุดรฯไม่ขัดข้องมติในที่ประชุมสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดอุดรธานี ให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน นับตั้งแต่วันที่30 กันยายนที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี กรณีพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ที่สร้างพฤติกรรมแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อสมณสารูป พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพลงเว็บไซต์ยูทูป www.youtube.com จนมีหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าสร้างความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนานั้น

จนมีมติในที่ประชุมสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จังหวัดอุดรธานี ให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน โดยมีหนังสือแจ้งคำสั่งส่งไปยังสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยกให้พระเกษมฯปฏิบัติตามหากยังขืนดื้อดึง ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นับตั้งแต่วันที่30 กันยายนที่ผ่านมา ทางคณะสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุต จะดำเนินการตามพระธรรมวินัยที่ "พระพุทธองค์" ทรงให้พระสงฆ์เป็นผู้เผยแพร่ พระพุทธศาสนา ปฏิบัติกันมากว่า 2,500 ปี

เวลา 14.30 น. วันที่ 3ตุลาคม ซึ่งจะครบกำหนดเวลาที่ทางคณะสงฆ์ภาค 4 ฝ่ายธรรมยุตส่งหนังสือคำสั่งให้พระเกษมฯลาสิกขาบทนั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้านมัสการขอพบ “พระเทพวรลังการ์หรือท่านเจ้าคุณ สิงห์” เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ภายในกุฏิเจ้าคณะจังหวัดวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ฝ่ายธรรมยุต เขตเทศบาลนครอุดรธานี และ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางคณะสงฆ์ ในจังหวัดอุดรธานีไม่ขัดข้องประการใด ที่ทางคณะสงฆ์ภาค 4 และคณะสงฆ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำหนังสือส่งให้พระเกษมฯลาสิกขาบทภายใน3 วัน หลังจากมีมติในที่ประชุม

ซึ่งพระเกษมฯและสำนักสงฆ์ดังกล่าวอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด นั้นมีอำนาจดำเนินการกับพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยหรือเห็นสมควรจะ ดำเนินการอย่างไรกับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติตนมิชอบหรือทำผิดต่อพระธรรมวินัย ถึงแม้ว่าพระเกษมฯจะอุปสมบถ(บวช)ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีก็ตาม

ในความคิดส่วนตัวของอาตมา ไม่ขอวิจารณ์อะไรในตัวพระเกษม ให้เป็นไปตามกฎของพระธรรมวินัยที่ยึดปฎิบัติตั้งแต่สมัยพุทธกาล

“อาตมารู้เพียงว่า หลวงตาเหลิม ลูกศิษย์หลวงตาบัว ผู้ปฏิบัติชอบใน พระธรรมวินัยของสงฆ์ ยังอยู่ร่วมจำพรรษาในวัดดังกล่าวกับพระเกษมฯไม่ได้ซ้ำท่านยังหนีออกจาก สำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก ซึ่งท่านเป็นผู้ก่อตั้งวัดและจำพรรษามาก่อนตั้งแต่ในวัดมีศาลาเพียงหลังเดียว เพราะทนต่อพฤติกรรมของพระเกษมไม่ได้หลวงพ่ออินถวาย สันตุสสโก เจ้าอาวาสวัดป่านาคำน้อย อ.นายูง จ.อุดรธานีหนึ่งในศิษย์ของหลวงตาพระมหาบัว ท่านรู้เรื่องนี้ดี” เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานีกล่าวในที่สุด


ไอ้เกษมศิษย์ล้างครู

หลวงปู่เหลิม ธมมธโร อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ป่าสามแยก กล่าวว่า การกระทำที่พระเกษมได้กระทำการนั้น รู้สึกมีความเสียใจเป็นครั้งสองแล้วก่อนอาตมาจะออกจากสำนักฆ์ป่าสามแยก ได้มอบงานและมอบหน้าที่ให้ดูแลสำนักสงฆ์และป่าอย่าไปก้าวร้าวและกระทำการใดๆ ในเบื้องต้นพระเกษมก็รับปาก

หลังจากมาทราบว่าได้ปฏิบัติการครั้งที่สองมีความเสียใจ เพราะในอดีตที่มาผ่านมานั้น อาตมาเองนี้แหละที่ยกโทษให้เพราะเห็นว่าพระเกษมนั้นเป็นศิษย์เดียวกัน เพราะหลวงตามหาบัว เป็นผู้แนะนำทางสอนเมื่อต้นปี 2537 เห็นพระเกษมจำพรรษาอย่ที่วัดยางทองแล้วเกิดความสงสารจึงได้อนุมัติ

เมื่อพระเกษมมาขออยู่ด้วยเพื่อช่วยกันดูแลผืนป่าที่ทางสำนักสงฆ์สามแยกได้ทำ การปลูกป่าที่ได้ มาจากฝ่ายสงฆ์วัดบ้านตาดและได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิชัยพัฒนาโดย พระเทพได้เสด็จมามอบเงินจำนวนสองล้านห้าแสนบาท เพื่อซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เพื่อป้องกันการรุกป่า

แต่ปีนั้นหลังจากพระเกษมมาจำพรรษาอยู่ได้ไม่นานได้มีการแผลงฤทธิ์และด่าทอหลวงตามหาบัว ทั้งที่เป็นอาจารย์ และทางคณะสงฆ์วัดบ้านตาดได้เรียกประชุมพระผู้ใหญ่ ผลมติให้พระเกษมออกจากวัดไป แต่อาตมาได้ขอร้องให้พระเกษมแก้ตัวและขอขมาต่อหลวงตามหาบัว

เพราะในช่วงนั้นสงสารหากขับออกก็อย่ในระหว่างกลางพรรษา และข้อสำคัญ พระเกษมก็มีโยมแม่ติดตามมาด้วยจึงอภัยให้ และเมื่อต้นปี 2548 อาตามเองก็ได้กลับคืนสู่สำนักสงฆ์ภูแปก อ.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ. เลย เพราะญาติโยมมานิมนต์กลับสำนักเดิมเพื่อไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ภูแปกและได้ มอบหมายให้พระเกษมเป็นผู้ดูแลสำนักป่าสามแยกแทน

และหลังจากนั้นก็ห่างเหินไม่ได้มาที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยกอีกและต่อมาทราบข่าวการกระทำของพระเกษม ก็มีความรู้สึกว่ามีความเสียใจเป็นอย่างมาก และจะบอกกล่าวพระเกษมนั้นคงยากจึงปล่อย

แต่ยอมรับว่าเสียใจที่พระเกษมทำอะไรลงไปและไม่สามารถที่จะบอกเตือนได้แล้ว หลวงปู่เหลิม กล่าว

----------------------

ไอ้อดีตพระเกษม มันเป็นบ้า เพี้ยน ด่ากระทั่งหลวงตามหาบัวได้ แถมพฤติกรมไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพตามมติสงฆ์ที่ให้มันสึก เข้าลักษณะขัดศีลธรรมอันดี พฤติกรรมหลายอย่างเข้าลักษณะทำสงฆ์แตกแยก ซึ่งมีความผิดในขั้นปาราชิกเช่นกัน

ไอ้อดีตพระเกษมนี่ ผมจึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่พระ มันเป็นแค่คนเพี้ยนอาศัยผ้าเหลืองบังหน้า แอบอ้างพระพุทธเจ้าหลอกคนเท่านั้น


พระเกษม ที่กำลังเป็นข่าวดัง ว่าประพฤติตนไม่สำรวม ท้าทายคณะสงฆ์ ท้าทายคุณสรยุทธ ในขณะนี้นั้น

มันเกิดจากตรรกะเดียวกันกับ จ๊ะ คันหู

เพราะจ๊ะ คันหู อ้างว่า ที่เธอทำเป็นแค่การแสดง เป็นอาชีพสุจริต ทำเพื่อส่งเสียตัวเองเรียน ส่งเสียพ่อแม่ เธอย่อมไม่ผิด

พระเกษม ก็เช่นเดียวกัน ลบหลู่พระพุทธรูป แสดงอากัปกิริยาสถุล ๆ

โดยอ้างว่าไม่ผิดพระวินัย เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไหว้พระพุทธรูป พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามให้พระยกแข้งยกขา เตะเก้าอี้ล้ม

เอากับเขาสิ!!

ผมว่า มันคือตรรกะะเดียวกับจ๊ะ คันหู

ฉะนั้นเมื่อพระเกษมลบหลู่พระพุทธรูปได้ ผมก็สามารถเอารูป จ๊ะ คันหู ไว้เหนือรูปไอ้อดีตพระเกษมได้เช่นกัน

เพราะพระพุทธเจ้าทรงไม่เคยห้ามว่า ห้ามเอารูปผู้หญิงเกาหูอยู่เหนือหัวไอ้อดีตพระเกษม จริงมั้ย??




-------------------------

พระพยอม พูดถึงพระเกษม

กรณีทำลายพระพุทธรูป ดูหมิ่นพระพุทธรูป พระพยอมอธิบายได้อย่างเข้าใจง่ายมาก ลองฟังพระพยอมอธิบายครับ



ศาลอุทธรณืได้ตัดสินจำคุกไอ้เกษมแล้ว เป็นเวลา 2 ปี แต่ไอ้เกษมได้ประกันตัว ขอสู้ต่อในชั้นฎีกา

--------------------

ล่าสุด 25 พ.ย. 2557 ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ไอ้เกษมผิดจริง ๆ แต่ยกโทษจำคุกให้ เพราะมองว่า เจตนาสอนลูกศิษย์ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ แต่ให้คงโทษปรับ 2 พันบาท




บทความนี้ผมเขียนตั้งแต่ปี 2556 ว่าไอ้เกษม ปาราชิกแล้วเพราะอวดคุณวิเศษที่ไม่มีจริงในตัวเอง แล้วก็มีสาวกไอ้เกษม เข้ามาแปะลิงค์แก้ตัวของวัดสามแยกให้ไอ้เกษม หลายลิงค์ทางช่องแสดงความเห็นเฟสบุ๊คด้านล่างและทิ้งความเห็นไว้นานร่วม 2 ปี

แต่พอเกิดกรณีสมีเกษมตุ๋ยลูกศิษย์เกิดขึ้น ผมได้โพสถามสาวกไอ้เกษมคนนี้ตอนเช้าวันเสาร์ที่ 17 ม.ค. 58 ที่ผ่านมาว่า "รู้ข่าวไอ้เกษมตุ๋ยลูกศิษย์หรือยัง" 

สุดท้ายสาวกสมีเกษม ก็ได้ลบโพสที่แปะลิงค์ไว้นานเกือบ 2 ปีออกไป

คลิกอ่าน ที่แท้ไอ้เกษม มันเป็นบัณเฑาะก์ นี่หว่า


วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ใครวะ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องเล่าเช้านี้เพื่อเครื่องมือแพทย์ภูมิภาค






หากคุณผู้อ่านได้อ่านบทความเรื่อง เศรษฐายาวใหญ่ จนยิ่งลักษณ์น้ำแตก ของผมไปแล้ว ชื่อบทความอาจดูวาบหวิว แต่เนื้อหาในบทความผมเน้นเรื่อง ปัญหาความขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ

อีกทั้งในบทความนั้นผมยังได้เขียนเน้นไว้ว่า รัฐบาลที่มาจากพวกนายทุน ย่อมคิดแต่โครงการที่พวกนายทุนจะได้ผลประโยชน์ทับซ้อนร่วมด้วย พวกนายทุนย่อมไม่เห็นความสำคัญในการพัฒนาปัญหาความขาดแคลนโรงพยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนไทยมีใช้อย่างเพียงพอ

ซึ่งบังเอิญว่าบทความนั้นผมได้เขียนก่อนที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา จะเริ่มโครงการเรื่องเล่าเช้านี้เพื่อเครื่องมือแพทย์ในภูมิภาคไม่นาน

-------------

ทุกวันนี้เราทุกคนคงยอมรับแล้วว่า สรยุทธ สุทัศนะจินดา เขาคือพิธีกรและผู้เล่าข่าวอันดับ 1 ของไทย เขาได้รับความชื่นชมและศรัทธาจากแฟนข่าว จนเขาสามารถระดมทุนบริจาคจากประชาชนได้เงินจำนวนมากและรวดเร็วในโครงการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้หลายโครงการ

ซึ่งต้องยอมรับว่า สรยุทธ เขามีส่วนช่วยเหลือสังคมได้มากทีเดียว น้อยนักที่จะมีใครสักคนที่เวลาขอความร่วมมือระดมทุนบริจาคอะไรจากประชาชนทั่วประเทศ แล้วจะมีประชาชนมาร่วมใจกันบริจาคได้มากเท่ากับนี้

อย่างกรณีบริจาคเพื่อจัดหาเครื่องมือแพทย์ที่ขาดแคลนในภูมิภาค ยอดบริจาคเพิ่มขึ้นวันละ 1-2 ล้านบาททุกวัน จนในขณะที่ผมเขียนบทความนี้ยอดบริจาคมากถึง 51 ล้านบาทแล้ว




และในแต่ละวันของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ สรยุทธจะนำเรื่องปัญหาความขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดต่าง ๆ ในโรงพยาบาลภูมิภาคมาเล่าให้แฟนข่าวฟังทุกวัน

ซึ่งหากใครได้ฟังย่อมเข้าใจได้เลยว่า ประเทศไทยนี้ ช่างน่าสงสารนัก อนาถายิ่งนัก ที่ภาครัฐละเลยสนใจปัญหาความขาดแคลนอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางการแพทย์ในภูมิภาค

ผู้ป่วยที่ไม่ควรจะตาย ก็ต้องมาตายเพราะปัญหาเรื่องความขาดแคลนเครื่องมือแพทย์มากมาย

ผมถึงต้องยกย่องชื่นชมสรยุทธ ที่เขามีส่วนช่วยในการระดมทุนบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในภูมิภาคได้มากและเร็วจริง ๆ  (เรื่องใดทำไม่ดีผมก็ด่า แต่เรื่องใดดี ๆ ที่เขาทำก็ต้องชื่นชม)

แต่แล้ว !! เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 56 ในรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมกลับพบสิ่งผิดปกติบางอย่างในรายการ ช่วงประชาสัมพันธ์หาทุนบริจาคเพื่อเครื่องมือแพทย์

นั่นคือ สรยุทธ พูดว่า โครงการนี้มีผู้ไม่เห็นด้วย และคงจะขอบริจาคไปอีกสักระยะหนึ่งเท่านั้นและคงจะปิดโครงการ

หรือแม้แต่คำว่า "ขาดแคลน" สรยุทธก็ไม่กล้าจะใช้คำ ๆ นี้อีก แต่เลี่ยงไปใช้คำว่า ต้องการเครื่องมืออะไรเพิ่มเติม แทน

คุณผู้อ่านลองรับชมตามคลิปด้านล่าง และลองฟังที่สรยุทธพูดดูครับ




หรือแม้แต่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ในวันที่ 17 มิ.ย.56

ที่สุราษฎร์ธานี มีข่าวเกี่ยวกับเด็กป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง ซึ่งต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดชีวิต

คลิกดูคลิปข่าวนี้ที่นี่

สรยุทธ พูดออกมาว่า "ผมไม่กล้าเปิดขอรับบริจาคฮะ เพราะอย่างนั้น ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูนิดนึง คือถ้าได้เครื่องช่วยหายใจเครื่องนึง แล้วให้น้องกลับไปอยู่บ้านได้ตลอดชีวิต"

----------------------------


จากทั้งหมดที่ผมนำมาให้ดูนั้น ได้พบความผิดปกติว่า ต้องมีใครที่มีอำนาจคงเดือดร้อนที่สรยุทธ ประกาศทำโครงการขอรับบริจาคเครื่องมือแพทย์เหล่านี้แน่นอน

ซึ่งที่จริงก็มีลางบอกเหตุมากลาย ๆ สักอาทิตย์นึงที่ผ่านมาได้แล้ว เมื่อมีโรงพยาบาลในจังหวัดหนึ่ง ไม่กล้าให้สรยุทธเอ่ยชื่อโรงพยาบาล ว่าขาดแคลนเครื่องมือแพทย์

แต่ผมไม่คิดว่า เรื่องจะเริ่มแรงขึ้น จนสรยุทธยังต้องออกปากว่า ไม่กล้าขอรับบริจาค หรือไม่กล้าแม้จะใช้คำว่า "ขาดแคลน" อีก

ทำไมนะโครงการดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนแบบนี้ อุตส่าห์มีเจ้าภาพออกหน้าหาทุน กลับมีอำนาจมือจากคนมีอำนาจ ซึ่งผมเชื่อว่าต้องเป็นอำนาจรัฐแน่ ๆ ที่มาขัดขวางการระดมทุนบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์ของสรยุทธ

ใครมันชั่งบาปกรรมยิ่งนัก ที่มาขัดขวางการทำความดีร่วมกันของประชาชนทั้งประเทศ

บาปหนักจะต้องลงโทษไอ้คนที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดี ๆ แบบนี้แน่นอนครับ

แถมดันมาเกิดในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ซะด้วย




วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รัฐตำรวย และ คำเตือนถึงไอ้หน้าเหลี่ยม







คนที่เป็นศัตรูกับรัฐบาลของไอ้เหลี่ยม โดนอุ้มฆ่าไปอีกราย ส่วนตำรวจก็เร่งคดีจนมีพิรุธ

ชิ้ปปิ้งหมู พยานแฉ บริษัทชินแซทเทิลไลท์ หลบเลี่ยงภาษีนำเข้าอุปกรณ์ดาวเทียม ถูกฆ่าเพื่อปิดปาก

ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายที่สู้เพื่อชาวมุสลิมที่โดนละเมิดสิทธิ และถูกยัดข้อหา โดนอุ้มหายสาบสูญ ในยุคทรราชหน้าเหลี่ยม

เอกยุทธ อัญชัญบุตร อาจมองว่าเขาเคยโกง แต่เพราะเคยโกงนี่แหละ จึงรู้เห็นสันดานโจรดีกว่าใคร กลับมาต่อต้านระบอบโกงของไอ้เหลี่ยม และถูกอุ้มฆ่าในยุครัฐบาลอีนายกโง่ ที่ร่านที่สุดในโลก

ส่วนตำรวจที่ทำคดี เป็นคนที่มีคดีความกับเอกยุทธ ??

ประเทศไทยอยู่ในยุคมิคสัญญีอีปู แล้วจริง ๆ

ขอให้คนดีรักชาติ จงปลอดภัย ชนะภัยร้ายจากพวกชั่วทุกคนเถิด



------------------------------

คำเตือนถึงไอ้หน้าเหลี่ยม พ่ออีโอ๊ค

ญาติเอกยุทธบอกไม่ติดใจปมฆ่าจากประเด็นการเมืองหรือไม่ ?

สาเหตุที่ญาติเอกยุทธ ต้องพูดแบบนี้ ก็เพราะเขาห่วงความปลอดภัยของพวกเขา และไม่ต้องการเป็นศัตรูกับระบอบทักษิณอย่างเปิดเผยอีกต่อไป

แต่ !! ก็แค่ไม่เป็นศัตรูอย่างเปิดเผยเท่านั้น !!

เพราะ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย !!



หรือแปลง่าย ๆ ก็คือ ญาติเอกยุทธต้องการไปสู้ต่อในที่มืด เพราะหากยังสู้อย่างโจ่งแจ้งมันอันตรายเกินไป

หากญาติเอกยุทธปล่อยการตายของเอกยุทธหายไปกับกาลเวลา

ก็เท่ากับยอมจำนนต่ออำนาจมืด ไม่อาจไปพบหน้าเอกยุทธในภพหน้าได้ ด้วยความละอาย


คลิกอ่าน คดีเอกยุทธ จบง่ายจุงเบย



วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คดีนายเอกยุทธ จบง่ายจุงเบย






เอกยุทธ ไปเกี่ยวกับไอ้เป็ดได้ไง ?


----------------------

ท่านรองเป็ด "คำรณวิทย์ ไอ้ปื๊ดมันช่วยจัดการเรื่องไอ้เอกยุทธเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไงลื้อก็ช่วยไอ้คนขับรถของไอ้เอกยุทธมันหน่อยแล้วกัน เพราะถ้าไม่ได้ไอ้นี่มาช่วย เรื่องก็คงจบไม่ได้ง่าย ๆ ส่วนไอ้คนขับรถนี่ไม่มีอะไรมาก แค่เงินปิดปากมันเยอะ ๆ มันก็พอใจแล้ว"

คำรณวิทย์ "ครับพี่เป็ด เดี๋ยวผมจะจัดการต่อให้เอง"


-----------------

ณ. ที่หนึ่งใกล้ ๆ กรุงเทพฯ

เพื่อนไอ้ปื๊ด ลูกน้องคำรณวิทย์ "เฮ้ย ไอ้สัน นายพี่บอกให้มึงย้อนกลับมากรุงเทพฯ ให้นายพี่เขาจับ แล้วเดี๋ยวเขาจะช่วยมึงทีหลังเอง ไม่ต้องห่วง"

------------

คิดว่าช่วยชาติ ช่วยเสื้อแดง ช่วยท่านทักษิณแล้วกัน ไอ้น้อง

คำรณวิทย์ "เอ็งทำดีมากไอ้สันติภาพ ไม่ต้องห่วง รับรองเอ็งติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวก็ได้ออก ส่วนเรื่องเรือนจำน่ะทำเรื่องแป๊บเดียว เดี๋ยวเอ็งก็ได้เป็นนักโทษชั้นดี แล้วเผลอแป๊บเดียวก็ได้ออกมาแล้ว เพราะคนไทยแม่งลืมง่าย ส่วนครอบครัวเอ็งรับรองสบายแน่ ๆ นายของพี่เขาฝากขอบใจเอ็งมากที่ยอมช่วย เพราะไอ้เอกยุทธมันเลว มันใส่ร้ายนายพี่และน้องสาวนายมาหลายหนแล้ว เอ็งจัดการมัน เท่ากับเอ็งได้ฆ่าคนชั่วไปคนนึง"


-----------------

พัทลุง

สันติภาพ "พ่อ ผมเป็นหนี้พนันบอลหลายแสน เจ้ามือมันขู่จะฆ่าผม ผมจำใจต้องทำ เพราะถ้างานสำเร็จ ผมจะได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แลกกับติดคุกไม่เกิน 5 ปี พ่อช่วยผมจัดการศพมันให้ด้วยนะ แล้วหนี้ที่บ้านของเราจะได้หมดไปด้วย"


--------------------

นายใหญ่ดูไบเซ็กชวล "ทำดีมากไอ้น้องพี่ รีบจบซะ อย่าให้มันซัดทอด หาศพพบก็ปิดคดีไปซะ แล้วก็ถ้าว่างไปเจอพี่ที่ฮ่องกง พี่มีรางวัลให้"

คำรณวิทย์ "ครับพี่ งานนี้ไม่ยากเลยจริง ๆ โชคดีที่ไอ้ปื๊ดลูกเฮียเป็ดไปได้ไอ้คนขับรถของไอ้เอกยุทธมันมาช่วย เพราะไอ้นี่มันผีพนัน หาทางกล่อมมันไม่ยากจริงๆ "


-------------------

แผนฆ่านายเอกยุทธ

คดีนายเอกยุทธ มีการวางแผนมาอย่างดี และมีการเตรียมการมานานไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยผู้บงการได้ส่งคนเข้าไปทำงานใกล้ชิดนายเอกยุทธนานร่วมปี จนนายเอกยุทธเริ่มไว้ใจ

แล้วต่อมาก็ใช้แผนเบี่ยงประเด็นเป็นใบเบิกทาง ด้วยคดียักยอกทรัพย์ในบริษัทก่อน

จากนั้นมีการวางแผนฆ่า โดยทีมฆ่าอำพราง ที่จะต้องยอมเป็นแพะโดยอ้างว่า ฆ่าเพราะความแค้นส่วนตัวและการชิงทรัพย์หวังเงินล้าน

หลังจากนั้นให้รีบปิดคดี จบด้วยคำว่า นายเอกยุทธซวยเองที่จ้างคนชั่วมาทำงานด้วยนั่นเอง

จบสิ้นไอ้ตัวเสี้ยนหนาม ผู้แฉเรื่อง ว. 5 โฟร์ซีซั่น ไปอีกหนึ่ง


-------------------


เมื่ออีปู น้ำแตก โฟร์ซีซั่น

แต่ฉับพลันโดนเอกยุทธจับกิ๊กได้

ทำอีปู ดีดดิ้น โกรธเป็นไฟ

คราวต่อไปต้องน้ำแตกมัลดีฟส์แทน



คลิกอ่าน รัฐตำรวย กับคำเตือนถึงไอ้หน้าเหลี่ยม


วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แฉ !! ใครอุ้มเอกยุทธ






ณ. บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่งย่านบางบอน ที่มีเจ้าของบ้านเป็นคนปากบอน แถมมีรถซุปเปอร์คาร์ที่นายทาริดสีดวง ไม่กล้าเรียกไปตรวจสอบ จอดในบ้านหลายคัน โดยเฉพาะเบนซ์ลีย์สีชมพูอย่างกับแท๊กซี่มิเตอร์ จอดเด่นเป็นราคีแก่เจ้าของบ้านนั่นแหละ

ไอ้ปื๊ด ลูกน้องที่ทำหน้าที่แฝงตัวเป็นสายลับได้เข้ามารายงานแก่เจ้าของบ้านว่า

"ท่านครับ ที่จริงไอ้คนที่หนับหนุนเงินให้พวกหน้ากาก V ไม่ใช่อดีตนักธุรกิจมือถือที่มีเมียสวยอึ๋ม น่าฟัด หรอกครับ"

ท่านรองเป็ด "อ้าว งั้นที่อั๊วให้ข่าวไปวันก่อน ก็ข่าววืดสิวะ แล้วตกลงมันเป็นใครกัน"

ไอ้ปื๊ด "มันคือไอ้เอกยุทธ ครับท่าน"

ท่านรองเป็ด "อั๊วว่าแล้วเชียว ไอ้นี่ซ่าไม่เลิก"

ไอ้ปื๊ด "แล้วจะให้ผมจัดการมันยังไงดีครับท่าน"

ท่านรองเป็ด "อุ้มมันไปเก็บซะ หมั่นไส้มันมานานแล้ว ตอนอั๊วหนี รสช.ไปหลบที่ยุโรป อั๊วเคยไปขอเงินมันใช้สัก 4 ล้าน มันดันไม่ให้อั๊ว เจ็บใจนัก !! ถือโอกาสตอนนี้อุ้มมันซะ เหมือนยิงนกตัวเดียวได้นก2ตัว ฮ่าๆๆ "

ไอ้ปื๊ด "ให้ไปเก็บที่ไหนครับท่าน"

ท่านรองเป็ด "ก็เอามันไปเก็บที่ ว.5 โฟร์ซีซั่น สิ เพราะถ้าเกิดความแตกขึ้นมา จะได้ไม่มีใครรู้ว่า เป็นฝีมืออั๊ว เพราะทุกคนก็จะคิดว่า คนที่สั่งอุ้มมันคือ อีโง่ ไง 55555"

หมายเหตุ นายเอกยุทธ เคยโดนกลุ่มชายฉกรรจ์ รุมต่อยจนตาปูด ที่โฟร์ซีซั่น สาเหตุเพราะดันตาดีไปเห็นอีโง่ แอบโดดงานไปเล่นกิ๊กกับเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ที่ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น ภายใต้รหัสลับ ว.5 โฟร์ซีซั่นไงครับ

แถมล่าสุด นายเอกยุทธก็ดันมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งในผับแห่งหนึ่ง จนขัดแย้งกับนายตำรวจคนหนึ่งด้วย

ดังนั้นแผนอุ้มนายเอกยุทธ คนที่อุ้มย่อมไม่ใช่คนที่ขัดแย้งกับนายเอกยุทธอย่างเปิดเผยแน่นอน 5555

-------------------

ท่านรองเป็ด "ว่าไงไอ้ปื๊ด เรียบร้อยไหม"

ไอ้ปื๊ด "เรียบร้อยครับ ผมหั่นมันแยกเป็นชิ้น ๆ  แล้วกดมันลงชักโครกในห้องเดียวกับที่อีโง่ เคยมีเรื่องฉาวนั่นแหละครับ"

ท่านรองเป็ด "แล้วเอ็งจะไปกบดานที่ไหน"

ไอ้ปื๊ด "ผมกะว่าจะลง 3 จังหวัดใต้ ไปซ้อมยิงปืนแม่น ๆ ที่ค่ายนั่นสักพักครับท่าน"


คลิกอ่าน คดีนายเอกยุทธ จบง่ายจุงเบย


วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ยุครัฐบาลยิ่งโง่ ยิ่งชั่ว ยิ่งแพง !!







รัฐบาลยิ่งชั่ว ย่อมมาจากเสียงประชาชนชั่ว ๆ รัฐบาลยิ่งโง่ ย่อมมาจากเสียงประชาชนโง่ ๆ

สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ เริ่มเกิดข้าวของแพง ตั้งแต่น้ำมันปาล์มแพง ไข่แพง พรรคเพื่อไทยก็ออกมาโจมตีฝ่าย ปชป. ออกมาด่าอย่างนั้นอย่างนี้

แต่พอพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลเสียเอง ทุกอย่างกลับแพงยิ่งกว่า แถมปล่อยให้ของแพงโดยที่ฟายแดงทั้งแผ่นดินไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า โดนสนตะพายหลอกให้หลงคลั่งประชาธิปไตย เพื่อปล่อยให้นายทุนในคราบนักการเมืองหลอกแดกด้วยการปล่อยให้ของแพงทุกชนิดขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อสักปี 2554 ค่าแรงขั้นต่ำกรุงเทพ 215 บาทต่อวัน ยังพอหาไข่ดาวฟองละ 5 บาทกินได้ทั่วประเทศ จนกระทั่งไข่แพงยุคอภิสิทธิ์ ไข่ดาวก็เพิ่มเป็นฟองละ 7 บาท

แต่พอยุคค่าแรง 300 บาท ไข่ดาวฟองละ 10 บาทเข้าไปแล้ว ซึ่งหากเทียบด้วยหลักบรรญัติไตรยางค์แล้ว ก็ต้องบอกว่า ไข่ดาวยุคอีโง่แพงกว่ายุคมาร์ค

ถ้าไข่แพงแล้วเกษตรกรคือผู้ที่ได้กำไรที่สุดก็ยังโอเค แต่มันจะกลายเป็นว่า เกษตรกรก็แค่ไม่ขาดทุน แต่คนที่รวยที่สุดเพราะไข่แพงคือกลุ่มนายทุนในระบบไก่มากกว่าน่ะสิครับ เอิ๊ก ๆ ๆ

สมัยตอนที่ค่าแรง 215บาท/วัน ก๋วยเตี๋ยวยังหาซื้อในราคา 25-30 บาท ต่อชาม

แต่ในวันนี้ค่าแรง 300 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามละ 35-45 บาทเข้าไปแล้ว อย่างชามพิเศษ ไม่ใช่แค่เพิ่มเงินแค่ 5 บาทเหมือนแต่ก่อน แต่พิเศษต้องเพิ่มเงิน 10 บาท !!

ซึ่งถ้าแถวบ้านผมโชคชัย4 และย่านวังหิน มีหลายร้านขาย ชามธรรมดา 40 พิเศษ 50 อยู่หลายร้านเข้าไปแล้ว

ทำให้ผมนึกถึงข่าวเก่า ๆ ช่วงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เพิ่งเข้ามาบริหารประะเทศใหม่ ๆ ที่ว่า อีกไม่นานคนไทยจะได้กินก๋วยเตี๋ยวชามละ 50 ไข่ดาวฟองละ 10 บาท ซึ่งก็ได้เป็นความจริงแล้วในวันนี้

หากเทียบแบบคนคิดเลขพอเป็น ก็ต้องบอกว่า

ค่าแรง215.- ก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 บาท กับค่าแรง 300.- ก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 บาท

ลองไปคิดเล่น ๆ ดูแล้วกัน ยุคไหนแพงกว่ากัน 555

แต่ที่แน่ ๆ ไข่ไทยขายฟองละ 4.5บาท แต่ไข่ในสหรัฐอเมริกา ขายฟองละไม่ถึง 4 บาท ถ้าไม่เชื่อคลิกไปดูได้ที่นี่ คลิก 

----------------------------

อธิบดีกรมการค้าภายในโง่ๆ ในยุครัฐบาลยิ่งชั่ว

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน แม่งโง่สุดๆ ผมสังเกตมาหลายหนแล้ว ยัยนี่ออกมาให้ข่าวแต่ละที คือแก้ตัว มากกว่าแก้ไข

แถวโชคชัย4บ้านผม ไข่ดาวขายใบละ 10 บาทหลายร้าน แต่ร้านที่ยังขายใบละ 8 บาทก็ยังพอหาได้

แต่พออธิบดีกรมการค้าภายใน โง่ๆ คนนี้ ได้ออกมาให้ข่าวเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.56 ว่า ถ้าไข่ดาวยังขายไม่เกิน 10 บาทยังถือว่า เป็นราคาปกติ

เชื่อมะ ไอ้ร้านที่ยังเคยขายไข่ดาวใบละ 8 บาท ไข่เจียวด้วยไข่ 2 ฟอง 15บาท สรุปวันนี้แม่งขึ้นเป็น 10 บาททันทีทุกร้าน แถมไข่เจียว 2 ฟองเคยขาย 15 บาท ก็เลยขาย 20 บาทเช่นกัน

อย่างนี้เรียกว่า ยัยนี่แม่งเป็นข้าราขการระดับสูงโง่ๆ ที่อยู่กินเงินเดือนสูง ๆให้เปลืองภาษีชาติ ไหมเนี่ย

แม่งบริหารโง่ ๆ ด้วยการชี้โพรงให้กระรอกแท้ ๆ สัส !!

หากราคาไข่ไก่กลับมาถูกลงแล้ว แต่รับรองว่า ไข่ดาว ไข่เจียวจะไม่ถูกตามลงมาแน่นอน !!

คุณผู้อ่านคงจะไม่ได้เห็นไข่ดาวขายราคาต่ำกว่าใบละ 10 บาทอีกแล้ว



ส่วนแหล่งข่าวจากวงการผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า การกำหนดเพดานราคาขายไข่คละหน้าฟาร์มของกระทรวงพาณิชย์ที่สูงขึ้นแต่เกิน 3.30 บาทต่อฟองนั้นไม่ติดใจ แต่ที่เกษตรกรไม่ค่อยพอใจคือโครงการไข่ไก่ธงฟ้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่ได้ซื้อไข่จากเกษตรกรเลยแม้แต่ฟองเดียว

แต่กลับถูกแอบอ้างนำไปหาเสียงว่าเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ขณะที่ในข้อเท็จจริงกระทรวงพาณิชย์ จะมีตัวแทนหรือนายหน้า ไปซื้อไข่ไก่จากยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว ที่เป็นพรรคพวกตนเอง แล้วนำมาขายขาดทุน เพื่อซื้อคะแนนนิยมจากชาวบ้าน (จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,848)


--------------------------

ประธิปไตยกินได้ แต่กินหญ้านะ

ของแพงทั้งแผ่นดิน ฟายแดงก็พยายามถุยน้ำลายรดฟ้าว่า ของไม่แพง เพราะฟายแดงมันคลั่งประชาธิปไตยแบบควาย ๆ เชื่อว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย คือ

เมื่อรัฐบาลมาจากเสียงส่วนใหญ่ ต่อให้ชั่วให้สารเลวเพียงใด ต่อให้ข้าวยากหมากแพงยังไง ฟายแดงก็จะขอเห็นกงจักรเป็นดอกบัวเท่านั้น




--------------------------

นิรโทษกรรมไปทำไม ? เพื่อเอาเงินทักษิณคืนมาไงล่ะ

ถ้าอภิสิทธิ์ สั่งฆ่าประชาขน ถ้าพลเอกสนธิ บุญรัตกลิน ทำรัฐประหารล้มรัฐธรรมนูญ40 โทษคือกบฎ

ถ้าทหารยิงเหี้ยตาย เอ้ย ยิงประชาชนตาย

ถ้าทหารเผาห้างใส่ร้ายเสื้อแดง ถ้าพธม.ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ก็นำคนพวกนี้มารับโทษซะให้หมด

ก็ไม่ต้องมีนิรโทษกรรมทั้งหมด สิจริงมะ

แต่ที่ทักษิณมันอยากให้นิรโทษกรรมยกเข่ง สุดซอย เพราะมันอยากได้เงินคืนและอยากได้อำนาจกลับคืนมาเหมือนเดิม

ทักษิณมันถึงเคยพูดว่า พี่น้องส่งผมมาถึงฝั่งแล้ว ขอให้พี่น้องเสียสละเพื่อส่วนรวมเพื่อความปรองดอง

ฉะนั้นไอ้พวกฟายแดง จงทำตามที่ทักษิณต้องการเถอะ เพราะไม่งั้นอย่างงั้นพวกมึงจะไม่ใช่ฟายแดงอีกต่อไป 55555





คลิกอ่าน แฉ แผนชั่ว ทำไมรัฐบาลยิ่งลักษณ์กระสันอยากลดดอกเบี้ยลง 1 %


วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สลิ่มฮา 3.10 ยิ่งลักษณ์อ่าน สามจุดสิบ







จบกันไปแล้วกับประชุมงาบประมาณปี 2557 (ไม่ใช่ งบประมาณ) ของรัฐบาลปูกินบ้านปูกินเมือง

แน่นอน !! ทกครั้งที่นายกยิ่งลักษณ์ต้องอ่านเอกสารอะไรที่มันเกี่ยวกับตัวเลขเยอะ ๆ ย่อมมีคนจ้องจับฮา !! (ยิ่งกว่าจ้องจับผิด)

และแล้วก็เกิดเหตุดราม่าเอยจงทรัพย์จาง (หนักกว่าซับซ้อน) เพราะนี่คือยุคของแพงทั้งแผ่นดินที่ พวกฟายแดงไม่รู้ แต่มนุษย์รู้

นั่นก็คือเรื่อง ยิ่งลักษณ์อ่าน 3.10 ว่า สามจุดสิบ

บรรดาสลิ่มหูเบา ก็เฮละโลว่า กูได้เรื่องด่าเรื่องล้ออีนายกโง่อีกแล้ว 555

จนแชร์กันไปทั่วโลกออนไลน์ แต่ไป ๆ มา ๆ พวกสลิ่มหูเบาแต่ฉลาดกว่าฟายแดงนิดนึง กลับหน้าแตกเสียเองว่า

อ้าว.. กะด่าอีโง่ กุดันโง่เสียเอง 555

เอ้า ดูคลิปยิ่งลักษณ์อ่าน 3.10 ว่า สามจุดสิบเสียก่อน

ให้ดูนาทีที่ 30.10 เป็นต้นไป
)

พอสลิ่มหูเบาได้ยินเท่านั้น ก็รีบแชร์ทันทีว่า ยิ่งลักษณ์โชว์โง่อีกแล้ว 555

แต่ขอบอกว่า งานนี้สลิ่มหูเบาพลาดอีกแล้วครับท่าน พลาดมาตั้งแต่ ขน-อม มาทีละ ที่กุเรื่องขึ้นมาแล้วแชร์ต่อ ๆ กันจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ฮา!

-----------------------

ยิ่งลักษณ์อ่าน สามจุดสิบ น่ะถูกแล้ว

เพราะที่ยิ่งลักษณ์อ่านนั้นไม่ใช่ตัวเลขทศนิยม แต่เป็นการอ่านหัวข้อย่อย ซึ่งหลักการอ่านหัวข้อย่อยนั้น

การอ่าน 3.10 ว่า สามจุดสิบ น่ะถูกต้องแล้ว

ถ้าใครยังแยกแยะไม่ออกว่า จุดทศนิยม กับ หัวข้อย่อยที่ใช้เครืองหมายมหัพภาคคั่น ก็ขอบอกว่า คุณโง่กว่ายิ่งลักษณ์แล้วล่ะ 55555




ฟายแดงไม่ต้องดีใจที่ยิงลักษณ์อ่านถูกล่ะ ก็เพราะการอ่านถูกของยิ่งลักษณ์มันคือเรื่องผิดปกติต่างหาก 555


-------------------

ฟายแดงไม่ต้องดีใจที่สลิ่มพลาด !!

เพราะ สลิ่มที่โง่ ๆ มีแค่ 1 % = ฟายแดงที่ฉลาดมากกว่าสลิ่ม ก็มีแค่ 1 % เท่านั้น

กร๊ากกๆๆๆๆ


---------------------

โครงการจำนำข้าวเจ๊ง 2.6 แสนล้านบาท ?

ฝ่ายค้านบอก โครงการรับจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้าน

ฝ่าย นายบุญทรง รมว.พาณิชย์ ผู้ที่ตอนนี้บุญยังทรงอยู่ บุญเลิกทรงเมื่อไหร่ นรกมาเยือนแน่ ได้ลุกตอบฝ่ายค้านไปว่า

ตัวเลขที่ฝ่ายค้านยากมาว่าขาดทุนนั้น มันเป็นตัวเลขสะสมมาตั้งแต่โครงการเก่า ๆ ของรัฐบาลยุคก่อน ๆ ตั้งแต่ปี 47 มาแล้ว มันถึงได้ดูมากขนาดนั้น (เอ๊ะ !!ไอ้ปี 47 ตะกวดที่ไหนเป็นรัฐบาลหว่า)

แต่ถือเป็นการตอบแถ ๆ ที่ก็ช่วยให้ฟายแดงสบายใจขึ้นได้มาก ว่ากูไม่ได้โง่น้อยลง 555

แต่พอถามกลับว่า แน่จริงแจงก็มาดิ ว่า โครงการไหนขาดทุนเท่าไหร่ และไอ้โครงการจำนำข้าวขาดทุนเท่าไหร่ ?

แน่จริงตอบมาดิ ? ถ้าตอบก็เงิบสิครับ !!

นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยกล่าวว่"การชี้แจงของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นการชี้แจงที่คลุมเครือ เพราะอ้างว่าการขาดทุน2.6แสนล้านบาท เป็นการขาดทุนรวม17โครงการตั้งแต่ปี2547 แต่กลับไม่เปิดเผยตัวเลขว่า แต่ละโครงการขาดทุนจำนวนเท่าใด โดยเฉพาะ2โครงการในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งตนคิดว่ามันไม่เป็นธรรม เนื่องจากเงินที่ขาดทุนเป็นเงินส่วนหนึ่งของตนด้วย ในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษี"

เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนดีกลับต้องโดนย้าย !!

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ข้าราขการซื่อสัตย์ผู้รู้ตัวเลขการขาดทุนมหาศาลของโครงการจำนำข้าว ก็เลยโดนรัฐบาลชั่วสั่งย้ายทันที จากข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้เปิดเผยตัวเลขข้อมูลโครงการจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้านรั่วออกไปถึงฝ่ายค้าน

------------------

รมว.อะไรเอ่ย แม่งหน้าด้านที่สุดในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ?

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2554 ว่า

"ถ้ารัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้วทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลชุดก่อนใช้ชดเชยในระบบประกันรายได้เกษตรกร พรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ และไม่ต้องตั้งคำถามว่า ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะรับผิดชอบอย่างไร"

ที่ไอ้โต้ง กิตติรัตน์ มันบอกว่า ไม่ต้องถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ก็เพราะมันรู้ตัวว่า คนอย่างมันไม่เคยมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบไงครับ 555


---------------

ก่อนจบขอฝากเรื่อง งาบรถตู้โรงเรียน !!

รัฐมนตรีชั่ว ๆ เคยบอกอยากยุบโรงเรียนเล็ก ๆ เพื่อประหยัดงบ และถ้าเด็กต้องเดินทางไกล ก็จะซื้อรถตู้มารับส่ง

พอประชุมสภา ไหง.. งบรถตู้โรงเรียนมันแพงกว่าราคาท้องตลาดคันละหลายแสนบาทวะ

นายเสริมศักดิ์ รัฐมนตรีช่วยศึกษา ผัวเจ๊เบียบ ลุกขึ้นตอบทันใด พิมพ์งบผิดครับ !!

ถุย !! ถ้าฝ่ายค้านไม่จับผิดตัวเลขโกงๆ ของพวกมึงได้ ตัวเลขงบที่ว่าพิมพ์ผิดนั้น ก็จะกลายเป็นงบที่ถูกต้องต่อไปแหง ๆ (มันเลวกันทั้งรัฐบาล)

แต่ไม่เป็นไร เหตุผลพิมพ์งบประมาณของชาติผิด !!  ฟายแดงบอกพอฟังขึ้น

เพราะฟายแดงไม่ได้คลั่งชาติ แต่ฟายแดงคลั่งไอ้ทักษิณต่างหาก

แต่ถ้าไม่คืนเงินให้ทักษิณสิ ฟายแดงบอกทนไม่ได้ !! สัส !!


คลิกอ่าน เศรษฐายาวใหญ่ ยิ่งลักษณ์น้ำแตก